เทศกาลภาพยนตร์สำคัญ 3 เทศกาลสำหรับฤดูกาลรางวัลได้จบไปแล้วอย่าง Venice, Telluride และ Toronto ซึ่งน่าจะช่วยให้เราคาดการณ์ผู้เข้าชิงออสการ์ได้ง่ายขึ้น
สาขาแรก
BEST ORIGINAL SCREENPLAY บทภาพยนตร์ภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
(1) Marriage Story (Netflix)
(2) Once Upon a Time in Hollywood (Sony)
(3) The Farewell (A24)
(4) Parasite (Neon)
(5) Knives Out (Lionsgate)
Alt. (6) The Report (Amazon), (7) Booksmart (Annapurna) & (8) Waves (A24)
เต็งหนึ่งสาขานี้คือ Marriage Story จาก Netflix ของผู้กำกับ Noah Baumbach แฟนหนุ่มของผู้กำกับสาว Greta Gerwig ที่มักจะชอบพาเราไปซึมซับความสัมพันธ์ต่างๆของผู้คน โดย Marriage Story เล่าเรื่องราวความทุกข์และสุขของชีวิตคู่ของหนุ่มผู้กำกับและสาวนักแสดงที่ความแตกต่างทางความคิดแยกเขาทั้งสองคนจากกัน หนังได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของผู้กำกับ BaumbachสมัยยังคบกับJennifer Jason Leigh ผู้กำกับ Baumbach เคยเข้าชิงสาขานี้จากเรื่อง The Squid and the Whale (2005) นอกจากนี้ Marriage Story ยังสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งของรางวัลขวัญใจคนดูหนังอย่าง People's Choice Awardจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Torontoมาได้
เต็งสองคือ Once Upon a Time in Hollywood ของผู้กำกับ Quentin Tarantino จดหมายรักของQuentinถึงฮอลลีวู้ดยุคทอง ถึงวงการสตันท์แมนและถึงหนังคาวบอย Quentin มีลุ้นทำสถิติชนะสาขาบทดั้งเดิมยอดเยี่ยมมากที่สุดเท่ากับ Woody Allen ที่จำนวน 3 ครั้ง หลังจากที่เจ้าตัวเคยชนะมาแล้ว 2 ครั้งจาก Pulp Fiction (1994) และDjango Unchained (2012)
เต็งสามคือ The Farewell จากค่าย A24 ของผู้กำกับ Lulu Wang แฟนสาวของผู้กำกับ Barry Jenkins ที่เล่าเรื่องราวที่ดัดแปลงจากชีวิตจริงของเธอ เรื่องราวเกี่ยวหญิงสาวและครอบครัวที่ต้องปกปิดความลับที่ว่าย่าของเธอกำลังจะตายจากมะเร็ง ไม่ให้ย่าของเธอได้รับรู้
เต็งสี่คือ Parasite ของผู้กำกับ Bong Joon-ho จากแดนกิมจิที่มี Han Jin-wonร่วมเขียนบท Parasite ผลงานเจ้าของรางวัลปาล์มทองคำด้วยสไตล์บทที่ระทึก สนุกสนานและเจาะลึกถึงสังคมและชนชั้น น่าจะเข้าถึงสำหรับผู้คนส่วนใหญ่ที่รับชมได้ไม่ยากถึงแม้หนังจะเป็นภาษาเกาหลี นอกจากนี้ Parasite ยังสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งของรางวัลขวัญใจคนดูหนังอย่าง People's Choice Awardจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Torontoมาได้
เต็งห้าคือ Knives Out ของผู้กำกับ Rian Johnson ที่โดนด่าไปเยอะกับหนังเรื่องก่อนหน้า กลับมากับบทที่สุดยอดในหนังแนว Whodunit เพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แอบเสียดายแทนตอนที่ Looper (2012) ไม่ได้เข้าชิงออสการ์ นอกจากบทที่ยอดเยี่ยมแล้ว หนังยังมีทีมนักแสดงมากฝีมือจำนวนมากมายมาปะทะคารมกัน
สาขานี้แน่นเหลือเกิน เรื่องอื่นๆ ที่อาจจะมีลุ้นมีเยอะมาก
The Report ของ Scott Z. Burnsนักเขียนบทภาพยนตร์มากความสามารถ ที่หนังเล่าเรื่องการแฉ CIAในเหตุการณ์ที่ทรมานผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 9/11อย่างรุนแรงเกินกว่าเหตุ Burnsเคยเขียนบทหนังอย่าง The Bourne Ultimatum (2007), The Informant! (2009), Contagion (2011)และ Side Effects (2013) /
Booksmart งานกำกับเรื่องแรกของนักแสดงสาว Olivia Wilde หนังcoming-of-age เล่าเรื่องของ2 สาวเพื่อนซี้ที่กำลังเรียนจบที่ตั้งใจจะแหกกฏทุกอย่างในวัยสุกท้ายของการเรียน แสดงนำโดย Beanie Feldsteinและ Kaitlyn Dever สองดาวรุ่งที่กำลังมา โดยหนังเขียนบทโดยนักเขียนหญิง 4 คน /
Waves จากค่าย A24 ของผู้กำกับ Trey Edward Shults ผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง ผลงานเรื่องที่ 3 ของเขาที่หยิบจับแนวหนังที่ไม่ซ้ำแนวกันกับเรื่องก่อนๆเลย เรื่องนี้เล่าเรื่องราวผ่านสองคู่รักวัยรุ่นผ่านการเติบโตและการตกหลุมรักของพวกเขา /
Pain and Glory ของผู้กำกับสายเมโลดราม่าจากสเปน ขวัญใจนักดูหนังอย่าง Pedro Almodóvar ที่เล่าราวของผู้กำกับคนหนึ่งที่ต้องจากเหตุการณ์มากมายที่ได้มาเปลี่ยนแปลงชีวิตเขา หนังดัดแปลงจากเรื่องราว Pedroเอง /
The Lighthouse จากค่าย A24 ของผู้กำกับ Robert Eggers เจ้าของหนังสยองขวัญยอดเยี่ยมอย่าง The VVitch (2015) เล่าเรื่องราวของสองหนุ่มเฝ้าประภาคารที่จะเจอเรื่องราวไม่คาดฝันในการเฝ้าประภาคารของพวกเขา โดยหนังเรื่องนี้เปรียบเสมือนผลงานคารวะ สสุดีหนังสยองขวัญคลาสสิก ทั้งงานภาพขาวดำ บทพูดที่ไม่มากแต่ยิ่งใหญ่ สัดส่วนของภาพที่เป็น 1:1 อีก เขียนบทโดยสองพี่น้องตระกูล Eggers /
1917 ของผู้กำกับ Sam Mandes ภารกิจส่งจดหมายอันสำคัญของ 2 ทหารหนุ่มในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่มีชีวิตของนายทหารจำนวนมากเป็นเดิมพัน มี Krysty Wilson-Cairns นักเขียนสาวดาวรุ่งร่วมเขียนบท /
Ford v Ferrari ของผู้กำกับ James Mangold ที่เล่าเรื่องราวผ่านการแข่งขัน Le Mans ในปี 1966 ที่ Henry Ford II และ Lee Iacocca มอบภารกิจให้ Carroll Shelby นักออกแบบรถแข่งและ Ken Miles นับรถชาวอังกฤษสร้างรถคันใหม่ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Ferrrai เขียนบทโดยสี่พี่น้อง Butterworthและ Jason Keller /
Queen & Slim ของ Melina Matsoukas ผู้กำกับหญิงที่ผ่านงานกำกับเอ็มวีอย่างโชกโชน กับเรื่องราวของหนุ่มสาวผิวสีในคืนเดทแรกที่หนุ่มผิวสีดันพลั้งมือฆ่าตำรวจเพื่อป้องกันตัวเอง พวกเขาทั้งสองจึงต้องหาทางหลบหนีไป เขียนบทโดย Lena Waithe มือเขียนบทหญิงผิวสีรางวัล Emmy / และ
Bombshell ของผู้กำกับ Jay Roach เล่าเรื่องราวจากเรื่องจริง ของสาวๆจาก Fox News ที่ออกมาเปิดเผยถึงความชั่วของเจ้าของบริษัทจอมล้วง ผู้ชอบละเมิดทางเพศพวกเธออย่าง Roger Alies เขียนบทโดย Charles Randolph มือเขียนบทรางวัลออสการ์จาก The Big Short (2015)
คาดการณ์ผู้เข้าชิงออสการ์ หลังจบ3เทศกาลใหญ่ภาพยนตร์ช่วง Fall
สาขาแรก
BEST ORIGINAL SCREENPLAY บทภาพยนตร์ภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
(1) Marriage Story (Netflix)
(2) Once Upon a Time in Hollywood (Sony)
(3) The Farewell (A24)
(4) Parasite (Neon)
(5) Knives Out (Lionsgate)
Alt. (6) The Report (Amazon), (7) Booksmart (Annapurna) & (8) Waves (A24)
เต็งสามคือ The Farewell จากค่าย A24 ของผู้กำกับ Lulu Wang แฟนสาวของผู้กำกับ Barry Jenkins ที่เล่าเรื่องราวที่ดัดแปลงจากชีวิตจริงของเธอ เรื่องราวเกี่ยวหญิงสาวและครอบครัวที่ต้องปกปิดความลับที่ว่าย่าของเธอกำลังจะตายจากมะเร็ง ไม่ให้ย่าของเธอได้รับรู้
เต็งสี่คือ Parasite ของผู้กำกับ Bong Joon-ho จากแดนกิมจิที่มี Han Jin-wonร่วมเขียนบท Parasite ผลงานเจ้าของรางวัลปาล์มทองคำด้วยสไตล์บทที่ระทึก สนุกสนานและเจาะลึกถึงสังคมและชนชั้น น่าจะเข้าถึงสำหรับผู้คนส่วนใหญ่ที่รับชมได้ไม่ยากถึงแม้หนังจะเป็นภาษาเกาหลี นอกจากนี้ Parasite ยังสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่งของรางวัลขวัญใจคนดูหนังอย่าง People's Choice Awardจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ Torontoมาได้
เต็งห้าคือ Knives Out ของผู้กำกับ Rian Johnson ที่โดนด่าไปเยอะกับหนังเรื่องก่อนหน้า กลับมากับบทที่สุดยอดในหนังแนว Whodunit เพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แอบเสียดายแทนตอนที่ Looper (2012) ไม่ได้เข้าชิงออสการ์ นอกจากบทที่ยอดเยี่ยมแล้ว หนังยังมีทีมนักแสดงมากฝีมือจำนวนมากมายมาปะทะคารมกัน