กีฬาแบดมินตันยังไม่เป็นอาชีพอย่างแท้จริง รายการเก็บคะแนนต่างๆที่จัดขึ้นโดย BWF นักกีฬายังต้องลงแข่งในนามทีมชาติของตัวเอง การที่ลงแข่งเก็บคะแนนได้นักกีฬายังต้องอาศัยการสนับสนุนจากสมาคมแบดของชาติตนเอง เงินรางวัลเมื่อเทียบกับเทนนิสแล้วยังน้อยกว่าเป็นสิบเท่า แถมยังต้องหักเข้าสมาคมอีกสปอนเซอร์ที่จะเข้ามาสนับสนุนตัวนักกีฬาก็ยังต้องผ่านสมาคมก่อน จะเห็นได้ว่านักกีฬาแบดมินตันหลายๆคนมักมีปัญหากับสมาคมแบดของชาติตนเองบ่อยๆในเรื่องของสปอนเซอร์ ไม่เหมือนเทนนิสที่เป็นกีฬาระดับอาชีพอย่างแท้จริง ในรายการเก็บคะแนนต่างๆนักกีฬาต้องลงแข่งเพื่อตัวเองไม่ได้แข่งในนามทีมชาติ ในประเภทคู่นักกีฬาจากแต่ละชาติยังสามารถจับคู่กันเองได้ รายการที่ใหญ่ที่สุดของเทนนิสคือรายการแกรนด์สแลม ซึ่งมีเงินรางวัลสำหรับแชมป์มากที่สุดและมีคะแนนสะสมให้มากที่สุดถึง 2,000 คะแนน ส่วนเหรียญทองโอลิมปิกในกีฬาเทนนิสมีคะแนนให้เพียง 750 คะแนน ส่วนแบดในโอลิมปิกเหรียญทองได้ 2,000 คะแนน แบดชิงแชมป์โลกเหรียญทองได้ 1,500 คะแนน แบดออลอิงแลนด์ได้ 1,000 คะแนน ทั้งแบดและเทนนิสเริ่มบรรจุเข้าแข่งขันในโอลิมปิกครั้งแรกเกือบจะพร้อมๆกัน แบดเริ่มปี 1992 ที่บาร์เซโลนา ส่วนเทนนิสเริ่มปี 1996 ที่แอตแลนตา การที่แบดมินตันในโอลิมปิกสำคัญที่สุดนอกจากเกียรติยศ และ 4 ปีมีครั้ง เงินรางวัลที่นักกีฬาจะได้รับจากการอัดฉีดของชาติตนเองน่าจะมากกว่าเงินรางวัลที่ได้รับจากการเป็นแชมป์รายการที่มีเงินรางวัลมากที่สุดคือรายการซุปเปอ์ซีรีย์ไฟนอลซึ่งแชมป์จะได้เพียงแค่ประมาณเกือบสิบล้านบาท แต่แชมป์เทนนิสแกรนด์สแลมยูเอสโอเพ่นล่าสุดได้เงินรางวัลถึง 135 ล้านบาท แค่แชมป์เทนนิสชาย ATP 250 ซึ่งเป็นรายการที่เล็กที่สุดที่จัดโดย ATP ยังได้เงินรางวัลพอๆกับแชมป์แบดซุปเปอร์ซีรีย์ 1000