สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้มีวัตถุประสงค์คือมารีวิว Road Trip ของเราในช่วงเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมานะคะ โดยเส้นทางที่เราใช้คือ โตเกียว - ฟูจิ - คามิโคจิ - นิกโก – โตเกียว
สาเหตุเกิดจากเราไป “บน” ไว้ค่ะ ถ้าทริปผ่านไปได้ด้วยดีจะมารีวิวให้เป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ ทุกคน 55
จริง ๆ แล้วถึงไม่บนก็ตั้งใจจะมารีวิวค่ะ เพราะเข้าใจว่าข้อมูลบางอย่างที่เราสงสัยมันหาคำตอบไม่ได้จริง ๆ จนกระทั่งไปเจอกับตัวเอง
ขออนุญาตชี้แจงก่อนกว่าเราไปญี่ปุ่นด้วยตัวเองมาแล้ว 2 ครั้ง ดังนั้นเราอาจจะข้ามเนื้อหาบางอย่างไปโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตามขอให้กระทู้นี้เป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังหาคำตอบอยู่นะคะ
เราจะแบ่งหัวข้อออกเป็นตามนี้ค่ะ
1. วางแผนการเดินทาง
2. เช่ารถ
3. ออกเดินทาง
***************************************************************************************
1. วางแผนการเดินทาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1.1. ต้องรู้ก่อนเลยว่าอยากไปไหนบ้าง ตามโปรแกรมที่เราตั้งไว้คือเราจะไปดูฟูจิ คามิโคจิ นิกโก และโตเกียว
1.2. กำหนดจำนวนวันที่ต้องการไปให้สอดคล้องกับโปรแกรมเที่ยว ของเรา 5 คืน 6 วัน ไม่เน้นโตเกียวเพราะเราไปมาแล้ว
1.3. กำหนดเส้นทาง เมื่อไปดูแผนที่จะพบว่าเส้นทางนี้เดินทางเป็นวงกลมได้เลย โดยจะเลือกได้ว่า
a โตเกียว - ฟูจิ - คามิโคจิ - นิกโก – โตเกียว หรือ
b โตเกียว - นิกโก - คามิโคจิ - ฟูจิ - โตเกียว
* เราแนะนำว่าถ้าขับรถให้เลือกเป็นวงกลมค่ะ เพราะค่าคืนรถข้ามเขตแพงพอสมควร
1.4. จัดโปรแกรมเที่ยวแบบคร่าว ๆ เพื่อดูความเป็นไปได้ โดยเราทำทั้งแบบ a และ b ค่ะ
ความเป็นไปได้ของแพลนนี่เป็นเรื่องสำคัญมากกกกก และเป็นสิ่งที่เพื่อน ๆ ผู้มีประสบการณ์ในพันทิปต้องคอยเตือนกันอยู่เสมอ สิ่งที่ต้องระวังเท่าที่เราพอจะนึกได้มีตามนี้ค่ะ
1.4.1. เวลาเช็คอินเช็คเอาท์จากที่พัก
1.4.2. เวลาทานอาหาร คนชอบลืมใส่ไว้ในแพลนค่ะ
1.4.3. เวลาเปิดปิดของสถานที่ต่าง ๆ เช่นพวกวัด สวน
1.4.4. ระยะห่างของแต่ละที่ ใกล้ไกลขนาดไหน เรากำหนดไว้แล้วว่าทริปนี้จะไม่นั่งรถนานเกินกว่า 2 ชั่วโมงต่อครั้งเด็ดขาด เวลาเที่ยวต้องมากกว่าเวลาเดินทาง และเราไม่เดินทางหลังสองทุ่มค่ะ
1.4.5. สภาพอากาศและฤดู ถ้าฝนตกจะต้องมีแผนสำรองว่าไปอยู่ที่ไหนได้ หน้าหนาวฟ้าจะมืดเร็วกว่าปกติ ห้าโมงกว่าก็มืดแล้ว บางที่เที่ยวไม่ได้แล้วนะคะ
1.4.6. ถนนหนทาง จำเป็นมาก ๆ สำหรับโร้ดทริป ยิ่งถ้าเริ่มเย็น ๆ ค่ำๆ แล้วล่ะก็ ท่องไว้นะคะ “เลือกทางหลวงไว้ก่อน” ต่อให้อีกทางจะเป็นทางลัดขนาดไหน เลือกทางหลวงไว้ก่อนค่ะ เชื่อเรา ลัดแค่ไหนถ้าเกิดยางรั่วยางแบนขึ้นมาคือจบค่ะ
1.4.7. ที่จอดรถ ปกติหาไม่ยากค่ะ แต่เช็คในกูเกิลให้ดี ๆ ก่อนจะได้อุ่นใจ
1.5. วางแพลนคร่าว ๆ เสร็จแล้วเราก็จะรู้ว่าเส้นทางไหนที่เข้ากับเรา เช่น เราตัดแพลนที่มีนิกโกตรงกับวันเสาร์เพราะไม่อยากรถติดบนเขา
1.6. ได้เส้นทางแล้วต่อไปคือพล็อตจุดเที่ยว จุดแวะพัก และที่พักค่ะ
1.6.1. ถนนของญี่ปุ่นขับสบายมาก ที่พักข้างทางถ้าเป็นจุดใหญ่ ๆ (SA : Service Area) ก็สะดวกครบครันทั้งปั๊มน้ำมันและร้านอาหารค่ะ แต่ถ้าเป็นจุดจอดรถ (PA : Parking Area) ก็ไว้จอดพักเข้าห้องน้ำต่าง ๆ ทั้งหมดนี้หาได้จากกูเกิลแมปค่ะ เรากดไล่ดูสตรีทวิวไปตามถนนที่ขับเลย เจอจุดแวะพักตรงไหนก็ปักหมุดไว้ก่อน เผื่อฉุกเฉินจะได้รู้ไว้ว่ามีตรงนี้นะ
1.6.2. ที่พัก ตรงนี้เราได้เปรียบเพราะขับรถ จะเลือกตรงไหนก็ได้ขอแค่มีที่จอดรถ ข้อดีอีกอย่างคือราคาจะถูกกว่าที่พักติดสถานีรถไฟค่ะ
2. เช่ารถ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้2.1. ทำใบขับขี่สากลให้พร้อม เลือกประเภทให้ถูกว่ารถสำหรับกี่ที่นั่ง
2.2. ญี่ปุ่นขับด้านเดียวกับบ้านเรา ไม่น่าห่วงค่ะ
2.3. เลือกรถที่เหมาะกับคน สัมภาระ และของช็อปปิ้งที่จะซื้อเพิ่ม
2.4. ศึกษากฎจราจรให้ดีทั้งคนขับและผู้ร่วมทริปนะคะ ช่วยกันดูค่ะ ที่ญี่ปุ่นรถจะขับตาม ๆ กันไป แซงขวาแล้วรีบเข้าซ้ายเลยไม่ต้องไปวิ่งแช่อยู่เลนขวานะคะ
2.5. เลือกเช่ารถกับเจ้าไหนก็ตามสะดวกค่ะ ดูเวลารับรถคืนรถให้ดีก็พอ เราเช่ากับ Tocoo รับรถ 7 โมงเช้าแต่ไปก่อนเวลาสิบห้านาทีก็มีคนมารอคิวแล้วสองคิวค่ะ ดังนั้นไปเช้าๆ ได้ก็ดี
ไปถึงยื่นเอกสารต่าง ๆ ให้ครบ พนักงานพาไปตรวจเช็ครถ ถ้ามีรอยอะไรใหญ่ ๆ ต้องรีบบอกนะคะ ช่วงตรวจรับรถ+สอนการใช้งานกินเวลาประมาณ 15 นาที พนักงานพูดอังกฤษไม่คล่องด้วย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ขับออกไปได้เลย
2.6. จีพีเอสที่เราได้มาดีมากกกกกกกก บอกตรงเป๊ะ ใกล้ถึงจุดพักรถก็บอก คำนวณเวลาได้ใกล้เคียงมาก ๆ ค่ะ เตรียม map code ไปใส่ หรือจะใส่เลขโทรศัพท์ก็ได้ เราใช้แล้วไม่เจอปัญหานะคะ
2.7. Pass ค่าทางด่วน มีหลายเจ้าตามแต่เส้นทาง แต่เราใช้ของ Tocoo เองเพราะขับรถข้ามภูมิภาค รู้สึกคุ้มค่ามาก ๆ ทั้งในแง่การเงินและความสบายใจ คำนวณออกมาก็ประหยัดไปเยอะมาก ๆ ค่ะ
** Pass Tocoo เราเลือกให้ส่งไปที่โรงแรมที่พักคืนแรก เพราะเราใช้รถวันที่สอง ตอนจองรถก็ใส่ชื่อโรงแรม+ที่อยู่ พนักงานโรงแรมก็นำมาให้ตอนเช็คอินโดยไม่พบปัญหาใด ๆ นะคะ
2.8. เราไม่ได้ไปช่วงที่มีหิมะ ดังนั้นไม่ขอออกความเห็นเรื่องนี้นะคะ
3. ออกเดินทาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้3.1. วันที่ 1 เดินทางมาถึงโตเกียว ยังไม่ใช้รถ
3.2. วันที่ 2 รับรถ และเดินทางโตเกียว - คาวากุชิโกะ – หมู่บ้านน้ำใส – Suwa
3.2.1. จุดรับรถ เราเลือกแบบที่เดินชิลๆไปถึงได้ในสิบห้านาทีจากโรงแรม
3.2.2. ขับในโตเกียวเกร็งมาก รถเยอะ ถนนมีไม่รู้กี่เลน ก็พยายามวน ๆ ไปค่ะ จีพีเอสช่วยชีวิตจริง ๆ ดีที่ไม่ค่อยมีมอเตอร์ไซค์ค่ะ
3.2.3. ช่วงโตเกียวไปคาวากุชิโกะ จะมีรถติดช่วงแรก ๆ ตอนออกจากโตเกียว SA PA ด่านแรก ๆ นี่คนเยอะมาก ๆ ถ้าเห็นแถวยาวขับต่อไปอีกสักพักก็มีค่ะ คนน้อยแบบเห็นได้ชัด
3.2.4. ที่จอดรถริมทะเลสาบคาวาฯ มีเยอะค่ะ รถเข้าออกตลอด เราจอดแถว ๆ หน้ากระเช้า มีห้องน้ำสาธารณะบริการฟรีด้วย
3.2.5. ที่จอดรถ Oshino Hakkai เราไปจอดที่ลานจอดรถแถวนั้น มีค่าจอด 300 เยนไม่จำกัดเวลา (มีคุณลุงเดินมาเก็บเงินนะคะ ไม่ใช่เครื่องอัติโนมัติแต่อย่างใด 55) เดินใกล้ ๆ แป๊บเดียวถึงค่ะ
3.2.6. เราออกจากคาวากุชิโกะไป Suwa เส้นทางนี้ก็ขับสบาย ออกเดินทางห้าโมง แวะทานอาหารที่จุดพักตอนหกโมงซึ่งฟ้าก็มืดแล้วค่ะ ถึงที่พักทุ่มนิด ๆ
3.3. วันที่ 3 suwa – Kawaguchiko – Narai – Kamikochi
3.3.1. จริงๆแล้วแผนคือไป Narai แล้วเที่ยว Kamikochi ตอนบ่าย แต่ปรากฎว่าเมื่อวานฝนตกจนไม่เห็นฟูจิแม้แต่นิดเดียว วันนี้เช็คจากเว็บแล้วฟูจิชัดใสมาก อดไม่ได้ต้องพาคณะทัวร์กลับไปสักการะค่ะ ไม่ผิดหวังจริงๆ และรู้สึกคุ้มค่าพาสทางด่วนมาก ๆ
3.3.2. เราออกจากคาวาบ่าย ๆ แล้วก็วิ่งตรงไป Narai เลย มีที่จอดรถฟรี เดินเที่ยวแป๊บ ๆ ก็ฟ้ามืดค่ะ
3.3.3. เดินทางจาก Narai ไปที่พักในบริเวณ Kamikochi ซึ่งดูจากแผนที่แล้วมีสองทางคือออกไปทางหลวงปกติ กับวิ่งลัดเขาไป ซึ่งเราก็เลือก... ลัดเขาค่ะ เป็นความคิดที่ผิดพลาดมาก เพราะถึงแม้ถนนหนทางจะดี แต่มันมืด แล้วก็ไม่มีคนด้วย ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆไปตลอดจนถึงที่พัก อันนี้ขอเตือนเพื่อน ๆ ทุกคนนะคะ อย่าทำค่ะ เลือกทางหลวงไว้ก่อนเสมอ เกิดรถยางรั่วหรืออะไรขึ้นมาเราคงแย่ค่ะ
3.4. วันที่ 4 Kamikochi – Karuizawa Outlet – Maebashi
3.4.1. ตอนเช้าเราไปเที่ยวอุทยาน Kamikochi โดยขับรถไปจอดที่ Akandana parking (เพราะเรามาจากทาง Shinhotaka Ropeway) ที่จอดรถกว้างมากๆ ค่ะ และจุดเริ่มต้นรถบัสก็อยู่ตรงนั้นเลย มีตู้ซื้อตั๋วให้ไปกดแล้วก็วิ่งขึ้นรถได้ เราไปตอนเกือบหกโมงนิด ๆ คนไม่เยอะค่ะ คิดว่าทางฝั่ง sawando น่าจะคนเยอะมากกว่า
3.4.2. เราออกจาก Kamikochi เที่ยง ๆ แล้วขับรถยาวไป Karuizawa Outlet และอยู่ต่อจนปิดประมาณ 1 ทุ่ม และขับต่อไปโรงแรมที่ Maebashi ค่ะ
3.5. วันที่ 5 Maebashi - น้ำตก Fukiware – Nikko – Tokyo
3.5.1. เราออกจาก Maebashi และเลือกไปนิกโก้โดยถนน romantic road ซึ่งผ่านน้ำตก Fukiware พอดี เลยได้แวะไปดู สำหรับเราคิดว่าเส้นนี้ขับขึ้นไปนิกโก้ไม่ยากเลยค่ะ ไม่คดเคี้ยวเหมือนเส้นที่มาจาก Nikko Station เส้นทางที่เรามาแทบไม่มีรถเลย มาติดเอาก็ตรงทะเลสาบชูเซ็นจิค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฝนตกด้วยรึเปล่าคนเลยไม่ค่อยมี
3.5.2. จากนิกโก้ขับโตเกียวก็สบายค่ะ ยาว ๆ ไปเลย แต่พอเข้าโตเกียวก็เกร็งอีกแล้ว 55 เราขับแวะส่งคนที่โรงแรมและก็ไปเติมน้ำมันให้เต็มถัง จากนั้นก็เอารถไปคืน พนักงานแทบไม่ตรวจรถอะไรเลย
จบแล้วค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ
Review Road Trip โตเกียว - ฟูจิ - คามิโคจิ - นิกโก – โตเกียว :6 วัน 5 คืน
กระทู้นี้มีวัตถุประสงค์คือมารีวิว Road Trip ของเราในช่วงเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมานะคะ โดยเส้นทางที่เราใช้คือ โตเกียว - ฟูจิ - คามิโคจิ - นิกโก – โตเกียว
สาเหตุเกิดจากเราไป “บน” ไว้ค่ะ ถ้าทริปผ่านไปได้ด้วยดีจะมารีวิวให้เป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ ทุกคน 55
จริง ๆ แล้วถึงไม่บนก็ตั้งใจจะมารีวิวค่ะ เพราะเข้าใจว่าข้อมูลบางอย่างที่เราสงสัยมันหาคำตอบไม่ได้จริง ๆ จนกระทั่งไปเจอกับตัวเอง
ขออนุญาตชี้แจงก่อนกว่าเราไปญี่ปุ่นด้วยตัวเองมาแล้ว 2 ครั้ง ดังนั้นเราอาจจะข้ามเนื้อหาบางอย่างไปโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตามขอให้กระทู้นี้เป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังหาคำตอบอยู่นะคะ
เราจะแบ่งหัวข้อออกเป็นตามนี้ค่ะ
1. วางแผนการเดินทาง
2. เช่ารถ
3. ออกเดินทาง