คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 39
อ่าน ๆ ดู ถ้าเรามีความเร็วเท่าแสง เราจะหดขนาดจนเหลือศูนย์และเดินทางไปที่ใดก็ได้ด้วยความรู้สึกแค่พริบตา แบบนี้มันก็เหมือน การวาร์ปเลย เพียงแต่เป็นการวาร์ปไปอนาคต
เช่นเดินทางไประยะทาง 100 ปีแสง ออกเดินทางปุ๊บถึงที่หมายปั๊บแต่เป็นในอีก 100 ปีข้างหน้า
หรือความเร็วเข้าใกล้แสง ก็ถูกบีบจนเล็กมากกลายเป็นอณูวิ่งผ่านรูหนอนไปสู่อนาคตในที่ ๆ ห่างไกลออกไป เพราะเวลาของผู้เดินทางรู้สึกแบบนั้น เหมือนไปอนาคต
รูหนอนอาจหมายถึงแบบนี้ ในทางกลับกัน ถ้าเราบีบวัตถุให้เล็กที่สุดได้ อาจมีการเคลื่อนที่ ๆ เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นมากมาย เช่น การเดินทางไกล ๆ โดยไม่อาศัยเวลา เพราะสามารถเคลื่อนผ่านรูหนอนของกาลเวลาได้
เช่นเดินทางไประยะทาง 100 ปีแสง ออกเดินทางปุ๊บถึงที่หมายปั๊บแต่เป็นในอีก 100 ปีข้างหน้า
หรือความเร็วเข้าใกล้แสง ก็ถูกบีบจนเล็กมากกลายเป็นอณูวิ่งผ่านรูหนอนไปสู่อนาคตในที่ ๆ ห่างไกลออกไป เพราะเวลาของผู้เดินทางรู้สึกแบบนั้น เหมือนไปอนาคต
รูหนอนอาจหมายถึงแบบนี้ ในทางกลับกัน ถ้าเราบีบวัตถุให้เล็กที่สุดได้ อาจมีการเคลื่อนที่ ๆ เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นมากมาย เช่น การเดินทางไกล ๆ โดยไม่อาศัยเวลา เพราะสามารถเคลื่อนผ่านรูหนอนของกาลเวลาได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ผมขอเสริมเรื่อง "เวลา" ที่ไม่เท่ากันของยานอวกาศ กับ เวลาบนโลกนะครับ
ตามที่คุณ sb*star และคุณ pinitsoft บอกไปครับ หากเราเดินทางได้ 100% เท่าความเร็วแสง
เวลาของเราจะหยุดนิ่งไปเลย ไม่ว่าระยะทางจะไกลแค่ใหนเราจะใช้เวลาแค่ "พริบตา" เท่านั้น
ขอสมมุติตัวเลขนะครับ หากเราจะไปที่ดาวดวงหนึ่งที่ไกลจากโลก 250 ปีแสง และเราเดินทางได้เร็วเท่าแสง
ตัวเราที่อยู่ในยานจะพบว่าใช้เวลาพริบตาเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว ..... ขณะเดียวกัน เวลาบนโลกจะผ่านไปนานถึง 250 ปี
ปรากฏการณ์เช่นนี้ เป็นไปตามทฤษฏีสัมพัทธภาพของ Einstien ครับ ที่ว่า เวลาของวัตถุใด ๆ ที่เคลื่อนที่เร็วจะเดินช้าลง
แต่ .... จะมีกฏเหล็กที่สำคัญที่สุดของเอกภพนี้ คือ วัตถุที่มีมวลทุกอย่างจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วเท่าแสง
ดังนั้น ยานอวกาศก็จะเคลื่อนที่ได้เร็วสุดคือใกล้ความเร็วแสงเท่านั้น และ .... เมื่อยานวิ่งเร็วใกล้แสงมาก ๆ
ก็จะเกิดปรากฏการณ์ Time dilation ขึ้นครับ time dilation คือ factor ตัวคูณความแตกต่างของเวลา
ว่า เวลาในยานที่เคลื่อนที่ กับ เวลาของอีก 1 สถานที่ จะต่างกันเท่าใด
การคำนวณ Time dilation ทำได้ง่าย ๆ ครับ ตัวอย่างเวบนี้ http://www.1728.org/reltivty.htm
ลองใส่ค่าความเร็วลงไป อย่างในภาพใส่เป็น 0.999999 (หรือ 99.9999% ของความเร็วแสง)
เมื่อกดที่ C = 1 ก็จะคำนวณ factor ความต่างของเวลาได้ 707.11
..... ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะครับ
สมมุติว่าเราเดินทางไปดาวที่ห่างจากโลก 45 ปีแสง ด้วยความเร็ว 0.999999 c
คนบนโลกจะรับรู้ว่าเราจะใช้เวลาเดินทาง = 45/0.999999 = 45.000045 ปี
แต่...ในยานของเราจะรับรู้ว่าเวลาผ่านไปเพียง (45.000045 ปี)/707.11 = 23 วัน เท่านั้น
นั่นก็คือ กว่าจะเดินทางไปกลับ เวลาบนโลกจะผ่านไป 90 ปี คนที่เรารู้จักจะตายไปหมดแล้ว
แต่เวลาของเรากลับผ่านไปเพียง 46 วัน เท่านั้น !!
ตามที่คุณ sb*star และคุณ pinitsoft บอกไปครับ หากเราเดินทางได้ 100% เท่าความเร็วแสง
เวลาของเราจะหยุดนิ่งไปเลย ไม่ว่าระยะทางจะไกลแค่ใหนเราจะใช้เวลาแค่ "พริบตา" เท่านั้น
ขอสมมุติตัวเลขนะครับ หากเราจะไปที่ดาวดวงหนึ่งที่ไกลจากโลก 250 ปีแสง และเราเดินทางได้เร็วเท่าแสง
ตัวเราที่อยู่ในยานจะพบว่าใช้เวลาพริบตาเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว ..... ขณะเดียวกัน เวลาบนโลกจะผ่านไปนานถึง 250 ปี
ปรากฏการณ์เช่นนี้ เป็นไปตามทฤษฏีสัมพัทธภาพของ Einstien ครับ ที่ว่า เวลาของวัตถุใด ๆ ที่เคลื่อนที่เร็วจะเดินช้าลง
แต่ .... จะมีกฏเหล็กที่สำคัญที่สุดของเอกภพนี้ คือ วัตถุที่มีมวลทุกอย่างจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วเท่าแสง
ดังนั้น ยานอวกาศก็จะเคลื่อนที่ได้เร็วสุดคือใกล้ความเร็วแสงเท่านั้น และ .... เมื่อยานวิ่งเร็วใกล้แสงมาก ๆ
ก็จะเกิดปรากฏการณ์ Time dilation ขึ้นครับ time dilation คือ factor ตัวคูณความแตกต่างของเวลา
ว่า เวลาในยานที่เคลื่อนที่ กับ เวลาของอีก 1 สถานที่ จะต่างกันเท่าใด
การคำนวณ Time dilation ทำได้ง่าย ๆ ครับ ตัวอย่างเวบนี้ http://www.1728.org/reltivty.htm
ลองใส่ค่าความเร็วลงไป อย่างในภาพใส่เป็น 0.999999 (หรือ 99.9999% ของความเร็วแสง)
เมื่อกดที่ C = 1 ก็จะคำนวณ factor ความต่างของเวลาได้ 707.11
..... ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะครับ
สมมุติว่าเราเดินทางไปดาวที่ห่างจากโลก 45 ปีแสง ด้วยความเร็ว 0.999999 c
คนบนโลกจะรับรู้ว่าเราจะใช้เวลาเดินทาง = 45/0.999999 = 45.000045 ปี
แต่...ในยานของเราจะรับรู้ว่าเวลาผ่านไปเพียง (45.000045 ปี)/707.11 = 23 วัน เท่านั้น
นั่นก็คือ กว่าจะเดินทางไปกลับ เวลาบนโลกจะผ่านไป 90 ปี คนที่เรารู้จักจะตายไปหมดแล้ว
แต่เวลาของเรากลับผ่านไปเพียง 46 วัน เท่านั้น !!
ความคิดเห็นที่ 3
หากมนุษย์ผลิตยานอวกาศที่เร็วเท่าแสง สามารถสำรวจอวกาศได้ขนาดไหน ? หมายถึง ไปสำรวจดาวที่อยู่ไกลสุดได้กี่ปีแสง
หากเอาตามความหมายนั้นจริง ๆ .... ยานที่เร็วได้ใกล้เคียงความเร็วแสงมาก (ขอสมมุติเป็น 70% ของความเร็วแสงนะครับ)
ก็ยังถือว่าจะสำรวจระบบดาวอื่น ๆ ด้วยความยากลำบากมากครับ เพราะระบบดาวต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้โลก
จะมีระยะทางไกลหลายปีแสง อย่างใกล้สุดก็ 4.2 ปีแสง (ระบบดาว Alpha Centauri) และอย่างระบบดาวที่น่าสนใจมาก ๆ
เช่น Trappist-1 ก็ไกลมากถึง 38 ปีแสง ...... ดังนั้น หากยานมีความเร็วมากถึง 80% ความเร็วแสง
ก็ยังต้องใช้เวลาประมาณ 3.15 ปี ไปยังระบบดาว Alpha Centauri และใช้เวลามากถึง 28.5 ปี ไปยัง Trappist-1
(เวลาที่ใช้ คำนวณจาก time dilation แล้ว) ซึ่ง .... ถือว่านานมากเกินไปสำหรับทีมผู้เดินทางครับ เป็นไปได้ที่ทีมเดินทาง
อาจเจ็บป่วย เสียสุขภาพจิต หรือ ตาย ระหว่างการเดินทาง
ดังนั้น หากเราจะสำรวจอวกาศไกลขนาดระบบดาวอื่น ๆ เราจะต้องหาวิธีเดินทางแบบ WARP
แบบที่เราเห็นในภาพยนตร์น่ะครับ การ WARP จะทำให้เราใช้เวลาเดินทางน้อยมาก เช่น ...
เดินทางไประบบดาว Trappist-1 ไกล 38 ปีแสง ภายในไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่การ WARP นี้
ยังไม่มีวี่แววว่าจะคิดค้นขึ้นมาได้เลยแม้แต่น้อยครับ
และระบบดาวที่ว่านั่น มีเยอะไหม ?
ปัจจุบันนี้ ทาง NASA และหน่วยงานอวกาศชั้นนำหลายประเทศ ได้มีข้อมูลของระบบดาวที่น่าสนใจไว้เยอะมากครับ
แต่ก็เป็นแค่ข้อมูลพื้นฐานอย่างเช่น ระยะทาง จำนวนดาวเคราะห์ ชั้นบรรยากาศที่ตรวจพบ อุณหภูมิพื้นผิวที่คำนวณได้
ระบบดาวเหล่านี้มีเยอะมากเป็นพัน ๆ ระบบเลย แต่ที่น่าสนใจจะมีไม่กี่สิบระบบดาวครับ
หากเอาตามความหมายนั้นจริง ๆ .... ยานที่เร็วได้ใกล้เคียงความเร็วแสงมาก (ขอสมมุติเป็น 70% ของความเร็วแสงนะครับ)
ก็ยังถือว่าจะสำรวจระบบดาวอื่น ๆ ด้วยความยากลำบากมากครับ เพราะระบบดาวต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้โลก
จะมีระยะทางไกลหลายปีแสง อย่างใกล้สุดก็ 4.2 ปีแสง (ระบบดาว Alpha Centauri) และอย่างระบบดาวที่น่าสนใจมาก ๆ
เช่น Trappist-1 ก็ไกลมากถึง 38 ปีแสง ...... ดังนั้น หากยานมีความเร็วมากถึง 80% ความเร็วแสง
ก็ยังต้องใช้เวลาประมาณ 3.15 ปี ไปยังระบบดาว Alpha Centauri และใช้เวลามากถึง 28.5 ปี ไปยัง Trappist-1
(เวลาที่ใช้ คำนวณจาก time dilation แล้ว) ซึ่ง .... ถือว่านานมากเกินไปสำหรับทีมผู้เดินทางครับ เป็นไปได้ที่ทีมเดินทาง
อาจเจ็บป่วย เสียสุขภาพจิต หรือ ตาย ระหว่างการเดินทาง
ดังนั้น หากเราจะสำรวจอวกาศไกลขนาดระบบดาวอื่น ๆ เราจะต้องหาวิธีเดินทางแบบ WARP
แบบที่เราเห็นในภาพยนตร์น่ะครับ การ WARP จะทำให้เราใช้เวลาเดินทางน้อยมาก เช่น ...
เดินทางไประบบดาว Trappist-1 ไกล 38 ปีแสง ภายในไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่การ WARP นี้
ยังไม่มีวี่แววว่าจะคิดค้นขึ้นมาได้เลยแม้แต่น้อยครับ
และระบบดาวที่ว่านั่น มีเยอะไหม ?
ปัจจุบันนี้ ทาง NASA และหน่วยงานอวกาศชั้นนำหลายประเทศ ได้มีข้อมูลของระบบดาวที่น่าสนใจไว้เยอะมากครับ
แต่ก็เป็นแค่ข้อมูลพื้นฐานอย่างเช่น ระยะทาง จำนวนดาวเคราะห์ ชั้นบรรยากาศที่ตรวจพบ อุณหภูมิพื้นผิวที่คำนวณได้
ระบบดาวเหล่านี้มีเยอะมากเป็นพัน ๆ ระบบเลย แต่ที่น่าสนใจจะมีไม่กี่สิบระบบดาวครับ
ความคิดเห็นที่ 6
ขอพิจารณาข้อจำกัดแค่บางอย่างนะครับ
เราไปสำรวจและกลับมาที่โลกหรือกาแลคซี่ได้ ไม่จำกัดเวลา
เนื่องจากการขยายตัวของเอกภพ ทำให้เราสามารถเดินทางด้วยความเร็วแสงได้ไกลที่สุดประมาณใน local group
นับเป็นรัศมี 5 ล้านปีแสงจากโลก
ถ้าอยากไปให้ไกลกว่านี้ต้องเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มากกว่าความเร็วแสงขึ้นไปเรื่อยๆ
ดังนั้นไปสำรวจได้ไกลสุดก็คนไม่พ้น Andromeda Galaxy ซึ่งมีขนาดประมาณที่ใหญ่กว่าและระบบดาวเยอะกว่า Milky Way Galaxy ให้สำรวจครับ
เราไปสำรวจและกลับมาที่โลกหรือกาแลคซี่ได้ ไม่จำกัดเวลา
เนื่องจากการขยายตัวของเอกภพ ทำให้เราสามารถเดินทางด้วยความเร็วแสงได้ไกลที่สุดประมาณใน local group
นับเป็นรัศมี 5 ล้านปีแสงจากโลก
ถ้าอยากไปให้ไกลกว่านี้ต้องเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มากกว่าความเร็วแสงขึ้นไปเรื่อยๆ
ดังนั้นไปสำรวจได้ไกลสุดก็คนไม่พ้น Andromeda Galaxy ซึ่งมีขนาดประมาณที่ใหญ่กว่าและระบบดาวเยอะกว่า Milky Way Galaxy ให้สำรวจครับ
แสดงความคิดเห็น
หากมนุษย์ผลิตยานอวกาศที่เร็วเท่าแสง สามารถสำรวจอวกาศได้ขนาดไหน ?