ก่อนอื่น จขกท.ต้องขอบอกว่า แรกเริ่มเดิมทีนั้น ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมาติดละครเรื่องนี้ แต่อย่างใด และเคยได้ยินเสียงแซะนิด ๆ บ่อย ๆ ว่า เห้ยยละครงมงาย ละครเวิ่นเว้อ ละครไม่น่าติดตาม ฯลฯ (แต่ๆๆๆๆ ช้าก่อนค่ะ หลังจากตอนที่ 1 ได้ออนแอร์ไป จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ เสียงแซะเหล่านั้นหายไปไหน มีแต่ เห้ยยแกรเมื่อไรจะถึงวันจันทร์ เห้ยแกตกลงใครจะเป็นเหยื่ออ่ะ เห้ยแกบลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)
****เรื่องราวข้างต้น มันทำให้ จขกท.คิดได้ว่า การตินั้น มีอยู่ 2 ประเภท คือ 1 ติเพื่อก่อ กับ 2 ติเพื่อทำลาย สนองอารมณ์ความคึกคะนอง ความชอบของตัวเอง คนประเภทที่2นี้ ยากหน่อย เพราะ ต่อให้ดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ตรงใจตัวเอง ก็คือไม่ดี
*****เอาละ มาถึงตัว จขกท.บ้างดีกว่า หลังจากดูตอนแรกแล้ว บอกได้เลยว่า ยังไม่เคยพลาดอีกเลยแม้แต่ฉากเดียว แหะ ๆ คือ ถามว่าเนื้อหาชวนให้งมงายไหมนี่ ก็ อยากจะถามคนที่ถามคำถามว่า คุณเคยดูดวงไหม คุณเคยใส่เสื้อ ใช้อะไรแบบสีต้องห้าม สีถูกโฉลกไหม เวลาจะทำอะไร สักครั้งคุณอาศัยฤกษ์งามยามดีไหม
*****สำหรับ จขกท. สิ่งที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่ทำมาทั้งหมดแหละ ชอบด้วยนะ 555+
******ฤกษ์สังหาร นำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ เพื่อแย่งชิงให้ได้มาซึ่งอำนาจ ซึ่งเราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นมากนัก กับการต่อสู้ในรูปแบบนี้เพราะ ส่วนมาก เราจะเห็นและคุ้นชินกับการสังหารโดยใช้ ปืน ผา หน้าไม้ อาวุธชีวภาพ ฯลฯ แต่เรื่องนี้กลับใช้ศาสตร์แห่งโหร คำทำนายแห่งพยากรณ์ ที่กุมความเร้นลับของอนาคตมาฟาดฟันต่อสู้กัน ด้วยเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ โดยมีตัวละครที่สื่อให้เห็นถึงด้านมืด ด้านดี ด้านเลว รวมถึงด้านเทา ๆ เราลองมาดูกันนะคะ
1. มหากะทิง นักพยากรณ์หนุ่มหน้ามน รูปหล่อ บ้านรวย เรียกได้ว่า ครบสูตร ตามสเป๊กสาว ๆ กันเลยทีเดียว นี่ถ้าอยู่ในยุคนี้ รับรองว่า คิวแน่นยาวไปถึงดาวอังคารแน่ ๆ ค่ะ (ฌอห์ณ จินดาโชติ) เหมาะนะ กับรูปลักษณ์ และเค้าโครง หน้าตา วาจา การวางตัว สีหน้า แววตา ท่วงทำนองการพูด และเชื่อว่า กว่าที่จะมาเป็นละคร เขาคงได้ไปศึกษาศาสตร์ด้านนี้มาแล้วไม่น้อย เพราะพูดจนเราคล้อยตามได้ ในเรื่องนี้ เขาคือ ตัวแทนแห่งความดี หมอดูฝ่ายขาว จะเรียกได้ว่า ผู้พิทักษ์ก็ไม่น่าจะผิดเขาต้องพิทักษ์บ้านเมืองและปกป้องเหยื่อผู้บริสุทธิ์รวมถึงคนรักของเขาด้วย ถามว่าเราได้ข้อคิดอะไรจาก มหากะทิง เหรอ เอาจริง ๆ นะ จขกท. เชื่อว่า ด้วยแววตา สีหน้า ท่าทางแล้ว มหา น่าจะเป็นคนใจร้อนไม่เบา แต่เขาเลือกที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเอง และในความเป็นจริง บ้านค่อนข้างมีฐานะขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องมาวุ่นวาย ช่วยเหลือใคร จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดก็ได้ ถ้าถามว่า ที่ทำเพราะอยากช่วยแฟนตัวเอง จขกท.บอกได้เลยว่า ไม่หรอก เพราะนางเอก ธาตุไฟ หากจะทำพิธีนั้น ข้อจำกัดคือต้องเป็นสาวบริสุทธิ์ แค่มหา ......ก็จบป่ะ ช่วยได้แล้ว แต่นี่เขาเลือกที่จะปกป้องบ้านเมือง เลือกที่จะใช้วิชาความรู้ที่ตัวเองมี มาพิทักษ์บ้านเมือง ไม่เพิกเฉย นี่คือ คนที่ให้ข้อคิดดี ๆ ที่หลาย ๆ คนควรเอาเยี่ยงอย่างนะ
2.อุทธิ หมอดูศาสตร์มืดดดดดดดดดด เลวทราม ต่ำช้า มิน่าเกิดมาเป็นคนได้เลยจริง ๆ นะ แต่ ก็นั่นแหละ เพราะโลกเราไม่ได้มีแต่คนดีไง และก็ไม่มีใครห้ามได้ว่า คนเลวห้ามเก่ง ห้ามมีวิชา ความรู้ นี่แหละสิ่งที่น่ากลัวในสังคม ก็คือ ความคิดวิทยาและอาวุธ ที่ตกอยู่ในมือคนเลว เพราะนั่นเท่ากับทำให้เขาทำเลวได้ง่ายขึ้น และหากไม่มีคนดีมาคานอำนาจ บ้านเมืองก็คงวุ่นวายไปมิอาจจะรู้ได้ว่าเราจะต้องพบกับอะไร....นี่คือตัวอย่างของคนที่ใช้วิชาความรู้ในทางที่ไม่ควร แต่ก็นะ เขาก็ทำเพื่อให้ได้มาซึ่ง ชื่อเสียง อำนาจ เกียรติยศ คนแบบนี้มีอยู่จริง ในสังคม และรังแต่จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ อุทธิ นอกจากจะเป็นตัวแทนแห่งความเลวร้ายทั้งปวงแล้ว ยังสอนให้เรารู้ว่า คนชั่วมีทั่วทุกวงการ
3.ไอ้รวี ไอ้นี่ก็ชั่วตัวพ่อ ไอ้คนนี้ น่ากลัวมาก เรียกได้ว่า พ่อแห่งวงการความชั่วเลยแหละ คือ เขาไม่ได้มีความรู้อะไรเลยนะ แค่ฉลาด ที่จะใช้คน ฉลาดที่จะทำให้ตัวเองเด่นดัง คนแบบนี้ โคตรน่ากลัวเข้าไปอีก คือเอาจริง ๆ ถ้ามีแต่อุทธิ เขาก็มาไม่ได้ถึงจุดนี้ หรอก แต่นี่พอมารวมกันเป็นสหวิชาแห่งความชั่ว ก็ยิ่งทวีความชั่วเข้าไปกันใหญ่ มันสะท้อนให้เห็นว่า เพื่ออำนาจแล้ว เพื่อความมักใหญ่ใฝ่สูงและความไม่รู้จักพอแล้ว มันจะทำให้เรากลายเป็นสัตว์นรกร้าย ได้ทันที ต่อมความสำนึกผิดชอบชั่วดีก็มลายหายไปสิ้น รวี รู้ว่า พวกกลุ่มคนชั้นเลวทุกวงการรอบกายเขา ต้องการอะไร เขาก็เสนอข้อแลกเปลี่ยนเหล่านั้นให้ และเมื่อข้อเสนอมากพอ คนชั่ว ก็ย่อมร่วมมือกัน ง่าย ๆ เรียกได้ว่า ที่ไหนมีผลประโยชน์ที่นั่นมักจะมีคนเลว
4.ท่านเบญจวรรณ ผู้หญิงคนนี้ ไม่ควรมีคนเดียวในโลก คนดี ๆ ที่ยอมทำเพื่อประชาชน ถามว่า ในสังคมนี้ มีไหม ตอบได้ว่า มีซิ เพียงแค่เราอาจจะไม่รู้ ก็แค่นั้น ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ท่านเบญจวรรณ ทำให้เราเห็นถึงการทำความดี ที่ต้องต่อสู้และคานอำนาจกับความชั่ว ทั้งในส่วนตัวและสังคม จริง ๆ แล้วท่านจะเป็นรองฯเฉย ๆ เสียก็ได้ สร้างภาพไปวัน ๆ แต่ท่านไม่ทำแบบนั้น เพราะจิตใจฝ่ายดีมันชนะความอยากในใจท่านได้ แต่การทำดีนั้นก็ไม่ได้สำเร็จง่าย ๆ นะ ต้องต่อสู้กันยืดยาวเลยทีเดียว
5.สารวัตรศรีล คนนี้นี่นะ บางฉากก็อยากจะตีให้ตาย คนบ้าอะไร เกรี้ยวกราด เก่ง โมโหเก่ง โวยวายเก่ง มิหนำซ้ำยังมาสงสัยมหากะทิงของฉันอีก อคติชัด ๆ แต่ๆๆๆ เขาก็สอนอะไร ๆ เราหลาย ๆ อย่างนะ คือ จะว่าไป ก็คือตัวแทนสีเทาได้นะ คือ ไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่ได้เลวแบบเพื่อตัวเองไง อาจจะดูร้าย ๆ แต่เพื่อปกป้องคนรอบข้าง อาจจะดูเอาแต่ความคิดตัวเอง เอาแต่อารมณ์ แต่คือ ไม่ใช่คนเลวไง อาจจะเข้าใจผิด สงสัยผิด แต่สุดท้ายก็รู้ความจริง หาคำตอบได้ รับมือได้ สุดท้ายคือ ก็รักแหละสารวัตร
6.หมอชิงดวง นางน่ารัก ทำให้รู้ว่า ความสามารถของคนเรา ถ้ารู้จริง มันก็สามารถสานต่อให้คนอื่นได้ ช่วยหาหลักฐานได้ คือ ไม่มีอาชีพไหน หรือใครหรอกที่ไม่สำคัญ เพราะถ้าอยากให้งานสำเร็จมันก็ต้องช่วยกันทุกฝ่าย อีกทั้งเรื่องนี้ เมย์สวยมาก น่ารัก ชอบ ๆ
7.เฮียนง อันนี้ สื่อสายขาวเลยแหละ น่ารัก มีน้ำใจ ช่วยเหลือมหาทุกอย่างเพราะเคยช่วยเหลือกันมา เรียกได้ว่ามิตรแท้เลยก็ว่าได้ รักนะคะเฮีย ขอให้เฮียปลอดภัย
******สรุปแล้ว จขกท. คิดว่า เรื่องนี้ สอนให้เราเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ให้เราเข้าใจในหลาย ๆ สิ่ง ที่สำคัญทำให้เรารู้ว่า สิ่งที่สำคัญไม่ใช่การที่เราเป็นคนดีหรอก หากแต่ว่า สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เราจะต้องไม่เพิกเฉยต่อความเลว หากเราเห็นว่าเขาทำเลว เราเองก็ต้องลุกขึ้นสู้และรับมือกับมัน
********สังหรณ์ใจว่า ดาว จะกลายเป็นเหยื่อ รายต่อไป และก็เชื่อว่า งานของฝ่ายคนชั่ว มันต้องมีอะไรผิดพลาดตั้งแต่ตอนนี้แหละ แต่ เรื่องดาวนี่ ก็ทำให้เราได้รู้นะว่า รักมากแค่ไหน ก็ไม่จำเป็นต้องคล้อยตาม เห็นด้วยกับความเลวที่คนรักทำ เหมือนกับดาวที่เลือกไปบอกสารวัตรศรีลให้ไปดูนั่นแหละ และดาวอีกเช่นกันที่ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า หลาย ๆ คน ที่ความรัก=ความเห็นแก่ตัว แบบอุทธิ ถึงรักดาว แต่ก็คงจะรักตัวเองมากกว่า ถึงได้ทำชั่วช้ากับดาว ขออย่าให้มันได้ตายดีเลยไอ่อุทธิกับไอ่รวีเนี้ยยยยยย สงสารดาววววววววววววววววววววววววววววว
***********อีกเรื่องที่ได้จากละครเรื่องนี้คือ จขกท.จะกลายร่างเป็นโคนัน อยู่แล้วววววววววววววววววว คิด วิเคราะห์ แยกแยะความเป็นไปได้ ทุกตอนซินะ ทุกวันนี้ เวลาละครจบแล้ว จขกท.ยังไม่จบนะคะ ท่อง ไอจี ทวิต พันทิป วนไป เพื่อที่จะสืบว่า ใครจะเป็นเหยื่อ คนไหนจะดีจะร้าย หลวงน้า จะมีอะไรในกุฏิไหม โอ้ยยยยยยยยยยยยย ยากกว่าข้อสอบ ก็คำตอบละครช่องวันนี่ละจ้า
ดูละครแล้วย้อนดูตัว (ฤกษ์สังหาร)
****เรื่องราวข้างต้น มันทำให้ จขกท.คิดได้ว่า การตินั้น มีอยู่ 2 ประเภท คือ 1 ติเพื่อก่อ กับ 2 ติเพื่อทำลาย สนองอารมณ์ความคึกคะนอง ความชอบของตัวเอง คนประเภทที่2นี้ ยากหน่อย เพราะ ต่อให้ดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ตรงใจตัวเอง ก็คือไม่ดี
*****เอาละ มาถึงตัว จขกท.บ้างดีกว่า หลังจากดูตอนแรกแล้ว บอกได้เลยว่า ยังไม่เคยพลาดอีกเลยแม้แต่ฉากเดียว แหะ ๆ คือ ถามว่าเนื้อหาชวนให้งมงายไหมนี่ ก็ อยากจะถามคนที่ถามคำถามว่า คุณเคยดูดวงไหม คุณเคยใส่เสื้อ ใช้อะไรแบบสีต้องห้าม สีถูกโฉลกไหม เวลาจะทำอะไร สักครั้งคุณอาศัยฤกษ์งามยามดีไหม
*****สำหรับ จขกท. สิ่งที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่ทำมาทั้งหมดแหละ ชอบด้วยนะ 555+
******ฤกษ์สังหาร นำเสนอเรื่องราวการต่อสู้ เพื่อแย่งชิงให้ได้มาซึ่งอำนาจ ซึ่งเราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นมากนัก กับการต่อสู้ในรูปแบบนี้เพราะ ส่วนมาก เราจะเห็นและคุ้นชินกับการสังหารโดยใช้ ปืน ผา หน้าไม้ อาวุธชีวภาพ ฯลฯ แต่เรื่องนี้กลับใช้ศาสตร์แห่งโหร คำทำนายแห่งพยากรณ์ ที่กุมความเร้นลับของอนาคตมาฟาดฟันต่อสู้กัน ด้วยเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ โดยมีตัวละครที่สื่อให้เห็นถึงด้านมืด ด้านดี ด้านเลว รวมถึงด้านเทา ๆ เราลองมาดูกันนะคะ
1. มหากะทิง นักพยากรณ์หนุ่มหน้ามน รูปหล่อ บ้านรวย เรียกได้ว่า ครบสูตร ตามสเป๊กสาว ๆ กันเลยทีเดียว นี่ถ้าอยู่ในยุคนี้ รับรองว่า คิวแน่นยาวไปถึงดาวอังคารแน่ ๆ ค่ะ (ฌอห์ณ จินดาโชติ) เหมาะนะ กับรูปลักษณ์ และเค้าโครง หน้าตา วาจา การวางตัว สีหน้า แววตา ท่วงทำนองการพูด และเชื่อว่า กว่าที่จะมาเป็นละคร เขาคงได้ไปศึกษาศาสตร์ด้านนี้มาแล้วไม่น้อย เพราะพูดจนเราคล้อยตามได้ ในเรื่องนี้ เขาคือ ตัวแทนแห่งความดี หมอดูฝ่ายขาว จะเรียกได้ว่า ผู้พิทักษ์ก็ไม่น่าจะผิดเขาต้องพิทักษ์บ้านเมืองและปกป้องเหยื่อผู้บริสุทธิ์รวมถึงคนรักของเขาด้วย ถามว่าเราได้ข้อคิดอะไรจาก มหากะทิง เหรอ เอาจริง ๆ นะ จขกท. เชื่อว่า ด้วยแววตา สีหน้า ท่าทางแล้ว มหา น่าจะเป็นคนใจร้อนไม่เบา แต่เขาเลือกที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเอง และในความเป็นจริง บ้านค่อนข้างมีฐานะขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องมาวุ่นวาย ช่วยเหลือใคร จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดก็ได้ ถ้าถามว่า ที่ทำเพราะอยากช่วยแฟนตัวเอง จขกท.บอกได้เลยว่า ไม่หรอก เพราะนางเอก ธาตุไฟ หากจะทำพิธีนั้น ข้อจำกัดคือต้องเป็นสาวบริสุทธิ์ แค่มหา ......ก็จบป่ะ ช่วยได้แล้ว แต่นี่เขาเลือกที่จะปกป้องบ้านเมือง เลือกที่จะใช้วิชาความรู้ที่ตัวเองมี มาพิทักษ์บ้านเมือง ไม่เพิกเฉย นี่คือ คนที่ให้ข้อคิดดี ๆ ที่หลาย ๆ คนควรเอาเยี่ยงอย่างนะ
2.อุทธิ หมอดูศาสตร์มืดดดดดดดดดด เลวทราม ต่ำช้า มิน่าเกิดมาเป็นคนได้เลยจริง ๆ นะ แต่ ก็นั่นแหละ เพราะโลกเราไม่ได้มีแต่คนดีไง และก็ไม่มีใครห้ามได้ว่า คนเลวห้ามเก่ง ห้ามมีวิชา ความรู้ นี่แหละสิ่งที่น่ากลัวในสังคม ก็คือ ความคิดวิทยาและอาวุธ ที่ตกอยู่ในมือคนเลว เพราะนั่นเท่ากับทำให้เขาทำเลวได้ง่ายขึ้น และหากไม่มีคนดีมาคานอำนาจ บ้านเมืองก็คงวุ่นวายไปมิอาจจะรู้ได้ว่าเราจะต้องพบกับอะไร....นี่คือตัวอย่างของคนที่ใช้วิชาความรู้ในทางที่ไม่ควร แต่ก็นะ เขาก็ทำเพื่อให้ได้มาซึ่ง ชื่อเสียง อำนาจ เกียรติยศ คนแบบนี้มีอยู่จริง ในสังคม และรังแต่จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ อุทธิ นอกจากจะเป็นตัวแทนแห่งความเลวร้ายทั้งปวงแล้ว ยังสอนให้เรารู้ว่า คนชั่วมีทั่วทุกวงการ
3.ไอ้รวี ไอ้นี่ก็ชั่วตัวพ่อ ไอ้คนนี้ น่ากลัวมาก เรียกได้ว่า พ่อแห่งวงการความชั่วเลยแหละ คือ เขาไม่ได้มีความรู้อะไรเลยนะ แค่ฉลาด ที่จะใช้คน ฉลาดที่จะทำให้ตัวเองเด่นดัง คนแบบนี้ โคตรน่ากลัวเข้าไปอีก คือเอาจริง ๆ ถ้ามีแต่อุทธิ เขาก็มาไม่ได้ถึงจุดนี้ หรอก แต่นี่พอมารวมกันเป็นสหวิชาแห่งความชั่ว ก็ยิ่งทวีความชั่วเข้าไปกันใหญ่ มันสะท้อนให้เห็นว่า เพื่ออำนาจแล้ว เพื่อความมักใหญ่ใฝ่สูงและความไม่รู้จักพอแล้ว มันจะทำให้เรากลายเป็นสัตว์นรกร้าย ได้ทันที ต่อมความสำนึกผิดชอบชั่วดีก็มลายหายไปสิ้น รวี รู้ว่า พวกกลุ่มคนชั้นเลวทุกวงการรอบกายเขา ต้องการอะไร เขาก็เสนอข้อแลกเปลี่ยนเหล่านั้นให้ และเมื่อข้อเสนอมากพอ คนชั่ว ก็ย่อมร่วมมือกัน ง่าย ๆ เรียกได้ว่า ที่ไหนมีผลประโยชน์ที่นั่นมักจะมีคนเลว
4.ท่านเบญจวรรณ ผู้หญิงคนนี้ ไม่ควรมีคนเดียวในโลก คนดี ๆ ที่ยอมทำเพื่อประชาชน ถามว่า ในสังคมนี้ มีไหม ตอบได้ว่า มีซิ เพียงแค่เราอาจจะไม่รู้ ก็แค่นั้น ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ท่านเบญจวรรณ ทำให้เราเห็นถึงการทำความดี ที่ต้องต่อสู้และคานอำนาจกับความชั่ว ทั้งในส่วนตัวและสังคม จริง ๆ แล้วท่านจะเป็นรองฯเฉย ๆ เสียก็ได้ สร้างภาพไปวัน ๆ แต่ท่านไม่ทำแบบนั้น เพราะจิตใจฝ่ายดีมันชนะความอยากในใจท่านได้ แต่การทำดีนั้นก็ไม่ได้สำเร็จง่าย ๆ นะ ต้องต่อสู้กันยืดยาวเลยทีเดียว
5.สารวัตรศรีล คนนี้นี่นะ บางฉากก็อยากจะตีให้ตาย คนบ้าอะไร เกรี้ยวกราด เก่ง โมโหเก่ง โวยวายเก่ง มิหนำซ้ำยังมาสงสัยมหากะทิงของฉันอีก อคติชัด ๆ แต่ๆๆๆ เขาก็สอนอะไร ๆ เราหลาย ๆ อย่างนะ คือ จะว่าไป ก็คือตัวแทนสีเทาได้นะ คือ ไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่ได้เลวแบบเพื่อตัวเองไง อาจจะดูร้าย ๆ แต่เพื่อปกป้องคนรอบข้าง อาจจะดูเอาแต่ความคิดตัวเอง เอาแต่อารมณ์ แต่คือ ไม่ใช่คนเลวไง อาจจะเข้าใจผิด สงสัยผิด แต่สุดท้ายก็รู้ความจริง หาคำตอบได้ รับมือได้ สุดท้ายคือ ก็รักแหละสารวัตร
6.หมอชิงดวง นางน่ารัก ทำให้รู้ว่า ความสามารถของคนเรา ถ้ารู้จริง มันก็สามารถสานต่อให้คนอื่นได้ ช่วยหาหลักฐานได้ คือ ไม่มีอาชีพไหน หรือใครหรอกที่ไม่สำคัญ เพราะถ้าอยากให้งานสำเร็จมันก็ต้องช่วยกันทุกฝ่าย อีกทั้งเรื่องนี้ เมย์สวยมาก น่ารัก ชอบ ๆ
7.เฮียนง อันนี้ สื่อสายขาวเลยแหละ น่ารัก มีน้ำใจ ช่วยเหลือมหาทุกอย่างเพราะเคยช่วยเหลือกันมา เรียกได้ว่ามิตรแท้เลยก็ว่าได้ รักนะคะเฮีย ขอให้เฮียปลอดภัย
******สรุปแล้ว จขกท. คิดว่า เรื่องนี้ สอนให้เราเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ให้เราเข้าใจในหลาย ๆ สิ่ง ที่สำคัญทำให้เรารู้ว่า สิ่งที่สำคัญไม่ใช่การที่เราเป็นคนดีหรอก หากแต่ว่า สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เราจะต้องไม่เพิกเฉยต่อความเลว หากเราเห็นว่าเขาทำเลว เราเองก็ต้องลุกขึ้นสู้และรับมือกับมัน
********สังหรณ์ใจว่า ดาว จะกลายเป็นเหยื่อ รายต่อไป และก็เชื่อว่า งานของฝ่ายคนชั่ว มันต้องมีอะไรผิดพลาดตั้งแต่ตอนนี้แหละ แต่ เรื่องดาวนี่ ก็ทำให้เราได้รู้นะว่า รักมากแค่ไหน ก็ไม่จำเป็นต้องคล้อยตาม เห็นด้วยกับความเลวที่คนรักทำ เหมือนกับดาวที่เลือกไปบอกสารวัตรศรีลให้ไปดูนั่นแหละ และดาวอีกเช่นกันที่ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า หลาย ๆ คน ที่ความรัก=ความเห็นแก่ตัว แบบอุทธิ ถึงรักดาว แต่ก็คงจะรักตัวเองมากกว่า ถึงได้ทำชั่วช้ากับดาว ขออย่าให้มันได้ตายดีเลยไอ่อุทธิกับไอ่รวีเนี้ยยยยยย สงสารดาววววววววววววววววววววววววววววว
***********อีกเรื่องที่ได้จากละครเรื่องนี้คือ จขกท.จะกลายร่างเป็นโคนัน อยู่แล้วววววววววววววววววว คิด วิเคราะห์ แยกแยะความเป็นไปได้ ทุกตอนซินะ ทุกวันนี้ เวลาละครจบแล้ว จขกท.ยังไม่จบนะคะ ท่อง ไอจี ทวิต พันทิป วนไป เพื่อที่จะสืบว่า ใครจะเป็นเหยื่อ คนไหนจะดีจะร้าย หลวงน้า จะมีอะไรในกุฏิไหม โอ้ยยยยยยยยยยยยย ยากกว่าข้อสอบ ก็คำตอบละครช่องวันนี่ละจ้า