ขอแชร์ประสบการณ์และการรักษานะคะ
ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนถึงปัจจุบันก็กว่า20ปีล่ะ มักมีอาการที่อยู่ดีๆหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นมาจนรู้สึกได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง และรู้สึกเหนื่อยๆ เป็นแบบนี้ทุก2-3ปีครั้ง แต่ทุกครั้งก็มักจะหายเอง เลยไม่เคยคิดจะไปหาหมอ
แต่จุดที่ทำให้คิดว่าต้องไปหาหมอคือเริ่มมีอาการเหนื่อยก่อนคลาสเต้นที่ฟิตเนสเมื่อช่วงพ.ค.ที่ผ่านมา เลยเริ่มคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องไปหาคำตอบว่าเราเป็นอะไรแล้ว เพราะตอนนี้เราก็อายุมากขึ้นร่างกายเราอาจไม่สามารถทนได้เหมือนก่อน? ไม่รู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่จะทำให้เราออกกำลังกายหนักได้ป่าว? ยิ่งชอบเที่ยวต่างประเทศและเดินป่าอีกเดี๋ยวมีการขึ้นมาจะแย่T_T
เลยปรึกษาคุณหมอที่มาตรวจร่างกายประจำปีของบริษัท หมอแนะนำว่าให้ไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจโดยการเดินสายพาน เพราะมันจะช่วยกระตุ้นสิ่งที่เป็นอยู่ออกมาให้เห็น
หลังจากเดินสายพานเสร็จคุณหมอบอกว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจรในหัวใจประเภทWPW ถ้ารักษาให้หายแนะนำให้จี้ไฟฟ้า
ซึ่งหมอก็อธิบายคร่าวๆให้ฟังแต่เราก็ยังงงๆมึนๆ หลังจากนั้นก็ค้นหาข้อมูลในเน็ตเยอะมากเลยขอมาแชร์ไว้
https://www.honestdocs.co/it-is-a-wolff-parkinson-white-syndrome
https://ppantip.com/topic/30830772
https://medicowiki.com/2017/11/07/ecg-in-wolff-parkinson-white-syndrome/
https://medicowiki.com/2017/11/14/re-entry-a-mechanism-of-tachyarrhythmia/
ขั้นต่อไปคือการตัดสินใจว่าจะไปรักษาที่ไหนดี เนื่องจากบ้านอยู่แถวรามคำแหงและเคยได้ยินว่าที่โรงพยาบาลรามคำแหงมีศูนย์หัวใจเต้นผิดจังหวะ
โชคดีมากที่เจอคุณหมอบัญชา ซึ่งท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจเต้นผิดจังหวะและจี้ไฟฟ้าหัวใจ แถมใจดีมากคอยอธิบายให้ฟังจนเข้าใจ
คุณหมอเปิดรูปหัวใจให้ดูและอธิบายให้ฟังว่า คนปกติจะมีเส้นทางนำไฟฟ้าจากหัวใจห้องบนไปห้องล่างเพียง1ช่องทาง แต่เรามีอีกเส้นเพิ่มมา ซึ่งถ้ามันเกิดการลัดวงจรมันจะหมุนวน คุณหมอก็วาดรูปให้ดู ซึ่งถ้าเกิดจะทำให้หัวใจเต้นเร็วเกิน150ครั้งต่อนาที แต่บางคนอาจจะลัดวงจรบ่อยๆหรือไม่เคยลัดวงจรก็ได้ และยังสอนดูว่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจของเราต่างจากคนปกติอย่างไร การรักษาคือ1.กินยา(บางคนกินตอนเกิดอาการ, บางคนกินทุกวันกันไว้) 2.จี้ไฟฟ้าเพื่อตัดสายไฟฟ้าเส้นเสริม แต่เคสเจ้าของกระทู้ คุณหมอคิดว่าเส้นเสริมอาจอยู่ติดเส้นหลักถ้าจี้พลาดจะทำให้หัวใจเต้นช้าและต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจไปตลอดชีวิต ค่ารักษาประมาณ2แสน ระหว่างนี้1เดือน หมอให้คอยสังเกตว่ามีอัตราการเต้นของหัวใจเกิน150ในภาวะะปกติหรือไม่ หลีกเลี่ยงชา ความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าออกกำลังกายต้องออกตอนพร้อม
มันเป็น1เดือนที่สับสนในชีวิตมาก วันๆนั่งอ่านแต่ข้อมูลเรื่องWPW ยิ่งไปอ่านเจอกระทู้ในPantipว่ามีเคสที่หมอจี้ไฟฟ้าพลาดไปโดนเส้นหลักจนคนไข้หัวใจเต้นช้า ยิ่งกลัว
ระหว่างนั้นพอตื่นเช้ามาอาบน้ำหัวใจเริ่มเต้นเร็ว พอเดินไปรดน้ำต้นไม้หยิบนาฬิกาขึ้นมาดูหัวใจเต้นขึ้นมา130 เลยรีบไปนอนหัวใจเลยกลับมาเป็นปกติ จากเหตุการณ์นี้ยิ่งตอกย้ำว่าต้องรีบรักษาแล้ว เมื่อถึงวันนัดก็บอกหมอว่าตัดสินใจจี้ไฟฟ้า แต่ก็บอกหมอว่าถ้าเกิดว่าเส้นที่จะจี้มันใกล้เส้นหลักและมันเสี่ยงมากก็ไม่ต้องจี้ก็ได้ ซึ่งคุณหมอก็บอกว่า safety first
นัดจี้ไฟฟ้าวันที่30ส.ค. แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อวันที่18ส.ค. ระหว่างนั่งรถกลับบ้านเกิดหายใจผิดจังหวะ อาการเหนื่อยเริ่มมา ดูนาฬิกาหัวใจยังเต้นไม่เร็ว พอกลับบ้านก็นอนดูทีวี พอหันมาดูนาฬิกาหัวใจเต้นขึ้นมาเร็วและได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นเหมือนครั้งก่อนๆ จับชีพจรตัวเองก็ได้ประมาณ170 เป็นอยู่ประมาณ2ชั่วโมง ที่กราฟหายไปเพราะถอดนาฬิกาไปอาบน้ำ พอกลับมาใส่ปรากฎชีพจรกลับมาเป็นปกติ ถ้าไม่กลับก็คงได้ออกหาหมอกลางดึกแล้ว
ตื่นเช้ามาหัวใจยังเต้นเร็วอยู่นิดหน่อยประมาณ110-120 เลยไปหาคุณหมอที่แผนกหัวใจ ซึ่งคุณหมอบอกว่าที่อาบน้ำแล้วหายเพราะอาจเกิดจากโดนความเย็น แต่หมอก็ไม่ได้ให้ยามากินเพราะคนที่จะจี้ไฟฟ้าต้องงดยาก่อน1เดือน
มาถึงวันที่30ส.ค. นัดจี้ไฟฟ้าหัวใจ
8.00อดอาหารแล้วมารายงานตัวที่รพ.ไปเจาะเลือด, x-rayปอด ,EKG พบคุณหมอเพื่ออัลตร้าซาวด์หัวใจ
มานอนรอที่ห้องผู้ป่วยใน นางพยาบาลมาโกนขนที่ขาหนีบ
13.00มานอนรอCCU วิสัญญีแพทย์มาบรีฟว่าจะให้ยานอนหลับแบบไม่ได้หลับลึกแต่ถ้าตื่นตอนผ่าตัดก็ห้ามขยับเพราะเดี๋ยวตำแหน่งที่วางไว้จะผิด หมอให้ยาสองเม็ดหลับไปได้หนึ่งตื่น (ปกติจี้ไฟฟ้าหัวใจ คนไข้จะไม่หลับ แต่เรากลัวมาก กลัวขยับตัวแล้วหมอจี้ผิด เลยขอหลับซึ่งหมอก็แจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเพราะต้องใช้วิสัญญีแพทย์)
14.00ได้เวลาเข้าห้องผ่าตัด เจ้าหน้า10กว่าคนรุมติดอุปกรณ์ เริ่มเจาะขาหนีบเพื่อใส่สายไปทางหลอดเลือดดำทั้งขาซ้ายและขวา แล้วก็หลับไปจนหมอมาเรียกว่าต้องช่วยหมอกลืนกล้องลงไป กลืนไปก็เจ็บคอไป หลังจากนี้เริ่มหลับๆตื่นๆ พอเริ่มตาขึ้นมาก็เห็นว่ามีผ้าคลุมหน้าไว้ รู้สึกมีอะไรในหัวใจ หมอพูดภาษาแพทย์ที่เราไม่รู้เรื่อง มีบางจังหวะใจเต้นแรง จนในที่สุดได้ยินคำว่าเสร็จแล้ว ทุกคนรุมเก็บอุปกรณ์ และกดแผลที่หลอดเลือดขาหนีบไว้
ระหว่างผ่าตัดได้ยินเสียงคุณหมอวิสัญญีแพทย์ซึ่งท่านเป็นผู้หญิงคอยให้กำลังใจตลอด
(อธิบายเพิ่ม หมอจะทำการปล่อยกระไฟฟ้าไปในหัวใจ เพื่อหาจุดที่ผิดปกติ และทำการจี้ออก )
17.30ย้ายมาห้องCCU คุณหมอมาบอกว่าทุกอย่างปลอดภัยดีและอธิบายว่าสายไฟฟ้าเส้นเสริมไม่ได้อยู่ใกล้สายหลักทางบนขวาแบบที่กังวลตอนแรกแต่อยู่ห้องบนซ้าย แต่สายจี้เข้าทางด้านขวาเลยต้องเจาะผนังหัวใจ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องกลืนกล้องเข้าไปเพื่อดูหัวใจด้านหลัง สายไฟฟ้าเสริมมีขนาดเท่าเส้นผมใช้เวลาจี้แค่6วินาที เจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าเนื่องจากต้องมีการเจาะผนังหัวใจเลยมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
นอนนิ่งๆและใช้ถุงทรายทับขาหนีบไว้2ชั่วโมงและห้ามงอขา นางพยาบาลมาป้อนโจ๊ก
20.00 เอาถุงทรายออกแต่ต้องนอนห้ามงอขาไปอีก2ชั่วโมง
22.00 ได้กลับมานอนที่ห้องผู้ป่วยปกติ
เช้าวันต่อมานางพยาบาลมาทำแผลที่ขาหนีบให้โดยปิดพลาสเตอร์กันน้ำให้ รอยที่เจาะขนาดเท่าหลอดน้ำเอง ลุกเดินได้สบายเลย บ่ายๆหมออนุญาตให้กลับบ้านได้
สรุปค่ารักษาพยาบาล272,912บาท ซึ่งถ้าไม่ขอวิสัญญีแพทย์และเจาะผนังหัวใจน่าจะ2แสนต้นๆ
ซึ่งอีกสองแผนที่หาข้อมูลไว้คือ1.โทรไปถามโรงพยาบาลเพชรเวชซึ่งเป็นโรงพยาบาลประกันสังคม แต่เค้าไม่มีเครื่องมือจี้ไฟฟ้าแต่สามารถขอให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลที่จี้ไฟฟ้าได้
2. ใช้สิทธิประกันสังคมไปจี้ไฟฟ้าหัวใจได้ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ รายละเอียดตามด้านล่าง
http://www.chulabhornhospital.com/Detail/95/โครงการรักษาหัวใจ_7_24_เฉลิมพระเกียรติ
หมอให้พัก1อาทิตย์ ซึ่งช่วงอาทิตย์แรกรู้สึกเหมือนยังหายใจไม่เต็มปอด มีเหนื่อยบ้าง แต่พอผ่านไป1อาทิตย์ก็กลับมาเป็นปกติทุกอย่างแล้ว
หลังจากผ่านไป1เดือนกลับไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และคุณหมอก็บอกว่าคลื่นหัวใจเป็นปกติและเส้นไฟฟ้าส่วนเกินถูกจี้ออกไปแล้ว คุณหมอยังสอนดูกราฟอีกเช่นเคย
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่เป็นอย่างเราบ้าง ความรู้ที่เราได้มาส่วนหนึ่งก็มาจากเพื่อนๆในพันทิพย์
เราเคยสับสนและเครียดมากในวันที่รู้ว่าเป็นโรคนี้ ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่เป็นโรคนี้เราก็ขอเป็นกำลังใจให้นะ ขอให้เพื่อนๆรักษาแล้วหายกลับมาเป็นปกติจ้า
Wolff-Parkinson-White syndrome(WPW) โรคไฟฟ้าหัวใจลัดวงจร
ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนถึงปัจจุบันก็กว่า20ปีล่ะ มักมีอาการที่อยู่ดีๆหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นมาจนรู้สึกได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง และรู้สึกเหนื่อยๆ เป็นแบบนี้ทุก2-3ปีครั้ง แต่ทุกครั้งก็มักจะหายเอง เลยไม่เคยคิดจะไปหาหมอ
แต่จุดที่ทำให้คิดว่าต้องไปหาหมอคือเริ่มมีอาการเหนื่อยก่อนคลาสเต้นที่ฟิตเนสเมื่อช่วงพ.ค.ที่ผ่านมา เลยเริ่มคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องไปหาคำตอบว่าเราเป็นอะไรแล้ว เพราะตอนนี้เราก็อายุมากขึ้นร่างกายเราอาจไม่สามารถทนได้เหมือนก่อน? ไม่รู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่จะทำให้เราออกกำลังกายหนักได้ป่าว? ยิ่งชอบเที่ยวต่างประเทศและเดินป่าอีกเดี๋ยวมีการขึ้นมาจะแย่T_T
เลยปรึกษาคุณหมอที่มาตรวจร่างกายประจำปีของบริษัท หมอแนะนำว่าให้ไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจโดยการเดินสายพาน เพราะมันจะช่วยกระตุ้นสิ่งที่เป็นอยู่ออกมาให้เห็น
หลังจากเดินสายพานเสร็จคุณหมอบอกว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจรในหัวใจประเภทWPW ถ้ารักษาให้หายแนะนำให้จี้ไฟฟ้า
ซึ่งหมอก็อธิบายคร่าวๆให้ฟังแต่เราก็ยังงงๆมึนๆ หลังจากนั้นก็ค้นหาข้อมูลในเน็ตเยอะมากเลยขอมาแชร์ไว้
https://www.honestdocs.co/it-is-a-wolff-parkinson-white-syndrome
https://ppantip.com/topic/30830772
https://medicowiki.com/2017/11/07/ecg-in-wolff-parkinson-white-syndrome/
https://medicowiki.com/2017/11/14/re-entry-a-mechanism-of-tachyarrhythmia/
ขั้นต่อไปคือการตัดสินใจว่าจะไปรักษาที่ไหนดี เนื่องจากบ้านอยู่แถวรามคำแหงและเคยได้ยินว่าที่โรงพยาบาลรามคำแหงมีศูนย์หัวใจเต้นผิดจังหวะ
โชคดีมากที่เจอคุณหมอบัญชา ซึ่งท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจเต้นผิดจังหวะและจี้ไฟฟ้าหัวใจ แถมใจดีมากคอยอธิบายให้ฟังจนเข้าใจ
คุณหมอเปิดรูปหัวใจให้ดูและอธิบายให้ฟังว่า คนปกติจะมีเส้นทางนำไฟฟ้าจากหัวใจห้องบนไปห้องล่างเพียง1ช่องทาง แต่เรามีอีกเส้นเพิ่มมา ซึ่งถ้ามันเกิดการลัดวงจรมันจะหมุนวน คุณหมอก็วาดรูปให้ดู ซึ่งถ้าเกิดจะทำให้หัวใจเต้นเร็วเกิน150ครั้งต่อนาที แต่บางคนอาจจะลัดวงจรบ่อยๆหรือไม่เคยลัดวงจรก็ได้ และยังสอนดูว่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจของเราต่างจากคนปกติอย่างไร การรักษาคือ1.กินยา(บางคนกินตอนเกิดอาการ, บางคนกินทุกวันกันไว้) 2.จี้ไฟฟ้าเพื่อตัดสายไฟฟ้าเส้นเสริม แต่เคสเจ้าของกระทู้ คุณหมอคิดว่าเส้นเสริมอาจอยู่ติดเส้นหลักถ้าจี้พลาดจะทำให้หัวใจเต้นช้าและต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจไปตลอดชีวิต ค่ารักษาประมาณ2แสน ระหว่างนี้1เดือน หมอให้คอยสังเกตว่ามีอัตราการเต้นของหัวใจเกิน150ในภาวะะปกติหรือไม่ หลีกเลี่ยงชา ความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าออกกำลังกายต้องออกตอนพร้อม
มันเป็น1เดือนที่สับสนในชีวิตมาก วันๆนั่งอ่านแต่ข้อมูลเรื่องWPW ยิ่งไปอ่านเจอกระทู้ในPantipว่ามีเคสที่หมอจี้ไฟฟ้าพลาดไปโดนเส้นหลักจนคนไข้หัวใจเต้นช้า ยิ่งกลัว
ระหว่างนั้นพอตื่นเช้ามาอาบน้ำหัวใจเริ่มเต้นเร็ว พอเดินไปรดน้ำต้นไม้หยิบนาฬิกาขึ้นมาดูหัวใจเต้นขึ้นมา130 เลยรีบไปนอนหัวใจเลยกลับมาเป็นปกติ จากเหตุการณ์นี้ยิ่งตอกย้ำว่าต้องรีบรักษาแล้ว เมื่อถึงวันนัดก็บอกหมอว่าตัดสินใจจี้ไฟฟ้า แต่ก็บอกหมอว่าถ้าเกิดว่าเส้นที่จะจี้มันใกล้เส้นหลักและมันเสี่ยงมากก็ไม่ต้องจี้ก็ได้ ซึ่งคุณหมอก็บอกว่า safety first
นัดจี้ไฟฟ้าวันที่30ส.ค. แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อวันที่18ส.ค. ระหว่างนั่งรถกลับบ้านเกิดหายใจผิดจังหวะ อาการเหนื่อยเริ่มมา ดูนาฬิกาหัวใจยังเต้นไม่เร็ว พอกลับบ้านก็นอนดูทีวี พอหันมาดูนาฬิกาหัวใจเต้นขึ้นมาเร็วและได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นเหมือนครั้งก่อนๆ จับชีพจรตัวเองก็ได้ประมาณ170 เป็นอยู่ประมาณ2ชั่วโมง ที่กราฟหายไปเพราะถอดนาฬิกาไปอาบน้ำ พอกลับมาใส่ปรากฎชีพจรกลับมาเป็นปกติ ถ้าไม่กลับก็คงได้ออกหาหมอกลางดึกแล้ว
ตื่นเช้ามาหัวใจยังเต้นเร็วอยู่นิดหน่อยประมาณ110-120 เลยไปหาคุณหมอที่แผนกหัวใจ ซึ่งคุณหมอบอกว่าที่อาบน้ำแล้วหายเพราะอาจเกิดจากโดนความเย็น แต่หมอก็ไม่ได้ให้ยามากินเพราะคนที่จะจี้ไฟฟ้าต้องงดยาก่อน1เดือน
มาถึงวันที่30ส.ค. นัดจี้ไฟฟ้าหัวใจ
8.00อดอาหารแล้วมารายงานตัวที่รพ.ไปเจาะเลือด, x-rayปอด ,EKG พบคุณหมอเพื่ออัลตร้าซาวด์หัวใจ
มานอนรอที่ห้องผู้ป่วยใน นางพยาบาลมาโกนขนที่ขาหนีบ
13.00มานอนรอCCU วิสัญญีแพทย์มาบรีฟว่าจะให้ยานอนหลับแบบไม่ได้หลับลึกแต่ถ้าตื่นตอนผ่าตัดก็ห้ามขยับเพราะเดี๋ยวตำแหน่งที่วางไว้จะผิด หมอให้ยาสองเม็ดหลับไปได้หนึ่งตื่น (ปกติจี้ไฟฟ้าหัวใจ คนไข้จะไม่หลับ แต่เรากลัวมาก กลัวขยับตัวแล้วหมอจี้ผิด เลยขอหลับซึ่งหมอก็แจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเพราะต้องใช้วิสัญญีแพทย์)
14.00ได้เวลาเข้าห้องผ่าตัด เจ้าหน้า10กว่าคนรุมติดอุปกรณ์ เริ่มเจาะขาหนีบเพื่อใส่สายไปทางหลอดเลือดดำทั้งขาซ้ายและขวา แล้วก็หลับไปจนหมอมาเรียกว่าต้องช่วยหมอกลืนกล้องลงไป กลืนไปก็เจ็บคอไป หลังจากนี้เริ่มหลับๆตื่นๆ พอเริ่มตาขึ้นมาก็เห็นว่ามีผ้าคลุมหน้าไว้ รู้สึกมีอะไรในหัวใจ หมอพูดภาษาแพทย์ที่เราไม่รู้เรื่อง มีบางจังหวะใจเต้นแรง จนในที่สุดได้ยินคำว่าเสร็จแล้ว ทุกคนรุมเก็บอุปกรณ์ และกดแผลที่หลอดเลือดขาหนีบไว้
ระหว่างผ่าตัดได้ยินเสียงคุณหมอวิสัญญีแพทย์ซึ่งท่านเป็นผู้หญิงคอยให้กำลังใจตลอด
(อธิบายเพิ่ม หมอจะทำการปล่อยกระไฟฟ้าไปในหัวใจ เพื่อหาจุดที่ผิดปกติ และทำการจี้ออก )
17.30ย้ายมาห้องCCU คุณหมอมาบอกว่าทุกอย่างปลอดภัยดีและอธิบายว่าสายไฟฟ้าเส้นเสริมไม่ได้อยู่ใกล้สายหลักทางบนขวาแบบที่กังวลตอนแรกแต่อยู่ห้องบนซ้าย แต่สายจี้เข้าทางด้านขวาเลยต้องเจาะผนังหัวใจ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องกลืนกล้องเข้าไปเพื่อดูหัวใจด้านหลัง สายไฟฟ้าเสริมมีขนาดเท่าเส้นผมใช้เวลาจี้แค่6วินาที เจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าเนื่องจากต้องมีการเจาะผนังหัวใจเลยมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
นอนนิ่งๆและใช้ถุงทรายทับขาหนีบไว้2ชั่วโมงและห้ามงอขา นางพยาบาลมาป้อนโจ๊ก
20.00 เอาถุงทรายออกแต่ต้องนอนห้ามงอขาไปอีก2ชั่วโมง
22.00 ได้กลับมานอนที่ห้องผู้ป่วยปกติ
เช้าวันต่อมานางพยาบาลมาทำแผลที่ขาหนีบให้โดยปิดพลาสเตอร์กันน้ำให้ รอยที่เจาะขนาดเท่าหลอดน้ำเอง ลุกเดินได้สบายเลย บ่ายๆหมออนุญาตให้กลับบ้านได้
สรุปค่ารักษาพยาบาล272,912บาท ซึ่งถ้าไม่ขอวิสัญญีแพทย์และเจาะผนังหัวใจน่าจะ2แสนต้นๆ
ซึ่งอีกสองแผนที่หาข้อมูลไว้คือ1.โทรไปถามโรงพยาบาลเพชรเวชซึ่งเป็นโรงพยาบาลประกันสังคม แต่เค้าไม่มีเครื่องมือจี้ไฟฟ้าแต่สามารถขอให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลที่จี้ไฟฟ้าได้
2. ใช้สิทธิประกันสังคมไปจี้ไฟฟ้าหัวใจได้ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ รายละเอียดตามด้านล่าง
http://www.chulabhornhospital.com/Detail/95/โครงการรักษาหัวใจ_7_24_เฉลิมพระเกียรติ
หมอให้พัก1อาทิตย์ ซึ่งช่วงอาทิตย์แรกรู้สึกเหมือนยังหายใจไม่เต็มปอด มีเหนื่อยบ้าง แต่พอผ่านไป1อาทิตย์ก็กลับมาเป็นปกติทุกอย่างแล้ว
หลังจากผ่านไป1เดือนกลับไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และคุณหมอก็บอกว่าคลื่นหัวใจเป็นปกติและเส้นไฟฟ้าส่วนเกินถูกจี้ออกไปแล้ว คุณหมอยังสอนดูกราฟอีกเช่นเคย
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่เป็นอย่างเราบ้าง ความรู้ที่เราได้มาส่วนหนึ่งก็มาจากเพื่อนๆในพันทิพย์
เราเคยสับสนและเครียดมากในวันที่รู้ว่าเป็นโรคนี้ ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่เป็นโรคนี้เราก็ขอเป็นกำลังใจให้นะ ขอให้เพื่อนๆรักษาแล้วหายกลับมาเป็นปกติจ้า