สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนค่ะ เราจะพาทุกคนไปเที่ยวเชียงรายกัน ...
ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าเราไม่ได้เป็นผู้โชคดีจากการร่วมกิจกรรมของ Pantip ความฝันของคนที่ชอบเที่ยวจะเป็นจริงแล้ว
ดีใจไปสามบ้านแปดบ้านเลยจ้า ฮ่าๆ
ตามเรามาเลยจ้า กิจกรรมนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ถึง 8 กันยายนที่ผ่านมานี่เอง ...
เอ้ออ ลืมบอกไป!! .. ทริปนี้เราใช้ กล้องมือถือ เป็นหลัก รูปอาจจะสวยบ้างไม่สวยบ้าง อย่าว่ากันนะจ่ะ
เราแค่อยากรีวิวให้คนที่ไม่มีกล้อง แต่อยากเที่ยว อยากถ่ายรูป ก็จะได้ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องอีกต่อไปเลย.. เว่อร์มากก
การเดินทางขาไป (กรุงเทพ-เชียงราย)
นี่เลย....เราจะเดินทางโดยยานลำนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่นั่งรถทัวร์ทางไกลขนาดนี้ ปกติไกลสุดแค่ชลบุรีเองน้า
' เวียงพิงค์บัส ' เป็นรถประจำทางปรับอากาศที่เป็น VIP แต่ว่าพิเศษกว่า VIP อีกจ้า
กรุงเทพ - เชียงราย รอบเวลา 19.00 น. พร้อมแล้วไปกันเลย..
ความรู้สึกหลังจากก้าวขึ้นไปเป็นอะไรที่สุดยอดมาก!! ถ้าใครเป็นคนที่ไม่ชอบขึ้นเครื่องบิน แต่อยากสบายเหมือนเครื่องบิน
แนะนำสมบัติทัวร์เลยจ้า น้ำ ขนม ดูหนัง ฟังเพลงครบ ยังไม่ทันฟ้าสางก็ถึงเชียงรายแล้ว
วันแรก ที่เชียงราย
ที่แรกที่เราไปคือ ' วัดร่องขุ่น ' ซึ่งอยู่ก่อนถึงตัวเมืองเชียงรายประมาณ 13 กิโลเมตร
แล้วถ้าใครมาถึงเชียงรายแล้วไม่ได้มา ถือว่ามาไม่ถึงเชียงรายนะจ่ะ
วัดร่องขุ่นถอดแบบมาจากวัดมิ่งเมือง จ.น่าน ซึ่งเราก็ได้เห็นด้วยตาตัวเองมาแล้วค่ะ สวยไม่แพ้กันเลยทีเดียว..
สถาปัตยกรรมสีขาวตัดกับท้องฟ้าสีเข้ม ถ่ายรูปออกมาได้เหมือนภาพวาดเลยไม่มีผิดเลยจ้า
วัดร่องขุ่นคนไทยเข้าฟรีนะจ๊ะ แต่ต่างชาติ 50 บาทถ้วนจ้า มาวัดร่องขุ่นแล้ว ก็อย่าลืมมาชมความสวยงามของห้องน้ำกันนะ
เป็นห้องน้ำที่สวยงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยแหละ และเราก็ไม่พลาด ไปถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย เอาไว้เป็นที่ระลึกจ้า
ใกล้กันกับที่จอดรถด้านหลังของวัดจะมีร้านกาแฟของเด็กพิเศษ ' เชียงรายปัญญา ' ใครที่มาแล้วยังพอมีเวลาเหลือ
แวะไปอุดหนุนน้องๆได้เลย แต่เราเวลาไม่พอ ครั้งหน้าสัญญาจะไปอุดหนุนจ้า (จริงๆแค่อยากหาโอกาสมาอีกรอบ ฮ่าๆ )
ไปต่อกันเลยยยย.. ไปนั่งรถรางชมเมืองกันต่อ ก่อนหน้านี้เราไม่เคยรู้ประวัติของเมืองเชียงรายเลยสักอย่าง
ก็ได้พี่วิทยากรมาให้ข้อมูลพร้อมขับรถรางพาเราเที่ยวชมเมือง 2in1 เลยจ้า สุดยอดมาก!
หลังจากฟังก็ทำให้รู้สึกว่าเชียงรายเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีคุณค่ามากๆ
รถรางได้แวะให้เราเข้าเยี่ยมชม ' บ้านพักของท่านจอมพลป.พิบูลสงคราม ' ทันทีที่ได้ก้าวเข้าไปรู้สึกถึงความขลังมากๆ
ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อมๆที่จัดแสดงอาวุธ ยุทธโนปกรณ์ในยุคสมัยนั้น ซึ่งบางชิ้นก็เป็นของจริง ตื่นเต้นมากๆเลย
ที่ต่อไปคือ ' วัดพระธาตุจอมทอง' ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ และใกล้กันยังเป็นที่ประดิษฐาน ' เสาสะดือเมือง 108 หลัก '
นั่งรถรางไปกันต่อเล้ยย.. สถานที่ต่อไปคือ ' วัดมิ่งเมือง ' ไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลกันจ้า
วัดนี้มีอายุเท่าเมืองเชียงราย นั่นคือกว่า 800 ปีเลย (เก่าแก่มากๆ)
(วัดอยู่ตรงข้าม โรงแรมแสน จ้า)
ที่ห้ามพลาดอีกที่คือ ' หอราชรถบุษบก ' ซึ่งเราจะได้เยี่ยมชมราชรถทั้ง 8 คัน แต่ล่ะคันมีเอกลักษณ์ ความสวยงาม
ปราณีตและละเอียดอ่อนมากเลยทีเดียว
สามารถเข้าชมราชรถบุษบกทั้ง 8 คันได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทุกวัน เว้นวันจันทร์ตั้งแต่เวลา 09:00 น. ถึง 16:00 น.
เที่ยวไปเที่ยวมา พระอาทิตย์ทำมุมฉากกับพื้นถนน ได้เวลากินข้าวแล้ว มื้อเที่ยงนี้เราไปกินข้าวเที่ยงกันที่ ' ร้านท่าน้ำภูแล '
เคยได้ยินแต่สัปปะรดภูแลใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ อาหารยกมาเสิร์ฟ ถ่ายรูปพอเป็นพิธีแล้วก็ถึงเวลาเอาอาหารลงท้องแล้ว
อาหารที่แนะนำยำปลาภูแลเลยจ้า
ช่วงเย็นเรามีกิจกรรมที่ ' ไร่แม่ฟ้าหลวง ' ไร่แม่ฟ้าหลวงอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองเชียงราย บรรยากาศร่มรื่นมาก
รู้สึกถึงความเงียบสงบได้ตั้งแต่ลงจากรถ Welcome Drink จะเป็นน้ำฝรั่ง จะบอกว่าอร่อยมาก สดชื่นสุดๆ นึกถึงแล้วก็อยากกินอีก 555+
หลังจากนั้นก็ฟังประวัติความเป็นมาของไร่แม่ฟ้าหลวงจากพี่วิทยากร ทำให้เราซาบซึ้งในพระเมตตาที่สมเด็จย่าทรงมีต่อราษฎร
และส่งผลให้เกิดการพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นสถานที่ฝึกอบรมเยาวชนชาวเขาจากหมู่บ้านต่างๆ ในภาคเหนือ
แต่ในปัจจุบันเป็นอุทยานศิลปะและวัฒนธรรม และยังเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี ละคร ด้วยจ้า..
เรามีโอกาสได้คุยกับพี่วิทยากร เนื่องจากเราเดินเข้ามาชมสถานที่จัดแสดงภาพเป็นกลุ่มสุดท้าย
ได้ฟังพี่ท่านนี้เล่าประวัติต่างๆ ซึ่งเป็นความโชคดีของเราที่ได้ดูวีดีโอที่ย้อนกลับไปประมาณ 30 ปีก่อนด้วย
ซึ่งหนึ่งในรูปที่จัดแสดง เป็นรูปของพี่วิทยากรท่านนี้ (คนที่ถือพระบรมฉายาลักษณ์)
เป็นเหตุการณ์จริงๆเมื่อ 30 ปีก่อน ทำให้เรารู้สึกขนลุกและตื่นเต้นมากจริงๆ รับรู้เลยถึงความตื้นตัน ปลื้มปิติที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างชัดเจนจริงๆ
คืนนี้เรามีกิจกรรมและทานอาหารเย็นกันที่นี่ เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่เหมือนกันค่ะได้กินอะไรแปลกๆ อิ่มหนำสำราญ บวกกิจกรรมสนุกๆ
คืนแรกที่เชียงรายเราพักกันที่ ' โรงแรมแสน ' อยู่ไม่ไกลจากหอนาฬิกาเลยค่ะ เดินไปได้เลย
แต่ว่าเราเดินไม่ไหว ก็เลยเดินไปไม่ถึง ฮ่าๆ
แล้วก็อีกอย่างสระว่ายน้ำสวยมาก ใครจะมาพักที่นี่ เตรียมชุดว่ายน้ำสวยๆมาได้เลย
วันแรกที่เชียงรายของเราจบลงด้วยความประทับใจ รีบนอน พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้ามาดูหมอกกัน ว่าแต่มันจะมีหมอกไหมนะ ?
โน้นไง.. น้องหมอกที่เรานัดเอาไว้ มาตามสัญญาจริงๆด้วย นี่คือวิวจริงๆจากหน้าต่างโรงแรมเลยจ้า..
วันที่ 2 ได้เริ่มขึ้นแล้วจ้า
ออกนอกเมืองกัน.. สถานที่แรกของวันนี้คือ ' วัดหิรัญญาวาสหรือวัดพระสาน ' เยี่ยมชมพระสานปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ซึ่งพระประธานในวิหาร เกิดจากการสานด้วยไม้ไผ่ เป็นศิลปะแบบล้านนาที่สร้างด้วยไม้ไผ่
ใช้ไม้ไผ่ทั้งหมด 39,000 ท่อน เคลือบเงาดำด้วยยางของตันรัก ซึ่งวัดนี้จะต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ทางเข้าวัดเลยจ้า
ถ้ามีโอกาสได้แวะมาวัดนี้ แนะนำให้ใส่ถุงเท้ามาด้วย เพราะพื้นปูนกับแดดร้อนๆ อาจจะทำให้เรามีความสุก แทนความสุขจ้า
ทางเข้าจะมีรูปปั้นช้าง 3 เศียร ก่อนเข้าวัดเราต้องลอดท้องช้างเพื่อเป็นสิริมงคลสักหน่อย
องค์พระที่เกิดจากการนำไม้ไผ่มาสานกัน
เดินเท้าต่อไปอีก 200 เมตร ทางด้านหลัง เราก็จะได้ชมพระลักแล ที่ไม่ว่าเราจะเดินไปในทิศทางใด ท่านจะมองตามเราไปทุกที่
ลองเดินดูแล้ว ท่านมองตามเราจริงๆจ้า
ไปกันต่อ... ก็ถึงชุมชนปางห้า เราแวะกินข้าวกลางวันกันที่ ' บ้านสวนอุ้ยคำ '
อาหารที่เรากินเรียกว่าเดี๋ยวโตกตอง ก็คือ ก๋วยเตี๋ยวที่กินแบบขันโตกรองด้วยใบตอง เส้นหมี่ที่คล้ายเส้นมาม่าแต่เป็นเส้นหมี่ยูนนาน
อาหารธรรมดาๆ แต่น่ากินมากๆเลยจ้า
แล้วก็ยังมีขนมล็อคนา หน้าตาเหมือนขนมรังผึ้งบ้านเรานี่แหละจ้า แต่รสชาติจะออกหวานน้อยกว่า หอมมัน ต้องสั่งเพิ่มกันเลยทีเดียว
ขนมถ้วยก็มีเหมือนกัน แต่จะไม่หวานมาก อีกอย่างก็คือเมี่ยงใบหม่อน
อิ่มแล้วก็พร้อมทำกิจกรรมต่อไปเลยจ้า เพราะฉะนั้นเราจะไม่รอช้าไปทำกิจกรรมกันต่อที่ ' จินนาลักษณ์มิราเคิลออฟสา '
ได้รับฟังความเป็นมาของการทำกระดาษสาของที่นี่ ซึ่งที่นี่ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทำมาจากใยไหม
ใช่แล้วค่ะเราก็ไม่พลาด เดี๋ยวไว้ลองใช้แล้วจะมารีวิวให้ฟังจ้า
ที่นี่จะต้อนรับด้วยน้ำลำไย และกล้วยปิ้ง อร่อย หอมชื่นใจมากๆจ้า
[SR] ต๊ะต่อนยอน ตะลอนธรรมชาติ ท่องเที่ยวสถานที่ห้ามพลาดเมืองเชียงราย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้