ในช่วงต้นปี 1990s นั้น ถือเป็นที่ช่วงที่เครื่องเกมคอนโซลกลับมารุ่งเรื่องอีกครั้งและมีบริษัทต่าง ๆ
ทั้งบริษัทดั้งเดิมและหน้าใหม่เข้ามาเแข่งขันกันในตลาดนี้จำนวนไม่น้อย
Atari Corporation ซึ่งเป็น 1 ใน 2 บริษัทที่ถูกแบ่งออกมาจาก Atari อดีตเจ้าตลาดเครื่องเกมคอนโซล
และถือสิทธิ์ในการสร้างเครื่องเกมคอนโซลอยู่ก็เห็นว่าตลาดธุรกิจนี้กลับมาคึกคักแล้วจึงต้องการที่จะกลับมาในธุรกิจเกมคอนโซลอีกครั้ง
ในยุคที่ผู้บริโภคมีความเชื่อว่า Bit ยิ่งเยอะยิ่งดีนั้น หลาย ๆ บริษัทผู้ผลิตเครื่องเกมเองก็มีความคิดนี้เช่นกัน
จึงมีความพยายามที่จะรุกตลาดเครื่องเกมคอนโซลด้วยเครื่องเล่นเกมที่ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าหนึ่งขั้น,
มี Bit มากกว่าเครื่องเจ้าตลาดเดิมในเวลานั้น เช่น 3DO ของ Panasonic ที่เป็นเครื่อง 32 Bit
Atari เองก็เช่นกัน แต่ต่างที่ Atari นั้นเล่นสุดซอยกว่าใครเพื่อน
เดือนพฤศจิกายน 1993 Atari ได้วางจำหน่ายเครื่องเกมคอนโซลรุ่นล่าสุดของตน Atari Jaguar ที่อเมริกา
เป็นการกลับมาอีกครั้งของ Atari ที่เว้นว่างจากตลาดเครื่องเกมคอนโซลไปถึง 7 ปี
โดยเครื่องก่อนหน้านี้ Atari 2600 jr นั้นวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 1986
โดย Atari ได้โฆษณาว่า Atari Jaguar เป็นเครื่องเกมที่ทรงพลังที่สุดแห่งยุคด้วยเทคโนโลยีการประมวลผล 64 Bit
ใช่แล้ว ในยุคที่เครื่องเจ้าตลาดเป็นเครื่อง 16 Bit Atari เล่นอาวุธหนักโดยเอาเครื่อง 64 Bit มาชนสู้เลยทีเดียว
โฆษณาของ Atari Jaguar เองก็เล่นประเด็นนี้เหมือนกันโดยในโฆษณานั้นจะเป็นการเอาจำนวน Bit ของเครื่องเกมต่าง ๆ
รวมถึงของ Atari Jaguar มาขึ้นกระดานแล้วให้บอกว่าเครื่องไหนดีกว่า
โฆษณาของ Atari Jaguar “Do the Math” นั้นสามารถดูได้ใน Link ข้างล่าง
https://www.youtube.com/watch?v=nxuna944dls
แต่ถ้าหากลงไปดูถึงโครงสร้างภายในของเครื่องแล้วละก็จะเกิดคำถามขึ้นมาว่า “ไหนล่ะ 64 Bit”
Atari Jaguar นั้นทำงานโดยมี Processor หลักสองตัว ชื่อ Code name ว่า Tom และ Jerry
Tom นั้นรับหน้าที่ประมวลผลด้านภาพและกราฟฟิก (GPU) ส่วน Jerry ประมวลผลสัญญาณดิจิทัล (Digital Signal Processor หรือ DSP) เพื่อสร้างเสียง
นอกจาก Tom และ Jerry แล้วยังมี Motorola 68000 ซึ่งเป็น Processor ที่มีการใช้งานแพร่หลายไม่ว่าจะใช้เป็น CPU ใน Personal Computer เช่น Apple Lisa หรือ Macintosh, ในแผงวงจรเครื่องเกมอาเขตเช่น CP2 ของ Capcom
และยังถูกใช้เป็น CPU ของเครื่อง Mega Drive อีกด้วย หน้าที่ของชิปตัวนี้คือคอยสั่งการ Tom, Jerry และบริหารจัดการงานจิปาถะอื่น ๆ ให้
ผู้สร้างได้กล่าวว่ามันมีไว้เพื่อทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้จัดการของระบบ เป็นคนที่ไม่ได้ลงมือทำงานจริง ๆ แต่เป็นคนคอยบอกคนอื่น ๆ ว่าจะต้องทำอะไร
ทั้งสามชิปนี้เป็น Processor 32 Bit
บางแหล่งข้อมูลกล่าวว่ามีแต่ Tom ที่เป็น 32 Bit ส่วน Motorola 68000 และ Jerry เป็นแค่ 16 Bit
แล้ว 64 Bit มาจากไหน
ความเป็นไปได้ที่ 1 คือ เอามาจากขนาดช่องทางที่ข้อมูลสามารถผ่านได้ (BUS) ของ RAM ใน Jaguar ที่มีขนาด 64 Bit
ความเป็นไปได้ที่ 2 คือ เอาจำนวน Bit ของ Tom และ Jerry ซึ่งทำงานร่วมกันมาบวกกันแบบดื้อ ๆ ก็จะได้ 64 Bit (ในบางสูตรก็นับรวม Motorola ที่เป็นชิปผู้จัดการด้วยในอัตราส่วน 32 + 16 + 16 = 64)
จากคำให้สัมภาษณ์ของผู้ออกแบบนั้นสรุปเรื่อง 64 Bit ไว้ว่า “เพราะ Jaguar มี memory interface ขนาด 64 Bit
และ Tom ดึงข้อมูลขนาด 64 Bit มาประมวลผล Atari จึงเป็นเครื่อง 64 Bit”
เราจะข้ามการถกเถียงเรื่องนี้ หลับตาข้างนึงและเชื่อตามผู้ออกแบบว่ามันเป็นเครื่อง 64 Bit ไปก่อน
ในการเขียนโปรแกรมเกมบน Jaguar นั้น Atari ให้อิสระโปรแกรมเมอร์ที่จะเจาะจงเลือกได้ว่าจะสั่งงานลงไปที่โปรเซสเซอร์ตัวไหนให้ทำอะไรได้ ซึ่งอิสระนี้ได้สร้างปัญหาและเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณภาพของเกมหลาย ๆ เกมบน Jaguar ย่ำแย่ไม่สมเป็นเครื่อง 64 Bit
สิ่งที่เกิดขึ้นคือโปรแกรมเมอร์ในเวลานั้นไม่คุ้นชินกับการเขียนโปรแกรมที่ต้องคอยควบคุมสั่งงานโปรเซสเซอร์หลาย ๆ ตัว
เครื่องมือพัฒนาเกมและเอกสารคู่มือการพัฒนาเกมของ Atari ให้มานั้นก็ถูกสร้างและจัดทำอย่างเร่งรีบจนเครื่องมือและเนื้อหาของเอกสาร
ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเหล่าโปรแกรมเมอร์นัก
ทำให้เหล่าผู้พัฒนาต้องติดต่อฝ่าย Support ของ Atari เพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือในการเขียนโปรแกรม
เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่ทางอาตาริเตรียมคนของฝ่าย Support ไว้ไม่เพียงพอทำให้การตอบสนองต่อการขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากโปรแกรมเมอร์นั้นล่าช้ามากและหลายครั้งที่คำถามไม่ได้รับการตอบกลับ
เมื่อโปรแกรมเมอร์พึ่งการสนับสนุนจากอาตาริไม่ได้ในขณะเดียวกันเส้นตายของการพัฒนาเกมก็ใกล้เข้ามา
โปรแกรมเมอร์จึงหันไปใช้วิธีที่คุ้นเคย, ง่ายกว่าและสามารถทำได้ทันที โดยการเขียนโปรแกรมสั่งให้ Motorola 68000
รับหน้าที่ประมวลผลกราฟฟิกและงานต่าง ๆ แทน ผลคือเกมหลาย ๆ เกมมีกราฟฟิกที่แทบไม่ได้ต่างกับเกมบนเครื่อง 16 Bit เลย
ซึ่งนี่ทำให้เริ่มมีคำถามในหมู่ผู้บริโภคว่า “Bit ยิ่งเยอะยิ่งดีจริงหรือ”
ในวันวางจำหน่าย ราคาขายเปิดตัวของ Atari Jaguar อยู่ที่ 250 USD โดยแถมเกม Cybermorph ที่เป็นเกมแนวยานยิง 3 มิติมาให้ ซึ่งความเห็นของ Youtuber ในช่อง Angry Video Game Nerd มองว่าเป็นเกมที่น่ารำคาญที่สุดเกมหนึ่งเลยทีเดียว
สามารถดูรีวิวเกม Cybermorph โดย AVGN ได้ที่ Link ข้างล่าง นาทีที่ 6.36
https://www.youtube.com/watch?v=3LVcvkLCUtU
ยิ่งเมื่อมีการนำไปเปรียบเทียบกับ Star Fox เกมแนว Rail Shooting บนเครื่อง Super Nintendo ที่มีกราฟฟิก 3 มิติเหมือนกัน
ก็ยิ่งทำให้ผู้บริโภคยิ่งเกิดความกังขาต่อ Jaguar มากยิ่งขึ้น “ 64 Bit แต่มีกราฟฟิกที่ดีกว่า 16 Bit แค่เนี้ยเองรึ”
จนกระทั้งเดือนตุลาคม 1994 เกือบ 1 ปีหลังจากวางจำหน่ายเครื่องครั้งแรก
เกมที่ช่วยกู้ชื่อให้ Jaguar ก็มาถึง
to be continued in Part 2
ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน” โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ
https://www.facebook.com/uptomejournal/
บทความตามใจฉัน “Atari Jaguar เฮือกสุดท้ายของอาตาริ” Part 1
ทั้งบริษัทดั้งเดิมและหน้าใหม่เข้ามาเแข่งขันกันในตลาดนี้จำนวนไม่น้อย
Atari Corporation ซึ่งเป็น 1 ใน 2 บริษัทที่ถูกแบ่งออกมาจาก Atari อดีตเจ้าตลาดเครื่องเกมคอนโซล
และถือสิทธิ์ในการสร้างเครื่องเกมคอนโซลอยู่ก็เห็นว่าตลาดธุรกิจนี้กลับมาคึกคักแล้วจึงต้องการที่จะกลับมาในธุรกิจเกมคอนโซลอีกครั้ง
ในยุคที่ผู้บริโภคมีความเชื่อว่า Bit ยิ่งเยอะยิ่งดีนั้น หลาย ๆ บริษัทผู้ผลิตเครื่องเกมเองก็มีความคิดนี้เช่นกัน
จึงมีความพยายามที่จะรุกตลาดเครื่องเกมคอนโซลด้วยเครื่องเล่นเกมที่ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าหนึ่งขั้น,
มี Bit มากกว่าเครื่องเจ้าตลาดเดิมในเวลานั้น เช่น 3DO ของ Panasonic ที่เป็นเครื่อง 32 Bit
Atari เองก็เช่นกัน แต่ต่างที่ Atari นั้นเล่นสุดซอยกว่าใครเพื่อน
เดือนพฤศจิกายน 1993 Atari ได้วางจำหน่ายเครื่องเกมคอนโซลรุ่นล่าสุดของตน Atari Jaguar ที่อเมริกา
เป็นการกลับมาอีกครั้งของ Atari ที่เว้นว่างจากตลาดเครื่องเกมคอนโซลไปถึง 7 ปี
โดยเครื่องก่อนหน้านี้ Atari 2600 jr นั้นวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 1986
โดย Atari ได้โฆษณาว่า Atari Jaguar เป็นเครื่องเกมที่ทรงพลังที่สุดแห่งยุคด้วยเทคโนโลยีการประมวลผล 64 Bit
ใช่แล้ว ในยุคที่เครื่องเจ้าตลาดเป็นเครื่อง 16 Bit Atari เล่นอาวุธหนักโดยเอาเครื่อง 64 Bit มาชนสู้เลยทีเดียว
โฆษณาของ Atari Jaguar เองก็เล่นประเด็นนี้เหมือนกันโดยในโฆษณานั้นจะเป็นการเอาจำนวน Bit ของเครื่องเกมต่าง ๆ
รวมถึงของ Atari Jaguar มาขึ้นกระดานแล้วให้บอกว่าเครื่องไหนดีกว่า
โฆษณาของ Atari Jaguar “Do the Math” นั้นสามารถดูได้ใน Link ข้างล่าง
https://www.youtube.com/watch?v=nxuna944dls
แต่ถ้าหากลงไปดูถึงโครงสร้างภายในของเครื่องแล้วละก็จะเกิดคำถามขึ้นมาว่า “ไหนล่ะ 64 Bit”
Atari Jaguar นั้นทำงานโดยมี Processor หลักสองตัว ชื่อ Code name ว่า Tom และ Jerry
Tom นั้นรับหน้าที่ประมวลผลด้านภาพและกราฟฟิก (GPU) ส่วน Jerry ประมวลผลสัญญาณดิจิทัล (Digital Signal Processor หรือ DSP) เพื่อสร้างเสียง
นอกจาก Tom และ Jerry แล้วยังมี Motorola 68000 ซึ่งเป็น Processor ที่มีการใช้งานแพร่หลายไม่ว่าจะใช้เป็น CPU ใน Personal Computer เช่น Apple Lisa หรือ Macintosh, ในแผงวงจรเครื่องเกมอาเขตเช่น CP2 ของ Capcom
และยังถูกใช้เป็น CPU ของเครื่อง Mega Drive อีกด้วย หน้าที่ของชิปตัวนี้คือคอยสั่งการ Tom, Jerry และบริหารจัดการงานจิปาถะอื่น ๆ ให้
ผู้สร้างได้กล่าวว่ามันมีไว้เพื่อทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้จัดการของระบบ เป็นคนที่ไม่ได้ลงมือทำงานจริง ๆ แต่เป็นคนคอยบอกคนอื่น ๆ ว่าจะต้องทำอะไร
ทั้งสามชิปนี้เป็น Processor 32 Bit
บางแหล่งข้อมูลกล่าวว่ามีแต่ Tom ที่เป็น 32 Bit ส่วน Motorola 68000 และ Jerry เป็นแค่ 16 Bit
แล้ว 64 Bit มาจากไหน
ความเป็นไปได้ที่ 1 คือ เอามาจากขนาดช่องทางที่ข้อมูลสามารถผ่านได้ (BUS) ของ RAM ใน Jaguar ที่มีขนาด 64 Bit
ความเป็นไปได้ที่ 2 คือ เอาจำนวน Bit ของ Tom และ Jerry ซึ่งทำงานร่วมกันมาบวกกันแบบดื้อ ๆ ก็จะได้ 64 Bit (ในบางสูตรก็นับรวม Motorola ที่เป็นชิปผู้จัดการด้วยในอัตราส่วน 32 + 16 + 16 = 64)
จากคำให้สัมภาษณ์ของผู้ออกแบบนั้นสรุปเรื่อง 64 Bit ไว้ว่า “เพราะ Jaguar มี memory interface ขนาด 64 Bit
และ Tom ดึงข้อมูลขนาด 64 Bit มาประมวลผล Atari จึงเป็นเครื่อง 64 Bit”
เราจะข้ามการถกเถียงเรื่องนี้ หลับตาข้างนึงและเชื่อตามผู้ออกแบบว่ามันเป็นเครื่อง 64 Bit ไปก่อน
ในการเขียนโปรแกรมเกมบน Jaguar นั้น Atari ให้อิสระโปรแกรมเมอร์ที่จะเจาะจงเลือกได้ว่าจะสั่งงานลงไปที่โปรเซสเซอร์ตัวไหนให้ทำอะไรได้ ซึ่งอิสระนี้ได้สร้างปัญหาและเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณภาพของเกมหลาย ๆ เกมบน Jaguar ย่ำแย่ไม่สมเป็นเครื่อง 64 Bit
สิ่งที่เกิดขึ้นคือโปรแกรมเมอร์ในเวลานั้นไม่คุ้นชินกับการเขียนโปรแกรมที่ต้องคอยควบคุมสั่งงานโปรเซสเซอร์หลาย ๆ ตัว
เครื่องมือพัฒนาเกมและเอกสารคู่มือการพัฒนาเกมของ Atari ให้มานั้นก็ถูกสร้างและจัดทำอย่างเร่งรีบจนเครื่องมือและเนื้อหาของเอกสาร
ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเหล่าโปรแกรมเมอร์นัก
ทำให้เหล่าผู้พัฒนาต้องติดต่อฝ่าย Support ของ Atari เพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือในการเขียนโปรแกรม
เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่ทางอาตาริเตรียมคนของฝ่าย Support ไว้ไม่เพียงพอทำให้การตอบสนองต่อการขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากโปรแกรมเมอร์นั้นล่าช้ามากและหลายครั้งที่คำถามไม่ได้รับการตอบกลับ
เมื่อโปรแกรมเมอร์พึ่งการสนับสนุนจากอาตาริไม่ได้ในขณะเดียวกันเส้นตายของการพัฒนาเกมก็ใกล้เข้ามา
โปรแกรมเมอร์จึงหันไปใช้วิธีที่คุ้นเคย, ง่ายกว่าและสามารถทำได้ทันที โดยการเขียนโปรแกรมสั่งให้ Motorola 68000
รับหน้าที่ประมวลผลกราฟฟิกและงานต่าง ๆ แทน ผลคือเกมหลาย ๆ เกมมีกราฟฟิกที่แทบไม่ได้ต่างกับเกมบนเครื่อง 16 Bit เลย
ซึ่งนี่ทำให้เริ่มมีคำถามในหมู่ผู้บริโภคว่า “Bit ยิ่งเยอะยิ่งดีจริงหรือ”
ในวันวางจำหน่าย ราคาขายเปิดตัวของ Atari Jaguar อยู่ที่ 250 USD โดยแถมเกม Cybermorph ที่เป็นเกมแนวยานยิง 3 มิติมาให้ ซึ่งความเห็นของ Youtuber ในช่อง Angry Video Game Nerd มองว่าเป็นเกมที่น่ารำคาญที่สุดเกมหนึ่งเลยทีเดียว
สามารถดูรีวิวเกม Cybermorph โดย AVGN ได้ที่ Link ข้างล่าง นาทีที่ 6.36
https://www.youtube.com/watch?v=3LVcvkLCUtU
ยิ่งเมื่อมีการนำไปเปรียบเทียบกับ Star Fox เกมแนว Rail Shooting บนเครื่อง Super Nintendo ที่มีกราฟฟิก 3 มิติเหมือนกัน
ก็ยิ่งทำให้ผู้บริโภคยิ่งเกิดความกังขาต่อ Jaguar มากยิ่งขึ้น “ 64 Bit แต่มีกราฟฟิกที่ดีกว่า 16 Bit แค่เนี้ยเองรึ”
จนกระทั้งเดือนตุลาคม 1994 เกือบ 1 ปีหลังจากวางจำหน่ายเครื่องครั้งแรก
เกมที่ช่วยกู้ชื่อให้ Jaguar ก็มาถึง
to be continued in Part 2
ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน” โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ
https://www.facebook.com/uptomejournal/