สวัสดีค่ะ กิ๊ฟนะคะ อายุ21 ค่ะ วันนี้กิ๊ฟขอพื้นที่รีวิวศัลกรรมนิดนึงค่ะ
เริ่มแรกต้องเกริ่นก่อนว่า ก่อนที่จะทำศัลกรรมจัดเต็มครั้งนี้ กิ๊ฟเคยทำจมูกมาแล้ว 2ครั้ง กับ คาง ด้วยโครงหน้าเดิมของกิ๊ฟเป็นคนที่จมูกเล็กแล้วจมูกไม่ได้โด่ง คางสั้น เลยตั้งสินใจศัลกรรม ผลที่ออกมาก็โอเคไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้ถูกใจมากนักเพราะจมูกที่ทำครั้งแรกปลายมันสั้นและเอียง รอบสองที่ทำทรงโอเคแต่ทำประมาณสองปีแล้วตรงดั้งมันไม่โด่งเหมือนตอนแรกที่ทำ เลยตัดสินใจบินไปทำที่เกาหลี กิ๊ฟก็หาข้อมูลต่างๆนาๆ จนไปเจอเอเจนซี่ kotata เป็นบริษัทที่ติดต่อศัลกรรมกับโรงพยาบาลโดยตรง ฟรี ปรึกษา/มีรถรับส่งให้ /ที่พัก/ล่าม ที่สำคัญไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารไม่รู้เรื่อง เพราะพี่ที่บริษัท kotata เขาพูดภาษาไทยชัดมากๆ และดำเนิดเรื่องให้เราทุกอย่าง ครั้งนี้กิ๊ฟทำศัลกรรมที่โรงพยาบาล IDค่ะ ที่เราได้ยินมาจากLetme IN นั้นแหละ คือก่อนที่ตัดสินใจทำครั้งนี้ต้องบอกก่อนว่า มีปัญหาที่เรารู้จากตัวเองและเราค่อนข้างกังวล
ก่อนอื่นเปลือยหน้าสดให้ดูก่อนเลยแบบชัด ๆ
รูปแรกถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าจมูกค่อนข้างเอียงไปทางขวานิดนึง รูปที่สามจะเห็นตรงสันจมูกไม่ได้โด่งมากทรงนี้ที่ทำคือทรงสโลปปลายพุ่ง
แต่อยากให้โด่งกว่านี้และปลายเชิ่ดขึ้น มาที่คางลักษณะของคางจะยื่นออกมาด้านหน้าซึ่งส่วนตัวแล้ไม่ค่อยชอบ แต่ทรงนี้ธรรมชาติมาก ๆ และกิ๊ฟมีปัญหาที่คางคือมีสิวขึ้นที่คางประจำซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร ถามที่โรงพยาบาลเขาก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไรแต่สิวก็ขึ้นหยุดเห็นได้จากรอยที่ยังเหลืออยู่ กิ๊ฟคิดว่าเราน่าจะแพ้ซิลิโคนแหละสิวมันเลยขึ้นไม่หยุดและมันขึ้นที่เดิมตลอด ครั้งนี้ที่บินไปทำศัลกรรมกิ๊ฟเลยจะไปเอาซิลิโคนออกด้วย
ดูปัญหากันไปแล้ว หลายคนคงคิดว่าเห้ย มันก็ดีนิ ใช่มันดี แต่มันต้องดีกว่านี้555555ตอนก่อนทำ Kotata เขาก็จะขอรูปเรา หน้าตรง ด้านข้าง เงยหน้า มุมหันข้าง 45องศา 90องศา แล้วก็บอกปัญหาที่อยากจะแก้ไช เราก็บอกไปเหมือนกับที่เล่าให้เพื่อนๆฟังนี่แหละ ต้องอยู่เกาหลีอย่างน้อย7วัน เพื่อดูอาการ อาจแล้วแต่คนด้วยเดี๋ยวพี่เค้าจะให้คำแนะนำเราเอง
สิ่งที่ต้องเตรียม พอรู้วันเวลาที่ต้องเดินทางก็รีบจัดกระเป๋าเตรียมของเลยจ้า
1. เสื่อผ้าที่เป็นกระดูมด้านหน้า เนื่องจากเราผ่าตัดที่ใบหน้า จำเป็นที่จะต้องใส่เสื้อผ้าที่ถอดออกง่าย ๆ
2. ยาใบบัวใบแคปซูล ช่วยเรื่องลดบวมต่าง ๆ หน้าเราจะบวมมาก ๆ ต้องมีตัวช่วยนะจ๊ะ
3. โจ๊กซอง เอาไป2-3ซองพอ กินเยอะหน้าจะบวม เพราะมีโซเดียมเยอะ
4. ข้อนี้สำคัญมาก ๆ ปริ้นรูปใบหน้าที่อยากได้เอาให้หมอดู และเตรียมคำถามที่จะถามหมอไปด้วย ต้องคุยให้เคลียร์เข้าใจทั้งสองฝ่าย กิ๊ฟจดไปเยอะมาก พอถึงเวลาคุยกับหมอคือไวมากต้องรีบถาม
จากนั้นก็เตรียมใจไปจ้า เรื่องภาษาไม่ต้องห่วงเพราะมีพี่ล่ามที่พูดไทย จีน อังกฤษ พูดไทยชัดมาก ๆ
การผ่าน ตม. เกาหลี ทางโรงพยาบาล ID จะมีใบรับรองให้ไม่ต้องห่วงว่าจะผ่านไม่ได้ ในใบนั้นจะแจ้งรายเอียดครบ ผ่านได้แบบชิว ๆ
จากนั้นเราก็บินไปวันที่7 สิงหาคม 62พอถึงสนามบิน อินซอน ก็จะมีรถมารอรับไปโรงแรมแนะนำว่าวันที่ไปถึงอยากจะทำอะไร กินอะไร จัดให้เต็มที่เลยหมูย่างกินให้แหลกไปเลย เพราะหลังจะผ่าตัดเราจะเคี้ยวอะไรไม่ได้ กินยาก หลังจากนั้นวันที่8ก็เข้าไปกรอกประวัติ,ปรึกษาคุณหมอ และผ่าตัดในวันที่9 สิงหาคม62 จะบอกว่าตื่นเต้นมาก ๆ คืนก่อนผ่าตัดนอนไม่หลับ หลับอีกทีตี3ต้องผ่าตัดตอน10โมงเช้าพอไปวัดความดัน ความดันต่ำจ้า (เพื่อนๆต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะ)
ตรวจอะไรบ้าง?
- โรคประจำตัว ,ตรวจเลือด ,ค่าตับ ความเข้มข้นเลือด ความดัน ตรวจวัดคลื่นหัวใจ เอ๊กเรย์โครงหน้า CT Scan ตรวจละเอียดมากๆ
เริ่มต้นพยาบาลจะให้เราไปคลีนหน้าให้สะอาดก่อน (คลีนซิ่ง โฟมล้างหน้า รพ.มีให้ครบ)เพื่อจะได้ตรวจแบบละเอียดตอนคุยกับคุณหมอจะได้เห็นโครงหน้าชัด จากนั้นก็ไปตรวจ CT SCAN เครื่องนี้คือเริ่ดมากจะ scan ใบหน้าเราทุกมุมออกมาเป็น ฟิล์ม X-ray(ตอนเงยหน้าแอบปวดหลังคือมันต้องนั่งแล้วเงยหน้าหลังต้องติดเก้าอี้)จากนั้นก็ไปถ่าย Befor หน้าตรงหันหน้า เงย มุม45องศา บลาๆ (เค้าจะมีเลขให้เราดูแล้วเราก็แค่หันตาม)จากนั้นก็ไป เจาะเลือด ความดัน ตรวจคลื่นหัวใจ (ต้องถกเสื้อขึ้นกอดเสื้อในแอบเขินพยาบาล)
หลังจากที่ตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องพบกับที่ปรึษาคุณหมอก่อน เราอยากจะแก้ตรงไหนปรับตรงไหนอยากจะถามอะไร
ทำศัลกรรมอะไรมาแล้วบ้าง จมูกกี่ครั้ง นานแค่ไหน เคยฉีดฟิลเลอร์ตรงไหนบ้าง อยากจะได้โครงหน้าแบบนี้ จมูกเอาปลายเชิ่ดโด่ง ๆ
บอกให้เคลียร์ แสดงความลำไยของเราให้หมด เพราะตอนที่เจอหมอจะมีเวลาคุยน้อยมากๆ
กิ๊ฟก็เอารูปที่เตรียมเตรียมมาให้ที่ปรึษาดู นำให้เตรียมมาหลายๆมุม เพื่อนความชัดเจน และอธิบายให้เค้าฟังว่าต้องการแบบไหนยังไง
หลังจากนั้นก็คุยกับคุณหมอโครงหน้า กิ๊ฟก็บอกไปว่าต้องการจะเอาซิลิโคนคางออก และปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
คุณหมอก็จะทำ ทำวีไลน์ กาม +คาง ใช้กระดูกตรงคางให้คางยาวขึ้นและใส่น๊อตตรงคาง แนะนำให้ทุบโหนกด้วยดูจากผล X-ray โหนกสองข้างไม่เท่ากัน ทำให้ตาดูเล็ก ปรับให้พอดีกับขนาดใบหน้า(เราไม่ได้คิดว่าจะทำโหนกด้วยไม่ได้เตรียมใจตอนนั้นในใจแอบไม่อยากทำ)
จากนั้นก็พบคุณหมอ จมูก รอบนี้ที่ทำเราทำแบบ openใช้กระดูกหลังหูอันเดิมที่ใส่อยู่ เราก็เปิดรูปให้คุณหมอดู จะเอาแบบโด่งกว่าเดิม ปลายแบบเชิ่ด ๆ และปรับส่วนที่เอียงให้ตรงขึ้น
รายการทีทำ และ ชื่อคุณหมอ
- โครงหน้า วีไลน์ (กาม+คาง (Jong-Woo Lim)
- โหนกแก้ม
- เอาซิลิโคนเก่าออก
- แก้จมูก (Ho-Sung Sohn)
คืนก่อนผ่าตัด
งดน้ำงดอหารทุกอย่าง 8ชั่วโมง กิ๊ฟผ่าตัดรอบเช้า งดตั้งแต่เที่ยงคืน ผ่าตัด 10 โมง คืนนี้เป็นคืนที่ตื่นเต้นสุดอะไรสุด นอนไม่หลับ (อยากกินอะไรเต็มที่ก่อนเที่ยงคืน กิ๊ฟแอบเซงที่ไม่ค่อยได้กินอะไรมัวแต่เดินช้อปดูเวลาอีกที เที่ยงคืนแล้ว)
เช้าวันขึ้นเขียง (ตื่นเต้นมาก ๆ ตั้งแต่เมื่อคืน )
-ก็จะมีพี่พยาบาลให้เราไปวัดความดัน ปรากฏว่าความดันต่ำจ้า (ตื่นเต้นเกิน แอบกลัว)แต่ก็ไม่มีผลอะไร จากนั้นก็รอพบคุณหมอ (Jong-Woo Lim ) และคุณหมอ (Ho-Sung Sohn) คุณหมอก็เข้ามาดีไซน์ใบหน้าเรา และก็บอกขั้นตอนการทำ
-โครงหน้า ทำ วีไลน์ (กราม+คาง) และโหนกแก้ม
จะมีแผลในปากทั้งหมด มีข้างหูนิดนึงแทบจะไม่เห็นรอย ไม่มีซิลิโคนใดๆทั้งสิ้นเพราะเป็นการตัดกระดูกยึดกันด้วยน็อตไทเทเนี่ยม สามารถเอาออกได้ แต่ไม่เอาออกหรอกเพราะจะเจ็บตัวอีกรอบ เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ไม่มีผลระยะยาว เข้าเครื่องสแกนที่สนามบินไม่ร้อง55555ของกิ๊ฟทำโหนกแก้มด้วยปรับให้เท่ากัน
-จมูก
ก็บอกคุณหมอไปว่า เอาปลาย เชิ่ด ๆ ตรงสันเอาโด่งกว่าเดิม ใช้กระดูกหลังหูอันเดิมที่ใส่อยู่ ดีใจมากไม่ต้องผ่าอีกข้างไม่ต้องเจ็บหูอีก55555
หลังจากนั้นจะมีเอกสารยินยอมให้รับการผ่าตัด และจะมีข้อควรระวังหลังการผ่าตัด
จากนั้นเราก็เข้าห้องผ่าตัด พักฟื้นที่โรงพยาบาล1คืน ห้องพักฟื้นกว้างมากวิวสวย ภาพในหัวที่คิดไว้คือหลังออกจากห้องผ่าตัดจะเล่นโทรศัพท์นอนดูการ์ตูนแบบเพลิน ๆ แต่มันไม่ได้เป็นแบบที่คิด……. อ่านเรื่องราวต่อ Part2นะจ๊ะ #ศัลกรรมความงาม
[SR] Part1 รีวิวศัลกรรมเกาหลี 26.5 ล้านวอน ปังหรือพัง
เริ่มแรกต้องเกริ่นก่อนว่า ก่อนที่จะทำศัลกรรมจัดเต็มครั้งนี้ กิ๊ฟเคยทำจมูกมาแล้ว 2ครั้ง กับ คาง ด้วยโครงหน้าเดิมของกิ๊ฟเป็นคนที่จมูกเล็กแล้วจมูกไม่ได้โด่ง คางสั้น เลยตั้งสินใจศัลกรรม ผลที่ออกมาก็โอเคไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้ถูกใจมากนักเพราะจมูกที่ทำครั้งแรกปลายมันสั้นและเอียง รอบสองที่ทำทรงโอเคแต่ทำประมาณสองปีแล้วตรงดั้งมันไม่โด่งเหมือนตอนแรกที่ทำ เลยตัดสินใจบินไปทำที่เกาหลี กิ๊ฟก็หาข้อมูลต่างๆนาๆ จนไปเจอเอเจนซี่ kotata เป็นบริษัทที่ติดต่อศัลกรรมกับโรงพยาบาลโดยตรง ฟรี ปรึกษา/มีรถรับส่งให้ /ที่พัก/ล่าม ที่สำคัญไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารไม่รู้เรื่อง เพราะพี่ที่บริษัท kotata เขาพูดภาษาไทยชัดมากๆ และดำเนิดเรื่องให้เราทุกอย่าง ครั้งนี้กิ๊ฟทำศัลกรรมที่โรงพยาบาล IDค่ะ ที่เราได้ยินมาจากLetme IN นั้นแหละ คือก่อนที่ตัดสินใจทำครั้งนี้ต้องบอกก่อนว่า มีปัญหาที่เรารู้จากตัวเองและเราค่อนข้างกังวล
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น