กระทู้นี้ผมขอยกเครดิตให้กับภรรยาสุดที่เลิฟ สำหรับความตั้งใจเขียนเพื่อแชร์ข้อมูลและประสบการณ์ในการขอวีซ่าเชงเก้นในครั้งนี้
แต่พอดีติดปัญหาเรื่องการโพสนิดหน่อย ผมเลยเอามาเขียนแก้ไขและเพิ่มเติมบางส่วน แล้วเป็นคนโพสให้แทนครับ
------------------------------------------------------------
จขกท.อยากแชร์ประสบการณ์ เกี่ยวกับ การขอวีซ่า เชงเก้น ประเทศฝรั่งเศส 2019 ระยะสั้น(ท่องเที่ยว) ให้เพื่อนๆได้ทราบ
***ปล. จขกท.ยังไม่เคยขอวีซ่ามาก่อนเลย แต่เคยบินไปเที่ยวต่างประเทศที่ฟรีวีซ่า มา 4 ประเทศ***
เนื่องจากกลางเดือนต.ค. 2019 นี้ จขกท.วางแผนจะไปฮันนีมูนกับสามีที่ยุโรป ทั้งหมด 12 วัน ( ฝรั่งเศส 4 คืน + สวิตเซอร์แลนด์ 3 คืน + อิตาลี 4 คืน)
ดังนั้น ต้องมีการเตรียมความพร้อม เริ่มจาก
1. จองตั๋วเครื่องบิน จขกท.เลือกเดินทางกับสายการบินไทย
ขาไป BKK~PARIS ราคา 13,770/คน (นน. 30 โล)
ขากลับ ROME~BKK ราคา 12,645/คน (นน. 30 โล)
2. วาง plan ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนกี่วัน และ จองที่พัก
จขกท.เลือกที่จะจองที่พัก แบบจ่ายเงินเลย เพราะกลัวว่าจะไม่ผ่านวีซ่า มีทั้งจอง Airbnb , Booking , Agoda
โดยที่พักจะต้องมีชื่อผู้ร่วมพักทุกคนระบุเป็น Guest อยู่ด้วย
3. ซื้อตั๋วรถไฟ เดินทางข้ามประเทศ
ถ้าซื้อล่วงหน้านานๆก็จะได้ราคาที่ถูก แต่ จขกท.วางแผนเที่ยวไม่ทัน กว่าจะวางแผนเสร็จได้ซื้อจริงๆคือเหลืออีกไม่ถึงเดือน
ทำให้เหลือตัวเลือกไม่มากนัก เลยตัดสินใจว่าจะซื้อแค่ตั๋วสำหรับเดินทางข้ามประเทศ ที่ยังพอจะมีตั๋วลดราคาเหลืออยู่บ้าง
ส่วนการเดินทางในประเทศค่อยไปซื้อหน้างานเอา จะได้ยืดหยุ่นแผนเที่ยวได้ซักหน่อย เพราะราคาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่แล้ว
จาก ฝรั่งเศส ข้ามไป สวิสเซอร์แลนด์ ( Paris Gare de Lyon —> Basel SBB) ราคา 2,898/คน
ที่ซื้อไปลงแค่ Basel SBB เนื่องจากในสวิสเราตั้งใจจะซื้อ Swiss Pass
(แต่ยังไม่ได้ซื้อ Swiss pass นะ รอ Visa ผ่านก่อนค่อยซื้ออีกที กลัวว่าถ้าไม่ผ่านจริงๆเดี่ยวจะเจ็บหนัก)
ส่วนจาก สวิสเซอร์แลนด์ ข้ามไป อิตาลีเลือก ใช้รถบัส เนื่องจากตั๋วรถไฟไปไกลมากแล้ว ( Zurich —>Venice ) ราคา 1,530/คน
4. ซื้อประกันการเดินทาง
จขกท.เลือกซื้อประกันที่ครอบคลุมทรัพย์สินด้วย เนื่องจากฝรั่งเศสและอิตาลีก็ขึ้นชื่อเรื่องขโมยพอสมควร
*** ต้องซื้อประกันกับบริษัทที่ได้รับการรับรองจากประเทศที่เราจะขอวีซ่าด้วย
(ดูได้จาก
https://fr.tlscontact.com/th/BKK/page.php?pid=Insurance)
5. เลือกประเทศที่จะทำเรื่องขอวีซ่าเชงเก้น
โดยเลือกจากประเทศที่เราจะไปพักนานที่สุด แต่ถ้าพักพอๆกันให้ไปขอวีซ่าที่ประเทศแรก นั่นคือประเทศ ฝรั่งเศส
6. เตรียมเอกสารต่างๆเพื่อยื่นขอวีซ่า เช่น พลาสปอร์ต เอกสารรับรองต่างๆ... ซึ่งรายละเอียดอยู่ด้านล่างเลยจ้าาา~
มาถึงขั้นตอนการเตรียมเอกสารขอวีซ่ากันค่ะ เรียงเอกสารตามนี้ค่ะ (ทุกคนต้องมีเอกสารทั้งหมดคนละ 1 ชุด)
1. Application form สมัครและกรอกข้อมูลที่เว็บไซต์สถานฑูตฝรั่งเศส (
https://france-visas.gouv.fr/en_US/web/france-visas) เสร็จแล้วให้ Print form ออกมา (ดูวิธีการกรอกเป็นภาษาไทยได้จาก
https://static.tlscontact.com/media/th/guidebook_france_visa.pdf)
*** ขั้นตอนนี้ถ้าไปหลายคนให้กรอกรายละเอียดต่างๆคนเดียวพอ เพราะในหน้าสรุปตอนสุดท้ายจะมีให้เราเลือกเพิ่มผู้ร่วมเดิมทางได้ (ใน pdf วิธีกรอกจะมีเขียนบอกอยู่ตอนท้ายๆ)
2. ลงทะเบียน ในเว็บตัวแทน TLS contact เพื่อนัดหมายวันที่จะเข้าไปขอวีซ่า (
https://fr.tlscontact.com/th/BKK/index.php ) หลังจากนั้นให้ print form ออกมา
*** ขั้นตอนนี้ผู้เดินทางต้องลงทะเบียนทุกคน แต่การยื่นนัดหมายให้ยื่นเพียงคนเดียว และใส่ ID ของผู้ร่วมเดินทางทุกคนไว้ด้วยกัน
ตอนแรก จขกท.ตั้งใจว่ากรอกเสร็จ แล้ววันรุ่งขึ้นจะนัดยื่นเอกสารเลยปรากฎว่า..... คิวเต็มจ้า! เลยต้องเลื่อนไปอีก 1 อาทิตย์ ดังนั้นควรกรอกแต่เนิ่นๆ เนื่องจากคิวไม่ได้ว่างตลอด ถ้าอยากได้คิวด่วนหรือวันเสาร์จะต้องเเสียเงินเพิ่มคนละ 1,600 บาท
ย้ำว่าคนละ 1,600 บาท!
3. ถ่ายรูปหน้าตรง 3.5*4.5cm จำนวน 2 รูป พื้นหลังสีขาว ไม่สวมเครื่องประดับ ใบหู คิ้ว ต้องปรากฎ จขกท.เข้าร้านถ่ายรูปได้มาทั้งหมด 5 ใบ ราคา 200 บาท ซึ่ง ปกติ จขกท เป็นคนใส่คอนแทคเลนส์ที่มีสี ดังนั้น ต้องถอดก่อนถ่ายรูปจ้า
4. Passport เล่มจริง ทั้งเล่มเก่า/ใหม่ พร้อมกับสำเนาหน้า passport เล่มเก่า/ใหม่ อย่างละ 1 แผ่น
** หนังสือเดินทางจะต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันเดินทางกลับ **
5. บัตรประชาชน และสำเนาบัตรประชาชน 1 แผ่น
6. สำเนา ใบเปลี่ยน ชื่อ - สกุล , ทะเบียนสมรส , ใบเปลี่ยนคำนำหน้า
****ทุกอย่างแปลเป็นภาษาอังกฤษ **** และสำเนาใบเปลี่ยนชื่อสุกลภาษาไทย อย่างละ 1 แผ่น (เดี๋ยวจะเอาตัวอย่างเอกสารแปลมาโพสใน comment ให้อีกทีนะคะ)
*** เนื่องจาก จขกท.ต้องแปลเอกสารหลายแผ่น แต่ราคาจ้างแปลตกอยู่ที่ประมาณแผ่นละ 200-300 บาท จึงลองหาข้อมูลดูและพบว่า ถ้าเป็นการขอวีซ่าระยะสั้น ไม่จำเป็นต้องมีตราปั๊มก็ได้ จึงทำการแปลและรับรองเอกสารเองทั้งหมด โดยแบบฟอร์มการแปลเอกสารสามารถดาวน์โหลดได้จาก
http://www.consular.go.th/main/th/form/1421/72106-ทะเบียนสมรส.html
7. หลักฐานเอกสารการจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ
8. เอกสารประกันภัยการเดินทาง print แค่กรมธรรม์ที่เป็นภาษาอังกฤษไปก็พอ ไม่ต้อง print ข้อแถลงใบกรมธรรม์ที่มี 30 กว่าหน้าไปด้วย
*** จะต้องเป็นประกันที่สามารถยื่นขอวีซ่าได้ (
https://fr.tlscontact.com/th/BKK/page.php?pid=Insurance) โดยวงเงินประกันต้องไม่ต่ำกว่า 1,500,000 บาท
9. หลักฐานเอกสารยืนยันที่พัก ทุกคืนที่ไปเที่ยว
*ระบุชื่อผู้เข้าพัก และผู้ติดตามทั้งหมด* + plan การท่องเที่ยว + ตั๋วรถไฟ + ตั๋วรถบัส
ตอนแรก จขกท.ไม่ทราบว่าต้องระบุชื่อผู้เข้าพักทุกคน ตอนจองเลยไม่ได้ระบุไว้ แต่สามารถเพิ่มเติมหลังจากจองไปแล้วได้ โดย Airbnb, Booking สามารถแก้ไขเองในเว็บได้เลย แล้วค่อย Print ส่วนของ Agoda จะยุ่งยากนิดนึงตรงที่แก้ไขเองไม่ได้ จะต้องโทรหรือทักแชทไปหา Agoda เพื่อเพิ่มชื่อผู้เข้าพัก และ Agoda จึงจะส่ง email มาให้ใหม่
10. รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือนเป็น ภาษาอังกฤษ
บางธนาคารสามารถขอ statement ย้อนหลังเป็นภาษาอังกฤษจากใน App ของธนาคารได้เลย
แต่บางธนาคารไม่สามารถขอได้ จะต้องไปขำที่ธนาคาร โดยแจ้งว่าขอ statement ย้อนหลังเป็นภาษาอังกฤษ (เสีย 100 บาท)
ที่ TLS แจ้งว่า สามารถถ่ายเอกสารจากสมุดบัญชีของเราเองได้เลย ถ้าเรามีการปรับสมุดบัญชีตลอด โดยถ่ายหน้าแรก และรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน แบบนี้ก็จะฟรี
*** ควรจะมีเงินอยู่ในบัญชีมากกว่า 120 ยูโรต่อจำนวนวันที่เราไป เช่น จขกท.ไป 12 วัน ก็ควรจะมีเงินติดบัญชีมากกว่า 1,440 ยูโร (~5หมื่นบาท) ซึ่งจขกท.และสามีมีเงินอยู่ในบัญชีที่นำไปยื่นของแต่ละคนอยู่หลักหมื่นปลายๆ ตอนที่ไปยื่นขอวีซ่า
11. เอกสารรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ ออกเอกสารโดยที่ทำงาน ( ของจขกท มีแค่ ทำงานตำแหน่ง อะไร เริ่มทำงานเมื่อไหร่ เงินเดือนเท่าไหร่ แค่นี้ค่ะ) แต่ถ้าจะให้ดีต้องมีระบุวันลาด้วย
12. เอกสารแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ( อันนี้ก็ทำเองเหมือนกัน )
--------------------------------------------------------------------------------
เอกสารก็มีประมาณนี้ที่ได้เตรียมไป ถ้าเกิดเอกสารไม่ครบ สามารถยื่นเพิ่มเติมได้ภายในวันนั้นเลยก่อน 14.30 น
จขกท.แนะนำว่าไม่ควรเย็บแมกเอกสารไปเนื่องจากจะทำให้พี่ที่ตรวจเอกสาร ใช้เวลาในการแกะ ควรใช้คลิปหนีบแทน หรือไม่ก็ไม่ต้องเย็บแมกเอกสารเลย และให้เรียงเอกสารตามเว็บ TLS แนะนำ เพราะจะทำให้ตรวจเอกสารได้รวดเร็ว
ข้อสังเกต คือ ชื่อ-นามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ ในเอกสารทุกแผ่นจะต้องตรงกัน และเลข passport ต้องถูกต้องนะคะ
ตอนแรก จขกท.ก็สงสัยว่าพวกที่พักเราสามารถ print ไปชุดเดียวแล้วยื่นคู่กับสามีเลยได้มั้ย
(เพราะเราย้ายที่พักแทบจะทุกวัน เอกสารที่พักเลยหนามากกกกกก~)
สรุปว่า เอกสารทุกอย่างต้องเตรียม 1 ชุด/1 คน นะจ๊ะ หนาแค่ไหนก็ต้องยอม
สุดท้ายนี้ จขกท.ได้ทำการขอวีซ่า เมื่อวันที่ 23/09/2019 นี้ และจะบินช่วงวันที่12/10/2019
(สถานทูตจะเรียงลำดับความสำคัญในการอนุมัติคำขอวีซ่า จากวันที่ออกเดินทางก่อนเป็นหลัก)
ตอนนี้วีซ่าส่งไป สถานทูต ฝรั่งเศส แล้วรอการอนุมัติอยู่ เดี๋ยวได้ผลแล้วจะมาค่อยอัพเดทอีกทีนะคะ
[CR] แชร์ประสบการณ์ ขอวีซ่าเชงเก้น ประเทศฝรั่งเศส ครั้งแรก (2019)
แต่พอดีติดปัญหาเรื่องการโพสนิดหน่อย ผมเลยเอามาเขียนแก้ไขและเพิ่มเติมบางส่วน แล้วเป็นคนโพสให้แทนครับ
------------------------------------------------------------
จขกท.อยากแชร์ประสบการณ์ เกี่ยวกับ การขอวีซ่า เชงเก้น ประเทศฝรั่งเศส 2019 ระยะสั้น(ท่องเที่ยว) ให้เพื่อนๆได้ทราบ
***ปล. จขกท.ยังไม่เคยขอวีซ่ามาก่อนเลย แต่เคยบินไปเที่ยวต่างประเทศที่ฟรีวีซ่า มา 4 ประเทศ***
เนื่องจากกลางเดือนต.ค. 2019 นี้ จขกท.วางแผนจะไปฮันนีมูนกับสามีที่ยุโรป ทั้งหมด 12 วัน ( ฝรั่งเศส 4 คืน + สวิตเซอร์แลนด์ 3 คืน + อิตาลี 4 คืน)
ดังนั้น ต้องมีการเตรียมความพร้อม เริ่มจาก
1. จองตั๋วเครื่องบิน จขกท.เลือกเดินทางกับสายการบินไทย
ขาไป BKK~PARIS ราคา 13,770/คน (นน. 30 โล)
ขากลับ ROME~BKK ราคา 12,645/คน (นน. 30 โล)
2. วาง plan ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหนกี่วัน และ จองที่พัก
จขกท.เลือกที่จะจองที่พัก แบบจ่ายเงินเลย เพราะกลัวว่าจะไม่ผ่านวีซ่า มีทั้งจอง Airbnb , Booking , Agoda
โดยที่พักจะต้องมีชื่อผู้ร่วมพักทุกคนระบุเป็น Guest อยู่ด้วย
3. ซื้อตั๋วรถไฟ เดินทางข้ามประเทศ
ถ้าซื้อล่วงหน้านานๆก็จะได้ราคาที่ถูก แต่ จขกท.วางแผนเที่ยวไม่ทัน กว่าจะวางแผนเสร็จได้ซื้อจริงๆคือเหลืออีกไม่ถึงเดือน
ทำให้เหลือตัวเลือกไม่มากนัก เลยตัดสินใจว่าจะซื้อแค่ตั๋วสำหรับเดินทางข้ามประเทศ ที่ยังพอจะมีตั๋วลดราคาเหลืออยู่บ้าง
ส่วนการเดินทางในประเทศค่อยไปซื้อหน้างานเอา จะได้ยืดหยุ่นแผนเที่ยวได้ซักหน่อย เพราะราคาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่แล้ว
จาก ฝรั่งเศส ข้ามไป สวิสเซอร์แลนด์ ( Paris Gare de Lyon —> Basel SBB) ราคา 2,898/คน
ที่ซื้อไปลงแค่ Basel SBB เนื่องจากในสวิสเราตั้งใจจะซื้อ Swiss Pass
(แต่ยังไม่ได้ซื้อ Swiss pass นะ รอ Visa ผ่านก่อนค่อยซื้ออีกที กลัวว่าถ้าไม่ผ่านจริงๆเดี่ยวจะเจ็บหนัก)
ส่วนจาก สวิสเซอร์แลนด์ ข้ามไป อิตาลีเลือก ใช้รถบัส เนื่องจากตั๋วรถไฟไปไกลมากแล้ว ( Zurich —>Venice ) ราคา 1,530/คน
4. ซื้อประกันการเดินทาง
จขกท.เลือกซื้อประกันที่ครอบคลุมทรัพย์สินด้วย เนื่องจากฝรั่งเศสและอิตาลีก็ขึ้นชื่อเรื่องขโมยพอสมควร
*** ต้องซื้อประกันกับบริษัทที่ได้รับการรับรองจากประเทศที่เราจะขอวีซ่าด้วย
(ดูได้จาก https://fr.tlscontact.com/th/BKK/page.php?pid=Insurance)
5. เลือกประเทศที่จะทำเรื่องขอวีซ่าเชงเก้น
โดยเลือกจากประเทศที่เราจะไปพักนานที่สุด แต่ถ้าพักพอๆกันให้ไปขอวีซ่าที่ประเทศแรก นั่นคือประเทศ ฝรั่งเศส
6. เตรียมเอกสารต่างๆเพื่อยื่นขอวีซ่า เช่น พลาสปอร์ต เอกสารรับรองต่างๆ... ซึ่งรายละเอียดอยู่ด้านล่างเลยจ้าาา~
มาถึงขั้นตอนการเตรียมเอกสารขอวีซ่ากันค่ะ เรียงเอกสารตามนี้ค่ะ (ทุกคนต้องมีเอกสารทั้งหมดคนละ 1 ชุด)
1. Application form สมัครและกรอกข้อมูลที่เว็บไซต์สถานฑูตฝรั่งเศส (https://france-visas.gouv.fr/en_US/web/france-visas) เสร็จแล้วให้ Print form ออกมา (ดูวิธีการกรอกเป็นภาษาไทยได้จาก https://static.tlscontact.com/media/th/guidebook_france_visa.pdf)
*** ขั้นตอนนี้ถ้าไปหลายคนให้กรอกรายละเอียดต่างๆคนเดียวพอ เพราะในหน้าสรุปตอนสุดท้ายจะมีให้เราเลือกเพิ่มผู้ร่วมเดิมทางได้ (ใน pdf วิธีกรอกจะมีเขียนบอกอยู่ตอนท้ายๆ)
2. ลงทะเบียน ในเว็บตัวแทน TLS contact เพื่อนัดหมายวันที่จะเข้าไปขอวีซ่า ( https://fr.tlscontact.com/th/BKK/index.php ) หลังจากนั้นให้ print form ออกมา
*** ขั้นตอนนี้ผู้เดินทางต้องลงทะเบียนทุกคน แต่การยื่นนัดหมายให้ยื่นเพียงคนเดียว และใส่ ID ของผู้ร่วมเดินทางทุกคนไว้ด้วยกัน
ตอนแรก จขกท.ตั้งใจว่ากรอกเสร็จ แล้ววันรุ่งขึ้นจะนัดยื่นเอกสารเลยปรากฎว่า..... คิวเต็มจ้า! เลยต้องเลื่อนไปอีก 1 อาทิตย์ ดังนั้นควรกรอกแต่เนิ่นๆ เนื่องจากคิวไม่ได้ว่างตลอด ถ้าอยากได้คิวด่วนหรือวันเสาร์จะต้องเเสียเงินเพิ่มคนละ 1,600 บาท ย้ำว่าคนละ 1,600 บาท!
3. ถ่ายรูปหน้าตรง 3.5*4.5cm จำนวน 2 รูป พื้นหลังสีขาว ไม่สวมเครื่องประดับ ใบหู คิ้ว ต้องปรากฎ จขกท.เข้าร้านถ่ายรูปได้มาทั้งหมด 5 ใบ ราคา 200 บาท ซึ่ง ปกติ จขกท เป็นคนใส่คอนแทคเลนส์ที่มีสี ดังนั้น ต้องถอดก่อนถ่ายรูปจ้า
4. Passport เล่มจริง ทั้งเล่มเก่า/ใหม่ พร้อมกับสำเนาหน้า passport เล่มเก่า/ใหม่ อย่างละ 1 แผ่น
** หนังสือเดินทางจะต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันเดินทางกลับ **
5. บัตรประชาชน และสำเนาบัตรประชาชน 1 แผ่น
6. สำเนา ใบเปลี่ยน ชื่อ - สกุล , ทะเบียนสมรส , ใบเปลี่ยนคำนำหน้า ****ทุกอย่างแปลเป็นภาษาอังกฤษ **** และสำเนาใบเปลี่ยนชื่อสุกลภาษาไทย อย่างละ 1 แผ่น (เดี๋ยวจะเอาตัวอย่างเอกสารแปลมาโพสใน comment ให้อีกทีนะคะ)
*** เนื่องจาก จขกท.ต้องแปลเอกสารหลายแผ่น แต่ราคาจ้างแปลตกอยู่ที่ประมาณแผ่นละ 200-300 บาท จึงลองหาข้อมูลดูและพบว่า ถ้าเป็นการขอวีซ่าระยะสั้น ไม่จำเป็นต้องมีตราปั๊มก็ได้ จึงทำการแปลและรับรองเอกสารเองทั้งหมด โดยแบบฟอร์มการแปลเอกสารสามารถดาวน์โหลดได้จาก http://www.consular.go.th/main/th/form/1421/72106-ทะเบียนสมรส.html
7. หลักฐานเอกสารการจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ
8. เอกสารประกันภัยการเดินทาง print แค่กรมธรรม์ที่เป็นภาษาอังกฤษไปก็พอ ไม่ต้อง print ข้อแถลงใบกรมธรรม์ที่มี 30 กว่าหน้าไปด้วย
*** จะต้องเป็นประกันที่สามารถยื่นขอวีซ่าได้ (https://fr.tlscontact.com/th/BKK/page.php?pid=Insurance) โดยวงเงินประกันต้องไม่ต่ำกว่า 1,500,000 บาท
9. หลักฐานเอกสารยืนยันที่พัก ทุกคืนที่ไปเที่ยว *ระบุชื่อผู้เข้าพัก และผู้ติดตามทั้งหมด* + plan การท่องเที่ยว + ตั๋วรถไฟ + ตั๋วรถบัส
ตอนแรก จขกท.ไม่ทราบว่าต้องระบุชื่อผู้เข้าพักทุกคน ตอนจองเลยไม่ได้ระบุไว้ แต่สามารถเพิ่มเติมหลังจากจองไปแล้วได้ โดย Airbnb, Booking สามารถแก้ไขเองในเว็บได้เลย แล้วค่อย Print ส่วนของ Agoda จะยุ่งยากนิดนึงตรงที่แก้ไขเองไม่ได้ จะต้องโทรหรือทักแชทไปหา Agoda เพื่อเพิ่มชื่อผู้เข้าพัก และ Agoda จึงจะส่ง email มาให้ใหม่
10. รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือนเป็น ภาษาอังกฤษ
บางธนาคารสามารถขอ statement ย้อนหลังเป็นภาษาอังกฤษจากใน App ของธนาคารได้เลย
แต่บางธนาคารไม่สามารถขอได้ จะต้องไปขำที่ธนาคาร โดยแจ้งว่าขอ statement ย้อนหลังเป็นภาษาอังกฤษ (เสีย 100 บาท)
ที่ TLS แจ้งว่า สามารถถ่ายเอกสารจากสมุดบัญชีของเราเองได้เลย ถ้าเรามีการปรับสมุดบัญชีตลอด โดยถ่ายหน้าแรก และรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน แบบนี้ก็จะฟรี
*** ควรจะมีเงินอยู่ในบัญชีมากกว่า 120 ยูโรต่อจำนวนวันที่เราไป เช่น จขกท.ไป 12 วัน ก็ควรจะมีเงินติดบัญชีมากกว่า 1,440 ยูโร (~5หมื่นบาท) ซึ่งจขกท.และสามีมีเงินอยู่ในบัญชีที่นำไปยื่นของแต่ละคนอยู่หลักหมื่นปลายๆ ตอนที่ไปยื่นขอวีซ่า
11. เอกสารรับรองการทำงานเป็นภาษาอังกฤษ ออกเอกสารโดยที่ทำงาน ( ของจขกท มีแค่ ทำงานตำแหน่ง อะไร เริ่มทำงานเมื่อไหร่ เงินเดือนเท่าไหร่ แค่นี้ค่ะ) แต่ถ้าจะให้ดีต้องมีระบุวันลาด้วย
12. เอกสารแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ( อันนี้ก็ทำเองเหมือนกัน )
--------------------------------------------------------------------------------
เอกสารก็มีประมาณนี้ที่ได้เตรียมไป ถ้าเกิดเอกสารไม่ครบ สามารถยื่นเพิ่มเติมได้ภายในวันนั้นเลยก่อน 14.30 น
จขกท.แนะนำว่าไม่ควรเย็บแมกเอกสารไปเนื่องจากจะทำให้พี่ที่ตรวจเอกสาร ใช้เวลาในการแกะ ควรใช้คลิปหนีบแทน หรือไม่ก็ไม่ต้องเย็บแมกเอกสารเลย และให้เรียงเอกสารตามเว็บ TLS แนะนำ เพราะจะทำให้ตรวจเอกสารได้รวดเร็ว
ข้อสังเกต คือ ชื่อ-นามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ ในเอกสารทุกแผ่นจะต้องตรงกัน และเลข passport ต้องถูกต้องนะคะ
ตอนแรก จขกท.ก็สงสัยว่าพวกที่พักเราสามารถ print ไปชุดเดียวแล้วยื่นคู่กับสามีเลยได้มั้ย
(เพราะเราย้ายที่พักแทบจะทุกวัน เอกสารที่พักเลยหนามากกกกกก~)
สรุปว่า เอกสารทุกอย่างต้องเตรียม 1 ชุด/1 คน นะจ๊ะ หนาแค่ไหนก็ต้องยอม
สุดท้ายนี้ จขกท.ได้ทำการขอวีซ่า เมื่อวันที่ 23/09/2019 นี้ และจะบินช่วงวันที่12/10/2019
(สถานทูตจะเรียงลำดับความสำคัญในการอนุมัติคำขอวีซ่า จากวันที่ออกเดินทางก่อนเป็นหลัก)
ตอนนี้วีซ่าส่งไป สถานทูต ฝรั่งเศส แล้วรอการอนุมัติอยู่ เดี๋ยวได้ผลแล้วจะมาค่อยอัพเดทอีกทีนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้