สวัสดีเพื่อนๆทุกคน ตอนนี้เราบินมาจะครบ 4 เดือนแล้ว เย่ๆๆ
เราอยากจะมาแชร์ชั้นตอนการสัมภาษณ์และการสมัครเป็นแอร์สายการบินแขกที่อยากมาบินกันนะค้าา
ไปกันเล๊ย
โพสนี้เราแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ เริ่มตั้งแต่วันสัมภาษณ์เลยจ้า
1.วันแรก!
2. วันที่สอง!
3. Timeline หลังจากวันสัมภาษณ์ final interview
1.วันแรก!
สัมภาษณ์ทั้งหมด 2 วัน วันแรกเป็นวันยื่น CV เวลานัด 9 โมงเช้าแต่เราไปตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปถึงเป็นคนที่ 9 5555 ก็ไปเม้ามอยกับเพื่อนที่มาก่อนจะได้ไม่ตื่นเต้นมาก พอไกล้ถึงเวลา กรรมการก็จะเรียกไปเข้าอีกห้องนึง พอถึงเวลาเค้าก็จะมาทักทาย ก่อนจะแยกไปอีกห้องเพื่อทำการสัมภาษณ์ ในเวลาเดียวกันเค้าก็จะให้เรียงแถวและเรียกเข้าไปทีละคน ใครมาก่อนก็ได้เข้าไปก่อน (คือวันแรกมีกรรมการสองชุด เค้าจะนั่งแยกโต๊ะแต่อยู่ในห้องเดียวกัน) ใครได้โต๊ะไหนก็แล้วแต่ดวงเลย จริงๆวันนี้เค้าจะให้เตรียมเอกสารมาหลายอย่างอยู่ แต่สิ่งที่เอาเข้าไปด้วยมีแค่สองอย่างคือ CV กับรูป passport size นอกนั้นวางไว้ก่อนเข้าห้อง(แนะนำให้พกที่หนีบกระดาษมาด้วย เวลายื่นให้กรรมการดูจะได้ไม่มีอะไรตกหล่น)
ตอนเดินเข้าไป กรรมการจะมองบุคคลิกเราตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปจนเดินออกมา เพราะงั้นต้องระวังทุกอย่าง แต่ต้องเป็นธรรมชาติ ยิ้มเข้าไว้และมีความมั่นใจ ที่สำคัญต้อง HONEST ในสิ่งที่พูด (สำหรับ level ของความมั่นใจ แต่ละสายจะมั่นเท่ากันไม่ได้ เช่น สายเอเชียต้องเน้นมารยาทและความเรียบร้อย มี seniority สูงกว่า) ถ้าใครเคยได้ยินมาก่อนว่าต้องตอบแบบนางงาม อันนี้จริง 55555 ส่วนเราโดนถามว่า “Tell me about yourself” ละก็ถามรายละเอียดที่เราเล่าไป คุยไปคุยมาทีนี้เค้าก็ให้ไปเอื่อมแตะ หันหลังมาอีกทีเค้าก็ให้ secret paper ( ** Secret paper คือกระดาษที่กรรมการจะให้สำหรับคนที่ได้สัมภาษณ์ต่อในวันรุ่งขึ้น) อยากเห็น DM มาน้า
2. วันที่สอง!
ถ้าใครคิดว่าจะผ่านยาวๆวันนี้ ห้ามลืมกินข้าวเช้า!!! เพราะขั้นตอนมันยาวจริง ตั้งแต่เก้าโมงเช้า ลากยาวไปสองสามทุ่ม!!
สำหรับวันนี้เค้านัดเก้าโมง จากวันแรกก้เหลือ 130 คนได้ จริงๆมา 8.30 ก็ทันนะ เพราะเป็นการสอบภาษาอังกฤษ เริ่มพร้อมกันทุกคนอยู่ดี (มี reading ไม่ยาก เกี่ยวกับบริษัทและให้ตอบ Multiple choice แล้วก็มี vocabulary ให้เติมคำที่เหมาะสมที่สุด และก็อีกนิดๆหน่อยๆ ห้ามใช้หากกาที่ลบได้ เค้าจะมีวางไว้ให้ก็ใช้อันนั้นไป ที่สำคัญต้องอ่านดีๆก่อน เพราะเวลาทำผิดแล้วเค้าให้กาทิ้งแล้วจะดูสกปรก เคยไปอ่านมา เค้าบอกว่า this part is also to test your decision making ว่าดีแค่ไหน มันอาจจะไม่ยากแต่มีเวลาให้ไม่เยอะ ถ้าทำผิดเยอะๆแปลว่าการตัดสินใจไม่ดีเค้าก็จะคัดตกได้ง่าย)
พอถึงเวลา 8.00 กรรมการมาก็จะให้ sticker ที่มีเบอและชื่อของเรา ละเค้าจะให้เราเขียน application ID (ตรงนี้ให้เอากิ๊ปดำหรือเข็มมาติดนะ sticker หายคือมีสิทตกเลย เพราะเค้าจะมองว่าไม่รับผิดชอบ) แล้วก็เข้าไปในห้อง กว่าจะได้สอบ เค้าก็เปิด video ให้ดูเกี่ยวกับบริษัท บลาๆๆเกือบชั่วโมง แม้ว่าจะสอบแค่ครึ่งชั่วโมงแต่รวมดู video ก็ปาไปเกือบ 10.30 แล้ว
ทีนี้ก็รอประกาศผลประมาณ 11 โมงได้ คัดออก 20 คน โดยเลขที่เค้าเรียกจะไม่ได้ไปต่อ คือเค้าจะเรียกเลขขึ้นมาบอกให้ไปอีกห้องนึง พอออกไปหมดแล้ว กรรมการค่อยบอกว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ในห้องจะได้ไปต่อ คือลุ้นมาก
ต่อมาก็เป็นรอบ chit chatting ก็ต่อแถวยาวๆเหมือนวันแรกและเข้าไปเอื่อมแตะ เค้าจะให้ declare scars, birthmark etc แล้วกรรมการจะมีลิสคำถามอยู่ในมือเป็นปึกเลย แต่จะเลือกถามแค่หนึ่งคำถาม เราได้คำถามประมาณว่า what/when was your worst birthday งงเลยจ้าา 55555 คือฟังละ pardon ด้วยนะ ไม่คิดว่าจะถามแบบนี้ พอตอบไปก็ตกท้ายด้วยแง่คิดไปหน่อย 555555 แค่นี้เค้าก็ให้เราออกและบอกว่า Bye ฟังละก็เสียวกลัวไม่ได้อยู่ต่อ 55555
ต่อมาก็รอฟังผลนานมากกกกก กว่าจะรู้ผลก็ 15.15 ได้เลย เค้าจะเรียกเลขที่ได้ไปต่อ ครั้งนี้คัดออกไปเหลือทั้งหมด 29 คน พอคนอื่นที่ไม่ได้ไปต่อออกไปหมดเค้าก็บอกว่าต่อไปจะให้เขียนเอกสารและยื่นเอกสารที่เค้าให้เตรียมมาเมื่อวาน ต่อมาคือเตรียมเข้าแถวเพื่อรอ final interview อันนี้เป็นโชคว่าใครเขียนเร็วก็ได้สัมภาษณ์ก่อนและก็จะได้กลับบ้านก่อน แต่อย่ารีบจนเกินไปนะ เพราะคำตอบที่เราเขียนจะถูกส่งให้ HR ที่กาต้าอ่าน เพราะงั้นรีบไปอาจจะไม่ทันได้คิดคำตอบดีๆ ส่วนเอกสารจะต้องมีคนที่สามารถ refer ได้ 3 คน (2 คนเป็นใครก็ได้ แต่คนที่สามต้องเป็นคนไกล้ชิด) เราเลยเลือกอาจารย์สองท่านที่มหาลัยและเพื่อนอีกคนนึงที่สนิท ตอนนั้นเราเขียนเสร็จก็มีคนต่อแถวก่อนหน้าเป็นสิบคนแล้ว เลยได้สัมภาษณ์ประมาณ 20.20 หิวมาก วันนั้นตั้งแต่เช้าจนเย็นอัดแบรนไปสี่ขวดได้ 555555
พอเข้าไปเค้าก็จะถามคำถามว่า เช่น
- are you an on time person
- do you ask for assistance + example
- is it allowed to serve alcohol to customers
- when do you need to modify yourself + example
- between people, idea, and things, which one is the most important and why
- do you think not royal people should be working in the company and why
- rate how loyal you are? Rate from 1-10
*ตรงนี้เป็นคำถามมีทั้ง yes/ no และอธิบาย ถ้าเราตอบยาวไปเค้าจะหยุดเราเอง หรือพูดว่าขอแค่ yes or no ถ้าเค้าต้องการคำอธิบายจะถามว่า why แต่จริงๆพยายามอธิบายจะดีกว่าค่ะ
3. Timeline หลังจากวันสัมภาษณ์ final interview
9/1/19
ได้รับเมลให้ถ่ายรูปและเข้าไปกรอกข้อมูลในระบบ
14/1/19
ได้เมลให้ถ่ายรูปลอยแผลเป็นที่เคย declare ไว้
17/1/19
จ้าา วันนี้ก็ได้เมลอีกรอบว่าให้รออีกประมาณ 21 วัน ฮืออ นี่จะฆ่ากันใช่มั้ยยยยย รอไปจ้าา
21/1/19
ได้รับเมลไปฉีดยาไข้เหลืองและตรวจกรุ๊ปเลือด
4/2/19
ได้เมล scar required 555555 รอต่อปายยย
6/2/19
Finally!! 21 วันพอดี ได้รับเมลเดินทาง อิอิ
สำหรับคนที่ผ่านมาถึงขนาดนั้น แสดงว่าต้องอยากเป็นแอร์มากในระดับนึง 5555 เราเอา Tips เล็กๆน้อยๆเอามาฝากปิดท้ายนะค้า
*เสื้อผ้าเค้าจะกำหนดเป็น Business Attire จริงๆไม่ต้องใส่สูทก็ได้ เอาที่มั่นใจ เรียบร้อย ไม่โป้ก็โอเคแล้ว เพราะpresent ตัวเองด้วยความมั่นใจสำคัญที่สุด
** CV ควรทำให้ดูอ่านง่าย มองแล้วจับใจความได้เลย ลิ้งที่เราทำ CV แปะไว้ข้างลางน้า
https://novoresume.com/cv-templates
***ขั้นตอนทั้งหมดนี้ แต่ละรอบแต่ละที่ที่ไปสัมภาษณ์จะไม่เหมือนกัน ฟังกรรมการดีๆน้า
**** บางคนถามว่าจำเป็นต้องเรียนพิเศษมั้ย เราว่ามันแล้วแต่คนว่าพื้นฐานภาษาอังกฤษ บุคคลิก และด้านอื่นพร้อมมากแค่ไหน ก็ไปลองสนามแบบไม่เรียนก่อนก็ได้ มันจะเป็นตัวเองมากที่สุด แต่ต้องเตรียมตัว อ่านในเน็ตเยอะๆ ถ้าไม่เวิคก็ไปเรียน แต่เวลาเรียนก็ต้องนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองด้วยน้าา เราเห็นคนนึง ไปเรียนละท่องเหมือนหุ่นเลย สุดท้ายก็ไม่ผ่านค่ะ
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าสุ้ๆนะค้าา ถ้าเราอยากเป็นจริงๆและเตรียมตัวมาดีพอ วันนึงเราก็จะได้มาเจอกันที่กาต้านะค้าา
หวังว่าโพสนี้จะช่วยทำให้เพื่อนๆหลายๆคนได้เห็นภาพของขั้นตอนมากขึ้นน้า มีอะไรติชมก็คอมเม้นมากันได้เลยยย แล้วถ้าอยากรู้ว่าตอนมาที่กาต้าแล้วชีวิตการเทรน การทำงานเป็นยังไงบ้าง ไว้จะมีต่อให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะค้าาาาา
GOODNIGHT KAA
Qatar Airways: Cabin Crew Recruitment Process ขั้นตอนการสัมภาษณ์และการสมัครแอร์กาต้า
เราอยากจะมาแชร์ชั้นตอนการสัมภาษณ์และการสมัครเป็นแอร์สายการบินแขกที่อยากมาบินกันนะค้าา ไปกันเล๊ย
โพสนี้เราแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ เริ่มตั้งแต่วันสัมภาษณ์เลยจ้า
1.วันแรก!
2. วันที่สอง!
3. Timeline หลังจากวันสัมภาษณ์ final interview
1.วันแรก!
สัมภาษณ์ทั้งหมด 2 วัน วันแรกเป็นวันยื่น CV เวลานัด 9 โมงเช้าแต่เราไปตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปถึงเป็นคนที่ 9 5555 ก็ไปเม้ามอยกับเพื่อนที่มาก่อนจะได้ไม่ตื่นเต้นมาก พอไกล้ถึงเวลา กรรมการก็จะเรียกไปเข้าอีกห้องนึง พอถึงเวลาเค้าก็จะมาทักทาย ก่อนจะแยกไปอีกห้องเพื่อทำการสัมภาษณ์ ในเวลาเดียวกันเค้าก็จะให้เรียงแถวและเรียกเข้าไปทีละคน ใครมาก่อนก็ได้เข้าไปก่อน (คือวันแรกมีกรรมการสองชุด เค้าจะนั่งแยกโต๊ะแต่อยู่ในห้องเดียวกัน) ใครได้โต๊ะไหนก็แล้วแต่ดวงเลย จริงๆวันนี้เค้าจะให้เตรียมเอกสารมาหลายอย่างอยู่ แต่สิ่งที่เอาเข้าไปด้วยมีแค่สองอย่างคือ CV กับรูป passport size นอกนั้นวางไว้ก่อนเข้าห้อง(แนะนำให้พกที่หนีบกระดาษมาด้วย เวลายื่นให้กรรมการดูจะได้ไม่มีอะไรตกหล่น)
ตอนเดินเข้าไป กรรมการจะมองบุคคลิกเราตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปจนเดินออกมา เพราะงั้นต้องระวังทุกอย่าง แต่ต้องเป็นธรรมชาติ ยิ้มเข้าไว้และมีความมั่นใจ ที่สำคัญต้อง HONEST ในสิ่งที่พูด (สำหรับ level ของความมั่นใจ แต่ละสายจะมั่นเท่ากันไม่ได้ เช่น สายเอเชียต้องเน้นมารยาทและความเรียบร้อย มี seniority สูงกว่า) ถ้าใครเคยได้ยินมาก่อนว่าต้องตอบแบบนางงาม อันนี้จริง 55555 ส่วนเราโดนถามว่า “Tell me about yourself” ละก็ถามรายละเอียดที่เราเล่าไป คุยไปคุยมาทีนี้เค้าก็ให้ไปเอื่อมแตะ หันหลังมาอีกทีเค้าก็ให้ secret paper ( ** Secret paper คือกระดาษที่กรรมการจะให้สำหรับคนที่ได้สัมภาษณ์ต่อในวันรุ่งขึ้น) อยากเห็น DM มาน้า
2. วันที่สอง!
ถ้าใครคิดว่าจะผ่านยาวๆวันนี้ ห้ามลืมกินข้าวเช้า!!! เพราะขั้นตอนมันยาวจริง ตั้งแต่เก้าโมงเช้า ลากยาวไปสองสามทุ่ม!!
สำหรับวันนี้เค้านัดเก้าโมง จากวันแรกก้เหลือ 130 คนได้ จริงๆมา 8.30 ก็ทันนะ เพราะเป็นการสอบภาษาอังกฤษ เริ่มพร้อมกันทุกคนอยู่ดี (มี reading ไม่ยาก เกี่ยวกับบริษัทและให้ตอบ Multiple choice แล้วก็มี vocabulary ให้เติมคำที่เหมาะสมที่สุด และก็อีกนิดๆหน่อยๆ ห้ามใช้หากกาที่ลบได้ เค้าจะมีวางไว้ให้ก็ใช้อันนั้นไป ที่สำคัญต้องอ่านดีๆก่อน เพราะเวลาทำผิดแล้วเค้าให้กาทิ้งแล้วจะดูสกปรก เคยไปอ่านมา เค้าบอกว่า this part is also to test your decision making ว่าดีแค่ไหน มันอาจจะไม่ยากแต่มีเวลาให้ไม่เยอะ ถ้าทำผิดเยอะๆแปลว่าการตัดสินใจไม่ดีเค้าก็จะคัดตกได้ง่าย)
พอถึงเวลา 8.00 กรรมการมาก็จะให้ sticker ที่มีเบอและชื่อของเรา ละเค้าจะให้เราเขียน application ID (ตรงนี้ให้เอากิ๊ปดำหรือเข็มมาติดนะ sticker หายคือมีสิทตกเลย เพราะเค้าจะมองว่าไม่รับผิดชอบ) แล้วก็เข้าไปในห้อง กว่าจะได้สอบ เค้าก็เปิด video ให้ดูเกี่ยวกับบริษัท บลาๆๆเกือบชั่วโมง แม้ว่าจะสอบแค่ครึ่งชั่วโมงแต่รวมดู video ก็ปาไปเกือบ 10.30 แล้ว
ทีนี้ก็รอประกาศผลประมาณ 11 โมงได้ คัดออก 20 คน โดยเลขที่เค้าเรียกจะไม่ได้ไปต่อ คือเค้าจะเรียกเลขขึ้นมาบอกให้ไปอีกห้องนึง พอออกไปหมดแล้ว กรรมการค่อยบอกว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ในห้องจะได้ไปต่อ คือลุ้นมาก
ต่อมาก็เป็นรอบ chit chatting ก็ต่อแถวยาวๆเหมือนวันแรกและเข้าไปเอื่อมแตะ เค้าจะให้ declare scars, birthmark etc แล้วกรรมการจะมีลิสคำถามอยู่ในมือเป็นปึกเลย แต่จะเลือกถามแค่หนึ่งคำถาม เราได้คำถามประมาณว่า what/when was your worst birthday งงเลยจ้าา 55555 คือฟังละ pardon ด้วยนะ ไม่คิดว่าจะถามแบบนี้ พอตอบไปก็ตกท้ายด้วยแง่คิดไปหน่อย 555555 แค่นี้เค้าก็ให้เราออกและบอกว่า Bye ฟังละก็เสียวกลัวไม่ได้อยู่ต่อ 55555
ต่อมาก็รอฟังผลนานมากกกกก กว่าจะรู้ผลก็ 15.15 ได้เลย เค้าจะเรียกเลขที่ได้ไปต่อ ครั้งนี้คัดออกไปเหลือทั้งหมด 29 คน พอคนอื่นที่ไม่ได้ไปต่อออกไปหมดเค้าก็บอกว่าต่อไปจะให้เขียนเอกสารและยื่นเอกสารที่เค้าให้เตรียมมาเมื่อวาน ต่อมาคือเตรียมเข้าแถวเพื่อรอ final interview อันนี้เป็นโชคว่าใครเขียนเร็วก็ได้สัมภาษณ์ก่อนและก็จะได้กลับบ้านก่อน แต่อย่ารีบจนเกินไปนะ เพราะคำตอบที่เราเขียนจะถูกส่งให้ HR ที่กาต้าอ่าน เพราะงั้นรีบไปอาจจะไม่ทันได้คิดคำตอบดีๆ ส่วนเอกสารจะต้องมีคนที่สามารถ refer ได้ 3 คน (2 คนเป็นใครก็ได้ แต่คนที่สามต้องเป็นคนไกล้ชิด) เราเลยเลือกอาจารย์สองท่านที่มหาลัยและเพื่อนอีกคนนึงที่สนิท ตอนนั้นเราเขียนเสร็จก็มีคนต่อแถวก่อนหน้าเป็นสิบคนแล้ว เลยได้สัมภาษณ์ประมาณ 20.20 หิวมาก วันนั้นตั้งแต่เช้าจนเย็นอัดแบรนไปสี่ขวดได้ 555555
พอเข้าไปเค้าก็จะถามคำถามว่า เช่น
- are you an on time person
- do you ask for assistance + example
- is it allowed to serve alcohol to customers
- when do you need to modify yourself + example
- between people, idea, and things, which one is the most important and why
- do you think not royal people should be working in the company and why
- rate how loyal you are? Rate from 1-10
*ตรงนี้เป็นคำถามมีทั้ง yes/ no และอธิบาย ถ้าเราตอบยาวไปเค้าจะหยุดเราเอง หรือพูดว่าขอแค่ yes or no ถ้าเค้าต้องการคำอธิบายจะถามว่า why แต่จริงๆพยายามอธิบายจะดีกว่าค่ะ
3. Timeline หลังจากวันสัมภาษณ์ final interview
9/1/19
ได้รับเมลให้ถ่ายรูปและเข้าไปกรอกข้อมูลในระบบ
14/1/19
ได้เมลให้ถ่ายรูปลอยแผลเป็นที่เคย declare ไว้
17/1/19
จ้าา วันนี้ก็ได้เมลอีกรอบว่าให้รออีกประมาณ 21 วัน ฮืออ นี่จะฆ่ากันใช่มั้ยยยยย รอไปจ้าา
21/1/19
ได้รับเมลไปฉีดยาไข้เหลืองและตรวจกรุ๊ปเลือด
4/2/19
ได้เมล scar required 555555 รอต่อปายยย
6/2/19
Finally!! 21 วันพอดี ได้รับเมลเดินทาง อิอิ
สำหรับคนที่ผ่านมาถึงขนาดนั้น แสดงว่าต้องอยากเป็นแอร์มากในระดับนึง 5555 เราเอา Tips เล็กๆน้อยๆเอามาฝากปิดท้ายนะค้า
*เสื้อผ้าเค้าจะกำหนดเป็น Business Attire จริงๆไม่ต้องใส่สูทก็ได้ เอาที่มั่นใจ เรียบร้อย ไม่โป้ก็โอเคแล้ว เพราะpresent ตัวเองด้วยความมั่นใจสำคัญที่สุด
** CV ควรทำให้ดูอ่านง่าย มองแล้วจับใจความได้เลย ลิ้งที่เราทำ CV แปะไว้ข้างลางน้า
https://novoresume.com/cv-templates
***ขั้นตอนทั้งหมดนี้ แต่ละรอบแต่ละที่ที่ไปสัมภาษณ์จะไม่เหมือนกัน ฟังกรรมการดีๆน้า
**** บางคนถามว่าจำเป็นต้องเรียนพิเศษมั้ย เราว่ามันแล้วแต่คนว่าพื้นฐานภาษาอังกฤษ บุคคลิก และด้านอื่นพร้อมมากแค่ไหน ก็ไปลองสนามแบบไม่เรียนก่อนก็ได้ มันจะเป็นตัวเองมากที่สุด แต่ต้องเตรียมตัว อ่านในเน็ตเยอะๆ ถ้าไม่เวิคก็ไปเรียน แต่เวลาเรียนก็ต้องนำมาปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองด้วยน้าา เราเห็นคนนึง ไปเรียนละท่องเหมือนหุ่นเลย สุดท้ายก็ไม่ผ่านค่ะ
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าสุ้ๆนะค้าา ถ้าเราอยากเป็นจริงๆและเตรียมตัวมาดีพอ วันนึงเราก็จะได้มาเจอกันที่กาต้านะค้าา
หวังว่าโพสนี้จะช่วยทำให้เพื่อนๆหลายๆคนได้เห็นภาพของขั้นตอนมากขึ้นน้า มีอะไรติชมก็คอมเม้นมากันได้เลยยย แล้วถ้าอยากรู้ว่าตอนมาที่กาต้าแล้วชีวิตการเทรน การทำงานเป็นยังไงบ้าง ไว้จะมีต่อให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะค้าาาาา
GOODNIGHT KAA