สำหรับเมืองเล็กๆอย่าง Linz นั้นมีความสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างมาก เพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ผลิตแทบจะทุกอย่างไปยังประเทศเยอรมนี โดยเขตอุตสาหกรรมจะอยู่ไม่ไกลจากเมืองมากนัก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงมลพิษใดๆ เสน่ห์ของเมืองนี้ก็คงต้องบอกว่าจะออกแนวคล้ายๆกราซเช่นกัน คือมีพิพิธภัณฑ์ค่อนข้างเยอะ แต่จะเป็นแนวที่แตกต่างกัน มีเนินเขาที่สามารถนั่งรถรางขึ้นไปด้านบนที่มีโบสถ์และร้านอาหารอยู่

ความสงบ และความเรียบง่ายคือเสน่ห์ของที่นี้ ส่วนตลาดคริสต์มาสก็จะอยู่บริเวณใจกลางเมืองและแทรกตามมุมถนนที่พอจะมีที่กว้าง เอาเป็นว่าเรามารู้จักเมืองลินซ์ให้มากขึ้นกันดีกว่าครับ

ติดตามอัพเดทและให้กำลังใจกันได้ที่ https://www.facebook.com/I.am.a.SoloTraveller

เรามาเริ่มกันที่แลนด์มาร์คที่แรกกันเลยครับ Linzer Mariendom

พิพิธภัณฑ์แห่งที่หนึ่ง Nordico Stadtmuseum ซึ่งในขณะที่ผมไปจะจัดแสดงเกี่ยวกับสงครามปี 1968



มายังพิพิธภัณฑ์แห่งที่ 2 Landesgalerie Linz เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ


ไฮไลท์ของเมืองลินซ์คือ Ars Electronica Center ที่จัดโชว์ infographic รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆที่เกิดขึ้นบนโลก แถมเรายังสามารถมี interaction กับอุปกรณ์นั้นๆได้อีกด้วยครับ 

จุดหมายต่อไปก็ต้องเดินขึ้นเนินกันหน่อยครับ 

Schloss Museum

วิวที่เห็นจาก Schloss Museum

หลังจากนั้น เราก็จะขึ้นรถแทรมที่จะจอดอยู่บริเวณ Hauptplatz โดยมีแฟลตฟอร์มแยกอยู่เพื่อจะขึ้นเนินเขาไปยังโบสถ์ Pöstlingbergkirche Wallfahrtsbasilika

Pöstlingbergkirche Wallfahrtsbasilika
ฝนตกหนักอีกครั้ง ตรงนี้คือบริเวณ Hauptplatz ครับ


Voestalpine Stahlwelt - Ausstellung & Museum ภายในจะจัดแสดงเรื่องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทั้งหลาย เช่นอุปกรณ์ กระบวนการต่างๆ

ปิดท้ายพิพิธภัณฑ์ด้วย Lentos Kunstmuseum Linz ที่ตอนกลางคืนก็จะเปิดไฟสว่างแบบนี้ครับ
บรรยากาศถนนสายหลักยามค่ำคืน


Casino Linz

สำหรับวันนี้ก็ขอลากันไปเท่านี้ก่อนครับ สำหรับในตอนต่อไปผมจะพาทุกท่านไปไหนอย่าลืมติดตามกันนะครับ