วิบากกรรม พอเราโดนหอมแก้ม เราควรทำอย่างไรต่อไป?
เป็นแฟนกันแล้ว หอมแก้มกันแล้ว เหมือนกับหยิน (阴) หยาง (阳) ช๊อต ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจอะไรมากมาย แต่เป็นปฏิกิริยาของธรรมชาติ พอช็อตแล้วต้องไปสานต่อแล้ว มันคืออะไร ต้องไปเรียนรู้
ทำไมเราเป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้นแล้ว รู้สึกว่าไม่ได้มีความสุขเลย นี่แหละเป็นของแท้ของเธอ แต่ทำไมเธอถึงยังรู้สึกอยากไขว่คว้าหา ก็เพราะว่า เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า นี่แหละเราทำอะไร เป็นอะไร
นี่แหละ เป็นเพราะตัว "อหังการ" ตัวอหังการบอกว่า ไม่แน่หรอก ไม่จริงหรอก เธอไม่ยอมรับความจริง
ผู้ชายบางคนก็คิดเช่นเดียวกัน เพราะว่าไม่แน่หรอก ไม่จริงหรอก จึงไขว่คว้ากินเหล้าผสมหลายอย่าง
อย่างเดียวกัน ไม่แน่ ไม่จริง ไขว่คว้าหาจะเอารักอยู่นั่นแหละ ทั้งๆ รู้ว่าตัวเองไม่ได้ถึงจุดหนึ่ง ซึ่งต้องไปทำร้ายเขา ก็ยังไปเอาอีก เห็นหรือไม่
ให้เห็นถึงความรู้สึกอหังการ เป็นอย่างไร เป็นเช่นไร ถ้าเราไม่ฝึกควบคุมตัวนี้ได้ เราก็จะทุกข์มาก บรรเทาทุกข์ไม่ได้ ก็จะเพิ่มทุกข์ขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหตุแห่งทุกข์ไม่ละ แต่กลับไปเพิ่ม พอเรารู้สาเหตุแห่งทุกข์ เราต้องละ
ในเมื่อเรารู้เช่นนั้น เราจะไปก่อบาปให้กับบุคคลอื่นทำไม เพราะเขายังต้องการอยู่ เราเห็นแก่ตัว เราทำบาปทุกวัน ตายห่าเลย เพราะเขายังต้องการอย่างนั้น แล้วเราทำให้เขาไม่ได้ แต่เรายังไปบังคับให้เขามา แล้วเป็นอย่างนั้น บังคับให้เป็นไปตามใจเราต้องการ โคตรบาปไหม?ฉะนั้น เรารู้ว่าเราเป็นอย่างนั้น ก็ให้สาธุให้เขา ให้เขาไปมีความสุขกับคนใหม่เถิด ให้เขามีความเป็นอยู่นั้น เราก็มีความเป็นสุขเช่นเรานี้
ถ้าไม่ถูกจุดเราจะไม่มีความรู้สึกเช่นนี้ ว่า พอเราโดนถูกจูบแล้ว เราจะบังคับให้อีกฝ่ายหนึ่งจูบ แล้วคิดอย่างเรา เขาก็ตาย เป็นไปไม่ได้
ถึงเวลา เขาอยากแต่เราไม่อยาก เราให้เขาไม่ได้ บาปมั้ย บาปมากเลย เราต้องสาธุให้เขาเป็นอยู่อย่างนั้น เราอย่าไปทำให้เขาทุกข์ เราเป็นอย่างนี้เราต้องเป็นอยู่ของเราแบบนี้ ต้องยอมรับความจริง เราก็ต้องคลายทุกข์ ถ้าเราไม่รับความจริง ทุกข์ก็เพิ่มขึ้น จนตัวเองทนไม่ไหว ก็ต้องไปก่อวิบากกรรม แล้วเราก่อมากี่ปี กี่ชาติ กี่ภพมาแล้ว ยังจะก่ออีกหรือ? ฉลาดตรงไหน ก่อกรรมมากี่ชาติแล้ว แล้วมาชาตินี้มาเจอผู้รู้อธิบายให้เข้าใจแล้วเรายังจะไปทำไม่ดีอีกหรือ?
เรามีเส้นทางอื่นที่จะปลดทุกข์ตัวเองแล้ว ทำไมไม่ทำ โง่มั้ย เราฉลาดเรามีวิธีการปลดทุกข์ตนเอง แล้วเราอย่าไปก่อเหตุให้คนอื่นเขาต้องทุกข์เหมือนกับเรา ไม่งั้นเราก็จะต้องทุกข์ไปด้วย
อกเขา-อกเรา ถ้าเราไปเจออย่างนี้ เราก็ไม่ชอบ เจอผู้ชายคนหนึ่ง ทำให้เขารัก เขาหลง พอถึงจุดหนึ่งแล้วเราไม่เอา แล้วจากไป เขาจะเป็นยังไง
เหมือนกัน ผู้ชายเวลาเขาไปเจอผู้หญิง ก็ให้เขารัก เขาหลง พอเธอรักเธอหลง แล้วก็จากเธอไป เธอไปของเธอ ฉันไปของฉัน ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเช่นใด
ชาติไหนก็ทำมาอย่างนี้ แล้วมาห่วงใยว่าผู้หญิงคนนี้จะทุกข์มั้ย จะคิดมากไปฆ่าตัวตายมั้ย ผู้ชายไม่สนใจแล้ว เพราะว่าดีของเขาไป
นี่แหละถึงให้ ผู้ชายและผู้หญิงได้เรียนรู้ อกเขา-อกเรา พอเรามีอกเขา-อกเรา แล้วเราจะทำเขาลงมั้ย
ในเมื่อเขาอยู่ดีๆ เขามีเส้นทางที่จะมีความสุข แล้วเราไปบังคับมาให้มีความทุกข์กับเรา โคตรบาปเลย
สิ่งที่เราโดนกดดัน สิ่งที่เราทุกข์ ยังน้อยกว่าที่เราจะไปทำให้คนอื่นเขาทุกข์อีก น้อยกว่าเยอะเลย
ถ้ามาเจอเรา เราทำให้ทุกข์ เขายังจะทุกข์มากกว่านี้อีก ไม่รู้กี่เท่า เข้าใจหรือไม่ คิดดีๆ หยุดเถอะ ในเมื่อเราเวลานี้เรารู้ล่ะ เราเข้าใจล่ะ เราจะไม่ก่อบาป
พอเราไม่ก่อบาปอะไรจะตามมา ตัวบาปเราก็จะลดลง ตัวทุกข์ของเราก็จะลดลง นี่แหละการแก้กรรมที่แท้จริง แล้วเราก็ทำดีเพิ่มขึ้น
พอเราฟังผู้รู้แค่นี้ ลูกตุ้มก็หลุดไป ๑ ลูกแล้ว ก็เบาขึ้นแล้ว
มีความเข้าใจมากขึ้น รู้ว่าทำไมเราต้องทำ ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่เราต้องจาคะนะ แต่เราจะได้ไม่ก่อบาปมากขึ้น เราก่อบาปมาเพราะว่าเราไม่รู้ใช่มั้ย เพราะอวิชชา แต่ชาตินี้เรารู้แล้ว แต่ทำไมเรายังจะก่อวอด เราก็ไม่ควรจะก่อวอด เราควรจะสาธุกับเขา ให้เขา เราควรจะอยู่ของเรา อันนั้นเป็นของเขา ปล่อยเขาไปเถอะ แต่เราเป็นของเรา เป็นของเรา เราทำให้ดี เรามีสิ่งอื่นให้มาเป็นสรณะที่เราจะสูงขึ้นไป ที่เราภูมิสูงขึ้นไป ที่เราจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรม ภูมิสูงขึ้นไปเยอะแยะ
เราไปเข้าใจว่า เราไปทรมานเขานะ สิ่งที่ทุกข์ตรงนั้นจะไม่กลับมาหาเรา เขาเทกลับมาหาเราคูณสามทั้งนั้น เวลาเราทำกับเขาก็เจ็บๆ ทั้งนั้น
ให้คิดว่า เราไม่ได้ทำเพื่อเขา แต่เราทำเพื่อตนเองเถอะ ไม่ต้องคูณสาม
เรามีช่องทางที่จะสร้างความปิติได้ ความสุขได้ ความแก้ทุกข์ได้ ทำไมต้องไปดึงเขามาทุกข์อีก อย่างนี้คือตัวอะไร คือตัวจองเวร
ทำไมเจ้ากรรมจึงชอบอิจฉาเรา เพราะเราชอบไปอิจฉาคนอื่น เจ้ากรรมเลยมาทำให้เราดูว่า อิจฉา่แล้วถูกอิจฉาแล้วเราทุกข์ยังไง ทำลายความสุขของตัว ทำลายกุศลของเราที่เราไปสร้างกับคนอื่น แล้วเรายังจะไปทำกับคนอื่นทำไม นี่แหละ อกเขา-อกเรา
สิ่งนี้เราทุกข์ขนาดนี้ยังจะไปทำกับคนอื่น เจ้ากรรมเลยต้องมาให้เราสำนึก ถ้าเราไม่สำนึก ทางหนึ่งเราไปทำกุศล อีกทางหนึ่งเราก็ไปก่อเวรมากขึ้น เพราะว่าหลงลำพองตัวเองว่าเราได้ทำกุศล พอเราหลงว่าตัวเองทำกุศลมา เราจะต้องเจอ เพราะถ้าไม่เจออย่างนี้เราก็จะไม่มีตัวเบรค เราก็นึกว่า เรามีพระคุณล้นหลาม เป็นใครต่อใคร
เราต้องภาวนา ภาวนาคือเราต้องเอามาคิดบ่อยๆ คิดบ่อยๆ แล้วเราถึงจะมีตบะ ถ้าไม่อย่างนั้นเราเจออะไรเราก็จะไม่มีตบะ เราก็จะทำไปอีกแล้ว เอาอีกแล้ว ทุกข์อีกแล้ว วุ่นวายอีกแล้ว ก็ต้องวุ่นวายอยู่เช่นนี้
ทำไมต้องมาคิดอย่างนี้อยู่เรื่อย ใจมันอิจฉา ริษยา พยาบาท พยาบาทจึงทำให้เราต้องมาคิด ต่อไปถ้าไม่มีผู้รู้ เจ้ากรรมก็จะชักชวนให้ไปทะเลาะกัน แกล้งถามโน้นถามนี่ เพื่อให้เกิดความระแวงสงสัย ก็จะเป็นทุกข์
บางครั้งเราทำเป็นหวังดีกับแฟนเก่า บางครั้ง เขามาให้ฝัน ฝันว่าแฟนเก่าถูกทำร้ายอย่างนี้ ทำเป็นตกใจ หวังดีเลย ทำเป็นโทรไปหาแฟนเก่า เธอเป็นอย่างนั้น อย่างนี้มั้ย อยู่สบายดีมั้ย ฉันฝันว่าเธอเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อีกฝ่ายหนึ่ง ตั้งข้อสงสัยให้แฟนอีกฝ่ายหนึ่งต้องทะเลาะกัน ฉะนั้น เราจะรักใครสักคนหนึ่ง เราต้องมาศึกษาเรียนรู้ความรักกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เรียนรู้ความทุกข์ เข้าใจทุกข์ แล้วเราจะอยู่กับความทุกข์อย่างสันติสุข
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
วิบากกรรม พอเราโดนหอมแก้ม เราควรทำอย่างไรต่อไป?
เป็นแฟนกันแล้ว หอมแก้มกันแล้ว เหมือนกับหยิน (阴) หยาง (阳) ช๊อต ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจอะไรมากมาย แต่เป็นปฏิกิริยาของธรรมชาติ พอช็อตแล้วต้องไปสานต่อแล้ว มันคืออะไร ต้องไปเรียนรู้
ทำไมเราเป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้นแล้ว รู้สึกว่าไม่ได้มีความสุขเลย นี่แหละเป็นของแท้ของเธอ แต่ทำไมเธอถึงยังรู้สึกอยากไขว่คว้าหา ก็เพราะว่า เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า นี่แหละเราทำอะไร เป็นอะไร
นี่แหละ เป็นเพราะตัว "อหังการ" ตัวอหังการบอกว่า ไม่แน่หรอก ไม่จริงหรอก เธอไม่ยอมรับความจริง
ผู้ชายบางคนก็คิดเช่นเดียวกัน เพราะว่าไม่แน่หรอก ไม่จริงหรอก จึงไขว่คว้ากินเหล้าผสมหลายอย่าง
อย่างเดียวกัน ไม่แน่ ไม่จริง ไขว่คว้าหาจะเอารักอยู่นั่นแหละ ทั้งๆ รู้ว่าตัวเองไม่ได้ถึงจุดหนึ่ง ซึ่งต้องไปทำร้ายเขา ก็ยังไปเอาอีก เห็นหรือไม่
ให้เห็นถึงความรู้สึกอหังการ เป็นอย่างไร เป็นเช่นไร ถ้าเราไม่ฝึกควบคุมตัวนี้ได้ เราก็จะทุกข์มาก บรรเทาทุกข์ไม่ได้ ก็จะเพิ่มทุกข์ขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหตุแห่งทุกข์ไม่ละ แต่กลับไปเพิ่ม พอเรารู้สาเหตุแห่งทุกข์ เราต้องละ
ในเมื่อเรารู้เช่นนั้น เราจะไปก่อบาปให้กับบุคคลอื่นทำไม เพราะเขายังต้องการอยู่ เราเห็นแก่ตัว เราทำบาปทุกวัน ตายห่าเลย เพราะเขายังต้องการอย่างนั้น แล้วเราทำให้เขาไม่ได้ แต่เรายังไปบังคับให้เขามา แล้วเป็นอย่างนั้น บังคับให้เป็นไปตามใจเราต้องการ โคตรบาปไหม?ฉะนั้น เรารู้ว่าเราเป็นอย่างนั้น ก็ให้สาธุให้เขา ให้เขาไปมีความสุขกับคนใหม่เถิด ให้เขามีความเป็นอยู่นั้น เราก็มีความเป็นสุขเช่นเรานี้
ถ้าไม่ถูกจุดเราจะไม่มีความรู้สึกเช่นนี้ ว่า พอเราโดนถูกจูบแล้ว เราจะบังคับให้อีกฝ่ายหนึ่งจูบ แล้วคิดอย่างเรา เขาก็ตาย เป็นไปไม่ได้
ถึงเวลา เขาอยากแต่เราไม่อยาก เราให้เขาไม่ได้ บาปมั้ย บาปมากเลย เราต้องสาธุให้เขาเป็นอยู่อย่างนั้น เราอย่าไปทำให้เขาทุกข์ เราเป็นอย่างนี้เราต้องเป็นอยู่ของเราแบบนี้ ต้องยอมรับความจริง เราก็ต้องคลายทุกข์ ถ้าเราไม่รับความจริง ทุกข์ก็เพิ่มขึ้น จนตัวเองทนไม่ไหว ก็ต้องไปก่อวิบากกรรม แล้วเราก่อมากี่ปี กี่ชาติ กี่ภพมาแล้ว ยังจะก่ออีกหรือ? ฉลาดตรงไหน ก่อกรรมมากี่ชาติแล้ว แล้วมาชาตินี้มาเจอผู้รู้อธิบายให้เข้าใจแล้วเรายังจะไปทำไม่ดีอีกหรือ?
เรามีเส้นทางอื่นที่จะปลดทุกข์ตัวเองแล้ว ทำไมไม่ทำ โง่มั้ย เราฉลาดเรามีวิธีการปลดทุกข์ตนเอง แล้วเราอย่าไปก่อเหตุให้คนอื่นเขาต้องทุกข์เหมือนกับเรา ไม่งั้นเราก็จะต้องทุกข์ไปด้วย
อกเขา-อกเรา ถ้าเราไปเจออย่างนี้ เราก็ไม่ชอบ เจอผู้ชายคนหนึ่ง ทำให้เขารัก เขาหลง พอถึงจุดหนึ่งแล้วเราไม่เอา แล้วจากไป เขาจะเป็นยังไง
เหมือนกัน ผู้ชายเวลาเขาไปเจอผู้หญิง ก็ให้เขารัก เขาหลง พอเธอรักเธอหลง แล้วก็จากเธอไป เธอไปของเธอ ฉันไปของฉัน ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเช่นใด
ชาติไหนก็ทำมาอย่างนี้ แล้วมาห่วงใยว่าผู้หญิงคนนี้จะทุกข์มั้ย จะคิดมากไปฆ่าตัวตายมั้ย ผู้ชายไม่สนใจแล้ว เพราะว่าดีของเขาไป
นี่แหละถึงให้ ผู้ชายและผู้หญิงได้เรียนรู้ อกเขา-อกเรา พอเรามีอกเขา-อกเรา แล้วเราจะทำเขาลงมั้ย
ในเมื่อเขาอยู่ดีๆ เขามีเส้นทางที่จะมีความสุข แล้วเราไปบังคับมาให้มีความทุกข์กับเรา โคตรบาปเลย
สิ่งที่เราโดนกดดัน สิ่งที่เราทุกข์ ยังน้อยกว่าที่เราจะไปทำให้คนอื่นเขาทุกข์อีก น้อยกว่าเยอะเลย
ถ้ามาเจอเรา เราทำให้ทุกข์ เขายังจะทุกข์มากกว่านี้อีก ไม่รู้กี่เท่า เข้าใจหรือไม่ คิดดีๆ หยุดเถอะ ในเมื่อเราเวลานี้เรารู้ล่ะ เราเข้าใจล่ะ เราจะไม่ก่อบาป
พอเราไม่ก่อบาปอะไรจะตามมา ตัวบาปเราก็จะลดลง ตัวทุกข์ของเราก็จะลดลง นี่แหละการแก้กรรมที่แท้จริง แล้วเราก็ทำดีเพิ่มขึ้น
พอเราฟังผู้รู้แค่นี้ ลูกตุ้มก็หลุดไป ๑ ลูกแล้ว ก็เบาขึ้นแล้ว
มีความเข้าใจมากขึ้น รู้ว่าทำไมเราต้องทำ ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่เราต้องจาคะนะ แต่เราจะได้ไม่ก่อบาปมากขึ้น เราก่อบาปมาเพราะว่าเราไม่รู้ใช่มั้ย เพราะอวิชชา แต่ชาตินี้เรารู้แล้ว แต่ทำไมเรายังจะก่อวอด เราก็ไม่ควรจะก่อวอด เราควรจะสาธุกับเขา ให้เขา เราควรจะอยู่ของเรา อันนั้นเป็นของเขา ปล่อยเขาไปเถอะ แต่เราเป็นของเรา เป็นของเรา เราทำให้ดี เรามีสิ่งอื่นให้มาเป็นสรณะที่เราจะสูงขึ้นไป ที่เราภูมิสูงขึ้นไป ที่เราจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรม ภูมิสูงขึ้นไปเยอะแยะ
เราไปเข้าใจว่า เราไปทรมานเขานะ สิ่งที่ทุกข์ตรงนั้นจะไม่กลับมาหาเรา เขาเทกลับมาหาเราคูณสามทั้งนั้น เวลาเราทำกับเขาก็เจ็บๆ ทั้งนั้น
ให้คิดว่า เราไม่ได้ทำเพื่อเขา แต่เราทำเพื่อตนเองเถอะ ไม่ต้องคูณสาม
เรามีช่องทางที่จะสร้างความปิติได้ ความสุขได้ ความแก้ทุกข์ได้ ทำไมต้องไปดึงเขามาทุกข์อีก อย่างนี้คือตัวอะไร คือตัวจองเวร
ทำไมเจ้ากรรมจึงชอบอิจฉาเรา เพราะเราชอบไปอิจฉาคนอื่น เจ้ากรรมเลยมาทำให้เราดูว่า อิจฉา่แล้วถูกอิจฉาแล้วเราทุกข์ยังไง ทำลายความสุขของตัว ทำลายกุศลของเราที่เราไปสร้างกับคนอื่น แล้วเรายังจะไปทำกับคนอื่นทำไม นี่แหละ อกเขา-อกเรา
สิ่งนี้เราทุกข์ขนาดนี้ยังจะไปทำกับคนอื่น เจ้ากรรมเลยต้องมาให้เราสำนึก ถ้าเราไม่สำนึก ทางหนึ่งเราไปทำกุศล อีกทางหนึ่งเราก็ไปก่อเวรมากขึ้น เพราะว่าหลงลำพองตัวเองว่าเราได้ทำกุศล พอเราหลงว่าตัวเองทำกุศลมา เราจะต้องเจอ เพราะถ้าไม่เจออย่างนี้เราก็จะไม่มีตัวเบรค เราก็นึกว่า เรามีพระคุณล้นหลาม เป็นใครต่อใคร
เราต้องภาวนา ภาวนาคือเราต้องเอามาคิดบ่อยๆ คิดบ่อยๆ แล้วเราถึงจะมีตบะ ถ้าไม่อย่างนั้นเราเจออะไรเราก็จะไม่มีตบะ เราก็จะทำไปอีกแล้ว เอาอีกแล้ว ทุกข์อีกแล้ว วุ่นวายอีกแล้ว ก็ต้องวุ่นวายอยู่เช่นนี้
ทำไมต้องมาคิดอย่างนี้อยู่เรื่อย ใจมันอิจฉา ริษยา พยาบาท พยาบาทจึงทำให้เราต้องมาคิด ต่อไปถ้าไม่มีผู้รู้ เจ้ากรรมก็จะชักชวนให้ไปทะเลาะกัน แกล้งถามโน้นถามนี่ เพื่อให้เกิดความระแวงสงสัย ก็จะเป็นทุกข์
บางครั้งเราทำเป็นหวังดีกับแฟนเก่า บางครั้ง เขามาให้ฝัน ฝันว่าแฟนเก่าถูกทำร้ายอย่างนี้ ทำเป็นตกใจ หวังดีเลย ทำเป็นโทรไปหาแฟนเก่า เธอเป็นอย่างนั้น อย่างนี้มั้ย อยู่สบายดีมั้ย ฉันฝันว่าเธอเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อีกฝ่ายหนึ่ง ตั้งข้อสงสัยให้แฟนอีกฝ่ายหนึ่งต้องทะเลาะกัน ฉะนั้น เราจะรักใครสักคนหนึ่ง เราต้องมาศึกษาเรียนรู้ความรักกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เรียนรู้ความทุกข์ เข้าใจทุกข์ แล้วเราจะอยู่กับความทุกข์อย่างสันติสุข
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต