รีวิวตัดกรามที่รพ.ยันฮีครบ 1 เดือนค้า
เราเป็นผู้โชคดีจากกิจกรรมเปลี่ยนหน้าเหลี่ยมให้เป็นหน้าเรียวกับคุณหมอสมศักดิ์ รู้สึกตื่นเต้นมาก ทางโรงพยาบาลได้โทรมาติดต่อนัดวันกับเราให้ไปหา พอเราไปถึงโรงพยาบาลเราประทับใจมาก ทุกๆคนเฟรนลี่ บริการดีพอไปถึงคุณหมอก็เช็คหน้า วัดความดันส่วนสูง แล้วก็นัดวันผ่าตัดอีกทีนึง พอมาถึงวันผ่า เรากลัวมากกกกก ตื่นเต้นด้วย นี่เป็นการศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตเราเลย แล้วครั้งแรกก็ได้ผ่าตัดใหญ่ ก็กลัวเจ็บแหละ แต่ก็ไว้ใจทางโรงพยาบาลเพราะเรารู้ว่า เครื่องมือเขาพร้อม เราปลอดภัยอยู่แล้ว ทีนี้ก็หมดห่วง ก่อนจะผ่าตัดก็ต้องวัดความดัน ส่วนสูง ตรวจเลือดเช็คโน่นนี่นั่นแล้วก็ให้คุณหมอเช็คหน้าอีกทีนึง
แล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทำความสะอาดหน้าล้างหน้าแปรงฟันทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วก็นอนรอ สบาย555555
เสร็จแล้วก็จะมีพยาบาลมาเจาะสายน้ำเกลือให้เรา แล้วก็คอยปลอบใจว่าไม่ต้องกลัวนะคะทำใจให้สบาย อีกไม่นาน ก็มีบุรุษพยาบาลเข็นเราเข้าไป
ในห้องเตรียมจะผ่าตัด ก็จะมีวิสัญญีแพทย์ อธิบายเกี่ยวกับยาสลบที่จะใช้ให้เราได้เข้าใจ จากนั้นคุณหมอก็ฉีดยาสลบเข้าที่เส้นเลือดของเรา
ผ่านสายน้ำเกลือนั่นแหละ ลืมบอกไปว่าเราผ่าตัดในปากนะคะ เพราะคุณหมอแนะนำว่าในปากมันจะได้ไม่เห็นแผลเป็นเท่าข้างนอก
แถมจะดูสวยเป็นธรรมชาติด้วย โอเคเรากลับมาที่การผ่าตัดดีกว่า หลังจากฉีดยาสลบไม่ถึง 2 นาทีได้มั้ง ก็คือหลับตายเลยหลับลืม5555
สักพักก็มีคนสะกิดให้ตื่น ตื่นค่ะเสร็จแล้วคุณหมอจะย้ายลงไปอีกเตียงนะคะ ตอนนั้นก็คือเบลอๆมึนๆงงๆ ลืมตามาอีกทีอ้าวอยู่ในห้องพักแล้ว
คืออยากจะบอกว่าห้องอ่ะกว้างมากกกกกก ความแบบเพื่อนมา 10 คนก็ยังได้ คือแบบกว้างไม่พอเย็นมากจริงๆ เราชอบที่นี่เพราะมีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอะแกรรรรร ก็มีเพื่อนที่มาเฝ้าเราในห้อง ถามเราว่าเจ็บไหมอาการเป็นยังไงบ้าง พูดตรงๆนะนะโมเม้นนั้นน่ะเจ็บมาก แบบร้องไห้อย่างเดียวพูดไม่ได้ เจ็บ เพราะว่ามีสายท่อที่ปากอีกใช่ไหมแล้วก็มีทั้งสายน้ำเกลืออะไรเยอะแยะ เราก็หลับไปโดยที่ไม่ได้กินอะไร แต่พอตื่นมาอีกวันนึง เหมือนสิ่งมหัศจรรย์ คือมันไม่เจ็บเลยว่ะงงมาก คือมันแค่แบบเจ็บๆแผลในปาก แต่ว่าเราทนได้ ก็พูดได้ธรรมดา แล้วดูทีวีได้ปกติเลย แต่ก็ยังกินข้าวไม่ได้นะ คือวันที่ 2 เราไม่สามารถลุกไปเข้าห้องน้ำเองหรือว่าอาบน้ำอะไรได้เลย คือเราก็ต้องกดปุ่มเรียกพยาบาลตลอด พยาบาลก็จะมาบริการเราแบบว่าให้เราฉี่ใส่ โถฉี่มั้ง555555 ก็คือเราเกรงใจพยาบาลมาก อยากลุกไปเข้าห้องน้ำเองแต่ก็ทำไม่ได้ แต่คุณพยาบาลเขาก็แบบว่าบริการดีอ่ะดีจนเกรงใจโอ๊ย
ก็จะมีคุณหมอมาหาเรามาถามเช็คอาการว่าเป็นยังไงบ้าง
พอมาวันที่ 3 เราได้เริ่มกินข้าวประมาณช่วงกลางวัน ข้าวมื้อแรกก็คือโจ๊กไก่สับ แล้วก็มีนมกับเยลลี่ให้กินด้วยนะ วันที่ 3 เป็นวันที่ต้องถอดท่อที่ต่อออกจากปาก แล้วท่อนี้ มันเป็นท่อที่จะดูดซับเลือดออกจากกรามเรา คือเราก็ไม่รู้หรอกว่าเขาจะถอดยังไง แต่พอพยาบาลมาก็คือดึงออกเลย แอบเสียวนิดๆ แต่ก็ไม่ได้เจ็บนะคะ สักพักก็จะมีพยาบาลเดินมาแนะนำว่าถ้าเรากลับบ้านไปเราจะต้องทำอะไรบ้าง ก็ทำเหมือนตอนที่อยู่โรงพยาบาลก็คือมีประคบเย็นประคบอุ่นอะไรอย่างนี้ และอาหารก็กินเท่าที่เรากินได้ ก็คือเราก็ยังไม่สามารถอ้าปากได้กว้างมาก อ้าปากได้นิดเดียว กลับบ้านก็กินได้แค่โจ๊กกับข้าวต้ม ข้าวต้มก็ยังกินไม่ได้ด้วยซ้ำ เราก็กินโจ๊กกับไข่ตุ๋นแทน จากนั้นเราก็ได้รับใบนัดอีกทีนึงก็คืออีก 1 เดือนเลย เพราะว่าเราบินมาจากเชียงใหม่ ปกติแล้วคุณหมอจะนัด 1 อาทิตย์มาดูแผล แต่ว่าของเราติดเรื่องการเดินทางนิดหน่อย แล้ววันนั้นเราก็นั่งเครื่องกลับบ้านได้เลย ถามว่าตอนนั่งเครื่องอาการเป็นยังไง ฟีลเสียวอ่ะ เสียวว่าเลือดมันจะออกไหมหรืออะไร แต่ว่าเขารู้สึกได้ชัดเลยก็คือหูอื้อ แล้วก็เหมือนมีลมปูดๆในหู เราไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นไหมแต่ว่าเราเป็นนะ แต่พอลงเครื่องก็หาย
ในระยะอาทิตย์แรกที่กลับบ้านไป ก็หน้าบวมๆเหมือนคนอ้วนออกหน้า แบบตัวผอมแต่อ้วนแค่หน้างี้ เราว่าไม่ได้น่าเกลียดนะน่ารักดี555555 มันดูแป้นแล้น กลมๆเหมือนซาลาเปา อาทิตย์ที่ 2 หลังจากการผ่าตัด เราก็รู้สึกอยากกินหมูจุ่ม เราก็จัดเลยจ้า ปรากฏว่า ตื่นมาอีกวันบอกเลย จากที่มันยุบไปบ้างแล้ว บวมตุ่ยเป็นซาลาเปาหนักกว่าเดิมจ้า
อยากบอกว่าเราไม่ควรที่จะกินของแข็ง ที่ต้องใช้แรงเคี้ยวเยอะ เพราะการบดเคี้ยวของเรายังไม่แข็งแรงดี นั่นจึงทำให้เราหันมากินโจ๊กและข้าวต้มเหมือนเดิม อาทิตย์ที่ 3 คือหน้าเราแบบเล็กลง จากที่บวมเป็นซาลาเปายุบลงเยอะมาก เราไปกินข้าวมันไก่ เราก็สั่งเขา เอาไก่ส่วนที่นิ่มนะคะก็กินได้นะแต่ว่าใช้เวลากินนิดนึง
พอครบ 1 เดือนเราก็ไปตามที่คุณหมอนัด คุณหมอบอกว่าเคสเราอ่ะ เป็นเคสที่หน้ายุบเร็วพอสมควร จริงๆเราลืมบอกอาการข้างเคียง
ผลอาการข้างเคียงที่คุณหมอบอกมาว่าเราจะเป็น เช่นปากอาจจะเบี้ยวนิดนึง อาจจะพูดไม่ค่อยชัดเพราะยาชา แต่สิ่งที่คุณหมอพูดมาคือเราไม่เป็นเลยนะ สิ่งที่เราเป็นก็คือ หลังจากการผ่าตัดแล้วไม่ได้กินอะไรเลยบนโลกนี้55555 >< เราก็กังวลโทรถามทางโรงพยาบาลตลอด ทางโรงพยาบาลก็ได้ให้คำแนะนำดีมาก และบอกว่ามันเป็นเพียงแค่อาการข้างเคียง ถ้าหน้าเรายุบลงเราก็จะได้กลับมาได้กินเหมือนเดิม กลับมาที่วันที่คุณหมอนัด ครบ 1 เดือน คุณหมอก็บอกว่าเราค่อนข้างที่จะยุบไว เรารู้สึกภูมิใจที่ได้ทำกับคุณหมอสมศักดิ์มาก เพราะว่าแค่ 1 เดือน หน้าเราก็แบบเห็นชัดมากว่าเรียวลงลดลงเยอะมาก จากที่หน้าเหลี่ยมสุด
แถมเรายังได้กระดูกกรามของเรากลับบ้านไปด้วยน้า อยากเก็บเป็นที่ระลึก55555 นี่คือการรีวิวตัดกรามกับคุณหมอสมศักดิ์ค้า
[SR] ตัดกราม
รีวิวตัดกรามที่รพ.ยันฮีครบ 1 เดือนค้า เราเป็นผู้โชคดีจากกิจกรรมเปลี่ยนหน้าเหลี่ยมให้เป็นหน้าเรียวกับคุณหมอสมศักดิ์ รู้สึกตื่นเต้นมาก ทางโรงพยาบาลได้โทรมาติดต่อนัดวันกับเราให้ไปหา พอเราไปถึงโรงพยาบาลเราประทับใจมาก ทุกๆคนเฟรนลี่ บริการดีพอไปถึงคุณหมอก็เช็คหน้า วัดความดันส่วนสูง แล้วก็นัดวันผ่าตัดอีกทีนึง พอมาถึงวันผ่า เรากลัวมากกกกก ตื่นเต้นด้วย นี่เป็นการศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตเราเลย แล้วครั้งแรกก็ได้ผ่าตัดใหญ่ ก็กลัวเจ็บแหละ แต่ก็ไว้ใจทางโรงพยาบาลเพราะเรารู้ว่า เครื่องมือเขาพร้อม เราปลอดภัยอยู่แล้ว ทีนี้ก็หมดห่วง ก่อนจะผ่าตัดก็ต้องวัดความดัน ส่วนสูง ตรวจเลือดเช็คโน่นนี่นั่นแล้วก็ให้คุณหมอเช็คหน้าอีกทีนึง
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้