ยามิชิไบ Season 7 ส่งท้ายความหลอนด้วย "ตู้เย็น" ครับ
ถ้าจะเอาความสยองมาเชื่อมกับตู้เย็นนั้น ในไทยเคยเกิดขึ้นจริง
เมื่อปี พ.ศ.2543 มีข่าวคดีฆาตกรรมที่เอาศพยัดใส่ตู้เย็น
ซึ่งทาง GTH ก็เอาเรื่องนี้ไปใส่เป็นภาพยนตร์เรื่องลัดดาแลนด์มาแล้ว
ในส่วนของยามิชิไบจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ นี่คือตอนส่งท้ายที่ผมนำมาสรุปและรีวิวครับ
ยามิชิไบ Season ที่ 7 ตอนที่ 13: ตู้เย็น
ในตอนนี้เป็นตอนของครอบครัวหนึ่ง ที่ซื้อตู้เย็นมาไว้
ซึ่งการเล่าเรื่องนั้น เป็นเล่าถึงความในใจของ "ตู้เย็น"
"ตู้เย็น" ที่ว่านี้ บอกว่าตัวเองถูกซื้อมาอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ที่ครอบครัวมีความสุขมาก
ซึ่งตัวเองก็รู้สึกมีความสุขที่เห็นความสุขของครอบครัว
และจะถนอมอาหารไว้เป็นอย่างดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เวลาผ่านไป ครอบครัวเติบโตขึ้น โดยที่ความสุขนั้นหายไปตามกาลเวลา...
ที่บ้านเริ่มมีปัญหา เริ่มมีปากเสียงมากยิ่งขึ้น และไม่ค่อยจะของกินเก็บไว้ในตัวเอง...
มีอยู่ฉากหนึ่งที่เก็บของเน่าเสียเอาไว้...
ต่อมาดูเหมือนว่าครอบครัวจะแยกย้ายกันไป
ซึ่งตัวเองบอกว่า "เป็นเรื่องน่าเศร้า พักหลังจะไม่ค่อยเห็นครอบครัวนี้"
"อยากให้แม่ได้ทำอาหารเก็บไว้ในตัวเอง... อยากเห็นครอบครัวที่เป็นสุขอีกครั้ง"
เวลาผ่านไป สภาพในตู้เย็นก็มีคราบต่างๆ ซึ่งครอบครัวกลับมาทำความสะอาด
และเอากล่องห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ใส่เข้าไป
ซึ่งตัวตู้เย็นบอกรู้สึกดีใจที่ครอบครัวนี้กลับมารวมตัวกันแล้ว
แต่ตัวเองก็สังเกตได้ว่า น้องคนเล็กไม่ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่?
และยังมีของใส่เต็มตัวเองไปหมด แถมยังรู้สึกคุ้นๆ กับกลิ่นที่อยู่ข้างใน
"ตั้งแต่ทุกคนเอาของๆ เข้าไปอยู่ในตัวฉัน"
"ก็รู้สึกได้กลิ่นที่คุ้นเคยดี"
"นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงอบอุ่นได้ขนาดนี้"
"แม้ฉันจะเป็นตู้เย็นก็ตาม..."
ปั๊ง!!! โอชิไม!
ถ้าฟังเรื่องราวของ "ตู้เย็น" สิ่งที่น่าสังเกตคือ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ลูกชายคนเล็กสุดไม่ได้เติบโตตามเวลา และหายไปในฉากสุดท้าย
ในแต่ละฉาก ครอบครัวไม่ได้สังเกตหรือพูดคุยอะไรกับน้องคนเล็กเลย น้องคนนั้นได้แต่จ้องมองตู้เย็น
ถ้าสังเกตฉากแรกที่มีเค้ก 4 ก้อนเท่านั้น และจานข้าวก็ไม่ได้วางไว้หน้าตัวเด็ก ทำให้เห็นว่า
คนเล็กนั้น ตายไปก่อนที่ตู้เย็นนี้จะเข้ามาอยู่ในบ้านครับ
ยังเป็นวิญญาณที่วนเวียนอยู่กับครอบครัว
และไม่ได้สิงเป็นตู้เย็น เพราะตู้เย็นเล่าเองว่า เห็นลูกชายคนเล็กยังไม่โต
ดังนั้นเสียงที่เล่าจึงเป็นเสียงของตู้เย็นจริงๆ ไม่ใช่น้องคนเล็ก
- ในฉากสุดท้ายที่มีคนเอาของมาใส่เต็มตู้เย็น
แถมเป็นของห่อหุ้มอะไรบางอย่าง และตัวเองก็คุ้นกับกลิ่นที่อยู่ข้างใน
เมื่อผมอ่านคอมเมนต์และอ่านจากทวิตเตอร์แล้ว
หลายๆ คนคิดไปในทางเดียวกันว่า ฆ่าหั่นศพพ่อ แล้วค่อยๆ เอาชิ้นส่วนใส่ไปในตู้เย็น
ผมจึงคิดตามจนรู้สึกได้เลยว่า ทั้งสามคนน่าจะร่วมมือฆ่าพ่อ และพยายามอำพรางศพเก็บทุกชิ้นส่วนเข้าตู้เย็น
นั่นทำให้ย้อนกลับไปในตอนแรกเลย
ถ้าย้อนกลับมาคิดอีกทีว่า ลูกชายคนเล็กเป็นอะไรตาย?
แม้จะรู้ว่าตายก่อนตู้เย็นจะเข้ามาก็ตาม ถ้ามองในแง่ที่ว่า...
- ครอบครัวมีตู้เย็นเก่ามาก่อน จากนั้นฆ่าหั่นศพลูกคนเล็ก
ยัดใส่ตู้เย็นเก่า แล้วแอบเอาไปโยนทิ้ง และซื้อตู้เย็นใหม่มาแทน
ในมุมมองนี้ขัดแย้งกับเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก เพราะว่า
ถ้าครอบครัวฆ่าลูกชายคนเล็กจริง ครอบครัวคงจะไม่มารวมตัวกันอย่างมีความสุขได้
- ถ้ามองว่าการซื้อตู้เย็นมาเพื่อทดแทนความสูญเสีย?
ซึ่งครอบครัวคงจะทำใจมาระยะยาวพอสมควรกว่าจะมีความสุขขึ้นอีกครั้ง
และด้วยการซื้อตู้เย็นใหม่มาเพื่อสร้างความสุขอีกครั้ง
บางที ลูกคนเล็กนั้นอาจจะตายก่อนที่ 2 คนนั้นจะเกิดมา และเป็นวิญญาณที่ยังคงร่างเด็ก
และทำให้ตู้เย็นเข้าใจผิด คิดว่าเป็นน้องคนเล็กก็ได้
ซึ่งมุมมองนี้ยังคงขัดแย้งอยู่ เพราะถ้าครอบครัวที่ผ่านการสูญเสีย
ครอบครัวคงจะอมทุกข์อยู่บ้าง คงจะไม่ร่าเริงแบบนี้แน่ๆ
และต้นเรื่อง เป็นการเล่าเรื่องที่สร้างอารมณ์บวกมากจนไม่รู้สึกว่าครอบครัวเคยสูญเสีย
พอผมอ่านจากทวิตเตอร์อีกครั้ง มีความเห็นหนึ่งสรุปว่า...
- เด็กที่ตาย น่าจะเป็น "ผีสิงสถิตมานาน" และทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด
ตรงนี้ ทำให้เห็นชัดขึ้นเลยว่า ครอบครัวไม่ได้สังเกตเด็กคนเล็กนี้ตั้งแต่ต้น!
และเด็กคนดังกล่าว ได้แต่มองตู้เย็นไม่ได้สนใจอะไร แต่อาจจะเป็นคนที่ยุยงให้ครอบครัวฆ่าพ่อก็ได้...
มุมมองนี้ใช่เลย! เด็กอาจจะตายมาก่อนที่ครอบครัวจะย้ายเข้ามาอาศัยบ้านหลังนี้
และซิ้อตู้เย็นใหม่มาตั้งไว้ ถ้ามองจากตัวตู้เย็นแล้ว
ตัวตู้เย็นเท่านั้น สัมผัสได้ถึงวิญญาณเด็ก และเข้าใจผิดว่า(ผี)เด็กคนนั้นคือสมาชิกครอบครัว
ซึ่งคาดว่า เด็กอาจจะตายในจุดที่ๆ วางตู้เย็นตู้ใหม่ก็เป็นได้ ก็เลย
เป็นเหตุผลที่ทำให้เด็กคนนั้นจ้องมองแต่ตู้เย็นตลอด
ถ้าคิดแบบไทยๆ ก็เหมือนกับว่า บ้านนี้ไม่รู้ว่ามีผีเจ้าที่สถิตอยู่
และผีก็ต้องการของกินหรือขอส่วนบุญ ก็เลยทำให้บ้านแตก หรือมีปัญหา เพื่อให้ครอบครัวรู้ตัวและเอาของถวายให้
ถ้าหากคนที่สามารถเห็นหรือสัมผัสผี ได้ ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ล่ะก็
คงจะมีการทำโต๊ะกุมารทองถวายขนมและน้ำแดงเพื่อให้ปกปักรักษาให้บ้านเป็นสุขได้...
ดังนั้นตอนนี้จึงสรุปว่า...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เด็กคนเล็กนั้น ตายเป็นผีเด็กก่อนที่ครอบครัวนี้จะเข้ามาอยู่อาศัย
ซึ่งอาจจะตายในจุดเดียวกันที่มีตู้เย็นตั้งไว้
เด็กคนนั้นอาจจะเป็นเบื้องหลังที่ทำให้ครอบครัวบ้านแตกสาแหรกขาด
ทุกคนแยกย้ายกันไป และกลับมารวมตัวกันอีกทีในตอนที่ฆ่าพ่อและหั่นศพเข้าตู้เย็น
ซึ่งตัวตู้เย็นก็อาจจะไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นผี และเข้าใจผิดว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว
ยามิชิไบ Season 7 ก็โอชิไม เพียงเท่านี้ และมีความเห็นในทวิตเตอร์ก็ตั้งตารอ Season 8 ในปีหน้ากันเลยทีเดียว
ผมขอขอบคุณทีมงานทุกท่านที่ สร้างยามิชิไบมาให้พวกเราติดตามกันได้เรื่อยๆ
ผมหวังว่าถ้าทำ Season หน้า ก็อยากจะให้หลอนๆ สุดๆ แบบ Season 1 ได้อีกครับ
และในส่วนของพันทิป
ผมขอขอบคุณ ชาวพันทิปทุกท่าน ทั้งขาประจำ และขาจร
ที่ร่วมมาดูยามิชิไบ และช่วยกันวิเคราะห์แสดงความเห็นถึงเรื่องราวต่างๆ ในการ์ตูน
แม้ว่ายามิชิไบจะไม่ค่อยหลอนเหมือน Season 1 แต่ก็มีปริศนาที่น่าขบคิดมากมายครับ
ในกระทู้นี้ ขอลาไปด้วยเพลง ED ประจำ Season 7 เพลง: Kekkai ของ betcover!!
ถ้ามี Season 8 ผมก็จะกลับมาติดตามแน่นอน
และฝากติดตาม #บล็อกหอยทาก ด้วยนะครับ สวัสดีครับ
Offical Site: https://www.tv-tokyo.co.jp/anime/yamishibai7/index2.html
บทความรีวิวเพิ่มเติมที่บล็อกหอยทาก: https://phongphiphat1k.blogspot.com/2019/09/Yami713.html
ยามิชิไบ Season ที่ 7 ตอนที่ 13: ตู้เย็น
ยามิชิไบ Season ที่ 7 ตอนที่ 13: ตู้เย็น
ในตอนนี้เป็นตอนของครอบครัวหนึ่ง ที่ซื้อตู้เย็นมาไว้
ซึ่งการเล่าเรื่องนั้น เป็นเล่าถึงความในใจของ "ตู้เย็น"
"ตู้เย็น" ที่ว่านี้ บอกว่าตัวเองถูกซื้อมาอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ที่ครอบครัวมีความสุขมาก
ซึ่งตัวเองก็รู้สึกมีความสุขที่เห็นความสุขของครอบครัว
และจะถนอมอาหารไว้เป็นอย่างดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าฟังเรื่องราวของ "ตู้เย็น" สิ่งที่น่าสังเกตคือ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดังนั้นตอนนี้จึงสรุปว่า...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยามิชิไบ Season 7 ก็โอชิไม เพียงเท่านี้ และมีความเห็นในทวิตเตอร์ก็ตั้งตารอ Season 8 ในปีหน้ากันเลยทีเดียว
ผมขอขอบคุณทีมงานทุกท่านที่ สร้างยามิชิไบมาให้พวกเราติดตามกันได้เรื่อยๆ
ผมหวังว่าถ้าทำ Season หน้า ก็อยากจะให้หลอนๆ สุดๆ แบบ Season 1 ได้อีกครับ
และในส่วนของพันทิป ผมขอขอบคุณ ชาวพันทิปทุกท่าน ทั้งขาประจำ และขาจร
ที่ร่วมมาดูยามิชิไบ และช่วยกันวิเคราะห์แสดงความเห็นถึงเรื่องราวต่างๆ ในการ์ตูน
แม้ว่ายามิชิไบจะไม่ค่อยหลอนเหมือน Season 1 แต่ก็มีปริศนาที่น่าขบคิดมากมายครับ
ในกระทู้นี้ ขอลาไปด้วยเพลง ED ประจำ Season 7 เพลง: Kekkai ของ betcover!!
ถ้ามี Season 8 ผมก็จะกลับมาติดตามแน่นอน
และฝากติดตาม #บล็อกหอยทาก ด้วยนะครับ สวัสดีครับ
Offical Site: https://www.tv-tokyo.co.jp/anime/yamishibai7/index2.html
บทความรีวิวเพิ่มเติมที่บล็อกหอยทาก: https://phongphiphat1k.blogspot.com/2019/09/Yami713.html