Granada อีกหนึ่งเมืองในภูมิภาคของประเทศสเปนตอนใต้ โดยสำหรับเมืองกรานาด้านั้น มีความเป็นเมืองสูง มีตึกสูงมากมาย ขนาดเมืองเรียกว่าใหญ่ทีเดียวครับ มีเมืองเล็กๆอยู่รอบๆตัวเมืองกรานาด้าอีกเยอะมาก โดยความโดดเด่นของเมืองกรานาด้าก็คงจะเป็น Alhambra หรือพระราชวังสไตล์อาหรับที่ในอดีตกาลนั้นมีความยิ่งใหญ่มาก และเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมที่มีให้เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ สำหรับตัวผมเอง มีความเสียดายมากๆที่ไม่สามารถจองตั๋วเข้าไปชมบริเวณด้านในของ Alhambra ได้ โดยต้องบอกว่าคิวตั๋วในเว็บไซต์นั้นเต็มไล่ยาวไปเป็นอาทิตย์ในช่วงซัมเมอร์เลยทีเดียวครับ หากใครต้องการจะมาเที่ยวที่กรานาด้า และต้องการจะเข้า Alhambra นั้น ขอแนะนำว่าควรจะจองตั้งแต่เนิ่นๆเลยครับ และก็อย่างน้อยควรจะใช้เวลาที่นี้สัก 1-2 วันจะดีกว่าการมาเพียงวันเดียวครับ

ด้วยการมีแม่น้ำถึงสี่สาย ทำให้เมืองกรานาด้าในอดีตมีภูมิประเทศที่เหมาะแก่การตั้งรกราก สร้างเมือง โดยตัวพระราชวัง Alhambra นั้นตั้งอยู่บนเนินสูง ทำให้การโจมตียึดเมืองเป็นเรื่องที่ยาก บวกกับยุทธวิธีในการป้องกันที่เรียกได้ว่าไม่สามารถจะโจมตีเอาเมืองนี้เลยก็ว่าได้ ทำให้ถือเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของเมืองเลยก็ว่าได้ครับ เอาเป็นว่าเรามาดูกันดีกว่าว่า เมืองกรานาด้ามีเสน่ห์และความสวยงามอย่างไร

สามารถติดตามฉบับเต็มได้ที่ https://www.facebook.com/I.am.a.SoloTraveller
Plaza Isabel La Catolica
บริเวณถนนสายหลักที่สามารถเดินช้อปปิ้งได้ Calle Reyes Catolicos เช้านี้เราจะเริ่มกันที่ตัว Alhambra กันเลยครับ โดยถนนนี้จะนำเราไปสู่ทางเข้าครับPuerta de la JusticiaAlcazaba หรือป้อมปราการนั้นเองครับPuerta del Vino
Jardines del Paraiso
ภายใน Jardines del Generalife (ผมถ่ายจากฝั่งตรงข้ามนะครับ)ร้านขายของ souvenir ที่บางร้านไม่ยอมถูกเวรคืนพื้นที่ และยังตั้งมาจนถึงปัจจุบัน Palacio de Carlos V โดยบริเวณด้านล่างและด้านบนจะมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งของที่ขุดพบในอดีต สามารถเข้าชมได้ฟรีครับฝั่งตรงข้ามที่เราเห็นนี้ จะเป็นบริเวณที่ยังมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่จริง โดยจะแยกพื้นที่กับคนท้องถิ่นอย่างชัดเจนครับ Catedral de Granada โบสถ์ใหญ่โบสถ์สำคัญของเมืองกรานาด้า สำหรับท่านใดที่ต้องการเข้าชมด้านในจะต้องซื้อบัตรบริเวณด้านข้างโบสถ์ครับ บริเวณด้านข้างของโบสถ์จะมีตรอกเล็กๆที่มีร้านค้ามากมาย
ร้านไอศกรีม Heladería Los Italianos ที่เห็นคนต่อแถวกันเยอะมากๆ รสชาติมีให้เลือกเยอะจริงๆครับ

หลังจากผมเดินสำรวจเมืองเก่าและตัวโบสถ์เรียบร้อยแล้ว ผมก็ทำการเดินเล่นสำรวจบริเวณอื่นๆที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก โดยในภาพนี้คือ Jardines Del Triunfo
เมื่อเดินถัดมาจาก Jardines Del Triunfo ก็จะมีแลนด์มาร์คสำคัญอีกหนึ่งที่ก็คือ Basilica of San Juan de Dios โดยหากต้องการจะเข้าด้านในก็จะต้องเสียค่าบัตรเช่นเคยครับ

เดินถัดมาอีกนิด ก็จะพบกับอาราม Real Monasterio de San Jerónimo

โดยรวมๆแล้วเมืองกรานาด้าไม่ดีแลนด์มาร์คเยอะมากนัก แต่ด้วยความที่มีความเป็นเมืองสูง มีมนต์ขลังของความเก่าแก่ ทำให้การใช้ทุกวินาทีที่นี้ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวครับ สำหรับภาพนี้ถ่ายจากจุดชมวิวที่ Mirador de San Cristobal ซึ่งน่าจะเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดที่มีในแผนที่ครับ

จุดชมวิวต่อไปคือจุดชมวิวสำคัญเพราะสามารถเห็นตัวเมืองได้เกือบจะหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ และแน่นอนนักท่องเที่ยวส่วนมากก็จะต้องมาที่ตรงนี้เป็นหลัก Mirador Placeta de Carvajales

ก่อนพบค่ำ ผมเลือกที่จะลงมาดูบรรยากาศด้านล่าง และบริเวณที่ยังไม่ได้เดินสำรวจ โดยที่เห็นในภาพคือ Iglesia de San Gil y Santa Ana

แม่น้ำ Darro หนึ่งใน 4 แม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองกรานาด้า

บริเวณ Plaza de Santa Ana

สำหรับในวันนี้ก็คงต้องลากันไปก่อนเท่านี้ โดยขอให้ทุกท่านเก็บเมืองกรานาด้าไว้พิจารณา และถ้าหากมีเวลา ผมก็ขอรับประกันเลยว่า คุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ สำหรับในตอนหน้านั้นจะเป็นตอนสุดท้ายของทริปประเทศสเปนและโปรตุเกสแล้ว จะเป็นเมืองอะไร รอติดตามเร็วๆนี้ครับ