ม็อบฮ่องกง บุกป่วนสถานีรถไฟใต้ดิน ทำลายทรัพย์สิน รุมสกรัมคนเห็นต่าง
22/9/2019
เอเจนซีส์
การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงกลายเป็นความรุนแรงอีกครั้ง
เมื่อผู้ประท้วงบุกสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในวันอาทิตย์ (22 ก.ย.)
ทุบกล้องวงจรปิดและทำลายเซ็นเซอร์ตรวจตั๋วอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ยังมีการรุมทำร้ายผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการทำลายธงชาติจีน
ม็อบอีกกลุ่มไปชุมนุมในห้างแห่งหนึ่งตะโกนเรียกร้องให้ปลดปล่อยฮ่องกง
ผู้ประท้วงใช้ค้อนทุบเซ็นเซอร์ตรวจตั๋วที่สถานีรถไฟชานติน พ่นสีและทุบหน้าจอเครื่องขายตั๋ว
โดยใช้ร่มปิดบังใบหน้าของตนเอง นอกจากนั้นยังมีผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งล้อม
และรุมทำร้ายชายคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการทำลายธงชาติจีนอยู่นาน 20 นาที
ก่อนปล่อยออกมาในสภาพมึนงงและมีเลือดออกจากหน้าผาก
การโจมตีสถานีรถไฟชานตินในช่วงเย็นวันอาทิตย์เกิดขึ้นพร้อมกับที่ผู้ประท้วงหลายร้อยคน
รวมตัวในห้างที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟดังกล่าว ตะโกนสโลแกนปลดปล่อยฮ่องกง
และร้องเพลงที่กลายเป็นเพลงชาติของการประท้วง ก่อนร่วมกันพับนกกระเรียนกระดาษ
ผู้ประท้วงเหล่านี้ยังเรียกร้องให้คว่ำบาตรธุรกิจที่สนับสนุนปักกิ่ง โดยนำใบเสร็จของห้างเหล่านั้นมาแขวนโชว์
ตำรวจปราบจลาจลไปถึงภายหลังการโจมตีและเข้ารักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟชานติน
ซึ่งต้องปิดให้บริการ นอกจากนั้นยังมีการเผชิญหน้าระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ
ที่สถานีซิงยี่ที่ให้บริการรถไฟใต้ดินและแอร์พอร์ตเอ็กซ์เพรส
และปิดให้บริการเนื่องจากม็อบวางแผนปิดกั้นถนนรอบสถานี
การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยของฮ่องกงซึ่งดำเนินมาเป็นเดือนที่ 4
มักลุกลามกลายเป็นความรุนแรงในช่วงเย็นและกลางคืน กลุ่มหัวรุนแรงยืนยันว่า
ต้องใช้วิธีนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากรัฐบาล โดยเมื่อ
เมื่อคืนวันเสาร์ (21 ก.ย.) ตำรวจต้องใช้แก๊ซน้ำตาและกระสุนยางตอบโต้ผู้ประท้วงที่ขว้างระเบิดขวดใส่
และจุดไฟบนถนน โดยมีรายงานว่า เกิดความรุนแรงในหลายพื้นที่
ตำรวจฮ่องกงแถลงประณามความรุนแรง และระบุว่า มีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายคน
จากการต่อสู้ระหว่างประชาชนที่มีความเห็นต่างกัน
ซึ่งหมายถึงผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยกับกลุ่มผู้สนับสนุนจีน
แม้ประชาชนส่วนใหญ่ยังใช้ชีวิตตามปกติ แต่ภาพการขว้างระเบิดขวด
และความรุนแรงบนท้องถนนที่แพร่หลายไปทั่วโลก ทำให้ปักกิ่งกระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่ง
ดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญที่ใกล้ถึงวันฉลองครบรอบ 70 ปี
การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 เดือนหน้า
รัฐบาลฮ่องกงตัดสินใจยกเลิกการแสดงพลุขนาดใหญ่ในวันดังกล่าวเพื่อป้องกันเหตุการณ์รุนแรง
ขณะที่ปักกิ่งยังแสดงความเชื่อมั่นว่า แคร์รี ลัม
ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง จะสามารถแก้ไขวิกฤตการณ์นี้ได้
วิกฤตการเมืองที่รุนแรงที่สุดของฮ่องกงครั้งนี้เกิดจากความไม่พอใจที่จีนแทรกซึม
และแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงที่ได้รับส่งมอบคืนจากอังกฤษในปี 1997
ภายใต้หลักการหนึ่งประเทศ-สองระบบเพื่อรับประกันเสรีภาพของชาวฮ่องกงที่คนจีนไม่เคยได้รับ
ปักกิ่งยืนยันว่า ยึดมั่นกับหลักการดังกล่าว และไม่ได้แทรกแซงกิจการของฮ่องกง
แต่กล่าวหาต่างชาติ โดยเฉพาะอเมริกาและอังกฤษปลุกปั่นให้เกาะแห่งนี้เกิดความวุ่นวาย
https://mgronline.com/around/detail/9620000091424
https://www.theguardian.com/world/2019/sep/22/hong-kong-pro-democracy-protests-turn-violent-again
แถม
ฮ่องกง ผู้ประท้วงเหยียบย่ำทำลายธงชาติจีน!!! บุกป่วนสถานีรถไฟใต้ดิน ทำลายทรัพย์สินและกล้อง CCTV!!!
ม็อบฮ่องกง บุกป่วนสถานีรถไฟใต้ดิน ทำลายทรัพย์สิน รุมสกรัมคนเห็นต่าง
22/9/2019
เอเจนซีส์
การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงกลายเป็นความรุนแรงอีกครั้ง
เมื่อผู้ประท้วงบุกสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในวันอาทิตย์ (22 ก.ย.)
ทุบกล้องวงจรปิดและทำลายเซ็นเซอร์ตรวจตั๋วอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ยังมีการรุมทำร้ายผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการทำลายธงชาติจีน
ม็อบอีกกลุ่มไปชุมนุมในห้างแห่งหนึ่งตะโกนเรียกร้องให้ปลดปล่อยฮ่องกง
ผู้ประท้วงใช้ค้อนทุบเซ็นเซอร์ตรวจตั๋วที่สถานีรถไฟชานติน พ่นสีและทุบหน้าจอเครื่องขายตั๋ว
โดยใช้ร่มปิดบังใบหน้าของตนเอง นอกจากนั้นยังมีผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งล้อม
และรุมทำร้ายชายคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการทำลายธงชาติจีนอยู่นาน 20 นาที
ก่อนปล่อยออกมาในสภาพมึนงงและมีเลือดออกจากหน้าผาก
การโจมตีสถานีรถไฟชานตินในช่วงเย็นวันอาทิตย์เกิดขึ้นพร้อมกับที่ผู้ประท้วงหลายร้อยคน
รวมตัวในห้างที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟดังกล่าว ตะโกนสโลแกนปลดปล่อยฮ่องกง
และร้องเพลงที่กลายเป็นเพลงชาติของการประท้วง ก่อนร่วมกันพับนกกระเรียนกระดาษ
ผู้ประท้วงเหล่านี้ยังเรียกร้องให้คว่ำบาตรธุรกิจที่สนับสนุนปักกิ่ง โดยนำใบเสร็จของห้างเหล่านั้นมาแขวนโชว์
ตำรวจปราบจลาจลไปถึงภายหลังการโจมตีและเข้ารักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟชานติน
ซึ่งต้องปิดให้บริการ นอกจากนั้นยังมีการเผชิญหน้าระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ
ที่สถานีซิงยี่ที่ให้บริการรถไฟใต้ดินและแอร์พอร์ตเอ็กซ์เพรส
และปิดให้บริการเนื่องจากม็อบวางแผนปิดกั้นถนนรอบสถานี
การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยของฮ่องกงซึ่งดำเนินมาเป็นเดือนที่ 4
มักลุกลามกลายเป็นความรุนแรงในช่วงเย็นและกลางคืน กลุ่มหัวรุนแรงยืนยันว่า
ต้องใช้วิธีนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากรัฐบาล โดยเมื่อ
เมื่อคืนวันเสาร์ (21 ก.ย.) ตำรวจต้องใช้แก๊ซน้ำตาและกระสุนยางตอบโต้ผู้ประท้วงที่ขว้างระเบิดขวดใส่
และจุดไฟบนถนน โดยมีรายงานว่า เกิดความรุนแรงในหลายพื้นที่
ตำรวจฮ่องกงแถลงประณามความรุนแรง และระบุว่า มีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายคน
จากการต่อสู้ระหว่างประชาชนที่มีความเห็นต่างกัน
ซึ่งหมายถึงผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยกับกลุ่มผู้สนับสนุนจีน
แม้ประชาชนส่วนใหญ่ยังใช้ชีวิตตามปกติ แต่ภาพการขว้างระเบิดขวด
และความรุนแรงบนท้องถนนที่แพร่หลายไปทั่วโลก ทำให้ปักกิ่งกระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่ง
ดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญที่ใกล้ถึงวันฉลองครบรอบ 70 ปี
การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 เดือนหน้า
รัฐบาลฮ่องกงตัดสินใจยกเลิกการแสดงพลุขนาดใหญ่ในวันดังกล่าวเพื่อป้องกันเหตุการณ์รุนแรง
ขณะที่ปักกิ่งยังแสดงความเชื่อมั่นว่า แคร์รี ลัม
ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง จะสามารถแก้ไขวิกฤตการณ์นี้ได้
วิกฤตการเมืองที่รุนแรงที่สุดของฮ่องกงครั้งนี้เกิดจากความไม่พอใจที่จีนแทรกซึม
และแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงที่ได้รับส่งมอบคืนจากอังกฤษในปี 1997
ภายใต้หลักการหนึ่งประเทศ-สองระบบเพื่อรับประกันเสรีภาพของชาวฮ่องกงที่คนจีนไม่เคยได้รับ
ปักกิ่งยืนยันว่า ยึดมั่นกับหลักการดังกล่าว และไม่ได้แทรกแซงกิจการของฮ่องกง
แต่กล่าวหาต่างชาติ โดยเฉพาะอเมริกาและอังกฤษปลุกปั่นให้เกาะแห่งนี้เกิดความวุ่นวาย
https://mgronline.com/around/detail/9620000091424
https://www.theguardian.com/world/2019/sep/22/hong-kong-pro-democracy-protests-turn-violent-again
แถม