เริ่มจากมาทำความเข้าใจกับผังเมืองและกฎหมายผังเมืองกันก่อน
ทำไมต้องรู้กฎหมายผังเมือง?
กฎหมายผังเมืองที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัด จะบอกถึงศักยภาพในการพัฒนาว่าเราสามารถสร้างอาคารประเภทไหนได้บ้าง สร้างได้ขนาดเท่าไหร่ สมมุติว่าเราได้ที่ดินขึ้นมาแปลงหนึ่งในราคาถูก อยากจะสร้างคอนโดมิเนียมขาย แต่ที่ดินคุณตั้งอยู่ในพื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นที่ดินประเภทส่งเสริมด้านชนบทและเกษตรกรรม ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสสร้างคอนโดมิเนียมได้บ้างในพื้นที่ (บางพื้นที่กำหนดให้สร้างได้เพียง 5% ของพื้นที่ทั้งหมด) แต่การพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวสูงแบบ Hige rise สร้างผลกำไรเป็นกอบเป็นกำให้คุณคงเป็นไปไม่ได้ ก็กลับกลายเป็นว่าคุณได้จ่ายเงินซื้อที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพน้อยไปซะแล้ว โอกาสในการพัฒนาอะไรก็จะยากขึ้น ก่อนจะซื้อที่ดิน หรือ อสังหาริมทรัพย์ใด ๆ ก็ควรตรวจสอบสีผังเมืองให้แน่ใจกันก่อนนะคะ
ประเภทสีผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ในทุกจังหวัดจะมีการกำหนดและจัดสรรผังเมืองเอาไว้ สำหรับผังเมืองกรุงเทพฯ ฉบับปัจจุบัน ปีพ.ศ. 2556 และร่างผังเมืองฉบับใหม่ จะแบ่งแยกออกเป็นโซนไล่ตามสีทั้งหมด 10 ประเภท (อันที่จริงมีย่อยกว่านั้นอีก) โดยจะบอกได้ว่าแต่ละสีหมายถึงอะไร เป็นที่ดินแบบไหน อีกทั้งยังส่งผลต่อราคาที่ดินอีกด้วย ถึงแม้ว่าที่ตั้งที่ดินจะห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เมตร ก็อาจมีศักยภาพการพัฒนาที่ต่างกันอย่างมากตามข้อกำหนดสีผังเมือง
พื้นที่สีเหลือง – ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย
พื้นที่สีส้ม – ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง
พื้นที่สีน้ำตาล – ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก
พื้นที่สีน้ำเงิน – ที่ดินประเภทสถาบันราชการ สาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
พื้นที่สีน้ำตาลอ่อน – ที่ดินประเภทอนุรักษ์เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรมไทย
(ในร่างผังเมืองใหม่ จะเปลี่ยนประเภทสีผังเมืองนี้เป็นพื้นที่พานิชยกรรม พ.1 และ พ.2)
พื้นที่สีแดง – ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม
พื้นที่สีม่วง – ที่ดินประเภทอุตสาหกรรม
พื้นที่สีเม็ดมะปราง – ที่ดินประเภทคลังสินค้า
พื้นที่สีขาวมีกรอบและเส้นทะแยงสีเขียว – ที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม
พื้นที่สีเขียว – ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม
ในประเภทสีผังเมืองทั้งหมด 10 สีนั้น จะแบ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินออกเป็น 31 บริเวณในร่างผังเมืองใหม่ เพิ่มขึ้นจากประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน 26 บริเวณในกฎหมายผังเมืองเดิม ซึ่งหมายความว่าถึงแม้ที่ดินจะอยู่ในพื้นที่สีเดียวกัน ก็อาจมีข้อจำกัดการพัฒนาที่ทำให้สร้างอาคารบางประเภทไม่ได้นั่นเอง
พอเข้าใจกันบ้างหรือยังคะ แต่เรามีวิธีง่ายๆ กว่านั้นมาบอกตอนนี้สามารถเช็ค สีผังเมืองบนแผนที่ง่ายๆ
>>> https://www.tooktee.com/map/?overlaymap=bkk
อยากรู้สีผังเมือง, ประเภทที่ดิน, FAR*, OSR* สีของผังเมืองจะทำให้เกิดความชัดเจนว่าโซนนี้สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินอะไร ก่อนซื้อขายหรือพัฒนาอสังหาฯ ควรเช็คดีๆกันก่อนจ้าาาา
ขอบคุณข้อมูลจาก >>>
https://www.tooktee.com
วิธีดู “ผังเมือง” อย่างไรให้เข้าใจ ที่ดินที่เราถืออยู่ ทำอะไรได้บ้าง
ทำไมต้องรู้กฎหมายผังเมือง?
กฎหมายผังเมืองที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัด จะบอกถึงศักยภาพในการพัฒนาว่าเราสามารถสร้างอาคารประเภทไหนได้บ้าง สร้างได้ขนาดเท่าไหร่ สมมุติว่าเราได้ที่ดินขึ้นมาแปลงหนึ่งในราคาถูก อยากจะสร้างคอนโดมิเนียมขาย แต่ที่ดินคุณตั้งอยู่ในพื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นที่ดินประเภทส่งเสริมด้านชนบทและเกษตรกรรม ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสสร้างคอนโดมิเนียมได้บ้างในพื้นที่ (บางพื้นที่กำหนดให้สร้างได้เพียง 5% ของพื้นที่ทั้งหมด) แต่การพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวสูงแบบ Hige rise สร้างผลกำไรเป็นกอบเป็นกำให้คุณคงเป็นไปไม่ได้ ก็กลับกลายเป็นว่าคุณได้จ่ายเงินซื้อที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพน้อยไปซะแล้ว โอกาสในการพัฒนาอะไรก็จะยากขึ้น ก่อนจะซื้อที่ดิน หรือ อสังหาริมทรัพย์ใด ๆ ก็ควรตรวจสอบสีผังเมืองให้แน่ใจกันก่อนนะคะ
ประเภทสีผังเมืองและการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ในทุกจังหวัดจะมีการกำหนดและจัดสรรผังเมืองเอาไว้ สำหรับผังเมืองกรุงเทพฯ ฉบับปัจจุบัน ปีพ.ศ. 2556 และร่างผังเมืองฉบับใหม่ จะแบ่งแยกออกเป็นโซนไล่ตามสีทั้งหมด 10 ประเภท (อันที่จริงมีย่อยกว่านั้นอีก) โดยจะบอกได้ว่าแต่ละสีหมายถึงอะไร เป็นที่ดินแบบไหน อีกทั้งยังส่งผลต่อราคาที่ดินอีกด้วย ถึงแม้ว่าที่ตั้งที่ดินจะห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เมตร ก็อาจมีศักยภาพการพัฒนาที่ต่างกันอย่างมากตามข้อกำหนดสีผังเมือง
พื้นที่สีเหลือง – ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย
พื้นที่สีส้ม – ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง
พื้นที่สีน้ำตาล – ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก
พื้นที่สีน้ำเงิน – ที่ดินประเภทสถาบันราชการ สาธารณูปโภคและสาธารณูปการ
พื้นที่สีน้ำตาลอ่อน – ที่ดินประเภทอนุรักษ์เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรมไทย
(ในร่างผังเมืองใหม่ จะเปลี่ยนประเภทสีผังเมืองนี้เป็นพื้นที่พานิชยกรรม พ.1 และ พ.2)
พื้นที่สีแดง – ที่ดินประเภทพาณิชยกรรม
พื้นที่สีม่วง – ที่ดินประเภทอุตสาหกรรม
พื้นที่สีเม็ดมะปราง – ที่ดินประเภทคลังสินค้า
พื้นที่สีขาวมีกรอบและเส้นทะแยงสีเขียว – ที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม
พื้นที่สีเขียว – ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม
ในประเภทสีผังเมืองทั้งหมด 10 สีนั้น จะแบ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินออกเป็น 31 บริเวณในร่างผังเมืองใหม่ เพิ่มขึ้นจากประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน 26 บริเวณในกฎหมายผังเมืองเดิม ซึ่งหมายความว่าถึงแม้ที่ดินจะอยู่ในพื้นที่สีเดียวกัน ก็อาจมีข้อจำกัดการพัฒนาที่ทำให้สร้างอาคารบางประเภทไม่ได้นั่นเอง
พอเข้าใจกันบ้างหรือยังคะ แต่เรามีวิธีง่ายๆ กว่านั้นมาบอกตอนนี้สามารถเช็ค สีผังเมืองบนแผนที่ง่ายๆ
>>> https://www.tooktee.com/map/?overlaymap=bkk
อยากรู้สีผังเมือง, ประเภทที่ดิน, FAR*, OSR* สีของผังเมืองจะทำให้เกิดความชัดเจนว่าโซนนี้สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินอะไร ก่อนซื้อขายหรือพัฒนาอสังหาฯ ควรเช็คดีๆกันก่อนจ้าาาา
ขอบคุณข้อมูลจาก >>> https://www.tooktee.com