ตอนแรกก็คิดอยู่สักพักใหญ่เลย ประมาณ3วิ ว่าเราจะเขียนเรื่องนี้ดีไหม?
เลยคิดไปคิดมา เออๆ เขียนก็ได้
อ้าว โทษทีลืมเปิดกระทู้อย่างเป็นทางการครับ สวัสดีครับผมชื่อ(สรุปจะผมหรือเรา?)
ผมชื่อชาเขียวครับ (นามสมมติ) แต่เชื่อว่าบางคนคงรู้ชื่อจริงแล้วหละ (อย่าประจานผมนะ ฮ่าๆ)
วันนี้ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์ความรักของผม ในแบบอีกหนึ่งมุมมองแล้วกันครับ
เกิ่นนำไปว่าตัวเองเป็น ตุ๊ดตาบอด ก็ยังสงสัยตัวเองอยู่ว่าเป็นตุ๊ดจริงหรือเปล่า
แค่เราเติบโตมากับเหล่าอัศวินเซเลอร์หัวซาลาเปาและรู้ตัวว่าต้องสู้กับพวกเพื่อนที่เล่นรถทามิย่าด้วยโซ่สีส้มของเซเลอร์วีนัสแค่นั้นครับ แหะๆ
เรื่องนี้ก็ตัดสินเอาและกันครับว่าผมเป็นหรือไม่?
แต่เรื่องจริงที่อยากบอก ไม่ได้อ้างอิ่งว่าจะต้องเรียกร้องความสนใจจากคนอ่านกระทู้ ครับ...ผมบกพร่องทางการมองเห็น จะใช่คำว่าเลือนรางก็ได้ เกือบบอดก็ดี ในตอนนี้เห็นแค่แสงและเงาครับ
และก็จะมีคนสงสัยว่า "อ้าวตัวเธอ พิมพ์ได้ไง?"
ก็จะตอบไปว่าพิมพ์เหมือนคนทั่วไปเลยครับ แค่มันอ่านให้ผมฟังก็เท่านั้น
ที่ผมมาเขียนเรื่องนี้ ผมอยากให้เห็นอีกหนึ่งมุมมองว่า ผู้ที่บกพร่องหรือที่สังคมเรียกกันว่า"พิการ" ไม่จำเป็นจะต้องเศร้า หม่นหมอง
น้ำเน่าในคลองที่มีผักตบลอยอยู่ หรือจะต้องทำให้ชีวิตดูชีวิตย่ำแย่เหมือนไมล์หมดหนี้ อันนี้มันก็แล้วแต่คนคิดครับ
เพราะอีกหนึ่งแห่งความเป็นจริง ผมก็ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง ริษยา ตัณหา (และก็อยากเสพหนังอย่างว่าเหมือนคนอื่นทั่วไป)
เอาหละครับ อ่านกระทู้ผม ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ถ้าอยากดราม่าก็ไปกระทู้อื่นได้เลย ฮาๆๆ
รู้สึกว่าตัวเองเป็นตั้งแต่ตอนไหน?
...ตั้งแต่จำความได้ เรียนชายล้วนมา12ปี กก.น้ำเงิน6ปี และ กก.ดำ6ปี
ช่วงประถมปลายก็อย่างที่ว่าครับ สมัยนั้น ด้วยความที่สังคมเอกชน กางเกงน้ำเงิน ผู้ปกครองขับเบนซ์ บนคอมีสร้อยไข่มุก
เพื่อนๆทุกคนในห้อง เวลามาประชุมผู้ปกครองตอนปิดเทอมทีไร ก็จะเอาของเล่นของตัวเองมาอวด
บางคนก็เดินเขย่าดิจิไวท์ บางคนก็โชว์ดิ่งโยโเรือนแสง (ตูอยากหันไปบอกมาก จะเรือนแสงเพื่อ? แดดเปรี้ยงมากตอนนี้)
ยิ่งบางคนเอารถทามิย่ามาอวด ตูนี่คิดเลย"คร้า...เอาที่เมิงสบายใจ ห้องเรียนอยู่ชั้น4 ทามิย่าเมิงคงแรงพุ่งดิ่งลงตึกเหมือนในช่องเก้าการ์ตูนสมัยนั้น
และแล้วก็เป็นจริงอย่างที่ผมคิด สุดท้ายรถดิ่งลงตึก แม่นางเอามือฟาดนางหน้าห้องเลยจ้า
และก็ด้วยความที่เรามนุษย์สัมพันธ์ดีมาก ได้แต่เดินเข้าไปปลอบว่า ไม่เป็นไรน้าาา... (แต่ในใจนี่แบบ อิห่านสมน้ำหน้าเมิง อวดดีนัก)
ตัดภาพกลับมาที่ตัวเรา...
รถทามิย่าก็มีครับ(งานมิเล่อร์จากท่าขี้เหล็ก ตอนนั้นได้รถกระป๋องมาด้วย สมัยที่ยังไม่ดัง)
ดิจิไวท์ที่เดินแล้วต้องเขย่าตลอดเวก็มี (แวไอเท็มต้องซื้อที่สะพานเหล็กด้วยนะเออ)
แต่คือเราก็ไม่ได้อินขนาดนั้น แค่ตอนนั้นคิดว่าเพื่อนในห้องมี เราก็ต้องมี (เห็นปะ วัตถุนิยมชัดๆ)
จนเรามีโอกาสมาเล่นกับพี่ข้างบ้าน นางมีบ้านตุ๊กตาอะไรไม่รู้ ที่มันเป็นบ้านหลังใหญ่ๆ
มีตัวหนีหรือหมาไม่รู้แต่งตัวอยู่ในบ้าน หมาเชี่ยไรก็ไม่รู้ผูกเน็คไทล์ไปอีกกก
บ้านแมงก็มีลิฟท์ไปอีกกก คือพอกดปุ่มลิฟท์มันก็เลื่อนขึ้นได้ เท่าที่ผมจำได้ สมัยนั้นนะ ของเล่นแพงมาก
จะทำตาอ้อนวอนเหมือนเด็กในรางการแบ่งปันรอยยิ้มแต่ละทีให้แม่ซื้อให้นี่แบบ เบลล่าก็เบลล่าเหอะ...
ถ้าตอนนั้นมีคนส่งชื่อผมเขาชิงออสก้า ผมว่าผมได้!! ฮ่าๆๆ
จนเรามารู้สึกได้ ว่าอีบ้านหมาไรนั้นมันแพง แม่ก็เลยปัดแฟ้มตกพื้น ไม่รออนุมัติ!!
สุดท้ายก็มาเจอพี่อีกคนที่นางมีริบบิ้นที่ใช้สำหรับเล่นยิมนาสติก นั้นแหละมันเลอค่าสำหรับผมมาก
เวลาเล่นทีไรเหมือนเราได้ฟาดโซ่เป็นเซเลอร์วีนัส คือแบบโค้ดสนุก สนุกกว่าเล่นบ้านหมามีลิฟท์อีก หึๆ
สมัยเรียนประถมนะ ผมเองด้วยความตัวเล็กที่สุดในห้องได้ ก็จะอยู่หน้าแถว
และก็ด้วยความที่อยู่หน้าแถวนี่ไง เรียนวิชาลูกเสือทีไร พวกมีส+มาสเตอร์ก็จะจับเราไปเต้นหน้าแถว
อินี่ก็แบบ สะบัดก้นได้สุดๆ ส่ายได้ก็ส่าย ส่ายจนเจ็บท้อง หน้าเน่อไปหมด
ถามว่าเต้นเพลงอะไร?
...
....
ลูกเสือเขาไม่จับมือขวา ยื่นซ้ายมือจับมือกันมั่น
มือขวาไว้เคารพกัน มือขวาไว้เคารพกัน ยื่นซ้ายออกมามั่น จับมือ.. จับมือ...
คำถามคือ..? ตูจะส่ายก้นเพื่อ? เฮ้อออ....
นั้นแหละครับ จุดเปลี่ยนของผม ตั้งแต่นั้นมาถึงคาบลูกเสือทีไร มีส+มาสเตอร์ก็เหมือนทำงานกันเป็นทีม
ทุกสายตามองมาที่ผม ประมาณว่า.. เมิงนั้นแหละลุกมาเต้น ถ้าเมิงไม่ขึ้นมา พวกตูจะร้องเพลงอื่นต่อไม่ได้
นี่ผมเขียนเรื่องนี้ไปก็คิดถึงเพื่อนคนหนึ่งสมัยนั้น นางเป็นคนที่เล่นต่อสู้แล้วกรี๊ดดังมาก
สมัยนั้นคือใครกรี๊ดดัง ประมาณว่าเราเริดมากกกกก
นี่เวลาเลิกเรียนทีไรก็จะรีบวิ่งกับนางเพื่อไปขึ้นรถเมล์หน้าโรงเรียน อีกข้อหนึ่งคือเราเป็นลูกชายที่เลี้ยงด้วยแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกัน ก็เลยทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น
**แม่ๆเลี้ยงเดี่ยวอย่าเพิ่งจิตตกไปนะครับ ว่าถ้าฉันเลี้ยงลูกชายคนเดียวแล้วจะเป็นเหมือนแก ฮ่าๆๆ คือ ผมแค่ผู้ชายเรียบร้อยคร้าบ
ตอนนี้เพื่อนผมสมัยเรียนคนนี้ นางก็เป็นลูกเรือไปแล้วจ้า
ตามเฟสนางนี่ หืมมมมมมม... ซิกแพคมาเป็นรอน
(ถามว่ารู้ได้ไง... เปิดดูเม้นนาง ป้าซิริอ่านให้ผมฟังว่า".... แสดงความคิดเห็นว่า ซิกแพคสวยจังครับ อิอิ"
แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตจากตุ๊ดตาบอด
เลยคิดไปคิดมา เออๆ เขียนก็ได้
อ้าว โทษทีลืมเปิดกระทู้อย่างเป็นทางการครับ สวัสดีครับผมชื่อ(สรุปจะผมหรือเรา?)
ผมชื่อชาเขียวครับ (นามสมมติ) แต่เชื่อว่าบางคนคงรู้ชื่อจริงแล้วหละ (อย่าประจานผมนะ ฮ่าๆ)
วันนี้ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์ความรักของผม ในแบบอีกหนึ่งมุมมองแล้วกันครับ
เกิ่นนำไปว่าตัวเองเป็น ตุ๊ดตาบอด ก็ยังสงสัยตัวเองอยู่ว่าเป็นตุ๊ดจริงหรือเปล่า
แค่เราเติบโตมากับเหล่าอัศวินเซเลอร์หัวซาลาเปาและรู้ตัวว่าต้องสู้กับพวกเพื่อนที่เล่นรถทามิย่าด้วยโซ่สีส้มของเซเลอร์วีนัสแค่นั้นครับ แหะๆ
เรื่องนี้ก็ตัดสินเอาและกันครับว่าผมเป็นหรือไม่?
แต่เรื่องจริงที่อยากบอก ไม่ได้อ้างอิ่งว่าจะต้องเรียกร้องความสนใจจากคนอ่านกระทู้ ครับ...ผมบกพร่องทางการมองเห็น จะใช่คำว่าเลือนรางก็ได้ เกือบบอดก็ดี ในตอนนี้เห็นแค่แสงและเงาครับ
และก็จะมีคนสงสัยว่า "อ้าวตัวเธอ พิมพ์ได้ไง?"
ก็จะตอบไปว่าพิมพ์เหมือนคนทั่วไปเลยครับ แค่มันอ่านให้ผมฟังก็เท่านั้น
ที่ผมมาเขียนเรื่องนี้ ผมอยากให้เห็นอีกหนึ่งมุมมองว่า ผู้ที่บกพร่องหรือที่สังคมเรียกกันว่า"พิการ" ไม่จำเป็นจะต้องเศร้า หม่นหมอง
น้ำเน่าในคลองที่มีผักตบลอยอยู่ หรือจะต้องทำให้ชีวิตดูชีวิตย่ำแย่เหมือนไมล์หมดหนี้ อันนี้มันก็แล้วแต่คนคิดครับ
เพราะอีกหนึ่งแห่งความเป็นจริง ผมก็ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง ริษยา ตัณหา (และก็อยากเสพหนังอย่างว่าเหมือนคนอื่นทั่วไป)
เอาหละครับ อ่านกระทู้ผม ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ถ้าอยากดราม่าก็ไปกระทู้อื่นได้เลย ฮาๆๆ
รู้สึกว่าตัวเองเป็นตั้งแต่ตอนไหน?
...ตั้งแต่จำความได้ เรียนชายล้วนมา12ปี กก.น้ำเงิน6ปี และ กก.ดำ6ปี
ช่วงประถมปลายก็อย่างที่ว่าครับ สมัยนั้น ด้วยความที่สังคมเอกชน กางเกงน้ำเงิน ผู้ปกครองขับเบนซ์ บนคอมีสร้อยไข่มุก
เพื่อนๆทุกคนในห้อง เวลามาประชุมผู้ปกครองตอนปิดเทอมทีไร ก็จะเอาของเล่นของตัวเองมาอวด
บางคนก็เดินเขย่าดิจิไวท์ บางคนก็โชว์ดิ่งโยโเรือนแสง (ตูอยากหันไปบอกมาก จะเรือนแสงเพื่อ? แดดเปรี้ยงมากตอนนี้)
ยิ่งบางคนเอารถทามิย่ามาอวด ตูนี่คิดเลย"คร้า...เอาที่เมิงสบายใจ ห้องเรียนอยู่ชั้น4 ทามิย่าเมิงคงแรงพุ่งดิ่งลงตึกเหมือนในช่องเก้าการ์ตูนสมัยนั้น
และแล้วก็เป็นจริงอย่างที่ผมคิด สุดท้ายรถดิ่งลงตึก แม่นางเอามือฟาดนางหน้าห้องเลยจ้า
และก็ด้วยความที่เรามนุษย์สัมพันธ์ดีมาก ได้แต่เดินเข้าไปปลอบว่า ไม่เป็นไรน้าาา... (แต่ในใจนี่แบบ อิห่านสมน้ำหน้าเมิง อวดดีนัก)
ตัดภาพกลับมาที่ตัวเรา...
รถทามิย่าก็มีครับ(งานมิเล่อร์จากท่าขี้เหล็ก ตอนนั้นได้รถกระป๋องมาด้วย สมัยที่ยังไม่ดัง)
ดิจิไวท์ที่เดินแล้วต้องเขย่าตลอดเวก็มี (แวไอเท็มต้องซื้อที่สะพานเหล็กด้วยนะเออ)
แต่คือเราก็ไม่ได้อินขนาดนั้น แค่ตอนนั้นคิดว่าเพื่อนในห้องมี เราก็ต้องมี (เห็นปะ วัตถุนิยมชัดๆ)
จนเรามีโอกาสมาเล่นกับพี่ข้างบ้าน นางมีบ้านตุ๊กตาอะไรไม่รู้ ที่มันเป็นบ้านหลังใหญ่ๆ
มีตัวหนีหรือหมาไม่รู้แต่งตัวอยู่ในบ้าน หมาเชี่ยไรก็ไม่รู้ผูกเน็คไทล์ไปอีกกก
บ้านแมงก็มีลิฟท์ไปอีกกก คือพอกดปุ่มลิฟท์มันก็เลื่อนขึ้นได้ เท่าที่ผมจำได้ สมัยนั้นนะ ของเล่นแพงมาก
จะทำตาอ้อนวอนเหมือนเด็กในรางการแบ่งปันรอยยิ้มแต่ละทีให้แม่ซื้อให้นี่แบบ เบลล่าก็เบลล่าเหอะ...
ถ้าตอนนั้นมีคนส่งชื่อผมเขาชิงออสก้า ผมว่าผมได้!! ฮ่าๆๆ
จนเรามารู้สึกได้ ว่าอีบ้านหมาไรนั้นมันแพง แม่ก็เลยปัดแฟ้มตกพื้น ไม่รออนุมัติ!!
สุดท้ายก็มาเจอพี่อีกคนที่นางมีริบบิ้นที่ใช้สำหรับเล่นยิมนาสติก นั้นแหละมันเลอค่าสำหรับผมมาก
เวลาเล่นทีไรเหมือนเราได้ฟาดโซ่เป็นเซเลอร์วีนัส คือแบบโค้ดสนุก สนุกกว่าเล่นบ้านหมามีลิฟท์อีก หึๆ
สมัยเรียนประถมนะ ผมเองด้วยความตัวเล็กที่สุดในห้องได้ ก็จะอยู่หน้าแถว
และก็ด้วยความที่อยู่หน้าแถวนี่ไง เรียนวิชาลูกเสือทีไร พวกมีส+มาสเตอร์ก็จะจับเราไปเต้นหน้าแถว
อินี่ก็แบบ สะบัดก้นได้สุดๆ ส่ายได้ก็ส่าย ส่ายจนเจ็บท้อง หน้าเน่อไปหมด
ถามว่าเต้นเพลงอะไร?
...
....
ลูกเสือเขาไม่จับมือขวา ยื่นซ้ายมือจับมือกันมั่น
มือขวาไว้เคารพกัน มือขวาไว้เคารพกัน ยื่นซ้ายออกมามั่น จับมือ.. จับมือ...
คำถามคือ..? ตูจะส่ายก้นเพื่อ? เฮ้อออ....
นั้นแหละครับ จุดเปลี่ยนของผม ตั้งแต่นั้นมาถึงคาบลูกเสือทีไร มีส+มาสเตอร์ก็เหมือนทำงานกันเป็นทีม
ทุกสายตามองมาที่ผม ประมาณว่า.. เมิงนั้นแหละลุกมาเต้น ถ้าเมิงไม่ขึ้นมา พวกตูจะร้องเพลงอื่นต่อไม่ได้
นี่ผมเขียนเรื่องนี้ไปก็คิดถึงเพื่อนคนหนึ่งสมัยนั้น นางเป็นคนที่เล่นต่อสู้แล้วกรี๊ดดังมาก
สมัยนั้นคือใครกรี๊ดดัง ประมาณว่าเราเริดมากกกกก
นี่เวลาเลิกเรียนทีไรก็จะรีบวิ่งกับนางเพื่อไปขึ้นรถเมล์หน้าโรงเรียน อีกข้อหนึ่งคือเราเป็นลูกชายที่เลี้ยงด้วยแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกัน ก็เลยทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น
**แม่ๆเลี้ยงเดี่ยวอย่าเพิ่งจิตตกไปนะครับ ว่าถ้าฉันเลี้ยงลูกชายคนเดียวแล้วจะเป็นเหมือนแก ฮ่าๆๆ คือ ผมแค่ผู้ชายเรียบร้อยคร้าบ
ตอนนี้เพื่อนผมสมัยเรียนคนนี้ นางก็เป็นลูกเรือไปแล้วจ้า
ตามเฟสนางนี่ หืมมมมมมม... ซิกแพคมาเป็นรอน
(ถามว่ารู้ได้ไง... เปิดดูเม้นนาง ป้าซิริอ่านให้ผมฟังว่า".... แสดงความคิดเห็นว่า ซิกแพคสวยจังครับ อิอิ"