คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
คนพันทิป ที่ตอบกระทู้เป็นประจำ เรื่องการศึกษา
เรื่องสังคมในต่างประเทศ และเรื่องกฎหมายท้องถิ่น
ส่วนหนึ่ง มีวิถีชีวิตที่ลงตัวแล้ว ในประเทศหนึ่งเท่านั้น
และคงมีไม่กี่คน ที่จะฟันธง ว่า ประเทศหนึ่งใดดีที่สุด
เพราะล่อแหลม ที่จะเกิดกลียุคแตกพวก หรือออกทะเล
เราอยากจะเสนอให้ คุณเปลี่ยนคำถามนิดนึง
เพื่อเปิดช่อง ให้เพื่อนสมาชิก ได้กล้าเขียนจาก
ประสบการณ์ นั่นคือ ถามว่า เพราะอะไร พี่ป้าน้าอา
ถึงเลือกมาอยู่ถาวร ในประเทศมหาอำนาจ พัฒนาแล้ว
หลังจากนั้น คุณก็นำไปกลั่นกรองเอง เพื่อเลือกทาง
ของคุณ ที่กำลังจะไปเริ่มครอบครัวกับสตรีทางยุโรป
สำหรับเรา เวลาตอบถึงอเมริกา เราต้องระบุมลรัฐ
และเขตเค้าน์ตี้ รวมทั้งอาณาบริเวณเมืองรายรอบ
อเมริกาเป็นประเทศรวมของผู้คนอพยพทั่วทุกสารทิศ
เจ้าของประเทศเป็นคนผิวขาว แต่การจ้างงานจะไม่
เลือกชาติพันธุ์ ทุกคนจะมีความเสมอภาคและสิทธิ
เพราะฉะนั้น สวัสดิการสำหรับพลเมือง คือภาษีที่จ่าย
ในแต่ละมลรัฐ มีกฎหมายแยกออกไป มีผู้ว่าการรัฐ
และแต่ละเมือง มีคณะเทศมนตรี หน่วยงานบริหาร
แต่ละทัองถิ่น มีสภาพเมืองทึ่ไม่เหมือนกันทั่วทวีป
ระยะเวลาในภาคตะวันออก ตะวันตกต่างกัน
ในการเดินทางไกลสองฝั่งฟากบินนานหลายช ม
ภูมิประเทศต่างกันไป บางที่หนาวหิมะลงหลายเดือน
แต่บางเมืองร้อน อบอุ่นทั้งปี หรือมีลมแรง มีหมอกจัด
คุณถามถึงสวัสดิการ คุณภาพชีวิต ระบบการศึกษา
แต่คนไทยจำนวนมาก อพยพมาจากรากฐานต่างกัน
เห็นจากกระทู้ทั่วไป บ้างเป็นนักศึกษาแต่ยังเช่าห้องอยู่
หลายคนเป็นแม่บ้าน พาลูกเข้าเรียน แต่ไม่ทำงานหลัก
บ้างทำอาหาร งานอิสระ หรือหลายคนเป็นพลเมือง
มีการศึกษาที่ดีมาก ทำงานกับภาครัฐมีรายได้มั่นคง
เคล้าคละกัน เราคิดว่า มีไม่กี่คน ที่เข้ามาเพราะเลือก
ได้ ว่าจะอยู่ในประเทศที่สวัสดิการดีที่สุดในโลกนี้
แต่ละคนมีเหตุผลที่มาอยู่ต่างประเทศไม่เหมือนกัน
ถ้าใครมีต้นทุนชีวิตสูง มีเครือข่าย มีทักษะภาษาดี
สามารถเลือกระดับสังคมได้ เอาตัวเองไปลงจุดเหมาะ
โดยภาพรวม ทุกคนเลือกที่เหมาะกับตนเองเท่านั้น
ในสถานะคนอพยพ จากประเทศกำลังพัฒนามาสู่
ประเทศมหาอำนาจ แค่นี้ก็ดีพอแล้ว คงมีน้อยคนนัก
ที่จะต้องหาจุดสมบูรณ์แบบ เลือกประเทศได้ตามใจ
ถ้าจะหาคำตอบจากคนทั่วไป ก็จะได้คำตอบกว้างๆ
และจะมีกี่คน คลิกเข้าไปอ่านเจ็ดลิ้งค์ที่คุณแปะมาให้
เพราะประสบการณ์ชีวิต เราเบิ่งสองนัยนาไปทั่วทุกทิศ
ก็เห็นว่าทันสมัย สะอาด มีวินัย เจริญพอสำหรับชีวิต
ของคนตัวเล็กๆ ที่มาจากประเทศเล็กมากกว่ามลรัฐหนึ่ง
สี่สิบปี ในอเมริกา เราก็เห็นว่าชุมชนไทยก้าวหน้าที่สุด
มีคนอยู่มากมาย เป็นหลายแสนคน และจะเพิ่มไม่หยุด
จะมีสักกี่คน พอเห็นคำวิจารณ์ว่าอเมริกาอันดับท้าย
ในหมู่ประเทศพัฒนา แล้วก็จะย้ายออกไปอยู่ยุโรปทันที
เพราะความผูกพันที่มี แผ่นดินนี้ให้ความสุขกับคนไทย
มานานหลายรุ่น ลูกหลานไทยเรียนภาษาไทยรำไทย
ได้เกิดมาเป็นคนอเมริกันเต็มตัว มีเพื่อนนานาชาติครบ
ถ้าจะให้เล่าเรื่องความสุขในชีวิต แต่ละคนมีความรัก
มีเป้าหมายที่แน่ชัด ใครมีเครือข่ายกว้างก็มีโอกาสสูง
ในยุคห้าสิบปีก่อน คนไทยยังนัอย มาบุกเบิกสร้างวัด
พอมีชุมชนไทย มีไทยทาวน์ มีคนอยู่ในทุกสาขาอาชีพ
สร้างระบบสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ประสานราชการ
ความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น คนเรียนมากช่วยตั้งองค์กรช่วยให้
คนที่ต้องการที่พึ่ง มีความรู้ทางภาษา และรู้กฎหมาย
ระบบดิจิตอล ส่งเสริมให้คนมาใหม่ได้เห็นแนวทาง
ในการพัฒนาทางการศึกษา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เราอยากจะบอกคุณว่า อเมริกาคือดินแดนที่ต้องมาเอง
มากะพริบมอง ด้วยสองตา สัมผัสด้วยใจ ใช่ไหมใช่
จะอยู่ได้นานไหม ทำงานอะไรดี จะรุ่งหรือจะร่วงกันแน่
แล้วแต่การไขว่คว้าดิ้นรนขวนขวาย ไปตาม ทางที่ถูก
คุณอาจกำลังต้องการคำตอบไปเพื่อการตัดสินใจ
แต่ไม่ว่าคุณจะเริ่มในยุโรป ไปอยู่บนยอดเขาในสวิส
หรือบินมาลงที่ใจกลางทะเลทรายที่ใดที่หนึ่งก็ตามที
เราคิดว่า ศักยภาพของตัวบุคคล จะเป็นตัวหลักในการ
พัฒนาชีวิตให้มีความสุขและความสมหวังได้แน่นอน
ต่อให้ไปลงจุดที่แร้นแค้นกันดาร คนหนึ่งคนที่เก่งกล้า
ก็จะทำให้ตรงนั้นดีขึ้นและพัฒนาชีวิตของคนอื่นๆด้วย
ในทางกลับกัน คนที่อ่อนแอ ต้องพึ่งความคิดคนอื่น
ต่อให้อยู่ในประเทศที่พัฒนาในทุกทางเป็นอันดับต้น
ก็คงไม่สามารถจะเป็นผู้นำที่ทำอะไรได้เพื่อหมู่คณะ
ถ้าจะหาค่าเฉลี่ย ตามทึ่มีการจัดอันดับ แล้วตัดสินใจ
ขอบอกเลยว่า นั่นคงไม่ดีเท่าได้มาเห็นและตัดสินจาก
ความจริงที่ปรากฏกับชีวิตของคุณเอง ว่าตรงไหนเหมาะ
บางคน อาจมีความรู้สูง มีทักษะในหลายด้านพัฒนาเร็ว
แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่การศึกษาน้อยกว่าสู้ไม่ได้
อันนี้อเมริกาเปิดกว้างให้คนทำอาชีพอิสระยืนแถวหน้า
ตราบใดที่มีกำลังแรงและไม่ลดละความอุตสาหะวิริยะ
ส่วนตัวเรา มาอเมริกาเพื่อต่อยอดการศึกษา ยุคกลาง
มาเพราะมีบุคคลที่มีคุณวุฒิส่งเสริม และมีทุนทรัพย์ครบ
ก่อนจะตัดสินใจอยู่ถาวร ตามขั้นตอนของกฎหมายที่นี่
เราคือผู้เลือก ไม่ได้อ่านความคิดของใครในเว็บใดๆ
และแน่ใจว่า เมื่อผ่านมาครึ่งชีวิตจะมีความสุขมากกว่า
ตัวเราเองที่จะไปอยู่ที่อื่น ในทุกแง่มุม และคุณสมบัติที่มี
เสรีภาพ คือ สิ่งที่เราต้องการ และไม่ถูกปิดกั้นโดย
ระบบอาวุโสหรือระบบการเมือง การปกครองเหลื่อมล้ำ
เท่านี้พอ สำหรับคนที่มาจากประเทศที่ประชาชนอยู่ล่าง
ถามว่า ชีวิตชุมชนไทยยังอยู่ล่างไหม คำตอบคือไม่
แต่ในประเทศที่สวัสดิการดีกว่า ตามที่คุณได้ยินมา
ลองไปสำรวจเอง ว่าวิถีชุมชนคนอพยพขึ้นได้ถึงไหน
อย่างน้อยที่สุด เราแน่ใจว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย
ในสหรัฐ และบุคคลในวงการที่เป็นผู้นำทางวิชาชีพนั้น
เป็นสิ่งหนึ่ง ที่บ่งบอกว่า คุณภาพ ภาพลักษณ์คนไทย
ไม่ได้ด้อยกว่า หน่วยงานรัฐจากไทยในประเทศยุโรป
ตอบแบบนี้ คือ ให้แนวคิด คุณต่องการคนฟันธงจริงๆ
ต้องไปเรียนถามข้าราชการบริหารของหน่วยงานใหญ่
ที่เขามีความรู้ในหลายประเทศ และเข้าใจวัฒนธรรม
ของทั้งอเมริกันและวัฒนธรรมยุโรป อย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง
เพื่อจะให้คุณเลือกอยู่ดี ในที่สุด คุณจะเหมาะกับสังคม
แบบไหน ไม่มีใครตอบได้ แต่ที่แน่ๆ ถ้าคุณเงียบ
กับสตรีเพียงคนเดียว ในชีวิตของคุณ เราคิดว่า
คุณไม่เหมาะจะมาอเมริกา เพราะว่า ตรงนี้ ความคิดเห็น
ของคนในครอบครัว ไม่ใช่ตัวตัดสินชีวิตของใครทั้งสิ้น
จะพ่อแม่ พี่ น้อง ก็ไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์จะเลือกทางเดินคนอื่น
เราคิดว่าคนไกลบ้าน ที่อยู่ในภาคพื้นทวีปต่างกัน
คงไม่ออกมาบอกว่า ใครอยู่ในที่ที่ดีที่สุดกว่าคนอื่นๆ
แต่คำตอบคือ ใครเหมาะกับสังคมอย่างไหนที่ลงตัว
ไม่ว่าเว็บไซต์ไหนของคนยุโรปจะให้ข้อมูลจริงหรือไม่
ถึงอย่างไร อเมริกา ก็ยังจะมีคนอพยพเข้ามาตลอดไป
เพราะใช้ภาษาอังกฤษ หางานได้กว้างกว่าบางประเทศ
ที่ยังไม่เปิดทางให้คนไทยหรือคนต่างชาติที่อ่อนภาษา
ระบบสินค้าส่งออกหรือนำเข้า ระบบความสัมพันธ์ทูต
ระบบการลงทุน พาณิชย์นานาชาติ หายใจสะดวกกว่า
มาถึงเรื่องการศึกษา จริง ที่มีนักเรียนออกไปเรียนรู้
จากทางยุโรปมากขึ้น เพราะระบบค่าใช้จ่ายต่างกัน
แต่นั่นแหละคือภาพสะท้อนว่า คนอเมริกันกล้าคิด
กล้าทำ กล้าเผชิญหน้า และเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่
สถาบันการศึกษาที่นี่ สร้างคนที่มั่นใจในความคิดตน
และสามารถโต้แย้งแลกเปลี่ยนกับอาจารย์ได้ด้วย
คำว่าระบบการศึกษาไม่มีคุณภาพ เท่าในยุโรป
ไม่ควรจะใช้ประเด็นนี้ เป็นตัวตัดสินสมองของใคร
คนไทยที่มีโอกาสเรียนต่อ ในสหรัฐ กลับไปเป็นผู้นำ
อยู่ในคณะรัฐบาลมากมายหลายสาขา โดยเฉพาะ
ทางการทูต กฎหมาย และเศรษฐกิจ องค์ความรู้
ไม่ได้หย่อน บางเรื่อง จะเอาตัวระบบมาวัดกันไม่ได้
สิ่งที่ใช้ได้ในชีวิตจริง ไม่ใช่ระบบ แต่เป็นตัวความรู้
ในวันข้างหน้า ที่คุณสร้างครอบครัวได้สำเร็จ มีบุตร
เขาอาจจะเลือกมาเรียนในอเมริกาก็ได้ เรื่องนี้ไม่แน่
และแม้กระทั่งหน้าที่การงานที่คุณเลือกในอนาคต
ก็ยังไม่เห็นฝั่งเลย ว่าจะพบกับอุปสรรคอย่างไรบ้าง
แม้ว่าสถิติ ค่าเฉลี่ย หรืออะไรก็ตามที่เป็นตัวเลขระบุ
ยังไม่อาจตัดสิน เท่ากับจิตใจของคน และประสบการณ์
เพราะฉะนั้น มันแทบไม่มีประโยชน์ด้วยซ้ำ ที่จะถาม
ด้วยคำว่า อเมริกาแย่กว่า ตามที่คนใกล้ตัวคุณ พูด
ระบบอาจจะได้เปรียบเสียเปรียบ ในแง่การบริการ
แต่ในฐานะประเทศพัฒนาแล้ว คุณภาพชีวิตของคน
ที่เป็นชนชั้นกลาง ที่มีการศึกษาระดับมาตรฐานสากล
คงไม่ได้ด้อยกว่า ครอบครัวของชาวไอริชในยุโรปนะ
ประชากรในสหรัฐกี่ร้อยล้านคน พื้นที่ปกครองมหาศาล
เทียบกับประเทศที่เล็กกว่า อาณาจักรที่ดูแลได้ทั่วถึง
เราคิดว่า ในแต่ละรัฐบาลที่นี่ เขาคิดแล้วว่าอย่างไหน
ดีที่สุดกับการบริหารโดยรวม ประชาชนคือผู้เลือกผู้นำ
และในด้านความสัมพันธ์นานาชาติ สหรัฐยังยึดโยงอยู่
ลองถามเล่นๆ ถ้าประเทศที่ว่าสวัสดิการดีที่สุดแล้วนั้น
เพิ่มพื้นที่กับจำนวนประชากร รวมทั้งสภาพแวดล้อม
ให้เหมือนอเมริกา สวัสดิการจะยังคงล้ำเลิศเช่นเดิมหรือ
ขอให้โชคดี กับอนาคตการงานและครอบครัว
ในต่างประเทศ และหวังว่า คุณจะก้าวไปเป็นผู้นำ
ในด้านใดด้านหนึ่ง ที่มีประโยชน์กับชุมชนไทยในที่นั้น
เรื่องสังคมในต่างประเทศ และเรื่องกฎหมายท้องถิ่น
ส่วนหนึ่ง มีวิถีชีวิตที่ลงตัวแล้ว ในประเทศหนึ่งเท่านั้น
และคงมีไม่กี่คน ที่จะฟันธง ว่า ประเทศหนึ่งใดดีที่สุด
เพราะล่อแหลม ที่จะเกิดกลียุคแตกพวก หรือออกทะเล
เราอยากจะเสนอให้ คุณเปลี่ยนคำถามนิดนึง
เพื่อเปิดช่อง ให้เพื่อนสมาชิก ได้กล้าเขียนจาก
ประสบการณ์ นั่นคือ ถามว่า เพราะอะไร พี่ป้าน้าอา
ถึงเลือกมาอยู่ถาวร ในประเทศมหาอำนาจ พัฒนาแล้ว
หลังจากนั้น คุณก็นำไปกลั่นกรองเอง เพื่อเลือกทาง
ของคุณ ที่กำลังจะไปเริ่มครอบครัวกับสตรีทางยุโรป
สำหรับเรา เวลาตอบถึงอเมริกา เราต้องระบุมลรัฐ
และเขตเค้าน์ตี้ รวมทั้งอาณาบริเวณเมืองรายรอบ
อเมริกาเป็นประเทศรวมของผู้คนอพยพทั่วทุกสารทิศ
เจ้าของประเทศเป็นคนผิวขาว แต่การจ้างงานจะไม่
เลือกชาติพันธุ์ ทุกคนจะมีความเสมอภาคและสิทธิ
เพราะฉะนั้น สวัสดิการสำหรับพลเมือง คือภาษีที่จ่าย
ในแต่ละมลรัฐ มีกฎหมายแยกออกไป มีผู้ว่าการรัฐ
และแต่ละเมือง มีคณะเทศมนตรี หน่วยงานบริหาร
แต่ละทัองถิ่น มีสภาพเมืองทึ่ไม่เหมือนกันทั่วทวีป
ระยะเวลาในภาคตะวันออก ตะวันตกต่างกัน
ในการเดินทางไกลสองฝั่งฟากบินนานหลายช ม
ภูมิประเทศต่างกันไป บางที่หนาวหิมะลงหลายเดือน
แต่บางเมืองร้อน อบอุ่นทั้งปี หรือมีลมแรง มีหมอกจัด
คุณถามถึงสวัสดิการ คุณภาพชีวิต ระบบการศึกษา
แต่คนไทยจำนวนมาก อพยพมาจากรากฐานต่างกัน
เห็นจากกระทู้ทั่วไป บ้างเป็นนักศึกษาแต่ยังเช่าห้องอยู่
หลายคนเป็นแม่บ้าน พาลูกเข้าเรียน แต่ไม่ทำงานหลัก
บ้างทำอาหาร งานอิสระ หรือหลายคนเป็นพลเมือง
มีการศึกษาที่ดีมาก ทำงานกับภาครัฐมีรายได้มั่นคง
เคล้าคละกัน เราคิดว่า มีไม่กี่คน ที่เข้ามาเพราะเลือก
ได้ ว่าจะอยู่ในประเทศที่สวัสดิการดีที่สุดในโลกนี้
แต่ละคนมีเหตุผลที่มาอยู่ต่างประเทศไม่เหมือนกัน
ถ้าใครมีต้นทุนชีวิตสูง มีเครือข่าย มีทักษะภาษาดี
สามารถเลือกระดับสังคมได้ เอาตัวเองไปลงจุดเหมาะ
โดยภาพรวม ทุกคนเลือกที่เหมาะกับตนเองเท่านั้น
ในสถานะคนอพยพ จากประเทศกำลังพัฒนามาสู่
ประเทศมหาอำนาจ แค่นี้ก็ดีพอแล้ว คงมีน้อยคนนัก
ที่จะต้องหาจุดสมบูรณ์แบบ เลือกประเทศได้ตามใจ
ถ้าจะหาคำตอบจากคนทั่วไป ก็จะได้คำตอบกว้างๆ
และจะมีกี่คน คลิกเข้าไปอ่านเจ็ดลิ้งค์ที่คุณแปะมาให้
เพราะประสบการณ์ชีวิต เราเบิ่งสองนัยนาไปทั่วทุกทิศ
ก็เห็นว่าทันสมัย สะอาด มีวินัย เจริญพอสำหรับชีวิต
ของคนตัวเล็กๆ ที่มาจากประเทศเล็กมากกว่ามลรัฐหนึ่ง
สี่สิบปี ในอเมริกา เราก็เห็นว่าชุมชนไทยก้าวหน้าที่สุด
มีคนอยู่มากมาย เป็นหลายแสนคน และจะเพิ่มไม่หยุด
จะมีสักกี่คน พอเห็นคำวิจารณ์ว่าอเมริกาอันดับท้าย
ในหมู่ประเทศพัฒนา แล้วก็จะย้ายออกไปอยู่ยุโรปทันที
เพราะความผูกพันที่มี แผ่นดินนี้ให้ความสุขกับคนไทย
มานานหลายรุ่น ลูกหลานไทยเรียนภาษาไทยรำไทย
ได้เกิดมาเป็นคนอเมริกันเต็มตัว มีเพื่อนนานาชาติครบ
ถ้าจะให้เล่าเรื่องความสุขในชีวิต แต่ละคนมีความรัก
มีเป้าหมายที่แน่ชัด ใครมีเครือข่ายกว้างก็มีโอกาสสูง
ในยุคห้าสิบปีก่อน คนไทยยังนัอย มาบุกเบิกสร้างวัด
พอมีชุมชนไทย มีไทยทาวน์ มีคนอยู่ในทุกสาขาอาชีพ
สร้างระบบสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ประสานราชการ
ความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น คนเรียนมากช่วยตั้งองค์กรช่วยให้
คนที่ต้องการที่พึ่ง มีความรู้ทางภาษา และรู้กฎหมาย
ระบบดิจิตอล ส่งเสริมให้คนมาใหม่ได้เห็นแนวทาง
ในการพัฒนาทางการศึกษา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เราอยากจะบอกคุณว่า อเมริกาคือดินแดนที่ต้องมาเอง
มากะพริบมอง ด้วยสองตา สัมผัสด้วยใจ ใช่ไหมใช่
จะอยู่ได้นานไหม ทำงานอะไรดี จะรุ่งหรือจะร่วงกันแน่
แล้วแต่การไขว่คว้าดิ้นรนขวนขวาย ไปตาม ทางที่ถูก
คุณอาจกำลังต้องการคำตอบไปเพื่อการตัดสินใจ
แต่ไม่ว่าคุณจะเริ่มในยุโรป ไปอยู่บนยอดเขาในสวิส
หรือบินมาลงที่ใจกลางทะเลทรายที่ใดที่หนึ่งก็ตามที
เราคิดว่า ศักยภาพของตัวบุคคล จะเป็นตัวหลักในการ
พัฒนาชีวิตให้มีความสุขและความสมหวังได้แน่นอน
ต่อให้ไปลงจุดที่แร้นแค้นกันดาร คนหนึ่งคนที่เก่งกล้า
ก็จะทำให้ตรงนั้นดีขึ้นและพัฒนาชีวิตของคนอื่นๆด้วย
ในทางกลับกัน คนที่อ่อนแอ ต้องพึ่งความคิดคนอื่น
ต่อให้อยู่ในประเทศที่พัฒนาในทุกทางเป็นอันดับต้น
ก็คงไม่สามารถจะเป็นผู้นำที่ทำอะไรได้เพื่อหมู่คณะ
ถ้าจะหาค่าเฉลี่ย ตามทึ่มีการจัดอันดับ แล้วตัดสินใจ
ขอบอกเลยว่า นั่นคงไม่ดีเท่าได้มาเห็นและตัดสินจาก
ความจริงที่ปรากฏกับชีวิตของคุณเอง ว่าตรงไหนเหมาะ
บางคน อาจมีความรู้สูง มีทักษะในหลายด้านพัฒนาเร็ว
แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่การศึกษาน้อยกว่าสู้ไม่ได้
อันนี้อเมริกาเปิดกว้างให้คนทำอาชีพอิสระยืนแถวหน้า
ตราบใดที่มีกำลังแรงและไม่ลดละความอุตสาหะวิริยะ
ส่วนตัวเรา มาอเมริกาเพื่อต่อยอดการศึกษา ยุคกลาง
มาเพราะมีบุคคลที่มีคุณวุฒิส่งเสริม และมีทุนทรัพย์ครบ
ก่อนจะตัดสินใจอยู่ถาวร ตามขั้นตอนของกฎหมายที่นี่
เราคือผู้เลือก ไม่ได้อ่านความคิดของใครในเว็บใดๆ
และแน่ใจว่า เมื่อผ่านมาครึ่งชีวิตจะมีความสุขมากกว่า
ตัวเราเองที่จะไปอยู่ที่อื่น ในทุกแง่มุม และคุณสมบัติที่มี
เสรีภาพ คือ สิ่งที่เราต้องการ และไม่ถูกปิดกั้นโดย
ระบบอาวุโสหรือระบบการเมือง การปกครองเหลื่อมล้ำ
เท่านี้พอ สำหรับคนที่มาจากประเทศที่ประชาชนอยู่ล่าง
ถามว่า ชีวิตชุมชนไทยยังอยู่ล่างไหม คำตอบคือไม่
แต่ในประเทศที่สวัสดิการดีกว่า ตามที่คุณได้ยินมา
ลองไปสำรวจเอง ว่าวิถีชุมชนคนอพยพขึ้นได้ถึงไหน
อย่างน้อยที่สุด เราแน่ใจว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย
ในสหรัฐ และบุคคลในวงการที่เป็นผู้นำทางวิชาชีพนั้น
เป็นสิ่งหนึ่ง ที่บ่งบอกว่า คุณภาพ ภาพลักษณ์คนไทย
ไม่ได้ด้อยกว่า หน่วยงานรัฐจากไทยในประเทศยุโรป
ตอบแบบนี้ คือ ให้แนวคิด คุณต่องการคนฟันธงจริงๆ
ต้องไปเรียนถามข้าราชการบริหารของหน่วยงานใหญ่
ที่เขามีความรู้ในหลายประเทศ และเข้าใจวัฒนธรรม
ของทั้งอเมริกันและวัฒนธรรมยุโรป อย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง
เพื่อจะให้คุณเลือกอยู่ดี ในที่สุด คุณจะเหมาะกับสังคม
แบบไหน ไม่มีใครตอบได้ แต่ที่แน่ๆ ถ้าคุณเงียบ
กับสตรีเพียงคนเดียว ในชีวิตของคุณ เราคิดว่า
คุณไม่เหมาะจะมาอเมริกา เพราะว่า ตรงนี้ ความคิดเห็น
ของคนในครอบครัว ไม่ใช่ตัวตัดสินชีวิตของใครทั้งสิ้น
จะพ่อแม่ พี่ น้อง ก็ไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์จะเลือกทางเดินคนอื่น
เราคิดว่าคนไกลบ้าน ที่อยู่ในภาคพื้นทวีปต่างกัน
คงไม่ออกมาบอกว่า ใครอยู่ในที่ที่ดีที่สุดกว่าคนอื่นๆ
แต่คำตอบคือ ใครเหมาะกับสังคมอย่างไหนที่ลงตัว
ไม่ว่าเว็บไซต์ไหนของคนยุโรปจะให้ข้อมูลจริงหรือไม่
ถึงอย่างไร อเมริกา ก็ยังจะมีคนอพยพเข้ามาตลอดไป
เพราะใช้ภาษาอังกฤษ หางานได้กว้างกว่าบางประเทศ
ที่ยังไม่เปิดทางให้คนไทยหรือคนต่างชาติที่อ่อนภาษา
ระบบสินค้าส่งออกหรือนำเข้า ระบบความสัมพันธ์ทูต
ระบบการลงทุน พาณิชย์นานาชาติ หายใจสะดวกกว่า
มาถึงเรื่องการศึกษา จริง ที่มีนักเรียนออกไปเรียนรู้
จากทางยุโรปมากขึ้น เพราะระบบค่าใช้จ่ายต่างกัน
แต่นั่นแหละคือภาพสะท้อนว่า คนอเมริกันกล้าคิด
กล้าทำ กล้าเผชิญหน้า และเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่
สถาบันการศึกษาที่นี่ สร้างคนที่มั่นใจในความคิดตน
และสามารถโต้แย้งแลกเปลี่ยนกับอาจารย์ได้ด้วย
คำว่าระบบการศึกษาไม่มีคุณภาพ เท่าในยุโรป
ไม่ควรจะใช้ประเด็นนี้ เป็นตัวตัดสินสมองของใคร
คนไทยที่มีโอกาสเรียนต่อ ในสหรัฐ กลับไปเป็นผู้นำ
อยู่ในคณะรัฐบาลมากมายหลายสาขา โดยเฉพาะ
ทางการทูต กฎหมาย และเศรษฐกิจ องค์ความรู้
ไม่ได้หย่อน บางเรื่อง จะเอาตัวระบบมาวัดกันไม่ได้
สิ่งที่ใช้ได้ในชีวิตจริง ไม่ใช่ระบบ แต่เป็นตัวความรู้
ในวันข้างหน้า ที่คุณสร้างครอบครัวได้สำเร็จ มีบุตร
เขาอาจจะเลือกมาเรียนในอเมริกาก็ได้ เรื่องนี้ไม่แน่
และแม้กระทั่งหน้าที่การงานที่คุณเลือกในอนาคต
ก็ยังไม่เห็นฝั่งเลย ว่าจะพบกับอุปสรรคอย่างไรบ้าง
แม้ว่าสถิติ ค่าเฉลี่ย หรืออะไรก็ตามที่เป็นตัวเลขระบุ
ยังไม่อาจตัดสิน เท่ากับจิตใจของคน และประสบการณ์
เพราะฉะนั้น มันแทบไม่มีประโยชน์ด้วยซ้ำ ที่จะถาม
ด้วยคำว่า อเมริกาแย่กว่า ตามที่คนใกล้ตัวคุณ พูด
ระบบอาจจะได้เปรียบเสียเปรียบ ในแง่การบริการ
แต่ในฐานะประเทศพัฒนาแล้ว คุณภาพชีวิตของคน
ที่เป็นชนชั้นกลาง ที่มีการศึกษาระดับมาตรฐานสากล
คงไม่ได้ด้อยกว่า ครอบครัวของชาวไอริชในยุโรปนะ
ประชากรในสหรัฐกี่ร้อยล้านคน พื้นที่ปกครองมหาศาล
เทียบกับประเทศที่เล็กกว่า อาณาจักรที่ดูแลได้ทั่วถึง
เราคิดว่า ในแต่ละรัฐบาลที่นี่ เขาคิดแล้วว่าอย่างไหน
ดีที่สุดกับการบริหารโดยรวม ประชาชนคือผู้เลือกผู้นำ
และในด้านความสัมพันธ์นานาชาติ สหรัฐยังยึดโยงอยู่
ลองถามเล่นๆ ถ้าประเทศที่ว่าสวัสดิการดีที่สุดแล้วนั้น
เพิ่มพื้นที่กับจำนวนประชากร รวมทั้งสภาพแวดล้อม
ให้เหมือนอเมริกา สวัสดิการจะยังคงล้ำเลิศเช่นเดิมหรือ
ขอให้โชคดี กับอนาคตการงานและครอบครัว
ในต่างประเทศ และหวังว่า คุณจะก้าวไปเป็นผู้นำ
ในด้านใดด้านหนึ่ง ที่มีประโยชน์กับชุมชนไทยในที่นั้น
แสดงความคิดเห็น
สวัสดิการ คุณภาพชีวิต การศึกษา ในอเมริกา เฉลี่ย แย่กว่าประเทศยุโรปตะวันตกส่วนใหญ่จริงหรอครับ?
หลังจากนั้นผมเลยไปหาข้อมูลเลยไป เจอ การจัดอันดับต่างๆ เรื่อง สวัสดิการ คุณภาพชีวิต การศึกษา ผมพบว่าอเมริกา ได้อันดับอยู่ท้ายๆ หรือ ไม่ก็บ๋วยไปเลย ในหมู่ประเทศพัฒนาแล้วครับ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับยุโรปตะวันตกส่วนใหญ่
ตัวอย่าง
https://qph.fs.quoracdn.net/main-qimg-ddd3d77e778ed8a7dfa6b0039e988403.webp
https://qph.fs.quoracdn.net/main-qimg-1016c1bedc5f56dc4330ef57ba199ccd
https://qph.fs.quoracdn.net/main-qimg-9326903423e131fc69944203641cdb01
https://qph.fs.quoracdn.net/main-qimg-1edad1b43e85d4255a7dae25e0fa3dc2
https://qph.fs.quoracdn.net/main-qimg-292ddfa8bf8c240d89db9aa7a55246c1
ความคิดเห็นของชาวยุโรป ในเว็บ reddit ที่มีต่อ สวัสดิการ คุณภาพชีวิต การศึกษา ในอเมริกา
https://www.quora.com/Why-do-so-many-Europeans-seem-to-think-the-United-States-is-backward
https://www.reddit.com/r/france/comments/crznhd/why_do_so_few_french_people_move_to_the/
ที่ผมสังเกตคือพวกเขาคนยุโรปแทบทุกคนจะตอบเป็นเสียงเดียวกัน คือ อเมริกา ไม่ยอมควบคุมอาวุธปืน!!! สักที
ปล.คืออันนี้ผมไม่ได้จะตั้งกระทู้มาดีสเครดิตอเมริกานะครับ ผมแค่อยากรู้เพิ่มเติมจากคนใน pantip น่ะครับ ขอบคุณครับ