เนื่องจาก EP3 ผมดูแล้วเรียกว่าพังในหลายจุด ผมจัดหนักไว้ค่อยข้างเยอะ https://ppantip.com/topic/39228231
อาจจะหนักเซอร์วิสไปหน่อย และซีนฉลามแอ็กติ้งคอมีดี้ตอนพูดถึงทำเด็กตาย และอื่นๆ ที่ผมว่าต่ำกว่ามาตรฐานของ 2 ตอนแรก

มาตอน 4 หลังจากนี้สปอยนะครับ ดูแล้วมาคุยกัน รวมๆ ช่วงแรกยังติดกลิ่นติดเรื่องจาก EP 3 เลยมีหงุดหงิดบ้าง

ซีนฉลามมาอาบน้ำ ค่อยข้างหนักเซอร์วิส ก็เฉยๆ เหมือนเดิมคือเซอร์วิสแบบตั้งใจไปนิด แต่ก็มาตรฐานละครไทย
กล้ามน้องยังไม่งามขนาดนั้น ถ้าเป็นกล้ามมาริโอ้ หรือต่อ ธนภพ ผมว่าน่าจะปล่อยcharisma ได้แรงกว่านี้ (นี่ผมผู้ชายนะ แต่ลองประมาณดู 55+)
แต่พอได้ๆ

จากนั้นเรื่องเล่าไปสนุกๆ มีรู้สึกไม่ชอบนางเอกพราะเธอทำผิดศีลธรรมอยู่ คือนอกใจนั่นแหละครับ
ซึ่งผมว่าตรงนี้เสี่ยงมาก แต่ขอปรบมือนะครับ คือทำได้ดี หนังยีนอยู่บนเส้นว่าเราจะเกลียดนางเอกอยู่ละที่หวั่นไหวง่ายจัง
แต่ปฏิกิริยาของนางเอกต่อสิ่งที่เกิดมันทำให้เราเห็นใจ
คือทานตะวันก็พยายามที่กลับไปรักหมอเป้ง แต่ใจมันมิอาจต้าน ร่างกายมันไปเอง
ซึ่งเอาจริงๆ ก็อาจมีคนไม่ชอบ คือค่านิยมผู้หญิงรุกเนี่ย มันขายได้เฉพาะในพื้นที่อย่างคอมเมนต์บนเฟสน่ะครับ 
คุณอาจจะเคยเห็นคอมเมนต์ตามรูปคนหล่ออวดโฉมกล้าม เห็นแล้วน้ำเดิน อะไรแบบนี้จะยอมรับได้แล้ว

แต่ในฐานะนางเอกซึ่งมีส่วนเป็นภาพดีของสังคม อย่างน้อยคือมันทำให้คนดูยอมรับ ชอบ เอาใจช่วย เพราะมันเป็นละครแมส ผู้หญิงรุกผู้ชายมันยังไม่ไปถึงขั้นนั้น ความเห็นซิกแพ็คของเด็กน้อยซึ่งตัวเองมีแฟนอยู่แล้ว มันจึงขัดศีลธรรมนิดๆ แต่ผมชอบนะ 555+ มันทดสอบอะไรบางอย่างได้ดี

หลังจากนั้นเรื่องเข้าสู่โหมดจริงจัง (หลังจาก EP 3 ไม่มีเลย) เพียงแต่เพลงดุๆ ขึ้น ธีมตอนช่วยคนไข้ดัง เรื่องก็เปลี่ยนโทนทันที และเป็นส่วนที่ดีมากในทุกอนูของเรื่องราว
พาร์ทจริงจังของเรื่องมีงานคราฟด้านบทที่ดีมาก ตั้งแต่ซีนหมอเป้งเรียกฉลามมาคุย เล่าเรื่องได้มีประสิทธิภาพ คือได้อารมณ์ ได้เล่าผลที่เกิด ได้เปลี่ยนชีวิตประจำวันตัวละครคือฉลามเข้าเวรมากขึ้น มีนัยซ้อนไปอีกเมื่อฉลามขอเพิ่มเวรเหมือนหมอเป้งตอนอินเทิร์น ตอนนี้สภาวะของ 2 ตัวละครเป็นเหมือนกระจกของกันและกันครับ แต่เลือกทางเดินคนละแบบ ตัวอย่างที่พอนึกออกก็ 

การกระทำของหมอเป้ง เลือกแอ็กชั้นจะทำอะไร ดูมีชั้นเชิงร้อยเรียงไปกับเหตุผลของเรื่องราว มีชั้นเชิงชวนไปกินกาแฟ ค่อยๆ สืบถามสถานการณ์ ไม่มีพล๊อตโฮลแบบ อาว หมอเป้งรู้เรื่องนี้ได้ไง (ถ้ามีก็ไม่ทันสังเกตเลย 55+) กลายเป็นคนดูค่อยๆ ตามสืบจับ(ชู้)พิรุจน์รักไปกับหมอเป้ง

ชวนไปกินกาแฟ ถามเรื่องสเป็ก เรื่องแฟนโดยอ้างจากลงเวรเพิ่ม 

จากนั้นก็มีฉากเซอร์วิสวายซึ่ง ก็เดี๋ยวคงชินแล้วอาจจะชอบ แต่ยังรู้สึกอีกนิด ยังไม่ให้ผ่านแล้วกัน ยังรู้สึกมันจงใจไปนิด จงใจเนียนกว่านี้จะดีกว่า

ถึงซีนตรวตทานละตัวตัดสินเรื่อง
ผมเคยพูดถึงไม่มีเหตุผลแต่เมกเซนต์ เรื่องจังหวะหัวใจคือการสร้างตรรกะที่ดีมากของเรื่อง
เพราะมันเกิดขึ้นใน 10 นาทีแรกของ EP ผู้สร้างรีบใส่ประเด็นจังหวะหัวใจเต้นกับความรักเข้ามา เพราะช่วงแรกของหนัง(ผมไม่แน่ใจว่าซีรีส์ด้วยมั้ย แต่ใน EP นี้ ผมให้ว่าเขาประยุกค์กฎนี้ได้ผ่าน) คนดูจะยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหนัง ตัวอย่างเช่น หนังเอ็กซ์แมน 5 นาทีแรกต้องเล่าแล้วว่าโลกมีมนุษย์กลายพันธุ์มีพลังวิเศษ ถ้าไปครึ่งเรื่องแล้วพึ่งเล่า คนจะไม่ยอมรับแล้ว (หรือยอมรับน้อยลง) เช่นกันครับ กฎจังหวะหัวใจก็ถูกเซ็ทขึ้นตามท้องเรื่อง เรื่อยๆ มาเพื่อเป็นเงื่อนไขในการตัดสินตอน

กฎจังหวะหัวใจเล่าตั้งแต่เปิด กลางเรื่อง(ซีนวาฬกับตั๊กก็เล่าเรื่องด้วย ใช้ประโยชน์ในระดับกลางๆ) และสุดท้ายเป็นซีนตัดสินตอน อันนี้ทำได้ดี ค่อยๆ ปูมาทำให้เราเห็นผลของการกระทำของตัวละครชัดมาก คนดูเห็นเป็นตัวเลขไปเลย นอกจากแอ็กติ้งที่ก็ชัดอยู่แล้ว แต่หมอเป้งก็แสดงสิ่งที่ตัวเองคิดมากไม่ได้ การให้เห็นเป็นตัวเลขช่วยให้คนดูเห็นถึงความคิดของหมอเป้งมากขึ้น

หมอเป้งทำแบบนี้หัวใจเต้นเท่าไหร่ ฉลามทำแบบนี้เท่าไหร่ พอเล่าเรื่องฉลามชอบบะหมี่หัวใจขึ้นเฉย ช๊อทนี้ทานตะวันเหมือนถูกต้อน แต่ก็ไม่ยอมงัดไม้เด็ดจูบไปเลย เลขขึ้นรัวๆ ซึ่งคนดูนึกว่ารอดแล้ว แต่ผลกลับเป็นอีกทาง หมอเป้งเห็นอะไรมากกว่านั้น และสิ่งที่เลือกทำก็ส่งผลหลังจากนี้ทำให้เรื่องน่าสนใจยิ่งขึ้น

ซีนหมอเป้ง - ฉลามตรวจทานตะวันค่อยข้างชื่น มันน่าจะเป็นซีนแรกๆ ที่ทั้ง 3 พูดคุยต่อปะทะระหว่างกัน และมีความซับซ้อน แต่กลับสื่อมาได้สนุก ตื่นเต้น

ก็ขอปรบมือและนึกถึงเลือดข้นคนจางนะครับ
คือมันจะสนุกแบบ EP เว้น EP 
พอเป็น EP ที่ออนวันศุกน์จะจบแบบค้างข้าง เฉยๆ แต่พอ EP วันเสาร์เหมือนจะเร่งฟอร์ม คราฟงานบทละเอียด เพื่อให้ปิดตอนได้สนุก และทิ้งให้คนไปคุยกันในช่วงสัปดาห์ที่เว้นว่างเพื่อมาติดตามรอดู EP ของอาทิตน์ถัดไป