เจแปนกี่ครั้งก็ไม่พอออออออว์
สวีดัด สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปผู้น่ารักทุกคน กลับมาพบกับรีวิวเจแปนอะเกนแอนด์อะเกน สำหรับทริปนี้เราจะพาทุกคนไปแอ่วกันที่ Nagoya เมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาคชุบุ ขอบอกเลยว่า NAGOYA น่า-Go-อ่ะ ของกินก็อร่อย ที่เที่ยวก็เพียบ ไม่ไปไม่รู้จะบอกให้ อิอิ
ทริปนี้ นอกจากจะมีเราแล้วก็มีเพื่อนชาวญี่ปุ่นสมัยวัยละอ่อนเป็นผู้ร่วมทริปอีก 1 คน และด้วยความเยอะสิ่ง จะไปเที่ยวตรงนู้น จะไปกินตรงนี้ 55+ ทริปนาโกย่า น่าโกอ่ะ 3 วัน 2 คืน เลยตัดสินใจเลือกใช้บริการเช่ารถขับกันดีกว่า และก็พบว่ามันดีงามมากกก อยากแวะตรงไหนก็ได้ อยากกินตรงไหนก็ด้าย
เมาท์ซะเย้อก่อนจะเยอะไปมากกว่านี้ ก็ขอพาทุกท่านเข้าสู่การรีวิวทริปที่แสนจะภูมิใจนำเสนอ ณ บัดนาว
Day 1 [Nagoya ->Kanazawa]
🚗 เช่ารถ Toyota Rental Car สาขา Nishiki)
ศาลเจ้าอะสึตะ (Atsuta Shrine)
🚗 ร้านข้าวหน้าปลาไหล Horaiken
Aeon สาขา Atsuta-> จุดพักรถ SA (Nagaragawa Service Area)
🚗 เมืองออนเซน Katayamazu onsen (APA Hotel&Resort Kaga Katayamazu onsen Kasuikyo)]
เพราะว่าทริปนี้เป็นทริปขับรถเที่ยว จุดหมายแรกของเราคือ การไปเช่ารถที่ Toyota Rental Car สาขา Nishiki ซึ่งสาขานี้อยู่ในเมือง ไม่ไกล และเดินทางสะดวก
บรรยากาศ Toyota Rental Car มีเครื่องดื่มให้บริการฟรี หลังจากแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะเช่ารถ เค้าก็แจ้งรายละเอียดต่างๆ ให้ดูคู่มือพร้อมกับอธิบายเรื่องการใช้ ETC Card จะคล้ายๆ กับอีซี่พาสของเรา
หน้าตาคู่มือการใช้บริการมีหลายภาษามากแน่นอนว่าภาษาไทยก็มี เริ่ดจ้า
รถมารอแล้ว ขนาดกะทัดรัดน่ารัก ชอบรถญี่ปุ่นก็ตรงนี้ จากนั้นพนักงานก็จะให้เราตรวจดูความเรียบร้อย
ภายในสะอาดใหม่เอี่ยม สำหรับใครที่มาเที่ยวแล้วเช่ารถแบบเรา นอกจากเช่าบัตร ETC Card แล้ว เราแนะนำว่าให้ใช้ CEP (Central Nippon Expressway Pass) เป็นบัตรสำหรับเหมาจ่ายค่าทางด่วน มีให้เลือกหลาย Plan หลายราคา โดยเฉพาะถ้าขับรถเส้นทางภูมิภาคชุบุ-โฮคุริคุ แต่เนื่องจากว่าทริปนี้พลขับของเราเป็นนิฮงแมนตัวจริงเสียงจริง CEP ก็เลยไม่สามารถใช้งานได้ โฮ เรื่องมันเศร้า ซึ่งพนักงานบอกว่าบัตรนี้นักท่องเที่ยวใช้เยอะมาก รวมถึงคนไทยที่มาเที่ยวด้วย
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตร CEP (Central Nippon Expressway Pass) ได้ที่กระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/38462474
รับรถเรียบร้อย สถานที่ต่อไปที่เราจะไปถล่ม เอ๊ย เยือน ก็คือ Horaiken ร้านข้าวหน้าปลาไหลเจ้าดังและขึ้นชื่อของนาโกย่ากัน ไปถึงร้านมีความสะพรึงเบาๆ เพราะคิวยาวววววววววมาก แต่ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั่นเนาะ จัดการลงชื่อต่อคิวกับพนักงานไว้ จริงๆ ร้านนี้มีสาขาที่เมืองอื่นด้วย แต่ที่นี่เป็นสาขาดั้งเดิม
ดูจิ กล้ามล่ำ เอ๊ย ไม่ใช่ หน้าร้านคนรอเยอะเลย
แต่การรอไม่ใช่ปัญหา ถ้าใครตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเราแนะนำว่าให้ไปเดินเล่น แวะสักการะขอพรที่ศาลเจ้าอะสึตะ (Atsuta Shrine) อยู่ห่างจากร้านปลาไหลแค่ประมาณ 300 เมตร ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้เพื่อนเราบอกว่าเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ และมีความสำคัญมากของเมืองนาโกย่า มีคนแวะมาสักการะที่นี่ตลอด แถมยังมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่รองจากศาลเจ้าอิเสะอีกด้วย
ด้านในต้นไม้เยอะ จริงๆ แดดร้อนใช้ได้แต่ว่าเดินแล้วร่มรื่นนะ
มาแล้ว อย่าลืมเขียนขอพรที่แผ่นไม้ เขียนเสร็จก็นำมาแขวนไว้ที่นี่
ใช้เวลาว่างได้เป็นประโยชน์เรียบร้อย เรากับเพื่อนดูนาฬิกาแล้วก็เดาว่าน่าจะใกล้ถึงคิวที่ร้านแล้วล่ะ โชคดีที่พอเดินมาถึงหน้าร้าน ไม่นานที่ร้านก็เรียกคิวเราพอดี อาห์ ได้เวลาที่ปลาไหลจะลงท้องน้อยๆ ของเราแล้ว กลิ่นของปลาไหลช่างยั่วยวนจริง
และนี่ก็คือ เมนู “ฮิสึมะบุชิ” หน้าตาดีมาก และเนื่องจากว่าทริปนี้เรามีนิฮงแมนตัวจริงมาด้วย นางก็ได้ให้ความรู้เรามาว่า นี่เป็นเมนูข้าวหน้าปลาไหลที่กินได้ 3 แบบ
• ใช้ทัพพีแบ่งข้าวก่อน แบ่งให้เป็นสี่ส่วน
• ส่วนแรก ทานแบบออริจินัล
• ส่วนสอง ใส่สาหร่าย หรือ วาซาบิ
• ส่วนสาม ใส่น้ำซุปหรือน้ำชา (เรียกการกินแบบนี้ว่า โอจะสึเกะ)
• ส่วนที่สี่ ทานในแบบที่ตัวเองชอบสุด จากสามแบบข้างต้น
ซึ่งหลังจากที่ได้ตักเข้าปาก อื้อหือ!! คำแรกคือ อร่อยมาก! โออิชิเดส! คุ้มค่าแก่การรอคอยคิว ส่วนวิธีการกินที่เพื่อนเราบอกมา สำหรับเราแล้วการทานข้าวหน้าปลาไหลที่ชอบมากที่สุดคือ แบบออริจินัล ง่ายๆ และได้สัมผัสรสชาติของปลาไหลได้แบบเต็มปากเต็มคำ
ท้องอิ่ม แพลนต่อไปคือการไปเมืองออนเซ็น Katayamazu Onsen ที่อิชิคาวะ แต่เดี๋ยวก่อน งานของกินก็ต้องมา (อีกละ) เพราะว่า ต้องใช้เวลาในการขับรถเกือบ 3 ชั่วโมง ดังนั้นระหว่างทางก็ต้องมีขนมกรุบ กริบๆ ไว้รองท้อง
และจะเป็นที่ไหนไม่ได้ที่มีขนมให้รองท้อง นั่นก็คือ ห้าง AEON MALL สาขา Atsuta ดินแดนละลายเงินเยนของแท้
สำหรับใครที่ไม่ได้ขับรถ AEON MALL สาขานี้มีรถบัสคอยบริการรับส่งระหว่างห้างและสถานีรถไฟด้วยล่ะ
แหล่งละลายเงินเยน
แต่อย่าเพิ่งไปช้อปฯ เพราะที่ AEON MALL มีคูปองส่วนลดให้นักท่องเที่ยวตาใสแบบเราใช้ด้วย วิธีใช้ก็แสดง Qr Code แต่ว่าก็ต้องตรวจสอบร้านค้าที่สามารถใช้คูปองได้อีกครั้งนะคะ
ดาวโหลดคูปองได้จากที่นี่ค่ะ
https://en.aeonmall.global/coupon/201908/?couponid=33539
ออกจากอิออนหมดก่อนหมดตัว เราก็มาแวะพักกันอีกทีที่จุดพักรถ Nagaragawa Service Area เข้าห้องน้ำ แวะซื้อของฝาก ซึ่งนิฮงแมนาบอกว่าแถวนี้ขึ้นชื่อเรื่องมีด กรรไกรตัดเล็บ เนื่องจากว่าเมืองนี้เขาเป็นเมืองที่ผลิตของมีคม ซึ่งรอบก่อนเราเคยซื้อกรรไกรตัดเล็บของญี่ปุ่นกลับมา ใช้ดีและคมมาก พอมาเจอแหล่งแบบนี้ก็เลยจัดไปสัก 2-3 อันเลย
กรรไกรตัดเล็บลายน่ารักมากก ซากุระ
ที่นี่มีดังโงะ (Mitarashi dango) ด้วยนะ อร่อยมาก รวมถึงของที่ระลึก เช่น ตุ๊กตาซารุโบโบะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้
ในที่สุด เราก็มาถึง Katayamazu Onsen ตอนประมาณ 4 โมงเย็นๆ นิด สำหรับที่พักคืนนี้ของเราคือ APA Hotel & Resort Kaga Katayamazu onsen Kasuikyo เป็นโรงแรมในเครือของ APA เหตุผลที่เราเลือกพักที่โรงแรมนี้ก็เพราะว่า บรรยากาศดีมาก อ่านรีวิวมาบอกว่าอยู่ติดกับชายฝั่งทะเลสาบ Shibayamagata ที่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ มีแร่ธาตุอย่างแคลเซียมคลอไรด์และโซเดียม แต่ยังไม่หมด ไฮไลต์อยู่ที่น้ำทะเลสาบจะเปลี่ยนสี 7 ครั้ง/วันอีกด้วย แบบนี้ต้องมาให้เห็นกับตา
(เว็บไซต์โรงแรม
http://www.kasuikyo.com/lang/en/)
ทะเลสาบ Shibayamagata
http://www.kasuikyo.com/lang/en/
เช็กอินที่ล็อบบี้เสร็จขนกระเป๋ามาที่ห้องพัก ห้อง เตียงสะอาดมาก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว ครบตามสไตล์เครือ APA
สำหรับมื้อเย็นวันนี้เราไม่ไปไหนไกลขอกินอาหารเย็นที่โรงแรม เพราะเราจะรอชมดอกไม้ไฟที่จะจุดมาจากทะเลสาบชิบะยะมะ (Lake Shibayama) ซึ่งเทศกาลดอกไม้ไฟที่นี่จะมีในช่วงฤดูร้อนทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคม มาเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ขอบอกว่าอย่าลืมดูดอกไม้ไฟ
ปิดจ็อบทริปวันแรกอย่างสวยงาม
มีออนเซ็นบรรยากาศสวยๆแบบนี้ด้วย ยิ่งทำให้รู้สึกดีสุดๆ
[BR] NAGOYA น่า-Go-อ่ะ ชื่อนี้ต้องมีซ้ำ แจกแพลนเที่ยว 3 วัน แบบขับรถเอง
สวีดัด สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปผู้น่ารักทุกคน กลับมาพบกับรีวิวเจแปนอะเกนแอนด์อะเกน สำหรับทริปนี้เราจะพาทุกคนไปแอ่วกันที่ Nagoya เมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาคชุบุ ขอบอกเลยว่า NAGOYA น่า-Go-อ่ะ ของกินก็อร่อย ที่เที่ยวก็เพียบ ไม่ไปไม่รู้จะบอกให้ อิอิ
ทริปนี้ นอกจากจะมีเราแล้วก็มีเพื่อนชาวญี่ปุ่นสมัยวัยละอ่อนเป็นผู้ร่วมทริปอีก 1 คน และด้วยความเยอะสิ่ง จะไปเที่ยวตรงนู้น จะไปกินตรงนี้ 55+ ทริปนาโกย่า น่าโกอ่ะ 3 วัน 2 คืน เลยตัดสินใจเลือกใช้บริการเช่ารถขับกันดีกว่า และก็พบว่ามันดีงามมากกก อยากแวะตรงไหนก็ได้ อยากกินตรงไหนก็ด้าย
เมาท์ซะเย้อก่อนจะเยอะไปมากกว่านี้ ก็ขอพาทุกท่านเข้าสู่การรีวิวทริปที่แสนจะภูมิใจนำเสนอ ณ บัดนาว
Day 1 [Nagoya ->Kanazawa]
🚗 เช่ารถ Toyota Rental Car สาขา Nishiki)
ศาลเจ้าอะสึตะ (Atsuta Shrine)
🚗 ร้านข้าวหน้าปลาไหล Horaiken
Aeon สาขา Atsuta-> จุดพักรถ SA (Nagaragawa Service Area)
🚗 เมืองออนเซน Katayamazu onsen (APA Hotel&Resort Kaga Katayamazu onsen Kasuikyo)]
เพราะว่าทริปนี้เป็นทริปขับรถเที่ยว จุดหมายแรกของเราคือ การไปเช่ารถที่ Toyota Rental Car สาขา Nishiki ซึ่งสาขานี้อยู่ในเมือง ไม่ไกล และเดินทางสะดวก
บรรยากาศ Toyota Rental Car มีเครื่องดื่มให้บริการฟรี หลังจากแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะเช่ารถ เค้าก็แจ้งรายละเอียดต่างๆ ให้ดูคู่มือพร้อมกับอธิบายเรื่องการใช้ ETC Card จะคล้ายๆ กับอีซี่พาสของเรา
หน้าตาคู่มือการใช้บริการมีหลายภาษามากแน่นอนว่าภาษาไทยก็มี เริ่ดจ้า
รถมารอแล้ว ขนาดกะทัดรัดน่ารัก ชอบรถญี่ปุ่นก็ตรงนี้ จากนั้นพนักงานก็จะให้เราตรวจดูความเรียบร้อย
ภายในสะอาดใหม่เอี่ยม สำหรับใครที่มาเที่ยวแล้วเช่ารถแบบเรา นอกจากเช่าบัตร ETC Card แล้ว เราแนะนำว่าให้ใช้ CEP (Central Nippon Expressway Pass) เป็นบัตรสำหรับเหมาจ่ายค่าทางด่วน มีให้เลือกหลาย Plan หลายราคา โดยเฉพาะถ้าขับรถเส้นทางภูมิภาคชุบุ-โฮคุริคุ แต่เนื่องจากว่าทริปนี้พลขับของเราเป็นนิฮงแมนตัวจริงเสียงจริง CEP ก็เลยไม่สามารถใช้งานได้ โฮ เรื่องมันเศร้า ซึ่งพนักงานบอกว่าบัตรนี้นักท่องเที่ยวใช้เยอะมาก รวมถึงคนไทยที่มาเที่ยวด้วย
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตร CEP (Central Nippon Expressway Pass) ได้ที่กระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/38462474
รับรถเรียบร้อย สถานที่ต่อไปที่เราจะไปถล่ม เอ๊ย เยือน ก็คือ Horaiken ร้านข้าวหน้าปลาไหลเจ้าดังและขึ้นชื่อของนาโกย่ากัน ไปถึงร้านมีความสะพรึงเบาๆ เพราะคิวยาวววววววววมาก แต่ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั่นเนาะ จัดการลงชื่อต่อคิวกับพนักงานไว้ จริงๆ ร้านนี้มีสาขาที่เมืองอื่นด้วย แต่ที่นี่เป็นสาขาดั้งเดิม
ดูจิ กล้ามล่ำ เอ๊ย ไม่ใช่ หน้าร้านคนรอเยอะเลย
แต่การรอไม่ใช่ปัญหา ถ้าใครตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเราแนะนำว่าให้ไปเดินเล่น แวะสักการะขอพรที่ศาลเจ้าอะสึตะ (Atsuta Shrine) อยู่ห่างจากร้านปลาไหลแค่ประมาณ 300 เมตร ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้เพื่อนเราบอกว่าเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ และมีความสำคัญมากของเมืองนาโกย่า มีคนแวะมาสักการะที่นี่ตลอด แถมยังมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่รองจากศาลเจ้าอิเสะอีกด้วย
ด้านในต้นไม้เยอะ จริงๆ แดดร้อนใช้ได้แต่ว่าเดินแล้วร่มรื่นนะ
มาแล้ว อย่าลืมเขียนขอพรที่แผ่นไม้ เขียนเสร็จก็นำมาแขวนไว้ที่นี่
ใช้เวลาว่างได้เป็นประโยชน์เรียบร้อย เรากับเพื่อนดูนาฬิกาแล้วก็เดาว่าน่าจะใกล้ถึงคิวที่ร้านแล้วล่ะ โชคดีที่พอเดินมาถึงหน้าร้าน ไม่นานที่ร้านก็เรียกคิวเราพอดี อาห์ ได้เวลาที่ปลาไหลจะลงท้องน้อยๆ ของเราแล้ว กลิ่นของปลาไหลช่างยั่วยวนจริง
และนี่ก็คือ เมนู “ฮิสึมะบุชิ” หน้าตาดีมาก และเนื่องจากว่าทริปนี้เรามีนิฮงแมนตัวจริงมาด้วย นางก็ได้ให้ความรู้เรามาว่า นี่เป็นเมนูข้าวหน้าปลาไหลที่กินได้ 3 แบบ
• ใช้ทัพพีแบ่งข้าวก่อน แบ่งให้เป็นสี่ส่วน
• ส่วนแรก ทานแบบออริจินัล
• ส่วนสอง ใส่สาหร่าย หรือ วาซาบิ
• ส่วนสาม ใส่น้ำซุปหรือน้ำชา (เรียกการกินแบบนี้ว่า โอจะสึเกะ)
• ส่วนที่สี่ ทานในแบบที่ตัวเองชอบสุด จากสามแบบข้างต้น
ซึ่งหลังจากที่ได้ตักเข้าปาก อื้อหือ!! คำแรกคือ อร่อยมาก! โออิชิเดส! คุ้มค่าแก่การรอคอยคิว ส่วนวิธีการกินที่เพื่อนเราบอกมา สำหรับเราแล้วการทานข้าวหน้าปลาไหลที่ชอบมากที่สุดคือ แบบออริจินัล ง่ายๆ และได้สัมผัสรสชาติของปลาไหลได้แบบเต็มปากเต็มคำ
ท้องอิ่ม แพลนต่อไปคือการไปเมืองออนเซ็น Katayamazu Onsen ที่อิชิคาวะ แต่เดี๋ยวก่อน งานของกินก็ต้องมา (อีกละ) เพราะว่า ต้องใช้เวลาในการขับรถเกือบ 3 ชั่วโมง ดังนั้นระหว่างทางก็ต้องมีขนมกรุบ กริบๆ ไว้รองท้อง
และจะเป็นที่ไหนไม่ได้ที่มีขนมให้รองท้อง นั่นก็คือ ห้าง AEON MALL สาขา Atsuta ดินแดนละลายเงินเยนของแท้
สำหรับใครที่ไม่ได้ขับรถ AEON MALL สาขานี้มีรถบัสคอยบริการรับส่งระหว่างห้างและสถานีรถไฟด้วยล่ะ
แหล่งละลายเงินเยน
แต่อย่าเพิ่งไปช้อปฯ เพราะที่ AEON MALL มีคูปองส่วนลดให้นักท่องเที่ยวตาใสแบบเราใช้ด้วย วิธีใช้ก็แสดง Qr Code แต่ว่าก็ต้องตรวจสอบร้านค้าที่สามารถใช้คูปองได้อีกครั้งนะคะ
ดาวโหลดคูปองได้จากที่นี่ค่ะ https://en.aeonmall.global/coupon/201908/?couponid=33539
ออกจากอิออนหมดก่อนหมดตัว เราก็มาแวะพักกันอีกทีที่จุดพักรถ Nagaragawa Service Area เข้าห้องน้ำ แวะซื้อของฝาก ซึ่งนิฮงแมนาบอกว่าแถวนี้ขึ้นชื่อเรื่องมีด กรรไกรตัดเล็บ เนื่องจากว่าเมืองนี้เขาเป็นเมืองที่ผลิตของมีคม ซึ่งรอบก่อนเราเคยซื้อกรรไกรตัดเล็บของญี่ปุ่นกลับมา ใช้ดีและคมมาก พอมาเจอแหล่งแบบนี้ก็เลยจัดไปสัก 2-3 อันเลย
กรรไกรตัดเล็บลายน่ารักมากก ซากุระ
ที่นี่มีดังโงะ (Mitarashi dango) ด้วยนะ อร่อยมาก รวมถึงของที่ระลึก เช่น ตุ๊กตาซารุโบโบะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้
ในที่สุด เราก็มาถึง Katayamazu Onsen ตอนประมาณ 4 โมงเย็นๆ นิด สำหรับที่พักคืนนี้ของเราคือ APA Hotel & Resort Kaga Katayamazu onsen Kasuikyo เป็นโรงแรมในเครือของ APA เหตุผลที่เราเลือกพักที่โรงแรมนี้ก็เพราะว่า บรรยากาศดีมาก อ่านรีวิวมาบอกว่าอยู่ติดกับชายฝั่งทะเลสาบ Shibayamagata ที่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ มีแร่ธาตุอย่างแคลเซียมคลอไรด์และโซเดียม แต่ยังไม่หมด ไฮไลต์อยู่ที่น้ำทะเลสาบจะเปลี่ยนสี 7 ครั้ง/วันอีกด้วย แบบนี้ต้องมาให้เห็นกับตา
(เว็บไซต์โรงแรม http://www.kasuikyo.com/lang/en/)
ทะเลสาบ Shibayamagata
http://www.kasuikyo.com/lang/en/
เช็กอินที่ล็อบบี้เสร็จขนกระเป๋ามาที่ห้องพัก ห้อง เตียงสะอาดมาก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว ครบตามสไตล์เครือ APA
สำหรับมื้อเย็นวันนี้เราไม่ไปไหนไกลขอกินอาหารเย็นที่โรงแรม เพราะเราจะรอชมดอกไม้ไฟที่จะจุดมาจากทะเลสาบชิบะยะมะ (Lake Shibayama) ซึ่งเทศกาลดอกไม้ไฟที่นี่จะมีในช่วงฤดูร้อนทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคม มาเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ขอบอกว่าอย่าลืมดูดอกไม้ไฟ
ปิดจ็อบทริปวันแรกอย่างสวยงาม
มีออนเซ็นบรรยากาศสวยๆแบบนี้ด้วย ยิ่งทำให้รู้สึกดีสุดๆ
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน