แข้งบาเยิร์นเข้าทำเนียบคนที่ 11 ได้ 10 คะแนนเต็มเลกิ๊ป & อามีน ฮาริต ดาวรุ่งผู้กลับมาคืนฟอร์มสุดยอด

แข้งบาเยิร์นเข้าทำเนียบคนที่ 11 ได้ 10 คะแนนเต็มเลกิ๊ป

หาดูยาก! เลกิ๊ป ให้คะแนนนักเตะ บาเยิร์น 1 ราย 10 เต็ม 10 ส่งผลให้กลายเป็นแข้งรายที่ 11 ในประวัติศาสตร์ที่ได้เป็นมิสเตอร์เพอร์เฟกต์ของสื่อดังเมืองน้ำหอม

แซร์จ นาบรี้ ปีก บาเยิร์น มิวนิค กลายเป็นนักเตะคนที่ 11 ในประวัติศาสตร์ที่ได้คะแนนความสามารถเต็ม 10 จาก เลกิ๊ป สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส หลังโชว์ฟอร์มสุดยอดในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี ที่บุกไปชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ขาดลอย 7-2 เมื่อวันอังคารที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา

นาบรี้ กลายเป็นฮีโร่ของ "เสือใต้" ด้วยการทำคนเดียว 4 ประตูในนาทีที่ 53, 55, 83 และ 88 แถมยังเป็นคนผ่านบอลให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำประตูที่สองของ บาเยิร์น ในเกมนี้ด้วย ส่งผลให้แชมป์ บุนเดสลีกา เก็บได้ 6 แต้มเต็มจากการลงเล่น 2 นัด พร้อมเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม

เลกิ๊ป ให้คะแนนความสามารถ นาบรี้ 10 คะแนนเต็มหรือมิสเตอร์เพอร์เฟกต์ โดยก่อนหน้านี้ มีนักเตะแค่ 10 คนเท่านั้นที่ทำได้ โดยเป็นใครบ้างไปดูกันได้เลย

1. ฟร้องค์ ซอว์ซี่ (ฝรั่งเศส ยู-21 ชนะ กรีซ ยู-21 3-0, 1988)
2. บรูโน่ มาร์ตินี่ (ฝรั่งเศส ยู-21 ชนะ กรีซ ยู-21 3-0, 1988)
3. โอเล็ก ซาเลนโก้ (รัสเซีย ชนะ แคเมอรูน 6-1, 1994)
4. ลาร์ส วินด์ฟิลด์ (อาร์ฮุส ชนะ น็องต์ 1-0, 1997)
5. ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า ชนะ อาร์เซน่อล 4-1, 2010 และ บาร์เซโลน่า ชนะ เลเวอร์คูเซ่น 7-1, 2012)
6. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (ดอร์ทมุนด์ ชนะ เรอัล มาดริด 4-1, 2013)
7. คาร์ลอส เอดูร์อาร์โด้ (นีซ ชนะ แก็งก็อง 7-2, 2014)
8. เนย์มาร์ (เปแอสเช ชนะ ดิฌง 8-0, 2018)
9. ดูซาน ทาดิช (อาแจ็กซ์ ชนะ เรอัล มาดริด 4-1, 2019)
10. ลูกัส มูร่า (สเปอร์ส ชนะ อาแจ็กซ์ 3-2, 2019)

credit ; www.siamsport.co.th

อามีน ฮาริต ดาวรุ่งผู้กลับมาคืนฟอร์มสุดยอด

หลังคว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลไปในปี 2018 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกที่เขาประเดิมสนามในลีกสูงสุดของเยอรมนี ทว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา อามีน ฮาริต กลับประสบปัญหาฟอร์มสะดุดไปซะอย่างนั้น แต่แล้วหลังจากที่เดวิด วากเนอร์ ก้าวเข้ามาคุมบังเหียนทีม “ราชันสีน้ำเงิน” เอฟเซ ชาลเก้ 04 ฮาริตก็สามารถเค้นฟอร์มเก่งของตัวเองกลับมาพา “เดอะ รอยัลบลูส์” บินสูงอีกครั้ง

ลูกยิงจากตัดเข้ากลางจากกราบขวาแล้วปั่นไซด์ก้อยด้วยหน้าเท้าด้านนอกเสียบเสาไกลในนาทีที่ 89 คือประตูชัยสยบไมนซ์ที่ส่งชาลเก้ให้ขึ้นไปรั้งอันดับ 5 บนตารางหลังจบ 5 เกมลีกแรก สรุปแล้วในเกมนั้นเขาทั้งจ่ายแอสซิสต์สุดแสนฉียบคมหนึ่งลูก แล้วยังเลี้ยงบอลด้วยทักษะเทพเข้าไปยิงเองอีกหนึ่งลูก ซึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าที่พลพรรคราชันสีน้ำเงินเพิ่งบุกไปสอนบอลพาเดอร์บอร์นถึง 1-5 ประตูเป็นสองเกมที่ฮาริตโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนแฟนบอลตะลึง พร้อมกับยกโทษเรื่องที่ฟอร์มตกไปหนึ่งซีซั่นให้ทันที



ลูกยิงจากตัดเข้ากลางจากกราบขวาแล้วปั่นไซด์ก้อยด้วยหน้าเท้าด้านนอกเสียบเสาไกลในนาทีที่ 89 คือประตูชัยสยบไมนซ์ที่ส่งชาลเก้ให้ขึ้นไปรั้งอันดับ 5 บนตารางหลังจบ 5 เกมลีกแรก สรุปแล้วในเกมนั้นเขาทั้งจ่ายแอสซิสต์สุดแสนฉียบคมหนึ่งลูก แล้วยังเลี้ยงบอลด้วยทักษะเทพเข้าไปยิงเองอีกหนึ่งลูก ซึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าที่พลพรรคราชันสีน้ำเงินเพิ่งบุกไปสอนบอลพาเดอร์บอร์นถึง 1-5 ประตูเป็นสองเกมที่ฮาริตโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนแฟนบอลตะลึง พร้อมกับยกโทษเรื่องที่ฟอร์มตกไปหนึ่งซีซั่นให้ทันที

หลังจากฮาริตย้ายจากสโมสรน็องต์ในฝรั่งเศสมาอยู่กับต้นสังกัดใหม่เมื่อปี 2017 ในวัย 20 ปี เขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับแผนการเล่นของโดเมนิโก้ เทเดสโก้ ซึ่งคุมชาลเก้อยู่ในขณะนั้นได้อย่างรวดเร็ว โดยได้โอกาสลงเล่นในบุนเดสลีกาไปทั้งสิ้น 31 นัด ทำไป 3 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ช่วยให้ทีมคว้าตำแหน่งรองแชมป์เมื่อสิ้นฤดูกาล 2017/18 ส่วนฮาริตเองก็คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล หรือ Rookie of the Season เมื่อชนะโหวตเหนือผู้เล่นฝีเท้าดีอย่าง จาดอน ซานโช เบนฌาแม็ง ปาวาร์ เซบาสเตียน อัลแลร์ ฟีเท่อ อาร์พ และ แดน-อักเซล ซากาดู

แต่ทว่าในซีซั่นถัดมาฮาริตกลับฟอร์มตกฮวบ ทำผลงานย่ำแย่ ยิงได้เพียง 1 ประตูและทำ 2 แอสซิสต์ ทำให้ต้นสังกัดจบซีซั่นในอันดับที่ 14 เทียบกับดาวรุ่งคนอื่นๆ แล้วฮาริตเหมือนเดินถอยหลังหรือไม่ก็เรียนช้ากว่าเพื่อนไป 1 ปีด้วยซ้ำ เพราะอย่างซานโชก็สามารถทำผลงานจ่ายแอสซิสต์สูงที่สุดในลีก ส่วนปาวาร์และอาร์พก็โชว์ฟอร์มแจ่มจน “พี่เสือ” บาเยิร์น มิวนิค ต้องรีบคว้าตัวไปร่วมทัพ ขณะที่อัลแลร์มีส่วนในการทำประตูของทีมถึง 24 ประตูจนได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าที่หวือหวาที่สุดคนนึงในบุนเดสลีกา และซากาดูก็มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ดอร์ทมุนด์ต่อสู้ฟาดฟันลุ้นแชมป์ลีกกับบาเยิร์นจนถึงเกมสุดท้าย

“ทุกอย่างไปได้สวยสำหรับผมและทีมในฤดูกาลแรกที่ชาลเก้ เราจบที่ตำแหน่งรองแชมป์และผมก็คว้ารางวัลได้” ฮาริตกล่าวกับเว็บไซต์สโมสร “โชคร้ายที่ในฤดูกาลที่แล้วผมไม่สามารถเค้นฟอร์มการเล่นแบบเดิมกลับมาได้อีก ผมอยากลืมซีซั่นที่ผ่านไปแล้วและกลับมาเล่นให้ได้เหมือนอย่างที่เคยทำได้มาก่อนในตอนที่ได้รับโหวตให้เป็นผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมในเดือนพฤษภาคมปี 2018”

จากนักเตะที่ได้ร่วมลุยศึกฟุตบอลโลกปี 2018 กลับกลายเป็นนักเตะที่หลุดโผทีมชาติโมร็อคโคชุดลุยศึกแอฟริกัน คัพออฟเนชั่นส์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา…



แต่ชีวิตก็ยังมีพรุ่งนี้เสมอสำหรับฮาริต เมื่อเขาเพิ่งจะกลายเป็นพ่อคนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งนั่นทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น และที่สำคัญคือการมาของโค้ชคนใหม่ เดวิด วากเนอร์

ฮาริตกับชาลเก้น่าจะแยกทางกันไปแล้วด้วยซ้ำในช่วงปิดฤดูกาล แต่วากเนอร์กลับยืนยันว่าเขาต้องการให้ฮาริตอยู่กับทีมต่อไป โดยแสดงความมั่นใจว่าฮาริตจะช่วยชาลเก้ได้อย่างแน่นอน

“ในตอนนั้น ผมอธิบายถึงทัศนคติของผม และเขาก็อธิบายทัศนคติของเขา” วากเนอร์ให้สัมภาษณ์ “เราตัดสินใจร่วมผนึกกำลังกัน และนัดมาคุยกันอีกทีหลังช่วงปรีซีซั่น แต่ท้ายที่สุดก็ไม่จำเป็นต้องคุยกันอีกรอบแล้ว ทุกอย่างมันชัดเจนหมดแล้ว”

วากเนอร์คือโค้ชที่ขึ้นชื่อเรื่องการเค้นฟอร์มสุดยอดของนักเตะทุกหยดออกมาคนหนึ่งนับตั้งแต่สมัยคุมทีมฮัดเดิลส์ฟีลด์ทาวน์ในอังกฤษ เขาพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ แถมยังปลุกปั้นนักเตะโนเนมอย่างอารอน มอย ให้กลายเป็นนักเตะค่าตัวหลายล้านปอนด์ได้ และเรื่องแบบนี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งระหว่างวากเนอร์กับฮาริต ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก โดยฮาริตก็มั่นใจมากเช่นกันว่าวากเนอร์ทำให้เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น

จากสถิติในฤดูกาลล่าสุดเมื่อผ่านไปได้ 5 เกมทำให้เชื่อได้ว่าฮาริตนั้นโฟกัสมากขึ้นจริงๆ เขาออกตัวสปริ้นท์มากที่สุดในลีกรวม 146 ครั้ง นอกจากนี้ฮาริตยังฝึกซ้อมอย่างหนักนอกเหนือจากเวลาซ้อมปกติอีกด้วย แถมสโมสรยังจ้างนักจิตวิทยาเข้ามาช่วยพัฒนาฝีเท้าทั้งทางเทคนิกและจิตใจให้กับนักเตะอีกด้วย

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่มาที่ทำให้อดีตนักเตะจากอะคาเดมีของปารีส แซ็งต์ แชร์กแม็ง รายนี้ลืมฝันร้าย เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีและคืนฟอร์มเก่งในช่วงต้นซีซั่นนี้ได้ในที่สุด อย่างน้อยถึงจะผ่านไปเพียง 5 นัดเท่านั้นแต่เขาก็ทำสถิติดีกว่าฤดูกาลก่อนทั้งฤดูกาลได้แล้ว

เมื่อมองตามแผนการเล่นของวากเนอร์ เขาจับฮาริตเล่นกองหน้าฝั่งซ้าย แต่ให้อิสระในการเคลื่อนที่ไปได้ทั่วทั้งสองฝั่ง เราจึงได้เล่นฮาริตจ่ายแอสซิสต์จากฝั่งซ้าย และยิงได้ด้วยลูกเลี้ยงตัดเข้าในจากกราบขวา การให้อิสระในการเล่นแบบนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ฮาริตคืนฟอร์มให้ชาลเก้อีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้นฮาริตยังกลับไปมีชื่อติดทีมชาติอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย มารอชมและเอาใจช่วยกันว่าแข้งดาวรุ่งวัย 22 ปีรายนี้จะไปได้ไกลสักแค่ไหน…



credit : www.siamsport.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่