สวัสดีค่าา ก่อนรีวิวขอเกริ่นแปปป เราเป็นคุณแม่ลูก 3 ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์เจ้าตัวเล็กอยู่ค่ะ คือ บ้านเราเป็นภูมิแพ้กันทั้งบ้าน ยกเว้นคุณสาจ้า (แข็งแรงสุดอะไรสุด) ตั้งแต่รู้ว่าลูกมีอาการเป็นภูมิแพ้ เดี๋ยวไอ เดี๋ยวมีน้ำมูก แม่ก็กลายเป็นคนเยอะไปเลยค่ะ 555 คือ จะใส่ใจสภาพแวดล้อมในบ้านมากกกก ทำความสะอาดบ้านทุกซอกทุกมุม นุ่นนี่นั่น 

ในบ้านมีไอเท็มเยอะนิสนึงงง 555 จนเพื่อนมาบ้านก็จะถามว่า เครื่องเพิ่มความชื้นกับเครื่องฟอกอากาศที่อยู่ในบ้าน มันต่างกันยังไง มันช่วยอะไรบ้าง ก็เลยเป็นที่มาให้เรามาเขียนในกระทู้นี่แหล่ะค่ะ เชื่อว่าแม่ๆที่มีลูกเป็นภูมิแพ้ก็คงอยากรู้เหมือนกัน  หลังจากที่เราใช้งานมานับแรมเดือน แรมปี วันนี้ก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ บอกก่อนว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของเรานะคะ มามะมาดูกันว่า 2 เครื่องนี้มันแตกต่างกันยังไง

ตอนนี้แม่ใช้เครื่องฟอกอากาศ ของ Sharp รุ่น FP-J60 อยู่ค่ะ ตั้งแต่ใช้งานเจ้าเครื่องนี้ชีวิตดีขึ้นมากค่ะ แม่จะไว้ที่ห้องตรงกลาง อ่อ ขอบอกที่มาที่ไปก่อนเนอะ ที่ตัดสินใจซื้อเพราะช่วงนั้นมลภาวะค่อนข้างแย่ (ตอนนี้ก็เช่นกัน) ... ใช่จ๊ะ มันคือ pm 2.5 ฝุ่นขนาดเล็กที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ตอนนั้นเยอะมากกก เยอะจนมองเห็นเป็นหมอกสีขาวเลย ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัวโดยเฉพาะเด็กๆที่มีอาการภูมิแพ้อยู่ด้วย + ปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่เลยต้องหามาติดบ้านใว้ค่ะ 

ความรู้สึกหลังจากที่ใช้งานนะคะ  >> ก่อนอื่นทำให้อิแม่รู้สึกหายกังวลเรื่องฝุ่นหรือ PM 2.5 ไปเยอะ 5555 เพราะมันช่วยฆ่าเชื้อโรคในอากาศ  ยับยั้งเชื้อโรคในอากาศไม่ให้แพร่และขยายจำนวนมากขึ้น  และก็ช่วยฟอกอากาศให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้น ทำให้ปอดเราทำงานดีขึ้น รวมไปถึงฟอกกลิ่นต่าง ๆ ในบ้านได้ด้วยค่ะ ตัวเครื่องรุ่นนี้มีประสิทธิภาพค่อนค้างดี คุ้มค่าคุ้มราคา เสียงก็ค่อนข้างเบานะคะ ไม่มีปัญหาเรื่องเสียงดังรบกวน ส่วนเรื่องภูมิแพ้ ค้ดจมุก ก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ แต่ขัดใจแม่ตรงที่ต้องถอดทำความสะอาดเอง ซึ่งยุ่งยากเหมือนกันค่ะ บอกเลยว่างานช้างสำหรับแม่ลูก 3 มากกก เพราะแต่ละวันค่อนข้างจะยุ่ง 5555 

อ่ะ ต่อไปขอพูดถึงน้องใหม่ในบ้าน ภูมิใจนำเหนอมากค่ะ นั่นคือ เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ ของ Crane จ้า  รีวิวนางเยอะอยู่นะเออ...  แม่ซื้อเพราะเพื่อนเลยจ๊ะงานนี้ คือ นางมีลูกเป็นภูมิแพ้ นอนหายใจเสียงครืดคราดทุกคืน พอมีเครื่องนี้ปุ๊ปลูกอาการดีขึ้นมากก.. ตอนนั้นตาลุกว๊าวเชียว เชื่อเพื่อน ก็เลยจัดมา 1 เครื่อง สวยๆ 5555 เพราะอยากเอามาวางในห้องนอนลูก (แม่สั่งออนไลน์นะคะ ส่งของไวค่ะ เลิฟมาก) 

แม่สั่งเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ ของ Crane รุ่น Adorable Humidifier ค่ะ ที่สะดุดตาเลย คือ ดีไซน์ของนางจ้า เป็นลายการ์ตูน ตั้งแต่มีลูกแม่แพ้อะไรแบบนี้มากก 55555 เรากับลูกช่วยกันเลือกค่ะ ก็จะมีลาย หมูชมพู ลายน้องหมา ฮิปโป พี่วัว แม่จัดนกฮูกมาค่ะ 

นอกจากจะปลื้มเรื่องดีไซน์แล้ว แม่ชอบในเรื่องของความปลอดภัยนะ เครื่องนี้ Safety มากค่ะ ไอน้ำที่พุ่งออกมาเป็นไอเย็น ลูกโดนได้ อีกอย่างไม่ต้องมัวระแวงว่าน้ำจะแห้งแล้วต้องรอถอดปลั๊ก เค้ามีเซนเซอร์ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำในเครื่องหมด
 
หลังใช้งาน >>> แม่ประทับใจนะ จากที่ลูกๆ 2 คนนอนหายใจครืดคราด มีไอ มีน้ำมูก ตอนนี้พวกนางดูแข็งแกร่งมาก ไม่มีไอ ไม่มีน้ำมูก โดยเฉพาะคนเล็กริมฝีปากไม่แห้งแล้วค่ะ เอาเป็นว่าแม่ให้ผ่านค่ะ รับเป็นลูกรักในบ้าน 5555 

เอาละมาสรุปกันค่ะ.. 
แม่มองว่า 2 เครื่องนี้ก็มีข้อดีที่ชัดเจนเหมือนกันคือช่วยเรื่องสุขภาพที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจให้ดีขึ้นจริงๆ  แต่ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป  ถ้าจะมีไว้ติดบ้านทั้ง 2 Item เหมือนแม่ก็ได้อยู่น๊า (ต้องอ้อนพ่อดีๆ หน่อย 5555) เอามาเข้าเรื่องค่ะ….
ในส่วนของเครื่องฟอกอากาศ ก็ทำหน้าที่ฟอกอากาศ ฆ่าเชื้อโรค ช่วยเรื่องปอดให้ทำงานดีขึ้น แต่ราคาก็อาจจะแรงกว่าเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศพอสมควรค่ะ ค่าไฟก็จะสุงกว่าเช่นกันค่ะ และทำความสะอาดค่อนข้างยาก  ส่วนเจ้าตัวนกฮูก เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ ก็จะช่วยให้โพรงจมูกหายใจโล่งสบาย ไม่รู้สึกแห้งจมูก... ผิวไม่แห้ง เหมาะมากกับห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป น้ำหนักเบา พกไปเที่ยวที่โรงแรมได้เลยค่ะ ราคาก็ไม่แรงด้วย ทำความสะอาดง่าย แม่ไม่แน่ใจว่าแบรนด์อื่นจะเปลืองค่าไฟไหม แต่ของ Crane เค้ามีระบบตัดไฟอัตโนมัติ ทำให้ค่าไฟไม่ขึ้นและก็ปลอดภัยด้วยค่ะ 

มาถึงช่วงสุดท้ายจ้า แม่บอกก่อนน๊า อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของแม่ที่ได้ใช้แล้วอยากแชร์ประสบการณ์  ยังไงต้องขอบคุณที่ทุกคนอ่านจนจบนะคะ แม่จะตามหาไอเท็มเด็ดๆมาอัพเดทให้ทุกคนฟังอีก จะไม่หยุดเพียงแค่นี้แน่นอน 5555 ใครมีไอเท็มอะไรในบ้านดีๆ มาแชร์กันได้น้า.. ขอบคุณค่า ^^