เมื่อเริ่มต้นเรียนภาษาฝรั่งเศส ก็แน่นนอนว่าคงหนีไม่พ้นการเรียนแกรมม่า ไวยากรณ์ต่าง กระจายแว๊บ (verbe) หรือคำกริยาต่างๆ รวมไปถึงการท่องศัพท์ ทั้งความหายและเพศของคำนาม ท้อเหลือเกินค่ะแม่ กว่าจะกลั่นออกมาได้เป็นประโยค
แต่เอาเข้าจริง เราว่าสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้การเรียนรู้ศัพท์เร็วขึ้น รวมไปถึงการฝึกเสียง เลียนสำเนียงนั่นคือการนั่งฟังเพลง แน่นอนว่าคนที่เริ่มเรียนส่วนใหญ่น่าจะคงพอคุ้นชินและได้ยินเพลงดังๆอย่า La vie en rose กันเป็นแน่แท้ เเต่วันนี้เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับเพลงที่มีความรวมสมัยมากขึ้น เนื้อหาเพลงง่ายๆ ฟังเพลินๆ อาจจะไม่ใช่เพลงใหม่ซะทั้งหมด แต่คิดว่าน่าจะฟังง่าย เข้าใขจได้ไม่ยาก นอกจากแนะนำชื่อเพลงแล้ว เราจะพยายามพูดถึงเนื้อหาเพลงคร่าวๆด้วย เผื่อใครที่กำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสอยู่ อาจจะได้เอาไปอะเเด๊ป ประยุกต์เข้ากับการเรียนได้อยู่บ้าง
ไปเริ่มกันเลย.......
1. Je Vole, ศิลปิน Louane - เพลงนี้จริงๆแล้วเวอร์ชั่นดั้งเดิมแรกเริ่มร้องโดยนักร้อชื่อว่า Michel Sardou โดยจากที่อ่านมาเขาบอกว่าเพลงนี้ออกมาให้ฟังครั้งเเรกตั้งเเต่ปี 1978 แต่ส่วนตัวเจ้สของกระทู้เอง ได้ยินเพลงนี้ครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง La Famille Bélier ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังฝรั่งเศสเรื่องโปรด เพลงนี้ในหนังขับร้องโดยนักร้องวัยรุ่น ชื่อว่า Louane ซึ่งโด่งดังมาจากการประกวด The Voice ของประเทศฝรั่งเศส
Je vole. มีความหมายตรงตัวว่า "ฉันโบยบิน" ซึ่งถ้าให้สรุปเนื้อเพลงรวมๆ ก็จะกล่าวถึงตัวเอกของเรื่องที่บอกลาพ่อ เเม่ ครอบครัวอันเป็นที่รัก การจากไปครั้งนี้ไม่ใช่การหนี แต่มันถึงเวลาเเล้วที่ต้องออกไปตามความฝันของตัวเอง โบยบินด้วยปีกของตัวเอง เพลงนี้ที่ขับร้องด้วยตัวเองของภาพยนตร์อย่าง Louane ยิ่งมีส่วนช่วยให้เรามองเห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการระบายความรู้สึกของตัวเอกที่ต้องการใช้ความสามารถ พรสวรรค์ของตัวเอง เพื่อเดินตามความฝันในการร้องเพลง
2. La maladie d'amour - เพลงนี้ถ้าจำไม่ผิดก็ได้ยินครั้งเเรกจากภาพยนตร์เรื่อง La Famille Bélier อีกเช่นกัน ต้นตำรับดั้งเดิมก็คือ Michel Sardou อีกเช่นเคย เพลงนี้มีเนื้อหาบรรยายถึงความรัก ชื่อเพลงก็มีความหมายตรงๆว่า "โรคของความรัก" หรือ "อาการเจ็บป่วยจากความรัก" อะไรประมาณนี้
หากจะต้องสรุปเนื้อเพลง เราก็คิดว่าเขากำลังพยายามบอกเราว่าตั้งเเต่เล็กจนโต เราทุกคนต่างเคยพบกับความผิดหวัง ความเจ็บปวดจากความรักมาเเล้วททั้งนั้น ทั้งชายทั้งหญิง วัยรุ่น หนุ่มสาวหรือผู้สูงวัยก็ตาม
3. Pas là, ศิลปิน Vianney - ก่อนจะพูดถึงเนื้อเพลง เราขอบอกก่อนว่าศิลปินคนนี้เป็นคนที่เราฟังเพลงของเขาค่อนข้างบ่อย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เนื่องมาจากเนื้อเพลงที่เข้าใจไม่จาก รวมไปถึงเพลงค่อนข้างฟังสบาย และเพลง Pas là นี่ก็น่าจะเป็นเพลงแรกๆของ Vianney ที่เราเริ่มฟัง
Pas là มีความหมายตรงตัวว่า "ไม่อยูที่นั่น" เนื้อเพลงก็ตามนั้นเลยจ้ะ เพลงเเนวอกหัก แบบว่า เธอากไปแล้ว ฉันก็เหมือนเหยือกที่เเตกร้าว ตามหาเธอไปทุกหนแห่งแต่ก็ไม่เจอ เธอไม่อยู่ที่นั่นเเล้ว ฉันก็คงจทำอะไรไม่ได้นอกจากยอกรับการจากไปนั่นเอง อ้ะเศร้าแป๊ป
4. ça ira, ศิลปิน Joyce Jonathan - เพลงนี้เป็นเพลงรักสมหวัง หอมหวาน ชื่อเพลงมีความหมายตรงๆว่า "มันจะโอเค" แบบว่า "It will be fine." อะไรประมาณนั้น
เนื้อเพลงก็ห้องหวานน่ารักใสๆไปเลยต้ะ อารมณ์ว่าที่มานั่งอยู่ด้วยกัน มานั่งตรงหน้าฉันตรงนี้ก็เพราะหลงรักดวงตาของฉันใช่ไหม ฉันทำให้เธอมีความสุขหล่ะซิ ตั้งเเต่ฉันได้พบเธอเนี่ย ฉันก็ลืมอดีตทั้งหมดที่ผ่านมาเลย เธอคือแหล่งที่มาของความสุข อารมณ์ดีๆของฉันก็มาจากเธอนั่นเอง ทุกอย่างจะโอเคหล่ะ มีเเค่ฉันมีแค่เธอก็พอเเล้ว เอ้าจ้ะหวานหยด หวานย้อย
5. On est bien comme ça. ศิลปิน Vianney - อย่างที่บอกค่ะ Vianney คือ เจ้าประจำที่ฟังค่อนข้างบ่อย เพลวนี้พูดถึงความสำคัญที่ไม่ได้รายรื่น มีการทะเลากันบ้างแต่สุดท้ายก็ On est bien comme ça. ซึ่งหมายถึงประมาณว่า "เราก็โอเคกันแบบนี้แหละ" (We are fine just like this.) จัวหวะเพลงก็จะเร็วๆ สนุกๆหน่อย โยกตามได้เบาๆ
6. Elle me dit. ศิลปิน Mika - อีกหนึ่งนักร้องโปรด เราแอบชื่นชอบนักร้องคนนี้จากการนั่งดูรายการ The voice ของฝรั่งเศส เขาเป็นคณะกรรมการที่ค่อนข้างจะสร้างสีสันให้กับรายการมากทีเดียว เป็นคนมีคาแรคเตอร์สนุกสนาน ดูอารมณ์ดีคลอดเวลา
Elle me dit. มีความหมายตรงๆตัวว่า "หล่อนบอกฉัน"
"หล่อน" ในที่นี้เราก็ไม่ชัวร์ว่าเป็นใคร แต่หล่อนเป็นคนที่กระตุ้นให้เราออกมาใช้ชีวิต ออกมาเต้น ออกมามีความสุขกับชีวิต ประกอบร่างชีวิตให้เป็นชิ้นเป็นอัน เพลงนี้ทำนองสนุก เต้นได้ เอาเข้าจริงก็แอบสร้างเเรงฮึบให้ออกมาทำโน่นทำนี่ด้วย
7. La femme chocolat, ศิลปิน 0livia Ruiz - เพลงนี้เป็นเพลงจังหวะชิล เปรียบชีวิตของหญิงสาว คือ เปรียบเทียบช่วงเวลาของการเจริญเติบโตกับการกินช็อกโกแลต คือ ตอนเด็กๆเราก็กินช็อกโกแลตเป็นของหวานกันตลอดเวลา พอโตมาก็หมดเวลาของช็อกโกแลตเเล้ว ฟังเผลอก็เป็นเพลงฟังสนุกๆ เบาๆ เเต่ถ้าลองมานั่งตีความก็จะได้เนื้อหาที่ลึกซึ้งไปประมาณนึง
8. L'amour est un oiseau rebelle - เพลงนี้ดูเหมือนจะมีหลายเวอชั่นมากๆ ครั้งแรกที่ได้ฟัง คือ ตอนเรียนค่ะ ตอนนั้นมีมิชชั่นทำพรีเซนเตชั่นเกี่ยวกับบางตอนก็บทละคร Carmen อาจารย์ก็มีคำแนะนำมาว่าให้ลองไปนั่งฟังเพลงนี้เเล้วเอามาเล่าให้เพื่อนฟังหน่อย จากนั้นก็แอบชอบเนื้อเพลงนี้มาตลอด
เนื้อเพลงก็ตรงกับความหมายของชื่อเพลงเลยค่ะ "ความรักเหมือนนกที่ไม่เชื่อง" เป็นการเปรียบเทียบความรักกับนกนั่นเอง ความรักเหมือนนกที่ไม่สามารถทำให้เชื่องได้ ถ้ายิ่งเรียกเรียกร้องนกก็ยิ่งจะบินหนีไป ถ้าไม่รักไม่อยากอยู่จะทำยังไงนกก็สามารถบินหนีไป เช่นเดียวกับความรัก ถ้าฟังเพลงนี้จะฉากละครเวทีเฉยๆก็ยอมรับค่ะ ว่าเเทยจะไม่สามรถจับคำอะไรได้เลย เเต่พอเปิดดูเนื้อไปด้วยก็จะเห็นว่าจริงๆเเล้วเนื้อเพลงไม่ได้อยากกอะไร แถมความหมายก็ดีทีเดียว
9. Summer in Paradise, ศิลปิน Simple Plan - เพลงนี้จริงๆแล้วเราฟังครั้งแรกเป็นภาษอังกฤษ แต่เเล้วเพลลิสต์ในยูทูปก็ไล่ไปเจอฉบับภาษาฝรั่งเศสผสมอยู่ ซึ่งก็คิดว่าน่าจะเป็นเพราะวง Simple Plan นี้เป็นวงร็อคจากแคนาดา ก็เลยอาจจะมีการนำภาษาฝรั่งเศสสอดแทรกเข้าไปนั่นเอง
เนื้อเพลงก็ตรงตามตัว เป็นการพูดถึงช่วงเวลาดีในช่วงซัมเมอร์ ช่วงเวลาที่เหมือนอยู่บนสวรรค์ เเสงแดด ทะเล แต่ว่าน่าเสียดายที่มันหมดเวลาเเล้ว ต้องไปแล้วหล่ะ ถึงเเม้จะอย่างนั้นก็เถอะ ฉันจะพยายามหาทางกลับมา กลับมามีช่วงเวลาดีๆอีกแน่ๆ รอหน่อย ไม่นาน
10. Je veux. ศิลปิน ZAZ - เพลงนี้เป็นเพลงฟังสนุกๆ โยกตัวได้ เนื้อหาชิลๆ
เนื้อหาของเพลงก็ประมาณว่าเอาอะไรมาเเลกก็ไม่ยอม เอาของมีค่า หรูหราแค่ไหนมาให้ฉันก็ไม่สำคัญ จะให้ฉันเอาไปทำอะไร สิ่งที่ฉันต้องการ คือ ความรัก ความสนุกสนานในชีวิต ฉันเป็นแบบนี้แหละ ช่วยเข้าใจฉันหน่อย
เอาหล่ะค่ะ นี่คือ 10 เพลงฝรั่งเศส ที่คิดว่าน่าจะพอไปโดนใจใครหลายคน หรือน่าจะพอช่วยให้พาไปเจอเพลงฝรั่งเศสอื่นๆที่จะช่วยให้การเรียนภาษาฝรั่งเศสสนุกขึ้น นอกจากนี้น่าจะพอทำให้ได้เห็นภาพของบรรยากาศ ดนตรี วัฒนธรรมการฟังเพลงของคนที่นี่กันอยู่บ้าง
10 เพลงฝรั่งเศสง่ายๆ – เครื่องมือช่วยฝึกภาษาฝรั่งเศส
แต่เอาเข้าจริง เราว่าสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้การเรียนรู้ศัพท์เร็วขึ้น รวมไปถึงการฝึกเสียง เลียนสำเนียงนั่นคือการนั่งฟังเพลง แน่นอนว่าคนที่เริ่มเรียนส่วนใหญ่น่าจะคงพอคุ้นชินและได้ยินเพลงดังๆอย่า La vie en rose กันเป็นแน่แท้ เเต่วันนี้เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับเพลงที่มีความรวมสมัยมากขึ้น เนื้อหาเพลงง่ายๆ ฟังเพลินๆ อาจจะไม่ใช่เพลงใหม่ซะทั้งหมด แต่คิดว่าน่าจะฟังง่าย เข้าใขจได้ไม่ยาก นอกจากแนะนำชื่อเพลงแล้ว เราจะพยายามพูดถึงเนื้อหาเพลงคร่าวๆด้วย เผื่อใครที่กำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสอยู่ อาจจะได้เอาไปอะเเด๊ป ประยุกต์เข้ากับการเรียนได้อยู่บ้าง
ไปเริ่มกันเลย.......
1. Je Vole, ศิลปิน Louane - เพลงนี้จริงๆแล้วเวอร์ชั่นดั้งเดิมแรกเริ่มร้องโดยนักร้อชื่อว่า Michel Sardou โดยจากที่อ่านมาเขาบอกว่าเพลงนี้ออกมาให้ฟังครั้งเเรกตั้งเเต่ปี 1978 แต่ส่วนตัวเจ้สของกระทู้เอง ได้ยินเพลงนี้ครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง La Famille Bélier ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังฝรั่งเศสเรื่องโปรด เพลงนี้ในหนังขับร้องโดยนักร้องวัยรุ่น ชื่อว่า Louane ซึ่งโด่งดังมาจากการประกวด The Voice ของประเทศฝรั่งเศส
Je vole. มีความหมายตรงตัวว่า "ฉันโบยบิน" ซึ่งถ้าให้สรุปเนื้อเพลงรวมๆ ก็จะกล่าวถึงตัวเอกของเรื่องที่บอกลาพ่อ เเม่ ครอบครัวอันเป็นที่รัก การจากไปครั้งนี้ไม่ใช่การหนี แต่มันถึงเวลาเเล้วที่ต้องออกไปตามความฝันของตัวเอง โบยบินด้วยปีกของตัวเอง เพลงนี้ที่ขับร้องด้วยตัวเองของภาพยนตร์อย่าง Louane ยิ่งมีส่วนช่วยให้เรามองเห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นการระบายความรู้สึกของตัวเอกที่ต้องการใช้ความสามารถ พรสวรรค์ของตัวเอง เพื่อเดินตามความฝันในการร้องเพลง
2. La maladie d'amour - เพลงนี้ถ้าจำไม่ผิดก็ได้ยินครั้งเเรกจากภาพยนตร์เรื่อง La Famille Bélier อีกเช่นกัน ต้นตำรับดั้งเดิมก็คือ Michel Sardou อีกเช่นเคย เพลงนี้มีเนื้อหาบรรยายถึงความรัก ชื่อเพลงก็มีความหมายตรงๆว่า "โรคของความรัก" หรือ "อาการเจ็บป่วยจากความรัก" อะไรประมาณนี้
หากจะต้องสรุปเนื้อเพลง เราก็คิดว่าเขากำลังพยายามบอกเราว่าตั้งเเต่เล็กจนโต เราทุกคนต่างเคยพบกับความผิดหวัง ความเจ็บปวดจากความรักมาเเล้วททั้งนั้น ทั้งชายทั้งหญิง วัยรุ่น หนุ่มสาวหรือผู้สูงวัยก็ตาม
3. Pas là, ศิลปิน Vianney - ก่อนจะพูดถึงเนื้อเพลง เราขอบอกก่อนว่าศิลปินคนนี้เป็นคนที่เราฟังเพลงของเขาค่อนข้างบ่อย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เนื่องมาจากเนื้อเพลงที่เข้าใจไม่จาก รวมไปถึงเพลงค่อนข้างฟังสบาย และเพลง Pas là นี่ก็น่าจะเป็นเพลงแรกๆของ Vianney ที่เราเริ่มฟัง
Pas là มีความหมายตรงตัวว่า "ไม่อยูที่นั่น" เนื้อเพลงก็ตามนั้นเลยจ้ะ เพลงเเนวอกหัก แบบว่า เธอากไปแล้ว ฉันก็เหมือนเหยือกที่เเตกร้าว ตามหาเธอไปทุกหนแห่งแต่ก็ไม่เจอ เธอไม่อยู่ที่นั่นเเล้ว ฉันก็คงจทำอะไรไม่ได้นอกจากยอกรับการจากไปนั่นเอง อ้ะเศร้าแป๊ป
4. ça ira, ศิลปิน Joyce Jonathan - เพลงนี้เป็นเพลงรักสมหวัง หอมหวาน ชื่อเพลงมีความหมายตรงๆว่า "มันจะโอเค" แบบว่า "It will be fine." อะไรประมาณนั้น
เนื้อเพลงก็ห้องหวานน่ารักใสๆไปเลยต้ะ อารมณ์ว่าที่มานั่งอยู่ด้วยกัน มานั่งตรงหน้าฉันตรงนี้ก็เพราะหลงรักดวงตาของฉันใช่ไหม ฉันทำให้เธอมีความสุขหล่ะซิ ตั้งเเต่ฉันได้พบเธอเนี่ย ฉันก็ลืมอดีตทั้งหมดที่ผ่านมาเลย เธอคือแหล่งที่มาของความสุข อารมณ์ดีๆของฉันก็มาจากเธอนั่นเอง ทุกอย่างจะโอเคหล่ะ มีเเค่ฉันมีแค่เธอก็พอเเล้ว เอ้าจ้ะหวานหยด หวานย้อย
5. On est bien comme ça. ศิลปิน Vianney - อย่างที่บอกค่ะ Vianney คือ เจ้าประจำที่ฟังค่อนข้างบ่อย เพลวนี้พูดถึงความสำคัญที่ไม่ได้รายรื่น มีการทะเลากันบ้างแต่สุดท้ายก็ On est bien comme ça. ซึ่งหมายถึงประมาณว่า "เราก็โอเคกันแบบนี้แหละ" (We are fine just like this.) จัวหวะเพลงก็จะเร็วๆ สนุกๆหน่อย โยกตามได้เบาๆ