เป็นหนี้บัตรเครดิต สามารถขอผ่อนจ่ายกับธนาคารได้ไหมครับ ?

สวัสดีครับ
 
พอดีผมมีหนี้บัตรเครดิตอยู่ 4 ใบ
 
1.KTC หนี้รวม 35,000 ต้องจ่ายขั้นต่ำประมาณเดือนละ 4,000 (ดอกเบี้ยประมาณ 700)
2.KTC Proud หนี้รวม 35,000 ต้องจ่ายขั้นต่ำประมาณเดือนละ 1,200 (ดอกเบี้ยประมาณ 700)
3.First Choice หนี้รวม 30,000 ต้องจ่ายขั้นต่ำประมาณเดือนละ 3,500 (ดอกเบี้ยประมาณ 650)
4.TMB หนี้รวม 80,000 ต้องจ่ายขั้นต่ำประมาณเดือนละ 10,000 (ดอกเบี้ยประมาณ 1050)
 
อยากทราบว่า ผมสามารถขอเจรจาผ่อนจ่ายกับธนาคารได้ไหมครับ ?
 
เพราะปัจจุบัน รายได้หักค่าใช้จ่ายส่วนอื่น จะเหลือจ่ายบัตรทุกใบได้เดือนละ 6,000
 
ตัวอย่างเช่น
 
1.KTC หนี้รวม 33,000 ปัจจุบันจ่ายขั้นต่ำอยู่เดือนละ 4000
ขอผ่อนจ่ายเป็นเดือนละ 1,500 บาท โดยจะไม่มีการกดออกมาใช้จนกว่าจะชำระครบ หรือปิดบัตรไปเลย แบบนี้ได้ไหมครับ ?
 
2.ขอหยุดจ่ายชั่วคราว เพื่อชำระอีกใบให้หมด
เช่น มี KTC กับ KTC Proud ขอหยุดจ่าย KTC Proud เพื่อจ่าย KTC ให้ครบก่อน จากนั้นก็มีจ่าย KTC Proud ต่อ
 
***ปัจจุบัน ผมทำ Freelance รายได้ประมาณ 20k ต่อเดือน พึ่งทำมาได้ 10 เดือน และไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ เลยกู้ Personal Loan ไม่ได้ครับ พยายามหาช่องทางการหาเงินเพิ่มและพัฒนาตัวเองเรื่อยๆอยู่ครับ แต่ก็อยากลองหาวิธีลดภาระส่วนนี้ให้เบาลง
 
ข้างล่างจะเป็นเรื่องราว (บ่น) เผื่อใครอยากอ่านครับ จะข้ามๆ ไปก็ได้ครับ 5555

-------------------------------------------------------------------------

บัตรทั้ง 4 ใบ ผมทำตั้งแต่อายุ 20 เพราะตอนนั้น ได้งานเป็น ช่าง Support ของร้านในห้างแห่งหนึ่ง เงินเดือน 25-30K จึงทำบัตรผ่านได้ง่ายๆ เลย ก็อยู่ที่นี่มา 2 ปี พร้อมกับบัตรนั่นแหละครับ แต่ไม่เคยมีหนี้ เพราะเงินเดือนก็เหลือเฟือ แต่ด้วยความที่เป็นวัยรุ่นและไม่ได้มีวินัยทางการเงินมาก จึงไม่ได้เก็บเงินจริงๆ จังๆ นอกจ่าค่าใช้จ่ายหลักๆ + ที่ส่งให้แม่ ก็จะใช้เที่ยว เหลือเก็บมากสุดก็เดือนละ 1000-2000 ครับ
 
คราวนี้จุดเปลี่ยนแรกคือ มันมีห้างมาเปิดใหม่ในอำเภอเดียวกัน ซึ่งดันใกล้บ้านผม และหัวหน้าเขต จึงย้ายผมไปเป็นผู้จัดการที่นั่น คือ ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่อยากไป เพราะเห็นผู้จัดการเดิมผมงานเยอะเอามากๆ เหนื่อย และเงินเดือนพอๆกับผม แต่ก็เหมือนเป็นไฟต์บังคับ ยังไงก็ต้องไป - -*
 
พอย้ายมา คือ ห้างเงียบมากครับ มองไปไหนก็เจอแต่พนักงาน พอไม่มีคนเดิน ยอดขายก็ไม่มี จากที่ทำงานสบายๆ ได้ 25-30k มาอยู่ห้างใหม่ ได้แค่ 11-12k รวมค่าคอม หักค่าใช้จ่ายทุกอย่างคือไม่เหลือเก็บครับ เรียกว่าพอใช้ แต่ไม่มีเก็บเลย ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่คือไม่เที่ยวเลย ประหยัดสุดขีด
 
งานหนัก ทั้งงานเอกสาร ประชุม ของเคลม บลาๆๆ
 
และที่หนักสุดคือโดนสวดจากหัวหน้าเขตทุกวัน ว่าทำไมไม่มียอดขาย ทำไมขายไม่ได้ โดนบีบทุกวัน ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยลงพื้นที่มาดูเลยว่าปัญหาที่เราแจ้งไป มันจริงไหม จะหาทางช่วยเหลืออย่างไร เพื่อนๆที่ตามมาทำด้วย ก็พากันลาออกหมด ผมยื่นขอกลับที่เดิม ตำแหน่งเดิมก็ไม่ได้ เพราะได้คนอื่นมาแทนแล้ว
 
สุดท้ายแล้ว ผมจึงทนไม่ไหวครับ ตัดสินใจลาออกมา โดยไม่ได้หางานใหม่ก่อน เพราะทนไม่ไหวจริงๆ
 
หลังจากออกมา ผมตัดสินใจฝึกทำเกี่ยวกับ Digital Marketing ครับ ไปลงคอร์สเรียน ซื้อหนังสือ นู่นนี่นั่นมาศึกษา ใช้เวลาอยู่ 4 เดือน จึงได้ลูกค้าคนแรกมาก ซึ่ง 4 เดือนที่ผ่านมา คือ เป็นหนี้บัตรเครดิตไปประมาณเกือบ 25,000 บาท (ใช้เงินเก็บหมดเกลี้ยง)
ซึ่งลูกค้ารายแรกผมได้เดือนละ 5000 พร้อมสัญญางาน 1 ปี ก็อุ่นใจมาอีกนิด เพราะเริ่มมีรายได้กลับมา และคาดการณ์ว่าภายใน 3 เดือนข้างหน้า ต้องได้มาอีก 3 คน และจะสามารถปิดยอดค้างบัตรได้ภายใน 3 เดือน
 
แต่ดันมามีจุดพีคใหญ่ คือ ยายผมเสียครับ ผมไม่ได้สนิทกับยายมาก แต่พอรู้ว่าแกเสีย เจ้าหนี้มาเพียบเลย รวมๆ หนี้ยายทั้งนอกระบบ และหนี้ ธกส. กองทุนหมู่บ้าน หนี้นอกระบบ รวมๆ ประมาณ 250k
 
ค่าฌาปนกิจที่ได้ก็มา ไม่พอครับ โดนหักจากหนี้แล้ว ก็ยังติดลบ สรุป หลังงานศพ คือ ยังติดลบอยู่ประมาณ 150k พีคในพีคคือเงินกองทุนหมู่บ้าน ยายมาให้คนอื่นกู้ให้แล้วยืมต่ออีก คราวนี้เจ้าหนี้ก็ต้องการเงินคืนภายใน 1 เดือน แม่ผมก็ไม่มีเงิน ไม่ได้ทำงานแล้ว พ่อก็แยกทางกันไป
 
สุดท้ายภาระก็ตกที่ผม ซึ่งก็ต้องหายืมคนอื่น ซึ่ง แทบไม่รู้จักใครที่สนิทพอที่จะให้ยืมเลย สุดท้ายก็ต้องไพ่ใบสุดท้าย คือ บัตรเครดิตครับ สุดท้ายกับที่แม่หายืมเขามาได้ + บัตรเครดิตผม ก็แก้ปัญหาหนี้ของตัวเองไปได้
 
และตัวเองก็เหลือวงเงินอยู่ 10,000 เพื่อใช้ในชีวิตที่เหลือครับ ผมไม่สามารถยืมใครได้แล้ว และไม่สามารถประหยัดอะไรได้อีกแล้ว จึงเดินหน้าหาลูกค้ารัวๆ ครับ
 
จนถึงปัจจุบัน ผมมีลูกค้าหลักอยู่ 3 คน แต่ละคนเซนต์สัญญาจ้าง 6 เดือน – 1 ปี ทำให้มีรายได้ชัวร์ๆ เลย 20k ไม่รวมงานชิ้นเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้จ้างระยะยาว
 
แต่เทียบกับหนี้แล้ว ค่อนข้างจะเหนื่อยครับ ทั้งหนี้บัตรเครดิต และหนี้ที่จากฝั่งแม่ยืมเขามาปิดหนี้ยาย และค้าเลี้ยงดูแม่
 
ผมยังรู้ว่าตัวเองไปได้ไกลกว่านี้ หาได้เยอะกว่านี้ แต่ก็ยังต้องใช้เวลาบ้าง เลยอยากจะถามพี่ๆ ตามที่ถามไป ข้างบน หรือใครมีคำแนะนำอื่นก็แนะนำเข้ามาได้ครับ ด่าได้ ไม่ว่ากัน
 
หากหมดสิ้นหนทาง ผมก็จะจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ จนกว่ารายได้จะมากขึ้น จนพอที่จะจ่ายจนหมด เพราะไม่อยากให้เครดิตเสีย เพราะอนาคตก็อยากจะเปิดเป็นบริษัทให้จริงจัง และอยากจะซื้อบ้านครับ เพราะแม่ก็แก่ลงทุกวัน อยู่ห่างๆ กัน ดูแลยาก เผื่อเป็นอะไรขึ้นมาก็คงไม่มีใครรู้
 
ปล.บ้านที่แม่อยู่เป็นบ้านนอก ที่ดินก็มีไม่มาก ราคาไม่สูง เรื่องใช้บ้านเป็นหลักค้ำประกัน คงต้องปล่อยผ่านครับ
 
 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่