คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
คิดเรื่องทำงานก่อนดีกว่าค่ะ พอถึงเวลาเราก็ปรับเวลาเหมาะสมได้ ถ้าให้แนะนำคงแนะนำให้สอบราชการ เพราะอย่างน้อยมีวันหยุดให้อ่านหนังสือ ส่วนที่คุณเม้นในความเห็นบนว่าเรียนเนติต้องเข้าเรียน ติว อ่านหนังสือ จะบอกว่าคนเราถ้าใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ค่ะ เราจบได้ภายใน 2 ปี(เก็บทีละขา ไม่โลภ) อ่านหนังสือกับท่องตัวบทเท่านั้นค่ะ เน้นใช้เวลาทุกวินาทีให้มีค่า ไม่เคร่งจำนวนหน้า แต่เคร่งความเข้าใจ ทำอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เท่านั้นค่ะ จบเนติยังไม่ยากเท่าสอบผู้พิพากษาอัยการ ถึงตอนนั้น จขกท ก็ต้องปรับแผนตามความเหมาะสมอีกที ซึ่งมีคนทำงานสอบได้เป็นจำนวนไม่น้อยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ขอคำแนะนำหน่อยครับ อยากเป็นผู้พิพากษา/อัยการ
แต่ก็ติดปัญหาอยุ่ที่ กำลังจะเรียนเน แต่ทางบ้านมีปัญหาเรื่องเงินอย่างมาก เลยสนับสนุนผมไม่ได้
ทางครอบครัวเลยอยากให้ผมเปลี่ยนแผน มาสอบรับราชการแทน เช่นนิติกร เพราะสามารถ ไปเป็น อัยการ/ผู้พิพากษาได้
ผมเลยเกิดความสับสน 1. ทนายก็อยากทำนะ เพราะยังไม่ค่อยรู้อะไรเลย แต่เรื่องรายได้ มันก็คงสู้พวกนิติกร ไม่ได้ เพราะเป็นทนายใหม่ ต้องอดทนอย่างมากช่วงแรก ซึ่งทางบ้านผมมีปัญหาเรื่องเงิน แล้วผมกว่าจะตั้งตัวได้ มันก็.. อะนะ
2.งานราชการ ผมก็รอเขาเปิดรับสมัคร แล้วสอบให้ได้เพื่อหาเงินมาส่งตัวเองเรียนต่อไป
ผมเลยมีเรื่องมาขอคำแนะนำหน่อยครับ ไม่รู้จะเอายังไงดี อยากเรียนเนนะ แต่ติดตรงตังไม่มี อยากฝึกทนายต่อด้วย แต่ก็อยากได้เงินพอมั่นคง พอยืนได้เพื่อที่จะส่งตัวเองไปเรียน
สรุปก็คือ
ปลายทาง ผู้พิพากษา/อัยการ ระหว่างนั้นมีงานมั่นคง ถ้าสอบไม่ได้ผู้พิพากษา/อัยการ จริงๆ ก็ไม่ได้เดือนร้อน เพราะมีงานนี้อยู่ที่เป็นความมั่นคงให้ตัวเอง