ใครยังจำได้เกมที่ซาอุมาเยือนไทย เป็นเกมที่ outclass ของโค้ชอย่างแท้จริง ซาอุพลิกจากหน้ามือมาเป็นหลังมือ โดยเล่นต่างจากเกมแรก (ที่ชนะเราหวุดหวิด) อย่างสิ้นเชิง
โดยเกมที่เราแพ้ซาอุ 4-0 โค้ช เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ไม่ให้ซาอุบุกแลก แต่รอดักเกมตรงกลางล้วนๆ และบีบไม่ให้ไทยต่อบอล ผ่านบอลได้ เพรสเอาบอลคืน เพรสจนไทยเสียบอลและเมื่อได้ช่องหรือไทยส่งพลาดแดนกลาง ก็แทงบอลเร็วให้กองหน้าเข้าไปทำประตุ นี่เป็นครั้งแรก ที่ซาอุเจอไทยแล้วดึงเกมช้า เล่นเน้นความแน่นอนแทบจะตลอดเวลา แต่เวลาเข้าทำ จะทำอย่างรวดเร็วในจังหวะสุดท้ายแทน ทำให้ไทยโดนถล่มคาบ้าน 0-4
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ โค้ช เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ได้ย้ายทีมจากซาอุมาเป็นยูเออี ซึ่งเป็นทีมที่ความสามารถเฉพาะตัวสูงไม่แตกต่างกัน แต่จะต่างกันเล็กน้อยตรงที่ ทีมอย่างซาอุ มีทีมเวิร์คที่ดีกว่ายูเออีเล็กน้อย แต่...ยูเออีมีลูกส่ง ลูกยิง รูปแบบการโจมตีที่คาดเดาได้ยากกว่าซาอุ
เพราะฉะนั้น แม้ว่า เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ จะย้ายมาคุมยูเออี แต่เขาคงมองออกว่า นักเตะไทย ทีมไทยมีปัญหาตรงจุดไหน และจะโจมตีไทยยังไง ซึ่งผมคิดว่า มาคราวนี้ มาร์ไวค์คงจะสั่งให้ยูเออีเล่นเกมคล้ายๆซาอุ แต่จะอันตรายกว่าตรงที่ ยูเออีมีหัวฟู ในการแทงบอลและจ่ายบอลแนวลึก ที่ยากจะคาดเดา รูปเกมจะเหมือนเดิมคือ ยูเออีจะเน้นครองบอล เน้นความแน่นอน ค่อยๆบุกและอาศัยการเข้าทำที่รวดเร็วในพื้นที่สุดท้าย เมื่อเป็นแบบนี้ แดนกลางของไทยจะสู้ยูเออีไม่ได้ โค้ชนิชิโนะจึงเรียกนักเตะทีมีความเร็วและลากเลื้อยดีเข้ามาในทีม ทั้งสุภโชค เอกนิษฐ์ ศศลักษ์ ศุภนัฐ (โดยรวมถึงชนาธิปด้วย) ให้ฉีกออกเล่นริมเส้นเพื่อขยายสนามไม่ให้ยูเออี ครองบอลแดนกลางและเพรสดักบอลได้มากเกินไป
** มันจึงเป็นเกมที่น่าสนุกมาก ไทยในยุคนี้ที่เด่นในกองกลาง จะใช้วิธีไหนจึงจะชนะกลางของยูเออีได้ หรือจะโจมตีลากริมเส้น2ฝั่ง ให้ลากจี้เข้าทำ แล้วชนาธิปและมุ้ยจะเป็นคนจบสกอร์ เป็นอะไรที่คาดเดาวิธีการเล่นของโค้ชไม่ได้เลย จึงรอติดตามอย่างเดียวครับ ว่าจะมาไม้ไหน ไม่ว่าจะชนะ เสมอหรือแพ้ แต่คิดว่า ไทยจะสู้ยูเออีได้สนุกแน่ๆ **
โค้ชที่เคยใช้แผนชนะกันขาดมาแล้ว ในการเจอกันอีกครั้ง ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างโค้ช มีความเป็นไปได้ว่าจะใช้แผนเดิมอีก
โดยเกมที่เราแพ้ซาอุ 4-0 โค้ช เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ไม่ให้ซาอุบุกแลก แต่รอดักเกมตรงกลางล้วนๆ และบีบไม่ให้ไทยต่อบอล ผ่านบอลได้ เพรสเอาบอลคืน เพรสจนไทยเสียบอลและเมื่อได้ช่องหรือไทยส่งพลาดแดนกลาง ก็แทงบอลเร็วให้กองหน้าเข้าไปทำประตุ นี่เป็นครั้งแรก ที่ซาอุเจอไทยแล้วดึงเกมช้า เล่นเน้นความแน่นอนแทบจะตลอดเวลา แต่เวลาเข้าทำ จะทำอย่างรวดเร็วในจังหวะสุดท้ายแทน ทำให้ไทยโดนถล่มคาบ้าน 0-4
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ โค้ช เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ได้ย้ายทีมจากซาอุมาเป็นยูเออี ซึ่งเป็นทีมที่ความสามารถเฉพาะตัวสูงไม่แตกต่างกัน แต่จะต่างกันเล็กน้อยตรงที่ ทีมอย่างซาอุ มีทีมเวิร์คที่ดีกว่ายูเออีเล็กน้อย แต่...ยูเออีมีลูกส่ง ลูกยิง รูปแบบการโจมตีที่คาดเดาได้ยากกว่าซาอุ
เพราะฉะนั้น แม้ว่า เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ จะย้ายมาคุมยูเออี แต่เขาคงมองออกว่า นักเตะไทย ทีมไทยมีปัญหาตรงจุดไหน และจะโจมตีไทยยังไง ซึ่งผมคิดว่า มาคราวนี้ มาร์ไวค์คงจะสั่งให้ยูเออีเล่นเกมคล้ายๆซาอุ แต่จะอันตรายกว่าตรงที่ ยูเออีมีหัวฟู ในการแทงบอลและจ่ายบอลแนวลึก ที่ยากจะคาดเดา รูปเกมจะเหมือนเดิมคือ ยูเออีจะเน้นครองบอล เน้นความแน่นอน ค่อยๆบุกและอาศัยการเข้าทำที่รวดเร็วในพื้นที่สุดท้าย เมื่อเป็นแบบนี้ แดนกลางของไทยจะสู้ยูเออีไม่ได้ โค้ชนิชิโนะจึงเรียกนักเตะทีมีความเร็วและลากเลื้อยดีเข้ามาในทีม ทั้งสุภโชค เอกนิษฐ์ ศศลักษ์ ศุภนัฐ (โดยรวมถึงชนาธิปด้วย) ให้ฉีกออกเล่นริมเส้นเพื่อขยายสนามไม่ให้ยูเออี ครองบอลแดนกลางและเพรสดักบอลได้มากเกินไป
** มันจึงเป็นเกมที่น่าสนุกมาก ไทยในยุคนี้ที่เด่นในกองกลาง จะใช้วิธีไหนจึงจะชนะกลางของยูเออีได้ หรือจะโจมตีลากริมเส้น2ฝั่ง ให้ลากจี้เข้าทำ แล้วชนาธิปและมุ้ยจะเป็นคนจบสกอร์ เป็นอะไรที่คาดเดาวิธีการเล่นของโค้ชไม่ได้เลย จึงรอติดตามอย่างเดียวครับ ว่าจะมาไม้ไหน ไม่ว่าจะชนะ เสมอหรือแพ้ แต่คิดว่า ไทยจะสู้ยูเออีได้สนุกแน่ๆ **