หมายเหตุ : การเขียนรีวิวนี้มิได้ต้องการที่จะลบหลู่ศาสนาใด เป็นเพียงการเสนอสรุปของภาพยนตร์และอยากให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการอ่านและรับชม

สวัสดีค่ะ เมื่อวานนี้ Hail Satan วันทาซาน ภาพยนตร์จาก Documentary Club เข้าฉายวันแรก โดยเข้าในฉายโรงภาพยนตร์ SF ที่ Central World, เชียงใหม่,เอกมัย และเมญ่าเชียงใหม่ และจะเข้าฉายที่โรงภาพยนตร์ House สามย่าน ในวันที่ 3 ตุลาคม 2562 ใครอ่านรีวิวเราแล้วอยากไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้รีบหารอบก่อนจะแมสเลยจ้า

ภาพยนตร์ Hail Satan หรือวันทาซานที่ตีแพร่อีกด้านหนึ่งของศาสนา เราขอเรียกว่าขั้วตรงข้ามดีกว่า หากมีพระเจ้าก็ต้องมีซาตาน ในเอเชียเราจะมีความเชื่อในเรื่องของหยิน-หยาง/ขาว-ดำ หากมองให้ง่ายกว่านั้น ก็คือพระเอกและตัวร้ายในละครนั่นเอง มุมมองของคนทั่วๆ ไปเมื่อพูดถึงคนที่นับถือซาตานแล้ว มักจะคิดถึงการบูชาเลือด ความชั่ว บาป การนำเด็กทารกมาทรมาณหรือฆ่าผู้หญิงใช่ไหมคะ? ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมาเปลี่ยนมุมมองของเราโดยสิ้นเชิง โดยจะมาอธิบายเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงต้องบูชาซาตานที่ทั้งตลก เกรียน และกวนประสาทสุดๆ ไปเลย

ย้อนไปในปี 2013 ลูเซียน กรีฟฟ์ เริ่มตั้งโบถส์ลัทธิบูชาซานตานโดยทำเป็นขบวนการเล็กๆ จากจุดเริ่มต้นมีสมาชิกเพียง 3 คน กลายเป็น 5 หมื่นคนอย่างรวดเร็ว โดยลูเซียนอธิบายว่าลัทธิของเขาไม่ได้บูชาซาตานอย่างจริงจัง แต่ใช้เป็นเพียงสัญลักษณ์ในการตั้งคำถามต่อศาสนาคริสที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นศาสนาประจำชาติของชาวอเมริกาไปเสียแล้ว แก่นหลักของเรื่อง คือ ลัทธิซาตานต้องการความเท่าเทียมกับศาสนาคริสต์ อยากจะตั้งอนุเสาวรีย์บาโฟเมต (ซาตานในร่างแพะ) ไว้เคียงข้างกับบัญญัติ 10 ประการ แน่นอนว่าเรื่องนี้รั้งแต่ความไม่พอใจให้ชาวคริสต์อย่างรุนแรง ถึงขนาดออกมาก่อม๊อบต่อต้านกันเลยทีเดียว ท้ายที่สุดแล้วความพยายามของเขาจะเป็นจริงได้หรือไม่สามารถไปติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์ค่ะ

รูปแบบการนำเสนอของเรื่องคือสัมภาษณ์สาวกในลัทธิทีละคน โดยให้พวกเขาแสดงความคิดและแง่มุมของเขาที่มีต่อซาตาน ส่วนมากคนในลัทธิจะบอกว่าตนคือคนนอกรีต คนที่สังคมมองว่าแปลกแยก หรือคนที่เกิดในครอบครัวที่เคร่งศาสนา ลัทธิซาตานจึงเป็นทางเลือกที่พวกเขาจะมารวมตัวกันทำอะไรดีดี เรียกร้องความเท่าเทียมกันของคนในสังคมตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐพึงมี โดยเขามองว่าพวกเขาควรเคลื่อนไหวในรูปแบบของการเมือง เอากฎหมายมาเป็นสิ่งที่ใช้ในการต่อสู้ และออกบัญญัติ 7 ประการของตนเอง ซึ่งแน่นอนว่าทันสมัยและมีคำว่าเชื่อตามหลักวิทยาศาสตร์อยู่ในนั้นด้วย 

สุดท้ายแล้วสิ่งที่ได้จากหนังกลับไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับศาสนาเลยค่ะ แต่เต็มไปด้วยความเรียกร้องความเท่าเทียม ลูเซียนไม่ได้ต้องการที่หมิ่นศาสนาคริสต์ แต่เพียงตั้งคำถามและอยากเตือนใจชาวอเมริกาให้ตั้งคำถามในสิทธิที่ตนพึงมีไม่ว่าจะเรื่องของศาสนาหรือชีวิตประจำวัน หนังดูเพลินไม่เบื่อเลย แต่เราว่าหนังไม่เปิดโอกาสชาวคริสเตียนแก้ตัวเลยนะ อย่างว่าละเนอะ นี่มันหนังของพวกซาตานนี่หน่า
 
------------------------------------------------------
ติดตามผลงานของเราในเพจ : Loke Flick ทาง Facebook ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ