ฝากติดตาม ด้วยนะครับรูปพิ่มเติม กับ clip video ตาม link นะครับ
รูปเยอะๆ >>>>
https://www.facebook.com/zarzeezitjourneys/
vlog >>>>
https://www.youtube.com/channel/UCBLQ19f1hPdOy6WnvO7U10g?view_as=subscriber
เริ่มเลยนะครับ
ทริปนี้เป็นทริปพาแม่เที่ยว ครับ โจทย์คือ
- แม่บอกแม่ไม่ชอบ shopping (อันนี้ไม่จริง)
- แม่ไม่ชอบกิน (เธอบอกกลัวอ้วน พาไปเข้า shabu sushi เธออิด ออด พอเข้า cafe ทาน cake นี่ยิ้มแฉ่ง)
- ไม่ไปวัดนะ มากี่รอบ ก็ไปวัด เธอเบื่อ
สิ่งที่รู้อย่างนึงคือ แม่ชอบกำลังกาย hahaha ดีเลยเดี๋ยวพาเดินให้เข็ด อิอิ
ทริปนี้เราบินจากกรุงเทพฯแต่ดึกไปลงที่นาริตะเช้าตรู่
ถึงนาริตะในช่วงเช้าแล้วก็ยังเข้าเช็คอินโรงแรมไม่ได้ มีเวลาเหลือ เลยพาแม่ไปดูดอกไม้ดีกว่า เราเลือกที่จะไป Hitachi seaside Park
โดยนั่งรถบัสจากนาริตะไปลงที่ Hitachi station เลย ซึ่งเราโดยเราสามารถซื้อตั๋วรถบัสได้ที่นาริตะเลย แล้วไปขึ้นรถบัสตรงป้าย Number 8 ตรงอาคารผู้โดยสารเลยครับ
ใช้เวลาในการเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ โดยเราขึ้นรถตอนเวลา 8:15 นแล้วไปถึงที่ Hitachi Station เวลา 9:30 น ราคา 3300เยน
ซึ่งเราคิดว่าเราซื้อตั๋วผิดTT โดยปกติแล้วเราสามารถไปลงที่ Katsuta Station
นั่งชิลๆ หลับๆ ตื่นๆ ชมวิว ไปเรื่อยๆ ดี๊ดี
โชคดีที่ถึง Katsuta Station ก่อน Hitachi Station เราเลยลงที่ Katsuta Station เลยจ๊า รออะไร
โดยปกติช่วงที่เราไป นี่เป็นช่วงที่ดอก nemophila บาน พอดี น้องเค้าจะบานอยู่ประมาณ2 อาทิตย์ ในช่วง ต้นเดือน พ.ค ของทุกๆปี
พอถึงที่ Katsuta Station เราก็เดินมาด้านข้าง มีป๊ายบอกชัดเจน จะเห็นมีโต๊ะที่เขาขายตั๋วรถ One Day Trip
ไปกลับยัง Hitachi seaside park + ค่าเข้า park
จากนั้นเราก็เดินไปรอรถที่ ป้ายรถบัส Number 2
เนื่องจากเราไปวันธรรมดาส่วนใหญ่คนที่ไปเที่ยวก็จะเป็นคนที่อายุมาก 60 up กันทั้งนั้น
ตอนยืนรอที่ป้ายรถเมล์ก็จะเจอคุณยายหลายๆคนและก็มีคุณยายมาคุยกับแม่ haha
แม่นี่งงเพราะคุณยายใส่ ภาษาญี่ปุ่นไม่ยั้ง ตลกดีสงสัยเขาคงนึกว่าแม่เป็นคนญี่ปุ่นเนื่องจากแม่แอบแต่งตัวเหมือนแม่บ้านญี่ปุ่น 5555
จาก Station ถึง Hitachi seaside parkใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีนั่งรถชิวๆไปเรื่อยๆดูวิวข้างทาง
พอถึงที่ Hitachi seaside Park ถ้าเราไม่มี one day ticket เราสามารถซื้อตั๋ว ที่ ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ หรือที่เคาน์เตอร์ก็ได้
- หน้าตาตู้ซื้อticket อะ -
แต่เนื่องจากว่าเราซื้อตั๋วแบบ one day ticket เราก็เข้าไปได้เลยไม่ต้องต่อคิว ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเกิดเป็นวันเสาร์อาทิตย์คิวจะยาวมากส่วนใหญ่เขาจะแนะนำให้ซื้อ one day ticket จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการต่อคิวซื้อตั๋วเข้า โดยค่าตั๋ว one day ticket อยู่ที่ประมาณ 1,800 เยนถือว่าคุ้ม กับการไม่ต้องต่อคิวเข้า park เนื่องจาก park มีขนาดใหญ่มากตอนแรกก็คิดว่ากลัวจะหลง
แต่พอเข้าไปเราก็เดินตามลูกศรไปเรื่อยๆจุดหมายของเราคือไปดู
ดอกไม้สีฟ้านี่มีชื่อว่า
"nemophila" ใช้เวลาเดินชิวๆไม่เกิน 5-10 นาทีเราก็จะเจอเจ้าดอกไม้สีฟ้า
พอเห็นแล้วก็หายเหนื่อย เห็นเนินสีฟ้า มีความ pastel สุดๆ
เชิญรับชมรูปด้านล่างนี่จ๊า
บนเนินก็จะมองเห็น ชิงช้าสวรรค์อยู่ไกลๆ อะ
เราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆบนเนินเดินขึ้นเดินลงถ้าอยากจะมาที่นี่ขอแนะนำให้มาในวันธรรมดาจะดีกว่า เพราะว่าคนไม่ค่อยเยอะ
แต่ถ้าเกิดดูจากรูปนี่ขนาดคนไม่เยอะก็ยังคิดว่ายังเยอะอยู่อะ ถ้าเกิดเป็นวันเสาร์อาทิตย์คิดว่าน่าจะเยอะกว่านี้มากๆเลย
มีต้นnemophila ขายด้วยนะ อยากซื้อมาปลูกอะ
แต่จะเอายังงัย นี่ ตัดใจจ๊า...TT
ของที่ต้องโดนอีกอย่างหนึ่งก็คือ soft cream ซึ่งมีความ cute สุดๆ
ข้อดีของการว่ามาวันธรรมดา คิวซื้อก็ไม่มีคนเลย ดีชอบ
มาแล้วครับ soft cream อิอิ จัดมา 2 ของแม่อันนึงแล้วก็ของเราอันนึงรสชาติโอเคนะมีคุกกี้รูปดอกไม้แปะอยู่ด้านบน
จากนั้นเราก็เดินชิวๆไปเรื่อยๆเปื่อย มีดอกสีเหลืองๆ ตัดกะ ดอก สีฟ้า ด้วยไม่รู้ชื่อดอกอะไร
นอกจากช่วง พ.ค จะมีดอก neophila แล้ว เาก็สามารถไปดู ดอก tulip กับดอก daffodil ได้ด้วยนะ
จุดหมายต่อไป หลังจากดูเจ้าดอกสีฟ้าเรียบร้อยแล้วเราก็จะเดินไปดู ทุ่งดอก tulip กะ daffodil กัน เนื่องจากที่เราไปเป็นช่วงท้ายๆของ Period แล้ว
เดินกับแม่หายังไงก็หาไม่เจอเลยเปิดรูปในเว็บไซต์ดู และ
สิ่งที่คาดหวังคือ แบบนี้
(รูปด้านล่างนี้จาก website ของ hitachi seaside park นะ)
แต่สิ่งที่เราเจอคือ
มันไม่เหมือนกันเลยนะ คือว่าเหลือแต่ก้านดอก tulip โรยหมดแล้ว เสียใจไป TT
หลังจากใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงใน park ก็จะเดินทางกลับมาที่โตเกียวโดยเรามาขึ้นรถบัสที่หน้าสวนป้ายรถบัสอยู่ด้านซ้ายมือนั่งกลับมาที่ Katsuta Station โดย โชว์ one day ticket อันเดิมแหละ
พอถึงที่ Katsuta Station เราก็ซื้อ ตั๋วรถไฟจาก Katusta Station ถึง Shinohawa Station โดยราคาตั๋วอยู่ที่ราคา 3820 เยน
รอเวลารถไฟ กลับ ก็ ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย ๆ
รองเท้าคู่ก็มา
จบแล้วครับ ทริปพาแม่เดินออกกำลังกาย
หวังว่าน่าจะเป็น guide day trip ได้นะครับ
ถ้าหาข้อมูลเพิ่มเติม Hitachi seaside park ตามด้านล่าง ครับ
https://hitachikaihin.jp/en/information.html
ไปได้ทุก seson ความสวยก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ
แนะนำครับ ถ้าอยากไปดู nemophila ที่ Hitachi seaside park มาช่วงหลังวันที่ 5 พ.ค ก็จะดีนะครับ
เพราะปกติ ต้นเดือนของทุกปี จะตรงกับ Golden week วันหยุดยาวของญี่ปุ่น ซึ่งคนญี่ปุ่นเองก็จะไปเที่ยวกันเยอะ อะ
แต่ถ้าไปช้ามาก ระวัง tulip ร่วงนะครับ
Nemophila ดอกฟ้าฟ้าสีฟาสเทล @ Hitachi seaside park Ibaraki
ฝากติดตาม ด้วยนะครับรูปพิ่มเติม กับ clip video ตาม link นะครับ
รูปเยอะๆ >>>> https://www.facebook.com/zarzeezitjourneys/
vlog >>>> https://www.youtube.com/channel/UCBLQ19f1hPdOy6WnvO7U10g?view_as=subscriber
เริ่มเลยนะครับ
ทริปนี้เป็นทริปพาแม่เที่ยว ครับ โจทย์คือ
- แม่บอกแม่ไม่ชอบ shopping (อันนี้ไม่จริง)
- แม่ไม่ชอบกิน (เธอบอกกลัวอ้วน พาไปเข้า shabu sushi เธออิด ออด พอเข้า cafe ทาน cake นี่ยิ้มแฉ่ง)
- ไม่ไปวัดนะ มากี่รอบ ก็ไปวัด เธอเบื่อ
สิ่งที่รู้อย่างนึงคือ แม่ชอบกำลังกาย hahaha ดีเลยเดี๋ยวพาเดินให้เข็ด อิอิ
ทริปนี้เราบินจากกรุงเทพฯแต่ดึกไปลงที่นาริตะเช้าตรู่
ถึงนาริตะในช่วงเช้าแล้วก็ยังเข้าเช็คอินโรงแรมไม่ได้ มีเวลาเหลือ เลยพาแม่ไปดูดอกไม้ดีกว่า เราเลือกที่จะไป Hitachi seaside Park
โดยนั่งรถบัสจากนาริตะไปลงที่ Hitachi station เลย ซึ่งเราโดยเราสามารถซื้อตั๋วรถบัสได้ที่นาริตะเลย แล้วไปขึ้นรถบัสตรงป้าย Number 8 ตรงอาคารผู้โดยสารเลยครับ
ใช้เวลาในการเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ โดยเราขึ้นรถตอนเวลา 8:15 นแล้วไปถึงที่ Hitachi Station เวลา 9:30 น ราคา 3300เยน
ซึ่งเราคิดว่าเราซื้อตั๋วผิดTT โดยปกติแล้วเราสามารถไปลงที่ Katsuta Station
นั่งชิลๆ หลับๆ ตื่นๆ ชมวิว ไปเรื่อยๆ ดี๊ดี
โชคดีที่ถึง Katsuta Station ก่อน Hitachi Station เราเลยลงที่ Katsuta Station เลยจ๊า รออะไร
โดยปกติช่วงที่เราไป นี่เป็นช่วงที่ดอก nemophila บาน พอดี น้องเค้าจะบานอยู่ประมาณ2 อาทิตย์ ในช่วง ต้นเดือน พ.ค ของทุกๆปี
พอถึงที่ Katsuta Station เราก็เดินมาด้านข้าง มีป๊ายบอกชัดเจน จะเห็นมีโต๊ะที่เขาขายตั๋วรถ One Day Trip
ไปกลับยัง Hitachi seaside park + ค่าเข้า park
จากนั้นเราก็เดินไปรอรถที่ ป้ายรถบัส Number 2
เนื่องจากเราไปวันธรรมดาส่วนใหญ่คนที่ไปเที่ยวก็จะเป็นคนที่อายุมาก 60 up กันทั้งนั้น
ตอนยืนรอที่ป้ายรถเมล์ก็จะเจอคุณยายหลายๆคนและก็มีคุณยายมาคุยกับแม่ haha
แม่นี่งงเพราะคุณยายใส่ ภาษาญี่ปุ่นไม่ยั้ง ตลกดีสงสัยเขาคงนึกว่าแม่เป็นคนญี่ปุ่นเนื่องจากแม่แอบแต่งตัวเหมือนแม่บ้านญี่ปุ่น 5555
จาก Station ถึง Hitachi seaside parkใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีนั่งรถชิวๆไปเรื่อยๆดูวิวข้างทาง
พอถึงที่ Hitachi seaside Park ถ้าเราไม่มี one day ticket เราสามารถซื้อตั๋ว ที่ ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ หรือที่เคาน์เตอร์ก็ได้
- หน้าตาตู้ซื้อticket อะ -
แต่เนื่องจากว่าเราซื้อตั๋วแบบ one day ticket เราก็เข้าไปได้เลยไม่ต้องต่อคิว ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเกิดเป็นวันเสาร์อาทิตย์คิวจะยาวมากส่วนใหญ่เขาจะแนะนำให้ซื้อ one day ticket จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการต่อคิวซื้อตั๋วเข้า โดยค่าตั๋ว one day ticket อยู่ที่ประมาณ 1,800 เยนถือว่าคุ้ม กับการไม่ต้องต่อคิวเข้า park เนื่องจาก park มีขนาดใหญ่มากตอนแรกก็คิดว่ากลัวจะหลง
แต่พอเข้าไปเราก็เดินตามลูกศรไปเรื่อยๆจุดหมายของเราคือไปดู
ดอกไม้สีฟ้านี่มีชื่อว่า "nemophila" ใช้เวลาเดินชิวๆไม่เกิน 5-10 นาทีเราก็จะเจอเจ้าดอกไม้สีฟ้า
พอเห็นแล้วก็หายเหนื่อย เห็นเนินสีฟ้า มีความ pastel สุดๆ เชิญรับชมรูปด้านล่างนี่จ๊า
บนเนินก็จะมองเห็น ชิงช้าสวรรค์อยู่ไกลๆ อะ
เราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆบนเนินเดินขึ้นเดินลงถ้าอยากจะมาที่นี่ขอแนะนำให้มาในวันธรรมดาจะดีกว่า เพราะว่าคนไม่ค่อยเยอะ
แต่ถ้าเกิดดูจากรูปนี่ขนาดคนไม่เยอะก็ยังคิดว่ายังเยอะอยู่อะ ถ้าเกิดเป็นวันเสาร์อาทิตย์คิดว่าน่าจะเยอะกว่านี้มากๆเลย
มีต้นnemophila ขายด้วยนะ อยากซื้อมาปลูกอะ
แต่จะเอายังงัย นี่ ตัดใจจ๊า...TT
ของที่ต้องโดนอีกอย่างหนึ่งก็คือ soft cream ซึ่งมีความ cute สุดๆ
ข้อดีของการว่ามาวันธรรมดา คิวซื้อก็ไม่มีคนเลย ดีชอบ
มาแล้วครับ soft cream อิอิ จัดมา 2 ของแม่อันนึงแล้วก็ของเราอันนึงรสชาติโอเคนะมีคุกกี้รูปดอกไม้แปะอยู่ด้านบน
จากนั้นเราก็เดินชิวๆไปเรื่อยๆเปื่อย มีดอกสีเหลืองๆ ตัดกะ ดอก สีฟ้า ด้วยไม่รู้ชื่อดอกอะไร
นอกจากช่วง พ.ค จะมีดอก neophila แล้ว เาก็สามารถไปดู ดอก tulip กับดอก daffodil ได้ด้วยนะ
จุดหมายต่อไป หลังจากดูเจ้าดอกสีฟ้าเรียบร้อยแล้วเราก็จะเดินไปดู ทุ่งดอก tulip กะ daffodil กัน เนื่องจากที่เราไปเป็นช่วงท้ายๆของ Period แล้ว
เดินกับแม่หายังไงก็หาไม่เจอเลยเปิดรูปในเว็บไซต์ดู และ สิ่งที่คาดหวังคือ แบบนี้
(รูปด้านล่างนี้จาก website ของ hitachi seaside park นะ)
แต่สิ่งที่เราเจอคือ
มันไม่เหมือนกันเลยนะ คือว่าเหลือแต่ก้านดอก tulip โรยหมดแล้ว เสียใจไป TT
หลังจากใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงใน park ก็จะเดินทางกลับมาที่โตเกียวโดยเรามาขึ้นรถบัสที่หน้าสวนป้ายรถบัสอยู่ด้านซ้ายมือนั่งกลับมาที่ Katsuta Station โดย โชว์ one day ticket อันเดิมแหละ
พอถึงที่ Katsuta Station เราก็ซื้อ ตั๋วรถไฟจาก Katusta Station ถึง Shinohawa Station โดยราคาตั๋วอยู่ที่ราคา 3820 เยน
รอเวลารถไฟ กลับ ก็ ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย ๆ
รองเท้าคู่ก็มา
จบแล้วครับ ทริปพาแม่เดินออกกำลังกาย
หวังว่าน่าจะเป็น guide day trip ได้นะครับ
ถ้าหาข้อมูลเพิ่มเติม Hitachi seaside park ตามด้านล่าง ครับ
https://hitachikaihin.jp/en/information.html
ไปได้ทุก seson ความสวยก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ
แนะนำครับ ถ้าอยากไปดู nemophila ที่ Hitachi seaside park มาช่วงหลังวันที่ 5 พ.ค ก็จะดีนะครับ
เพราะปกติ ต้นเดือนของทุกปี จะตรงกับ Golden week วันหยุดยาวของญี่ปุ่น ซึ่งคนญี่ปุ่นเองก็จะไปเที่ยวกันเยอะ อะ
แต่ถ้าไปช้ามาก ระวัง tulip ร่วงนะครับ