รีวิว 1 เทอมใน TNI การเรียนรูปแบบใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม

ตอนเด็กๆเคยนึกเบื่อการเปิดหนังสือและฟังธรรมดาๆในห้องเรียน แอบมองไปที่หน้าต่างบ้างบางคราว หวังว่าจะออกไปข้างนอกแล้วลองนั่งเรียนกลางแสงแดดยามเช้า ....... แต่แล้วความเบื่อเหล่านั้นก็ได้หายไปเพียงเพราะ!!!!
ประสบการณ์ 1 เทอมที่ผ่านมากับการเรียนสาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ทำให้เข้าใจกับคำว่าการเรียนในรูปแบบใหม่ ที่แปลกและไฉไลกว่าเดิม !!

 บอกว่ารูปแบบใหม่เฉย ๆ คงจะไม่เห็นภาพ เลยแนบรูปประกอบให้ดูซักหน่อย
             เอ๊ะที่นั่งเล่นกันอยู่นี่มัน Board Game !!!!!! มี Board Game ให้เล่นในวิชาเรียน เข้ามาเทอมแรกก็ถึงกับร้อง ว้าว! เพราะในวิชา Operation Management อาจารย์ให้เราเล่นบอร์ดเกม 
เกมที่เราเล่นก็คือ Quadropolis Strategic Board Game ซึ่งเป็นเกมที่สอนให้เข้าใจ Place strategy สำคัญยังไง  ด้วยความที่เกมจะจำลองว่าเราและ
ผู้เล่นคนอื่น ๆ เป็นนายกที่ต้องตัดสินใจว่าจะก่อสร้างอะไร ตั้งไว้ตรงไหนในแต่ละเทิร์น เพื่อได้คะแนนมากที่สุดและจัดการทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด (ซึ่งนายกที่ดีก็จะทำให้บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรือง…. // หรือได้รับคะแนนรวมมากที่สุดนั่นเอง) 
และถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกก็ลองไปดูคลิปนี้เพื่อให้เข้าใจแบบคร่าวๆได้ค่ะ ------> https://youtu.be/KQLzsJczh1I  
แต่ถ้าใครสนใจจะลองเล่นหรือศึกษาจริงๆ คลิกเข้าไปเลยค่า  -----> https://youtu.be/el7TZTNIUqY
พอก่อนเน้อะเดี๋ยวจะกลายเป็นรีวิวบอร์ดเกม

มาต่อกันด้วยภาพนี้เลยจ้า หมอนพร้อม น้ำพร้อมไปทำอะไรกันเนี่ย
         สำหรับเทอม 1 จะได้เรียนวิชาหลักการตลาด (Principle of Marketing) ซึ่งได้เรียนกับประธานหลักสูตรที่เป็นนักการตลาด(โอ้โห) มาสอนเองขนาดนี้ คิดหรอว่าจะได้เรียนแค่ในห้องเรียน ไม่มีทาง!!!!!
 เพราะประธานหลักสูตรของเราได้ยกขบวนพาเด็กทั้งรุ่นไปหาความรู้การตลาดที่โรงหนังซะเลย บอกเลยว่าหลังจากดูหนังครั้งนั้นแล้ว 
การเข้าไปดูหนังก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แทนที่จะได้อินกับหนังซึ้งๆ สมองดันวิเคราะห์หนังเฉยเลย สงสัยเราจะซึมซับวิชาการตลาดมากเกินไป โฮะๆ

ข้างบนว่าพีคแล้ว แต่อันข้างล่างว่าพีคกว่า…...
 คลุมผมกันซะเรียบร้อยขนาดนี้ดูก็รู้ว่ามาขายข้าวแกงกัน… บ้าแล้ว ! ไปดูโรงงานไวน์เฟ้ย
                   จากที่เห็นนักศึกษายืนหนาวและใส่ชุดเหมือนยามหน่อยๆแต่จริงๆแล้วใส่เพื่อสุขอนามัยและให้รู้ว่าเราเป็นผู้เยี่ยมชมเพราะ...เรากำลังไปศึกษาดูงานกันที่โรงงานไวน์ Siam Vinery ที่จังหวัดสมุทรปราการ ชื่อโรงงานอาจจะไม่คุ้น แต่ถ้าบอกว่า Spy Wine Cooler ก็คงจะเห็นได้ตาม 7-11
(แอบกระซิบบอกว่าใครอายุถึง 20 ปีบริบูรณ์ ทางโรงงานให้ชิมไวน์ด้วยนะ)

         ไหนๆได้รับทุนการศึกษามาแล้วก็คงต้องใช้ให้คุ้มค่าซักหน่อย เพราะนอกจากเรื่องเรียนแล้ว ที่นี่มีโครงการสอบชิงทุนไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว โดยโครงการจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ เช่น ทุน Sakura Science ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่ยนดูงานระยะสั้นที่ประเทศญี่ปุ่น
และเป็นทุนเปล่า บวกกับการที่ฟรีทุกสิ่งอย่างตั้งแต่ค่าตั๋วเครื่องบิน อาหาร ที่พัก ประกัน แถมมี pocket money มันจดีย์จริงๆ 
แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสามารถของเรา
          เพราะเงื่อนไขคือเราต้องมีคะแนน TOEIC  (การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ) 600 คะแนนขึ้นไป
และก็ควรมี และ JLPT (การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น) อย่างน้อยระดับ N4 เพราะต้องมีการสื่อสารกับชาวญี่ปุ่น
พอเห็นแบบนั้นแล้ว ประธานหลักสูตรอ่านเกมทันก็ไม่รอช้า เปิดคอร์สติวฟรี TOEIC ฉบับเร่งด่วน
ให้นักศึกษาปี 1 อย่างเราได้เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เริ่มก่อน ได้เปรียบกว่า
ทั้งรุ่นเราก็มีประมาณนี้แหละค่ะ ถึงคนจะน้อย แต่ว่า 100% นะคะ
เพราะเด็กน้อยอาจารย์จึงเข้าถึงนศ.ทุกคน  รับความรู้กันไปเต็มๆ 

(ไม่ได้แค่ติวอย่างเดียว มีเลี้ยงฉลองจบคอร์สด้วย
คงไม่ได้มีแค่ความรู้ที่เพิ่มขึ้น จากภาพน้ำหนักก็น่าจะเพิ่มด้วย)


            สาขา IB ของเราก็มีโครงการ House Project ซึ่งเป็นบริษัทจำลอง ที่ให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 ทำธุรกิจร่วมกัน ซึ่งแบ่งออกเป็นบ้านๆ ประมาณ 6 บ้าน มีสินค้าที่ต่างกันออกไป โดยแต่ละบ้านก็จะมีหลายฝ่าย ทั้งบัญชี, creative, marketing, product, R&D,  และ HR พอตอนเปิดเทอมแรกๆ ก็จะเปิดรับสมัครสมาชิกเข้าบ้าน ขั้นตอนเหมือนเราทำงานจริงเลย เพราะเราต้องไปสัมภาษณ์เพื่อเข้าบ้านจริงๆ แน่นอนว่าถ้าเราไม่ถูกรับเลือก ก็ต้องไปสมัครบ้านอื่น ๆ ต่อ และถ้าหากไม่มีบ้านไหนรับเราเข้าบ้านเลย จะไม่ต่างจากคนไร้บ้านในชีวิตจริง เพราะเกรดส่วนหนึ่งมาจากการทำงานในบ้าน เตรียมตัวบายๆ A ที่เฝ้าฝันถึงไว้ได้เลย
            พอเข้ามาแล้วเราก็จะได้ทำงานตามฝ่ายที่สมัครไว้ โดยจะมีพี่ๆคอยสอนงานให้ ช่วงนี้แหล่ะจะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวความรู้ของเราฮ่าๆๆ (เห้ยพี่มีความรู้อะไรส่งมาให้หมด...อารยชนคงไม่ทำแบบนั้นกัน) เริ่มจากพี่เขาจะมอบหมายงานที่เหมาะสมกับความสามารถของน้องๆแต่ละคน งานแต่ละอย่างที่ได้ก็ส่งเสริมให้น้องๆเข้าใจและได้รับประสบการณ์ในการทำธุรกิจจริง ด้วยความที่เราอยู่ฝ่าย PR เลยอยากจะเล่าความรู้สึกให้ทุกคนฟังหน่อย
-การติดต่อขอนำผลิตภัณฑ์ไปวางไว้หน้าร้าน เห็นเพื่อนทำแล้วเหมือนนักธุรกิจจริงเลย มือซ้ายถือโทรศัพท์ มือขวาจดรายละเอียด แต่หน้าเพื่อนก็แอบเครียดๆเหมือนกันก็นั่นสินะการคุยธุรกิจมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเราถึงต้องมาเรียนไง !
         -การติดต่อทางธุรกิจกับนักธุรกิจจริงๆ (โฮกกกกก….ไม่ไหวบอกไหว) ปกติการคุยไลน์ก็คงจะเป็นการคุยเล่นๆกับเพื่อนหรือญาติสนิท  แต่พอได้มาคุยกับนักธุรกิจจริงๆ
รู้สึกกดดัน(มาก) ในใจคิดตลอด เขาจะโอเคไหม เขาจะชอบไหม จะตกลงไหม แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้
- การทำโซเชียลคอนเทนต์ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยคิดมากเวลาจะโพสต์อะไรเท่านี้มาก่อน เพราะเมื่อเราจะบริหารเพจที่มีลูกค้าสนใจอยู่มากต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์อันดีงาม (ดีจริงๆนะฮ่าๆ) คำศัพท์ก็ต้องทางการหน่อยๆ ไปคุยเล่นได้ไง ลูกค้าตั้งเยอะแยะ
        -นอกจาก แคปชั่นของโพสต์แล้ว ก็คงเป็นเนื้อหาที่จะโพสต์ลงไปในเพจ ที่ทำให้ต้องนั่งครุ่นคิด เอ….แบบนี้ดีไหมน้า หรือจะเรื่องการถ่ายวิดีโอเพื่อทำการโฆษณาผลิตภัณฑ์ รู้สึกเหมือนเป็นผู้กำกับโฆษณาจริงๆเลย เพราะต้องเริ่มคิดกันใหม่ ตั้งแต่สตอรี่บอร์ดกันเลยทีเดียว
      - มาถึงอีเว้นสำคัญของ House Project กันแล้ว นั่นก็คือวัน TNI DAY !!  โดยที่งานแบบนี้สำหรับมหาลัยอื่นๆอาจจะเรียกว่า Open house (แน่นอน TNI มาแปลกก)  หรือก็คือวันที่ทุกคณะจะมาเปิดบูธในมหาลัยเพื่อทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน โดยจะมีบุคคลภายนอกหรือน้องๆม.ปลาย เข้ามาเยี่ยมชม รุ่นพี่เองก็คอยต้อนรับ ให้คำปรึกษา 
แถมยังไม่วายมีธีมประจำในแต่ละปีด้วย ซึ่งธีมในปีนี้ก็คือออ Harry Potter in Digital world ตึงดือดึง ตะดึงดือดึง *เสียงเพลงแฮรี่* ส่งผลให้ฝ่าย PR นั่งครุ่นคิดว่าจะให้ MC แต่งกายเป็นตัวละครอะไรดีให้มันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของเรา และ ผลลัพธ์ที่ออกมาคือแฮกริด  และเฮอร์ไมโอนี่ 
   ชมภาพความประทับใจกันนิดนึงง 
 
ข้างหลังนั่น..แฮกริดนะ ไม่ใช่โจร ! แล้วทุเรียนก็ไม่ใช่อาวุธนะแต่เป็นของขวัญสำหรับผู้โชคดีสแกนคิวอาร์โค้ดแล้วได้ของรางวัล
   -ตัดภาพมาที่หน้าที่ของเรา การขายอะไรซักอย่างในความจริงยากกว่าบนโซเชียลมากก (กอไก่อีกล้านตัว)  เพราะถ้าลูกค้าไม่สนใจไม่ว่าเราจะพยายามแค่ไหนก็จะไม่ชายตามองมาเลย PRอย่างหนูๆก็ได้แต่คิดในใจ (สนใจหนูหน่อย หนูขายของอยู่นะ! ) 
ปิดท้าย TNI DAY ไปด้วยรูปรวมของบ้านเรา

 เหนื่อยมาทั้งวันอิดโรยกันไปบ้าง แต่ก็ต้องยิ้มสู้  (เห็นกระท่อมแฮกริดไหมมม)
              นอกจากทำงานแล้ว ในบ้านยังจัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มทักษะให้น้องๆในทุกๆด้าน     
 เริ่มจากการเสริมสร้างทักษะในการทำงานด้วยการจัดTraining การถ่ายภาพให้แก่ฝ่าย Creative และสร้างทักษะในการใช้ชีวิตในมหาลัยด้วยการจัดสัมมนา

 [เบิกเนตร !!! How to พิชิต ทุนแลกเปลี่ยน]
แค่เห็นโปสเตอร์ก็อยากจะเบิกเนตรจริงๆแล้ว ทุนนนน ทุนสุดรักของข้า
 การไปสัมมนาในครั้งนี้เปลี่ยนแนวคิดที่มีต่อการศึกษาไปอย่างมาก ทำให้เข้าใจว่าควรโฟกัสที่อะไร และพาตัวเองไปให้ถึงฝัน สู้ๆ !


และสุดท้ายเสริมสร้างทักษะทางด้านภาษาด้วยการจัดคอร์สติว IELTS และ TOEIC ขึ้น
จดกันใหญ่เลยนะ ก็แหงล่ะ  เด็กIBอยากพวกเรา หยิบฉวยโอกาสเอาความรู้ไว้ก่อนอยู่แล้ว !
                   นอกจากจะจัดติวแล้วยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่น้องๆในบ้านด้วยการถ่ายภาพรุ่นพี่ที่มี คะแนน TOEIC มาเหมือน Hall of fame หนูก็อยากไปอยู่ตรงนั้นบ้างจัง
(แค่ท่าโพสก็กินขาดละฮะ )
     แม้ว่ากระทู้นี้จะขายขำไปหน่อย 
แต่ 1 เทอมที่ผ่านมาประสบการณ์,ความสนุกและเสียงหัวเราะที่ได้รับมา มากกว่าที่บรรยายเอาไว้มาก จึงเป็นเหมือนเครื่องยืนยันว่า ที่เลือกเรียนสาขานี้ไปตัดสินใจไปไม่ผิดเลย ความรู้ที่ได้รับมาสามารถนำมาเป็นทักษะในการใช้ชีวิตได้จริงๆ  
    แล้วคุณล่ะถ้าได้พบเจอกับสิ่งที่คุณรัก จงตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด สู้ๆ!
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่