“หลงเสน่ห์เมืองเชียงราย สัมผัสกลิ่นอายเมืองโบราณ ผสมผสานศิลปะวัฒนธรรมล้านนา”

สวัสดีค่าาาาา วันนี้จะมารีวิวการได้มาแอ่วเมืองเจียงฮาย ซึ่งสนับสนุนโดยทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพันทิพของเรานั่นเองค๊าาาาาาา เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปอวดรูป เอ้ย เราไปต๊ะต่อนยอน ตะลอนเชียงรายกันเลยค่าาาา (บอกเลย กระทู้นี้รูปแน่นค่ะ)


บรื้นนนนนนน คณะเราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงราย โดยสมบัติทัวร์ รถทัวร์ที่ V.I.P. มากๆๆๆๆๆๆ เบาะใหญ่ กว้างขวาง นั่งสบาย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ดูหนังฟังเพลง ชาร์จแบตโทรศัพท์กันเพลินๆ ไปเลย หมอนรองคอ ผ้าห่ม และที่สำคัญเสบียง ก็มีแจกอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่า บริการระดับพรีเมี่ยมซีทกันเลยทีเดียวค่ะ เมื่อรถเคลื่อนตัว แกะผ้าห่ม จัดวางหมอนเข้าที่ บวกกับแอร์ที่เย็นฉ่ำ... คร่อกกกก ฟี้

แต๊แนนนน บุคคลผู้ที่ทำให้เราได้มาร่วมการเดินทางสุดพิเศษครั้งนี้ พี่สาวเราเองค่าาา เรามาเป็นผู้ติดสอยห้อยตามมม

ฮ้าววววว... ตื่นมาอีกที เราและชาวคณะ ก็ได้วาร์ปมาอยู่ที่เชียงรายเรียบร้อย หลังจากได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เช้าวันใหม่ เราก็พร้อมผจญภัย เอ้ย พร้อมแล้วที่จะกินอาหารเช้าค่ะ 5555 แต่ก่อนอื่นเลย เราไปล้างหน้าล้างตากันก่อน ที่นี่เล๊ยยย โรงแรมแสน เชียงรายค่ะ

สองศรีพี่น้อง พร้อมมาก สำหรับอาหารเช้าค่ะ

อาหารเช้า เราไปทานกันที่ร้านโอรา ร้านชื่อดังของจังหวัดเชียงรายค่ะ เมนูมีให้เลือกมากมาย หน้าตาอาหารรึ ก็น่ากินขนาดเจ้าาาา
อิ่มหนำกันอย่างเต็มที่แล้ว เราก็ไปปักหมุดกันต่อที่ วัดร่องขุ่น กันค่าาา


วัดร่องขุ่น มีผู้ออกแบบและก่อสร้าง คือ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ค่ะ ที่เข้าไปแล้วทุกคนจะสัมผัสได้ทันที ว่า มันคือศิลปะ (ประโยคในตำนานจริงๆ ค่ะ 555) พระอุโบสถและปูนปั้นสีขาวสะอาดตา ที่สะท้อนแสงวิบวับแสบตาด้วยการประดับกระจก ลายไทยรึก็มีความงดงามแปลกตา สมคำร่ำลือมากๆ เลยค่ะ


นอกจากเดินชมวัดอย่างเพลิดเพลินแล้ว ยังมีร้านค้าต่างๆ ให้เลือกช็อปปิ้งกัน

หรือถ้าใครกระหายน้ำ ก็สามารถเดินทางที่ร้านกาแฟโรงเรียนปัญญาแห่งนี้ ก็ได้ค่ะ น้องๆ ที่นี่เป็นเด็กพิเศษที่ถูกฝึกอาชีพมาเป็นอย่างดี

เดินเข้ามาในร้านปุ๊บ ก็จะมีเสียงสวัสดีแบบสดใสร่าเริงพร้อมรอยยิ้มเป็นกันเองจากน้องๆ มากล่าวทักทาย และรับออเดอร์เราค่ะ

สั่งกาแฟไปแล้ว เราก็ได้ยินเสียงคนแก้วอย่างเชี่ยวชาญที่ด้านข้าง หันไปก็จะเจอน้องอีกคน ชงกาแฟอย่างคล่องแคล่ว มืออาชีพมากเลยค่า

ฮ่าาาาา ลาเต้เย็นสดชื่นมากกกกกกก

หลังจากได้ดื่มด่ำคาเฟอีนกันแล้ว เราก็ไปแว้น เอ้ย ไปขึ้นรถราง เพื่อพาชมสถานที่สำคัญโดยรอบกันค่ะ

บนรถราง ก็มีไกด์ผู้บรรยายประวัติความเป็นมาของสถานที่สำคัญต่างๆ ให้เราได้ฟังกันด้วย แถมยังตบมุกสร้างเสียงหัวเราะสนุกสนานกันค่ะ

จุดหมายแรกของเรา คือ บ้านพักจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม หรือพิพิธภัณฑ์จังหวัดทหารบกเชียงรายค่ะ บ้านพักนี้ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เป็นแบบสไตล์สวิตเซอร์แลนด์ สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ใช้เพื่อรับรองจอมพล ป. เมื่อท่านมาว่าราชการที่จ.เชียงราย เมื่อเวลาผ่านไปจึงได้ปรับเปลี่ยนเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยว

ภายในบ้านพัก มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งได้วางประดับ และใช้จริง เมื่อครั้งที่ท่านจอมพล ป. ยังมีชีวิตอยู่

รอบๆ บ้าน มีต้นไม้ร่มรื่น อากาศก็สดชื่นเย็นสบายด้วยค่ะ ใครพอมีเวลาว่าง ลองแวะมาศึกษาประวัติศาสตร์ หรือมานั่งจิบกาแฟที่นี่ได้นะคะ

หลังจากเดินเล่นกันสักพัก ก็พร้อมที่จะไปไหว้พระ และเสาสะดือเมืองเชียงรายกันแล้วค่ะ

แวะกันต่อที่วัดมิ่งเมือง หรือวัดจ๊างมูบ วัดเก่าแก่ ซึ่งก่อสร้างขึ้นด้วยไม้ทั้งหลัง ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญยิ่งแห่งเมืองเชียงราย ภายในวัดมีพระพุทธรูปเก่าแก่ อายุราว 800 ปี  มีรูปปั้นของผู้สร้างวัดมิ่งเมือง คือเจ้านางตะละแม่ศรี มเหสีของพ่อขุนเม็งราย และมีบ่อน้ำจ๊างมูบ บ่อน้ำสำคัญในสมัยก่อน

ไหว้พระขอพรอิ่มบุญกันแล้ว ไปดูราชรถบุษบก กันต่อค่ะ
ราชรถบุษบก สร้างขึ้นเพื่ออัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ออกมาแห่รอบเมือง เพื่อให้ประชาชนได้สักการะขอพรเนื่องในวันปีใหม่ของทุกๆ ปี มีลวดลายไทยวิจิตรสวยงาม

ได้ความรู้กันมาประมาณนึงแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาอันสมควร แหะๆ ได้เวลาแห่งความสุข เวลาแห่งการกินกันแล้วค่าาาา เย้ๆ อาหารเที่ยงของเรา เราทานกันที่ร้านท่าน้ำภูแลค่ะ และแน่นอน สัปปะรดภูแลที่นี่อร่อยม๊ากกกกกกก หวานฉ่ำมากเลยค่ะ บรรยากาศรอบๆ ร้านก็ร่มรื่นสวยงาม มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวๆ สดชื่นนนนนน

หลังทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว ทางทีมงานก็ส่งเราเข้าโรงแรมที่พัก เพื่อเตรียมตัวทำกิจกรรมในช่วงเย็น แต่งกายในชุดชาวเหนือกันค่ะ

และแล้วก็ถึงเวลาอันสมควรที่เด็กดอยทั้งหลาย จะไปปักหมุดสถานที่ต่อไป ซึ่งเป็นที่สุดท้ายของวันนี้กันค่ะ นั่นก็คือ หอคำแม่ฟ้าหลวง

หอคำแม่ฟ้าหลวง เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านขนาดย่อม ที่สร้างขึ้นด้วยไม้ทั้งหลัง ที่นี่จะได้พบกับวัตถุสิ่งของเครื่องใช้ของคนล้านนาในสมัยก่อน มีความเก่าแก่หลายสิบปี
หอคำแม่ฟ้าหลวงนี้ จัดตั้งขึ้นเนื่องด้วยพระกรุณาธิคุณขององค์สมเด็จย่าที่โปรดเกล้าฯ ให้มีการสนับสนุนส่งเสริมผลผลิต การช่วยเหลือและรับซื้องานศิลปหัตถกรรมของชาวเขาเผ่าต่างๆ พัฒนาจนกลายมาเป็นมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ทั้งยังอนุรักษ์และรวบรวมโบราณวัตถุที่ไม่อาจพบเห็นได้ในปัจจุบันนี้ เก็บมาไว้ในหอคำแม่ฟ้าหลวง เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษาต่อไป


***แก้คำผิดค่าา***