1. ขอเริ่มจากตัววีซ่านะจร้า
- ขอวีซ่าท่องเที่ยวไปค่ะ ได้มา 1 ปีค่ะ ทั้งคู่เลยค่ะ ชะนีเทียมขอครั้งแรกนางก็จัดปีนึงเรยค่ะ ส่วนชะนีสาวอย่างเรา เคยไปเรียนภาษามาแล้วที่เมลเบริน์ เมื่อ 3 ปีก่อน มาขออีกรอบ ก็จัดปีนึงเหมือนกันค่ะ
- ขอออนไลน์กันทั้งคู่ งานพร้อม เงินพร้อม เอกสารเที่ยวพร้อม รอประมาณ  13 วันนี่แหละ ผ่านนนนนนนนนนน!!
- แพลนเที่ยว 13 วันค่ะ นับวันเดินทางด้วยค่ะ 20 Aug - 1 Sep
- ขั้นตอนการขอทำตาม internet ค่ะ! ไม่ยากๆ

2. แพลนเที่ยวคร่าวๆทั้งแพลน นะคะ มันค่อนข้างแน่นและทรหดมากค่ะ
- 20  บิน
- 21  ถึง Melbourne
- 22  ไปเล่นหิมะที่ Mt. Buller 
- 23  อยู่ Melbourne shopping
- 24  ขับรถเที่ยว Great ocean road Melbourne
- 25  ไป Grampians national park 
- 26  fly from Melbourne to Tasmania (Hobart) 
- 27  ขับรถไป Freycinet national park 
- 28  ขับรถไป Cradle mountain  in Lauscenton
- 29  fly from Lauscenton to Sydney
- 30  อยู่ Sydney
- 31  อยู่ Sydney
- 1    กลับ fly from Sydney to Bkk

ไปค่ะ เริ่มค่ะ !

>>>สรุปคนขายแนะนำโปรโมชั่นของดีและถูก คือ 35GB DATA ในราคา 15 ดอล ใช้ได้ 28 วัน >>  ประหยัดไปได้ 5 ดอล แถมเนทเยอะบรรลัยเรยค่ะ 
ตามรูปด้านล่างนี้ค่ะ


นั่งเข้าเมืองกันต่อค่ะ

ใช้วิธีประหยัดจ้า เรื่องไรจะเสียตังเยอะ 555 เวทีนี้เป็นของคนทำการบ้านมาค่ะ  นั่งบัสจาก Terminal bus ที่สนามบิน สาย 901 ลง Broadmeadows station ใช้บัตร Myki card ค่ะ มีอยู่แล้วจ้า ไปถึงก็บอกคนขับว่าถึง Broadmeadows station บอกด้วยนะ คนขับก็บอกว่า ได้ๆ หน้าพี่แกออกแนวอินเดียหน่อย ใจดีจุง พอถึงสถานี ก็ขึ้นรถไฟเข้าเมืองเรยจ่ะ ลง Melbourne central station ค่ะ ต่อด้วยเดินไปยัง hotel ที่จอง เก็บของเรียบร้อย หาไรกินร้านไก่ทอดเกาหลีก่อนเรย ตามด้วยไป shopping ที่ DFO outlet นั่งแทรมฟรีไปค่ะ ตกเยนไปเดิน  winter night market วันแรกแค่นี้ก่อน เหนื่อยเด๋วพรุ่งนี้ไม่ไหว ต้องตื่นแต่เช้า

ไปเล่นหิมะที่ Mt. Buller กัน

นัดกันกะเพื่อนคนไทยที่รู้จัก แต่นางถือพาสปอตออสนะจ๊ะ นางมากะแฟนนาง รวมทั้งหมด 4 คน นางขับรถมารับแต่เช้ามืด ระหว่างทางนั่งไปได้ยังไม่ถึงชั่วโมงนึงเรย ขอเพื่อนจอดข้างทางก่อนทันที ตรุไม่ไหวจิง ๆเพื่อน  อ๊วกแตกกกก พุ่งพร่วด! ออกมาเป็นโยเกิร์ตที่เพิ่งกิน แม่เจ้า! ท้องว่าง มากินโยเกิร์ต แถมอีเพื่อนขับรถแบบไม่แคร์ถนน นี่ตรุเมารถค่ะ นั่งเป็นเจ้าเข้าหลังจากอ๊วกไปพักนึง ก็จอดรถหาไรกินร้านคาเฟ่แถวนั้น อิ่มท้องแล้ว กินยาแก้เมารถ รอออกฤทธิ์หน่อย ร่างกายพร้อมแล้ว เราก็ลุยกันต่อค่ะ 

หาเช่าชุดเล่นสกีที่ Mansfield

 เนื่องจากเราไปเล่นหิมะแค่เช้าเย็นกลับ ไม่จำเป็นต้องซื้อชุดค่ะ เปลืองตัง! เช่าเอาคุ้มกว่า เมื่อถึง Mansfield แล้ว เราทำการบ้านมาค่ะ บอกเพื่อนให้ตรงดิ่งรถเข้าไปจอดที่หน้าร้านชื่อว่า Discount Ski & Snowboard Hire มีให้เช่าทั้ง เสื้อแจ็คเก็ค กางเกง รองเท้า ฯลฯ ทุกอย่างเกี่ยวกะอุปกรณ์เล่นสกี แต่ว่า หมวก Beanie กะ ถุงมือ ต้องซื้อนะ! เค้าบอกว่ามันเป็นเรื่องของสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่มีให้เช่านะจ๊ะ ราคาก็ถูกกว่าแถวร้านข้างๆ ลองเดินไปเทียบดูเอาก็ได้ สรุปตรุจัดเต็ม เช่าทั้ง เสื้อแจคเก็ต รองเท้า กางเกง หมวกกันน๊อค อุปกรณ์เล่นสกี ซื้อถุงมือเพิ่ม (คิดถูกแล้วที่ซื้อ หนาวบนนั้น) ทั้งหมดได้มาราคา 1872  บาท  ค่าเงินออสตกมากๆ เรยคุ้มมากค่ะ ส่วนค่าน้ำมันรถกะค่าเข้า Mt. Buller เพื่อนหารเฉลี่ยกันแล้วตกเหลือคนละ 100 ดอลค่ะ 
     สำหรับใครที่อยากเล่นสกี เล่นไม่เป็นก็คือเล่นไม่เป็นจริงๆค่ะ ต้องไปเรียนก่อน มันลื่นมาก ยืนไม่ไหว ล้มแล้วล้มอีกคลุกคลาน แพล่ะ แบะ  ถูแล้วถูอีกมุงกันอยู่ตรงนั้นให้เพื่อนช่วยกันยกตัวขึ้น ชะนีเทียมก็เต็มที่กะตรุมาก เป็นเพื่อนที่ดีมาก รักกันก็ตรงนี้แหละ นางใส่ชุดสีมะนาวดอง  #ใครไม่ดองมะนาวดอง นางคงสงสาร อุส่าต์ เช่าสกีมา ต้องได้ซักรูปละน่ะ ช่วยกันยกช่วยกันจับประคองกันไป ให้ยืนอยู่บนสกีให้ได้ คือตรุเช่ามาแค่ถ่ายรุปจิงๆค่ะ โว้ยในที่สุดสมใจได้รูปมาแล้วว้อย จะไม่ให้รักได้ไงมีกันอยู่  2 คนนี่น่า!!


มั่วซั่วไปหมด ไม่เป็นไร เอาสนุกก้อพอ ถึงไงก็เล่นไม่เป็นอยู่ดี จากนั้นไปขึ้นกะเช้าชมวิว ซื้อแยกต่างหากที่หน้างาน คนละ 21 ดอลค่ะ ถ้าจำไม่ผิด ที่ขึ้นกระเช้าจะอยู่คนละที่กับที่เล่นสกี ดังนั้นถ้าใครขึ้นบัสไปลงที่เล่นสกี แล้วจะไปขึ้นกระเช้าดูวิว ต้องไปขึ้นอีกทีนะค่ะ ต้องนั่งบัสลงมาค่ะ ถามคนขับเอาก็ได้ ใจดี

(เพิ่มเติมชุดที่เช่ามา ข้างในใส่แค่เสื้อและกางเกง heatech ตัวเดียวก็พอค่ะ เสื้อมันอุ่นมาก ถ้าใส่มาหลายชั้นเสื้อแจคเกตจะทำให้ warm แล้วเหงื่อแตกได้นะคะ)

เยนก็กลับมา Melbourne เพื่อนขับมารับก็ต้องขับมาส่ง บอกลากันเรียบร้อย ก็ไปพักเบรกที่ห้องโรงแรมแปบนึง ยังไม่หายซ่าค่ะ ตกดึกไปผับต่อจ้า ขอซักแก้วนะ จะได้หลับสบาย มาทั้งทีต้องสุดค่ะ สรุปนอนไม่ได้เรยค่ะ ชะนีเทียมกรนดังมาก ตรุจะบ้าตาย เอาหมอนทุบก็แล้ว ตีก็แล้ว จะกรนอะไรขนาดนั้นฟร่ะ ไม่ได้นอนเรยค่ะทั้งคืน 

เช้าวันใหม่ ก็ยังอยู่ที่เมลเบิร์น คุยกันว่าจัดเบาก็พอ แบบ chillax day วันสุดท้ายแล้ว 2 ชะนีสาวไปถ่ายรูปที่หน้าตึก H&M , เดินชม street art lane, หาแซนวิชเวียดนามกิน ต่อด้วยเดินชม Fitzroy Gardens วนต่อมาที่ Hosier Lane ตรงต่อมายัง  Flinders Street Railway Station นี่นะหรอที่ว่าจัดเบา ยัง ยังจะต่ออีกที่ South yarra river บอกเรยว่าปวดขา เดินจนขาลากแร้วอ่ะ เคยมั้ยมันเจ็บข้อเท้า จนรู้สึกได้ว่าเส้นเอ็นมันกำลังขาด มันอักเสบ แต่แบบก็สู้ไงค่ะ ไม่ไหวก็กลับไทยค่ะ อย่ามายืนตรงนี้ แล้วก็ฮึบไป shopping ต่อค่ะที่ DFO outlet ยังไม่ฟินจากวันแรก กลับไทยไม่มีขายหรอกนะ 555 จร้าา ยังยังไม่จบ ตกดึกออกไปงาน white night กะเพื่อนต่อ กลับมาก็ไม่ได้นอนอีกค่ะ เพื่อนชะนีเทียมนอนกรนอีก สามวันแล้วนะ! ไม่ได้นอนอีกแล้วค่ะ!


ขับรถเที่ยว Great ocean road กัน!  หลังจากนี้จะเป็น adventure time
(เช่ารถ 2 วัน เช่า 24 Aug ต้องคืน 26 Aug ก่อน 9.00 น. แต่จะคืนดึกของวันที่ 25 Aug แล้วไปนอนที่สนามบินเอา รอบิน 26 Aug flight time 7.45)

เช้าวันใหม่ไปรับรถเช่าบริษัท Apex car ตรงสถานี Southern cross ใช้แค่ใบขับขี่บ้านเราแบบปกติค่ะ เพราะมีภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้ใบขับขี่สากล แต่ของบริษัทอื่นไม่ทราบจ้าต้องเชคดีๆนะ เแล้ว staff ก็ถามว่าจ่ายเพิ่มค่า roadside rescue วันละ 4 ดอลมั้ย นอกเหนือจากประกันที่จองไว้แบบ zero access นี่เรยแบบตัดสินใจจ่ายให้หมด มีอะไร cover จัดมาให้หมด ตรุเป็นผู้หญิงมีกันอยู่ 2 คนไม่ไหวหรอกนะถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง มันคือค่าที่ถ้าระหว่างทางยางแตก หรือ อื่นๆ ถ้าเราโทรแจ้งก็จะมีเจ้าหน้าที่ส่งมาช่วยไรเงี้ย  staff ก็บอกว่าถ้าขับผ่านพวกทางด่วน ต้องมาจ่ายตังเพิ่มนะ จ่ายตอนคืนรถ นี่ก็เรย เออๆ เด๋วค่อยเลี่ยงเอาถ้าเจอ ไม่รุว้อย! ก็ทำเรื่องรับรถเรียบร้อยได้ upgrade เป็น Toyota corolla แล้วไปกันต่อค่ะ

ให้ชะนีเทียมขับ สั่นหงิกๆ ตรงที่ต้องขับผ่านในเมืองออกมา แล้วมันมีเลนส์รถแทรมไง  เลยแบบกังวลมาก แต่ก็ช่วยกันดู พอหลุดออกมาแล้วเริ่มเข้าถนนใหญ่ ขับตรงไปที่จุดแรกค่ะ Split Point Lighthouse ถ่ายรูปแปบนึง แล้วผลัดกันขับรถ


หิวกันมาก ยังไม่ได้กินอะไรเรย รีบขับไปต่อกันที่ koala cafe kennett river  ไปให้อาหารนก นกสวย ไม่ได้ซื้ออาหารเอง ขอคนแถวนั้นค่ะ แล้วก็ไปสั่งกาแฟกะพาสต้ากินประทังชีวิตไปก่อน


หายหิวแล้ว ไม่รีรอ ขับต่อไปยัง marine lookout apollo bay อากาศดีค่ะ ท้องฟ้าแจ่มใส หนาวด้วย


แวะซื้อของทำกินคืนนี้ที่ supermaket เล็กๆระหว่างทาง

แล้วรีบขับไปต่อที่ twelve apostles กัวจะไม่ทัน เราทำเวลากันเลทไปประมาณ  45 นาทีกว่าที่คิดไว้ น่าจะถึงประมาณบ่ายสาม คาดเดาไว้ก่อน ต้องตัดที่เที่ยวอื่นออก เนื่องจากที่พักจะนอนคืนนี้ก็ยังไม่มี

แพลนก่อนหน้านี้คุยกันว่าจะไปนอนแถว Halls gap เมืองตรง grampians national park เพราะว่าตื่นมาจะเจอจิงโจ้ แล้วจะไป tracking กันต่อแบบไม่เหนื่อยมาก

เรยคุยกันว่า เอางี้นะ! เราขับไปให้ถึง twelve apostles ก่อนละกัน   ถ้าไม่ไปเหมือนมาไม่ถึง แล้วถ้ามีเวลาเราจะเเวะ port cambell ต่อ จากนั้นถ้าเราเหนื่อย เราจะหาที่พักแถว port campbell แต่ถ้าไหวเราจะขับรถสู้ฟัดไปนอนที่ Halls gap ตามแพลนแรกที่คิดไว้ มองหน้ากันแล้ว ก็เรยโอเคร 

ข้อดีของการมาสองคน เราคุยกันตลอด ยิ่งมากะเพื่อนที่สนิทรู้ใจมันจะทำให้คุยกันไม่ยาก แต่ว่าถึงยังไงถ้าไม่ถูกใจกันก็ต้องบอกกันแหละ อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงมันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่รุอะ! จบทริบนี้ถ้าไม่รักกันก็เกลียดกัน เนาะ! พูดเสมอ 555 ขอบคุณชะนีเทียมน้าาาาา

แพลนการขับรถจากจุดที่อยู่ตอนนี้ คือ Kafe Koala  ก็ต้องลุ้นแหละคืนนี้จะแบกร่างไปนอนกันที่  Halls gap ได้มั้ยนะ ดูระยะทางดิ ตรุจะเป็นลม


ระหว่างทางขับต่อไป twelve apostles ทางแบบโค้งเยอะมาก ดีนะกินยาแก้เมารถก่อนเริ่มทริป แล้วฝนก็ตกหนัก อากาศข้างนอกเย็นกว่าข้างใน แล้ว
กระจกก็เริ่มเป็นฝ้า ทำให้เริ่มมองทางไม่เห็น วินาทีนั้นแบบ เห้ยทำไงวะ! ตะโกนออกมาบอกเพื่อน ตรุมองไม่เห็นอ่ะต้องทำไงว่ะ เปิดแอร์ หรือปิดแอร์ว่ะ ทำไมมันเป็นฝ้าข้างใน ต้องแก้ปัญหายังไง ตอนนั้นโง่มาก เพื่อนก็แบบช่วยเช็ดกระจกให้ก่อน เพื่อให้ดูทางได้ไปพลาง ๆ แร้วคือถนนมันโค้งอ่ะ แบบล้านโค้ง อยู่ในภาวะเครียดขึ้นมา กัวมันเกิดอุบัติเหตุอ่ะ  หลังจากเพื่อนหาข้อมูลเสร็จ ก็ขับเกือบถึงที่หมายเเล้ว อากาศข้างนอกเย็นมากๆ สรุปเราต้องทำให้อากาศข้างนอกกะข้างในสัมพันธ์กัน ตอนนี้กระจกข้างในเป็นหยดน้ำเรยจ่ะ เช็ดกันเข้าไป!

 ต่อภาค 2 น้า https://ppantip.com/topic/39232739