เรื่องที่ 26 : ONE PIECE STAMPEDE วันงานเทศกาลโจรสลัด รีวิว+เล่าเสียงพากย์ไทย


One Piece Stampede ผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 14 ของวันพีช อนิเมะที่สร้างจากมังงะชื่อเดียวกันโดย เออิจิโร่ โอดะ กำกับโดย ทากาชิ โอตสึกะ สร้างโดย โทเอแอนิเมชั่น และเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีในการทำอนิเมชั่นเรื่องนี้ด้วย ทั่วทั้งโลกจึงพากันเฝ้ารอว่าจะได้ชมกันเมื่อไหร่ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่แฟนคลับวันพีชจะตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไรวันฉายจะมาถึง ซึ่งเด็กซ์ก็จัดให้อย่างรวดเร็ว และเพิ่งฉายไปเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา และทำรายได้พลิกล็อคกันน่าดู ถล่มทลาย ด้วย 5.37 ล้านบาท ทุบสถิติภาพยนตร์เอเชียทำเงินสูงสุดในประเทศไทยแห่งปี 2019 ไปเลย แต่อะไรล่ะที่ทำให้คนไปดูเยอะขนาดนี้ อ.โอดะ แกมีไม้เด็ด และอะไรให้กับแฟนคลับที่ติดตามมาอย่างเหนียวแน่น 20 ปีกัน แต่ก่อนอื่น มาอ่านเรื่องย่อคร่าว ๆ กันก่อน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

“One Piece Stampede บอกเล่าเรื่องราวของเทศกาลไพเรทส์ เฟส งานเฉลิมฉลองเพื่อโจรสลัดโดยเฉพาะที่จู่ ๆ ก็เกิดมีการจัดขึ้นมา ทั้งที่ไม่ได้จัดมานานแล้วหลายปี พร้อมทั้งได้เชิญโจรสลัดจากทั่วโลกมาร่วมกันล่าหาสมบัติลับไปพร้อม ๆ กัน รวมถึง กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่ได้รับเชิญให้มาร่วมด้วย ซึ่งงานก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และการห้ำหั่นระหว่างโจรสลัดอย่างตื่นเต้น แต่ทว่า งานเฉลิมฉลองเพื่อโจรสลัด ย่อมมีบางอย่างแอบแฝงอยู่ ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนใจการล่าสมบัติอย่างเอาเป็นเอาตาย แผนการลับที่อาจสะเทือนทั้งโลกก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว”

การนำเสนอ

จัดหนักจัดเต็มใส่คนดูตั้งแต่เริ่ม แม้หนังจะเดินเรื่องไปอย่างเรื่อย ๆ ไม่ได้มีอะไรหวือหวา สลับกับการเปิดตัวละครทั้งใหม่ และเก่า ทั้งฝั่งโจรสลัด หรือ ฝั่งทหารเรือ ที่ใครที่เป็นแฟนคลับได้เห็นจะต้องว้าวไปกับท่วงท่าการต่อสู้ หรือ แม้แต่ความฮาที่สอดแทรกเข้ามาได้อย่างถูกจังหวะ ตัวละครเหล่านี้อาจจะออกมาเป็นกิมมิคเล็ก ๆ ให้หายคิดถึง หรือไม่ก็เป็นกิมมิคสำคัญที่ออกมาโชว์ความเท่ ความเจ๋ง ของคาร์แร็คเตอร์ตัวละครที่พอควร อาจจะไม่มาก แต่ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นแล้วว่า 20 ปีที่มีงานนี้ออกมามันมีค่ามากแค่ไหน ก่อนจะพลิกเป็นช่วงทริลเลอร์ ระทึกขวัญ แอ็คชั่นบู๊แหลก แบบไม่มีหยุดตลอดร้อยกว่านาที เรียกได้ว่าไม่ว้าว ก็เอียนกันไปข้าง แต่ถ้าหากไม่เคยดูติดตามวันพีชมาก่อนก็สามารถมาสนุกกับฉากแอ็คชั่นได้ แต่อาจจะงงตัวละคร และความสำคัญของตัวละครนั้นไป ซึ่งนี่เป็นเพียงเดอะมูฟวี่ เพราะงั้นไม่ต้องเครียด แต่ถ้าคุณเป็นแฟนวันพีช คุณจะกริ๊ดกับทุกสิ่งที่ในหนังเสนอออกมา

งานภาพ

งานภาพครั้งนี้รู้สึกว่าจะได้ อ.โอดะ วาดมือให้หมด ลายเส้นอาจารย์แกชัดเจนมาก มีสลับกับใช้เส้นสองมิติแบบขาวดำ (แต่มีแอบเผาอยู่นะ – เผาคืองานไม่เนี้ยบ เส้นไม่เท่ากัน) และยังมีซีจี 3D ที่แสนจะอลังในฉากสำคัญของเรื่อง แต่ก็แอบขัดตาบ้างในบางฉาก ซึ่งเป็นฉากอะไรไปดูเอาเอง มีสีสันที่ฉูดฉาดด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นต่าง ๆ ที่ตัวละครสวมใส่ สีของสภาพแวดล้อมที่สดใหม่แ ละมีความชัดเจน เห็นท่าทางการต่อสู้ของตัวละครจะค่อนข้างมีความพลิ้ว แต่ถามว่าสวยมากมั้ย ก็มากกว่ามาตรฐานงานปกตินิดหน่อย นอกจากนี้แล้วพอเป็นฉากที่มืดครึ้ม ชวนให้เห็นความน่ากลัวก็ทำได้ดี มีอารมณ์ร่วม และเข้าใจในสภาวะที่ตัวละครต้องเผชิญอยู่ และอยากจะเอาใจช่วยให้ตัวละครต่อสู้และฝ่าฟันไปให้จงได้

งานเสียง+นักพากย์รับเชิญ

เสียงประกอบของเรื่องนี้ เรียกได้ว่ากระหึ่ม กระหึ่มมาก นั่งดูไปขนลุกไป เสียงงานฉลองที่ดูคึกคักเสียงความสิ้นหวัง เสียงที่แสดงความยิ่งใหญ่ เสียงดาบชนดาบ เสียงระเบิดตูมตาม เสียงปืน เสียงหมัด เสียงวัตถุกระทบกัน นี่อยู่ในขั้นดี ช่วยเสริมฉากการต่อสู้ให้ดูถึงใจมากขึ้น และด้วยความที่ผมดูพากย์ไทยมา ก็ได้ยินกระแสมาพอสมควรถึงการนำคนที่ไม่ใช่นักพากย์มาพากย์ One Piece Stampede ซึ่งผมเข้าใจ เพราะมันคงรู้สึกแปลก ๆ ที่ตัวละครที่เราคาดหวังในภาพลักษณ์นึง พอเสียงออกมาเป็นอีกแบบนึง แต่ถามว่าผมไม่อคติจนไม่ไปดูมั้ยก็ไม่

ผมจะไล่ทีละคน จากดีที่สุด ไปหา รับไม่ได้ที่สุดก็แล้วกัน
ปล. นี่คือความรู้สึกส่วนตัวของผมนะ



1. แอน พากย์โดย นัยรัตน์ ธนไวทย์โกเศส (พี่แป้ง Z.bingz) จากสาวแคสเตอร์เกม ต้องมาพากย์เสียงอนิเมชั่นครั้งแรก แถมเป็นเรื่องโปรดของใครหลายคน คงทำให้คนตั้งแง่กับเธอกับการใช้เสียง แต่ขอบอกเลยครับว่า คนนี้ดีที่สุดเลย เธอมีเสน่ห์ กลมกลืนมาก ร่าเริงตามท่าทาง อาจมีรีแอ็ค เสียงดังไปบ้าง แต่ไม่มีหลุดคาร์เลย เข้ากับนักพากย์มืออาชีพได้พอสมควร อาจเพราะบทมีไม่มาก ซึ่งน่าเสียดาย แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีถ้าจะพากย์ต่อไป

2. มิสเตอร์ ทรี พากย์โดย อรรถพล ไข่ทอง (พี่เบล ขอบสนาม) เสียงของคนพากย์บอล มาอยู่ในหนัง แล้วแสดงเป็นเพศที่สามที่ต้องมีคำติดปาก คือเปิดเรื่องมากคือกลืนกับตัวละครมาก ไม่รู้ว่าในต้นฉบับตัวนี้เป็นยังไง แต่ขึ้นมาก็ไม่คิดว่าเป็นเขาเลย แถมมีการเล่นเสียงตลก มีคำลงท้ายมีเอกลักษณ์ (หรืออาจขัดหูกับบางคนไป)  แต่เรื่องต่อบทดีกับนักพากย์คนอื่น ๆ อยู่ในขั้นดี

3. คาโปเน่ เบจ พากย์โดย ญาณวุฒิ จรรยหาญ (พี่เอ็ด 7 วิ) คนนี้คืออึ้งมาก น้ำเสียง ท่าทางตัวละคร ไปด้วยกันมาก คือมีความเป็นมาเฟียรักครอบครัว ท่าทางตอนสั่งจัดการคือเท่ นึกว่านักพากย์มืออาชีพ อยากให้มาพากย์เป็นตัวละครนี้ถาวรไปเลย

4. ซาโบ พากย์โดย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ (พี่บอย ช่อง 3 HD) คนนี้ผมอาจจะคิดต่างคนอื่น ผมฟังเสียงซาโบแบบปกติมาแล้ว พอได้มาฟังในโรง คือพี่บอยแกพากย์ได้ พากย์ดีด้วย ท่าทางการต่อสู้ บุคลิกอะไรให้หมด เพราะพี่แกเคยพากย์อนิเมชั่นฉายโรง อย่าง แรงโก้ มาก่อนเลยทำให้ผมไม่มีปัญหาในอารมณ์การพากย์ของพี่แก แต่ปัญหาสำคัญที่ทำให้โดนคนด่า พี่แกมาผิดเรื่องครับ…

ด้วยเสียงพี่แกที่นุ่ม และสดใสเกินไป หรือโดนบรีฟมาผิดอะไรก็ตาม ในสายตาคนอื่นพี่แกควรไปพากย์อนิเมชั่นของดรีมเวิร์ค หรือ วอลท์ ดิสนีย์ดีกว่า สำหรับผมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ผมว่ามันก็ได้อารมณ์อีกแบบ เวลาฟังพี่แกมาพูดอะไรแบบตัวละครพูด เหมือนตอนฟัง คุณเมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร พากย์เป็น คูราโซ่ ในโคนัน เดอะมูฟวี่ 20 หรือ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ มาพากย์ กิลด์ เตโซโร ในวันพีช ฟิล์ม โกลด์ แต่คนนี้ไม่แย่เท่าสองคนนี้นะ

5. วาโปลู พากย์โดย นิกร วิศวะไชยพันธ์ (พี่นิค Nrsportsradio) คนนี้พากย์ดีนะ กลมกลืนกับตัวละคร แต่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับใครในเรื่อง บทพูดน้อย และเผลอพูดเร็วกว่าด้วย แต่ถ้าไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ ก็อยู่ในขั้นดีเลย แต่ผมรู้สึกว่ามันจางไป

6. โคบี้ พากย์โดย อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ (คุณต๊อบ เถ้าแก่น้อย) คนนี้ผมว่าบททำร้ายมาก จาง แทบไม่มีความสำคัญอะไร เอาคุณต๊อบมาก็ใช่ว่าจะทำให้มันน่าสนใจ แถมบทพูดไม่กี่คำ หนำซ้ำยังทิ้งความรู้สึกประหลาดหลังประโยคสุดท้ายที่ไร้พลังกับตัวละครเลย ทำให้จาง จางจนรู้สึกว่าไม่เห็นต้องเอาคุณต๊อบมาพากย์เลย แถมคุณต๊อบก็เหมือนอ่านบทอาขยานมาก

7. โกสต์พริ้นเซส เพโรน่า พากย์โดย ณัฐธิชา นามวงษ์ (เก๋ไก๋สไลเดอร์) คนนี้เปิดตัวมาดีครับด้วยเสียงหัวเราะที่ไปด้วยกันกับยัยเด็กผีได้ ฉากต่อสู้มีเสียงที่ประหลาดบ้าง แต่เพราะเป็นคาร์แร็คเตอร์ที่หลุดโลกด้วย จึงไม่มีปัญหาอะไร แต่พอประโยคยาวเพียงประโยคเดียวไม่รอดครับ ใช้เสียงผิดวิสัยกับคำพูด จนพาลทำให้ประหลาดไป แต่พอรับได้ครับ บทมีนิดเดียว

8. บาซิล ฮอว์คินส์ พากย์โดย ไวท์สอดอStyle ผมไม่รู้นะว่าเขาไปแคสมาจากไหน แต่มันไม่ไหวจริง ๆ ครับ คือตัวละครมันก็ดูเย็นชา แต่มันเท่นะ พอพูดออกมาทื่อ ๆ หมดกัน หมด พัง พังมาก เสียงไม่เข้า ไม่มีความรู้สึกคือเข้าใจ แต่จังหวะจะโคนนี่ผิดตัวละคร เรียกได้ว่าโชคดีมากที่บทน้อย ถ้ามากกว่านี้คงไม่ไหวครับ แต่มันก็ตลกอยู่นะ ถ้าคนไม่คิดอะไรมาก แต่มันขัดหูจริง ๆ

9. จูวาคิล มิฮอว์ค พากย์โดย กิตติพงษ์ ชูปาน (สไปรท์สไลเดอร์) ตัวละครเท่มาก แบบว้าวเลย แต่พอพูดเท่านั้นแหล่ะ ผมคิ้วขมวดทันที ทำไมเสียงมันเป็นเป็ดได้ขนาดนั้น เหมือนอัดไมค์ไปงั้น ๆ แล้วพยายามจะดัด แต่มันไม่ตรงคาร์ ไม่ตรงอะไร คือหลุดออกนอกจักรวาลวันพีชเลยก็ว่าได้ แค่บทพูดไม่กี่บทก็ฆ่ามิฮอว์คสุดหล่อเท่ตายได้ในพริบตา ยิ่งต่อบทกับเพโรน่านี่พากันพังเลยครับ ขอร้องล่ะ บทน้อยก็ดูเสียงพากย์ว่าเข้ากับตัวละครมั้ยบ้างเถอะ ไม่ใช่แค่พูด ๆ แล้วก็ส่งทางฝ่ายประสานเสียง มันมีเวลาขัดเกลาได้มากกว่านี้นะ แต่นี่อะไรเนี่ย โคตรผิดหวัง สอบตกแบบไม่ยอมให้ดร็อปเรียนใหม่ครับ

ไม่เข้าใจใช่มั้ย งั้นมาฟังตัวอย่าง โดย เสียงของผมละกัน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ส่วนที่ทำให้ว้าวนอกจากดนตรีกับเสียงพากย์ คือเพลงประกอบของเรื่องที่เปิดขึ้นมาในระหว่างเรื่อง ถ้าใครติดตามวันพีช คุณจะต้องน้ำตาไหล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอเพลงมันมาอยู่ในฉากนั้น คือร้องลั่นโรง ส่วนเพลงปิดก็ทำหน้าที่ปิดเรื่องได้อย่างดุเดือด อย่างเพลง GONG โดยวง J-ROCK อย่าง WANIMA ที่ใครหลายคนดูจบอาจจะต้องไปหามาฟัง แล้วโยกหัวตามจังหวะเพลงเลย5555

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

สรุป

One Piece Stampede นั้นดีมากหรือไม่ ดี แต่ว้าวมั้ย ไม่ขนาดนั้น เพราะนอกจากฉากแอ็คชั่น ภาพที่สวย และดนตรีที่ดุเดือดแล้ว เนื้อเรื่องนั้นดูจะบางเบาและเกลี่ยตัวละครได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บางตัวละครมาแล้วก็หาย บางตัวมาแล้วก็โผล่มาตอนใกล้จบ ปมตัวร้ายของเรื่องก็ดูซ้ำซาก จนไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้นมากมาย ผมว่า เดอะมูฟวี่นี้เป็นการเซอร์วิสแก่แฟนวันพีชมากกว่า อยากเห็นอะไรได้เห็น อยากรู้อะไรได้รู้ แต่เนื้อเรื่องจริง ๆ มีแค่ 30 เปอร์เซนต์

แต่สิ่งที่น่าจดจำคือ One Piece Stampede เป็นของขวัญจาก อ.โอดะ ให้แก่แฟนคลับวันพีช "การรวมพลเหล่าโจรสลัด และงานเฉลิมฉลองแก่คนรักวันพีช" ที่ไม่ว่าคุณจะดู หรือชอบวันพีช หรือไม่ ผมก็อยากแนะนำให้ไปดูนะ ไม่แน่คนที่ไม่ชอบอาจจะชอบเลยก็ได้ หรือ ไม่คนที่ชอบอยู่แล้ว อาจจะยิ่งรักมันมากเข้าไปอีก ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันพีช จึงเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมมาตลอด 20 ปีขนาดนี้ รายได้แต่ละครั้งก็บอกอยู่แล้ว ว่า คนรักเรื่องนี้มากขนาดไหน ขนาดผมเองที่ไม่ได้ดูมานาน  ยังอยากกลับไปตามย้อนดูเลย แต่คงจะสายไปแล้วล่ะ

ถ้าลดอคติกับนักพากย์ไม่ได้ ก็สามารถดูซาวด์แทร็คได้เช่นกัน ตามโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ ซึ่งน่าจะให้อารมณ์ถึงใจมากกว่าพากย์ไทยอยู่แล้ว อย่าเพิ่งลุกจากที่นั่งล่ะ ฟังเพลงให้จบ ฉากท้ายเครดิตรอคุณอยู่

7.5/10 แต่กับแฟนวันพีช Infinite/10

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่