ทิ้งห่างไปถึง 11 ปี จาก Rambo 4 จนไม่คิดว่าจะมีภาคนี้อีกแล้ว แต่ก็มาจนได้กับภาคที่เรียกว่าเป็นภาคสุดท้ายจริงๆ ของซีรี่ย์ Rambo ซึ่งกระแสทางฝั่งเมืองนอกไม่ดีเลย รวมทั้งหลายๆ คนในเมืองไทยไปดูมาก็บอกไม่ชอบ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะมันลดความระห่ำไปเยอะเลย แต่ผมกลับชอบนะ
เรื่องราวในภาคนี้ จอห์น แรมโบ้ ได้กลับไปยังบ้านเกิดแสนสงบเพื่อหวังใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา แต่ความสงบก็ถูกทำลายเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตอันโหดร้ายโดยมีแก๊งค้ายาชาวเม็กซิกันเป็นผู้จุดชนวน เมื่อพวกเขาจุดไฟสงคราม แรมโบ้ก็จะใช้ทักษะเก่าของนักรบเดนตายในการปิดฉากมัน!
ที่หลายๆ คนไม่ชอบอาจจะมาจากการที่หนังความยาว 100 นาที แต่ 1 ชั่วโมงแรก หนังเอาไปปูเรื่องราวของ แรมโบ้ กับ กาเบรียล และแก๊งเม็กซิโกซะหมด ออกจะไปทางแนวดราม่าครอบครัวด้วยซ้ำ กว่าจะเข้าเรื่องราวแอ็คชั่นได้ ก็เหลือแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงสุดท้ายแล้ว ซึ่งจากภาคที่ผ่านๆ มา เราถูกปลูกฝังไปว่า แรมโบ้ ต้องลุยบ้าเลือดตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบสิวะ
ช่วง 1 ชั่วโมงแรกของเรื่อง หนังเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตอันเงียบสงบของ แรมโบ้ กับหลานสาว และยายที่อยู่ด้วยกันมานาน แต่หนังก็แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังตัว ความหวาดระแวง และเรื่องราวที่ฝังใจ แรมโบ้ จนทำให้ประสาทหลอนอยู่ตลอดเวลา จนมาถึงชนวนเหตุที่ทำให้ แรมโบ้ ต้องออกจากเซฟโซน ไปลุยเม็กซิโก ซึ่งถึงแม้ว่าหนังจะปูเรื่องยาวเกินไปหน่อย แต่มันก็ทำให้เห็นว่าความแค้นที่ประทุออกมามันมีมากขนาดไหน ถ้าไม่ปูขนาดนั้นมันก็จะดูไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่
สิ่งที่ผมชอบมากในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ฉากแอ็คชั่นที่โหดดิบเลือดสาดหัวแบะ แต่กลับเป็นพัฒนาการตัวละครที่ชื่อว่า จอห์น แรมโบ้ นี่แหละ จากทหารผ่านศึกบ้าระห่ำ กลายเป็นลุงแก่ๆ ที่ดูไม่มีพิษมีภัย พร้อมด้วยสายตาที่มองหลานสาวที่เต็มไปด้วยความรักเสมือนลูกตัวเอง ซึ่งเราจะไม่เคยเห็นอารมณ์แบบนี้จาก 4 ภาคที่ผ่านมาเลย และมันทำให้เราเห็นว่า แรมโบ้ ก็คือคนคนหนึ่งที่มีความรู้กสึกไม่ต่างจากคนทั่วไปเช่นกัน ซึ่งการฉีกกฏเดิมๆ ของหนัง แรมโบ้ ทิ้งไป เรื่องราวเนื้อหาที่เปิดฉากมาก็อยู่ในสนามรบ หรือเจอแก๊งค้ายาแล้วลุยแหลกแบบไม่สนใจอะไร กลายมาเป็นลุงเลี้ยงม้าแก่ๆ ที่ยังซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ รอวันปะทุ มันช่างเป็นอะไรที่แตกต่างแต่น่าสนใจสุดๆ
ฉากแอ็คชั่นภาคนี้เบาลงกว่าภาค 4 (ที่ได้ชื่อว่าดิบโหดที่สุดแล้ว ในสายตาผม) แต่ยังคงความโหดดิบไว้อยู่บ้าง เราจะเห็นฉากหัวแบะ หัวระเบิด ฟันขาขาดกระเด็น ฉากยิงธนู ฉากระเบิดตูมตาม แต่อาจจะไม่ได้เยอะเหมือนภาคที่ผ่านๆ มา เพราะอย่างที่บอกไปคือ กว่าหนังจะเข้าแอ็คชั่นจริงๆ ก็เหลือเวลาให้ลุยกันแค่ครึ่งชั่วโมงท้าย ซึ่งมันเป็นครึ่งชั่วโมงที่อัดหนักจัดเต็มด้วยฉากไล่ล่ากันอย่างสุดมันส์จริงๆ
ถึงแม้ว่าตัวละครหลักอย่าง แรมโบ้ จะเป็นตัวเด่นที่สุดของหนัง แต่ตัวละครอื่นๆ ก็เป็นองค์ประกอบให้หนังสมบูรณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กาเบรียล หลานสาว จีเซล ยัยสาวตัวแสบ มาเรีย ยายของกาเบรียล ดาร์เมียน นักข่าวสาว และแก๊งค้ามนุษย์ชาวเม็กซิโก ทุกตัวละครอาจจะไม่ได้มีบทบาทโดดเด่นมากเท่า แรมโบ้ แต่ก็คือส่วนเติมเต็มให้หนังมันมีหลากหลายอารมณ์ และเป็นส่วนที่พาหนังไปสู่ไคลแม็กซ์ได้อย่างดี ซึ่งถ้าไม่มีตัวละครพวกนี้หนังก็คงจะกลับไปในรูปแบบเดิมๆ คือลุยแหลกแหกสะบั้นอย่างเดียว
โดยรวมแล้ว หนังอาจจะไม่ได้ดีมากในสายตาใครหลายๆ คน แต่อย่างที่บอก ผมชอบการปรับโครงเรื่องและพัฒนาการตัวละครที่ชื่อ จอห์น แรมโบ้ เป็นอย่างมาก หนังคงเอาพี่สตอลโลนมาบู๊ตั้งแต่ต้นเรื่องไม่ไหวแล้ว แต่ลูกเล่นของหนังที่สร้างดราม่าให้เกิดเป็นแอ็คชั่นไล่ล่าในตอนท้าย ผมว่ามันลงตัวกับภาคปิดเลยล่ะ เอาเป็นว่า ใครไม่ชอบ ผมชอบว่ะ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
ปล. ฉากสุดท้ายจบอย่างเท่
[CR] [#Review] Rambo Last Blood แรมโบ้ 5 นักรบคนสุดท้าย - พลิกความเป็นแรมโบ้เดิมๆ กับความมันส์ที่ปิดฉากภาคสุดท้าย
เรื่องราวในภาคนี้ จอห์น แรมโบ้ ได้กลับไปยังบ้านเกิดแสนสงบเพื่อหวังใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา แต่ความสงบก็ถูกทำลายเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตอันโหดร้ายโดยมีแก๊งค้ายาชาวเม็กซิกันเป็นผู้จุดชนวน เมื่อพวกเขาจุดไฟสงคราม แรมโบ้ก็จะใช้ทักษะเก่าของนักรบเดนตายในการปิดฉากมัน!
ที่หลายๆ คนไม่ชอบอาจจะมาจากการที่หนังความยาว 100 นาที แต่ 1 ชั่วโมงแรก หนังเอาไปปูเรื่องราวของ แรมโบ้ กับ กาเบรียล และแก๊งเม็กซิโกซะหมด ออกจะไปทางแนวดราม่าครอบครัวด้วยซ้ำ กว่าจะเข้าเรื่องราวแอ็คชั่นได้ ก็เหลือแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงสุดท้ายแล้ว ซึ่งจากภาคที่ผ่านๆ มา เราถูกปลูกฝังไปว่า แรมโบ้ ต้องลุยบ้าเลือดตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบสิวะ
ช่วง 1 ชั่วโมงแรกของเรื่อง หนังเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตอันเงียบสงบของ แรมโบ้ กับหลานสาว และยายที่อยู่ด้วยกันมานาน แต่หนังก็แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังตัว ความหวาดระแวง และเรื่องราวที่ฝังใจ แรมโบ้ จนทำให้ประสาทหลอนอยู่ตลอดเวลา จนมาถึงชนวนเหตุที่ทำให้ แรมโบ้ ต้องออกจากเซฟโซน ไปลุยเม็กซิโก ซึ่งถึงแม้ว่าหนังจะปูเรื่องยาวเกินไปหน่อย แต่มันก็ทำให้เห็นว่าความแค้นที่ประทุออกมามันมีมากขนาดไหน ถ้าไม่ปูขนาดนั้นมันก็จะดูไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่
สิ่งที่ผมชอบมากในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ฉากแอ็คชั่นที่โหดดิบเลือดสาดหัวแบะ แต่กลับเป็นพัฒนาการตัวละครที่ชื่อว่า จอห์น แรมโบ้ นี่แหละ จากทหารผ่านศึกบ้าระห่ำ กลายเป็นลุงแก่ๆ ที่ดูไม่มีพิษมีภัย พร้อมด้วยสายตาที่มองหลานสาวที่เต็มไปด้วยความรักเสมือนลูกตัวเอง ซึ่งเราจะไม่เคยเห็นอารมณ์แบบนี้จาก 4 ภาคที่ผ่านมาเลย และมันทำให้เราเห็นว่า แรมโบ้ ก็คือคนคนหนึ่งที่มีความรู้กสึกไม่ต่างจากคนทั่วไปเช่นกัน ซึ่งการฉีกกฏเดิมๆ ของหนัง แรมโบ้ ทิ้งไป เรื่องราวเนื้อหาที่เปิดฉากมาก็อยู่ในสนามรบ หรือเจอแก๊งค้ายาแล้วลุยแหลกแบบไม่สนใจอะไร กลายมาเป็นลุงเลี้ยงม้าแก่ๆ ที่ยังซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ รอวันปะทุ มันช่างเป็นอะไรที่แตกต่างแต่น่าสนใจสุดๆ
ฉากแอ็คชั่นภาคนี้เบาลงกว่าภาค 4 (ที่ได้ชื่อว่าดิบโหดที่สุดแล้ว ในสายตาผม) แต่ยังคงความโหดดิบไว้อยู่บ้าง เราจะเห็นฉากหัวแบะ หัวระเบิด ฟันขาขาดกระเด็น ฉากยิงธนู ฉากระเบิดตูมตาม แต่อาจจะไม่ได้เยอะเหมือนภาคที่ผ่านๆ มา เพราะอย่างที่บอกไปคือ กว่าหนังจะเข้าแอ็คชั่นจริงๆ ก็เหลือเวลาให้ลุยกันแค่ครึ่งชั่วโมงท้าย ซึ่งมันเป็นครึ่งชั่วโมงที่อัดหนักจัดเต็มด้วยฉากไล่ล่ากันอย่างสุดมันส์จริงๆ
ถึงแม้ว่าตัวละครหลักอย่าง แรมโบ้ จะเป็นตัวเด่นที่สุดของหนัง แต่ตัวละครอื่นๆ ก็เป็นองค์ประกอบให้หนังสมบูรณ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กาเบรียล หลานสาว จีเซล ยัยสาวตัวแสบ มาเรีย ยายของกาเบรียล ดาร์เมียน นักข่าวสาว และแก๊งค้ามนุษย์ชาวเม็กซิโก ทุกตัวละครอาจจะไม่ได้มีบทบาทโดดเด่นมากเท่า แรมโบ้ แต่ก็คือส่วนเติมเต็มให้หนังมันมีหลากหลายอารมณ์ และเป็นส่วนที่พาหนังไปสู่ไคลแม็กซ์ได้อย่างดี ซึ่งถ้าไม่มีตัวละครพวกนี้หนังก็คงจะกลับไปในรูปแบบเดิมๆ คือลุยแหลกแหกสะบั้นอย่างเดียว
โดยรวมแล้ว หนังอาจจะไม่ได้ดีมากในสายตาใครหลายๆ คน แต่อย่างที่บอก ผมชอบการปรับโครงเรื่องและพัฒนาการตัวละครที่ชื่อ จอห์น แรมโบ้ เป็นอย่างมาก หนังคงเอาพี่สตอลโลนมาบู๊ตั้งแต่ต้นเรื่องไม่ไหวแล้ว แต่ลูกเล่นของหนังที่สร้างดราม่าให้เกิดเป็นแอ็คชั่นไล่ล่าในตอนท้าย ผมว่ามันลงตัวกับภาคปิดเลยล่ะ เอาเป็นว่า ใครไม่ชอบ ผมชอบว่ะ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
ปล. ฉากสุดท้ายจบอย่างเท่
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้