Normal

0

false

false

false

EN-US

X-NONE

TH

           ได้มีโอกาสไปดูภาพยนตร์เกาหลีฟอร์มยักษ์แนวแอ็คชั่นพลังเหนือธรรมชาติเรื่อง “The Divine Fury: มือนรกพระเจ้าคลั่ง” ที่ SFW มา อยากดูตั้งแต่เห็นโปสเตอร์แล้วเพราะชอบหนังแนวนี้ ผนวกมาดูคลิปวิจารณ์หนังของ Justดูit ด้วย โอ้โหแล้วจะพลาดได้ไง ส่วนตัวโรสเป็นคนที่ชอบดูหนังอยู่แล้ว เรื่องไหนเข้าท่าเราดูหมด เอ็นข้อเท้าขวาอักเสบ ดีขึ้นมาหน่อยก็ยอมเดินกะเผลกไปดูค่ะ รอให้หายสนิทหนังคงลาโรงกันพอดี

           เรื่องนี้ได้ คิม จูฮวาน ผู้กำกับจาก Midnight Runners (2017) ทางด้านนักแสดงบอกตามตรงว่าเลือกนักแสดงมาได้เหมาะสมกับบททุกคนและแถมยังมีฝีมือการแสดงอันเอกอุกันอีกด้วย เริ่มตั้งแต่พระเอกดาราหนุ่มหล่อมาแรง “พัคซอจุน” ที่มารับบท “ยองฮู” นักสู้ MMA
ไร้พ่ายที่ต้องกลายมาเป็นมือปราบปีศาจของศาสนจักร ลืมบทประธานขี้เก๊กจากซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ชื่อดังอย่าง “What’s Wrong With Secretary Kim” ไปได้เลย เขาเตรียมตัวฝึกซ้อมเพื่อให้คนดูเชื่อว่าเป็นนักสู้บนสังเวียนได้อย่างแท้จริง เขาจะสวมหน้านิ่งพูดน้อยต่อยหนัก ใบหน้าหล่อแบบผู้ชายแท้พ่วงด้วยหุ่นสูงใหญ่ล่ำถึง 185 ซม.พร้อมซิกแพ็คแน่นปึ๊ก มองเพลินเลยค่ะ นักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรงหล่อไม่เบา “อู
โดฮวาน” รับบท “จอมมารจีชิน” บาทหลวงสายดำผู้บูชาปีศาจ เขาโด่งดังมาจาก “Mad Dog” และ “Great Seducer” เรื่องนี้เขาฉีกบทเป็นตัวร้ายที่หล่อร้าย หน้านิ่งๆยิ้มบางๆ นักแสดงอาวุโสฝีมือชั้นครู “อัน ซองกิ” รับบท “บาทหลวงอัน” นักบวชปราบปีศาจของศาสนจักร ร่วมด้วย “ชเว อูซิก” นักแสดงดาวรุ่งมาแรงอีกท่านที่ฉีกบทหนุ่มนักตุ๋นจาก “Parasite” มารับบท “บาทหลวงชเว” นักบวชฝึกหัด ทั้งสี่ตัวละครหลักล้วนส่งเสริมให้บทหนังมีมิติและสีสัน ยังมีอีกสองตัวละครเสริมที่ฝีมือไม่เบา นั่นก็คือ “อี ยึงซุน” รับบทเป็นพ่อของยองฮู และนักแสดงเด็ก “จอง จีฮุน” วัย 12 ปี กับบทถูกผีสิง

           ด้านสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์งดงามสมจริงไม่แพ้ฮอลลีวู้ด โดยได้ Dexter Studios ที่เคยสร้างความประทับใจมาแล้วใน Along With The Gods ทั้งสองภาค (เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์เกาหลีฟอร์มยักษ์ที่ประทับใจแฟนๆไม่รู้ลืม) เรื่องนี้ซีจีดี เอฟเฟ็กต์เยี่ยม โทนหนังให้อารมณ์ร่วมและคุมโทนได้อย่างมีจังหวะจะโคน พร้อมด้วยดนตรีประกอบที่ให้มิติแก่บทหนัง มีรถหรูคันงามกระแทกตาด้วยค่ะ

           เรื่องย่อมีอยู่ว่ายองฮู นักสู้ MMA ฝีมือพระกาฬผู้ไม่เคยแพ้ใครมีปมในวัยเด็กที่ต้องสูญเสียแม่และตามมาด้วยพ่อ ปมนี้ส่งผลให้เขาผู้เคยมีศรัทธาในพระเจ้าหันหลังให้แก่พระองค์ แต่แล้ววันหนึ่งก็มีเหตุการณ์ประหลาดที่เขามีรอยแผลที่มีเลือดซึมบนฝ่ามือข้างขวา หมอที่ไหนก็ช่วยไม่ได้ จนกระทั่งโชคชะตานำพาให้เขาไปพบกับบาทหลวงอันซึ่งกำลังปราบผีและอยู่ในสภาวะที่ต้องการความช่วยเหลือ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มก่อร่างสร้างตัวขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เป้าหมายของพวกเขานั่นก็คือการตามล่าบาทหลวงสายดำ “จอมมารจีชิน” ก่อนที่จะต้องสูญเสียผู้บริสุทธิ์เซ่นสังเวยให้กับจอมมารไปมากกว่านี้

           โดยส่วนตัวเป็นคนที่เชื่อเรื่องพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพลังเหนือธรรมชาติอยู่แล้วเพราะเป็นประสบการณ์ตรง เรื่องนี้ผู้สร้างได้ถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้ง พล็อตเรื่องดีค่ะ มีหลายต่อหลายฉากที่ทำให้น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว นักแสดงหลักเล่นดีตีบทแตกทุกคน อีกทั้งฝีมือทางการแสดงของพวกเขาสามารถต่อยอดไปได้อีกยาวไกลในอนาคต เตรียมรอดูภาคต่อของเรื่องนี้กันได้เลย

            ความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อที่มีต่อยองฮูสอนให้เรารู้ว่า ดวงวิญญาณของบุพการีที่ประพฤติดีมีธรรม แม้ล่วงลับไปแล้วย่อมสามารถเป็นแสงสว่างคุ้มครองลูกได้ คนดีที่ตายไปล้วนเป็นพลังมหัศจรรย์ ส่วนความสัมพันธ์ของบาทหลวงอันกับยองฮูอยู่ในสถานะอาจารย์ผู้นำจิตวิญญาณให้แก่ผู้หลงทาง
บาทหลวงอันมีจิตที่สูงส่งปรารถนาจะปลดปล่อยให้ยองฮูหลุดพ้นจากความทุกข์จากเรื่องราวในอดีต ยองฮูเองก็ค่อยๆยอมเปิดใจและมีความเคารพรักในบาทหลวงอันเฉกเช่นอาจารย์และพ่อ เล่นเอาน้ำตาไหลเลย จนในที่สุดยองฮูจึงใช้พลังวิเศษในการช่วยเหลือผู้ทุกข์ทน จนทำให้เขารู้สึกถึงความรักอันยิ่งใหญ่ในฐานะเพื่อนมนุษย์มากกว่าอยู่ท่ามกลางเสียงร้องบนสังเวียนในฐานะคนดัง “ค่าของคนคือความดีหาใช่ความดังที่ไม่ยั่งยืน”

             เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์เกาหลีที่โรสชอบอีกหนึ่งเรื่องเลยทีเดียว ทุกสรรพชีวิตล้วนมีโชคชะตาและวิบากกรรมเป็นของตนเอง การยอมรับความจริงได้หมายถึงการมีก้าวย่างใหม่ในอนาคต พระเจ้าย่อมส่งพลังวิเศษแก่ผู้ที่ไม่สิ้นศรัทธา อีกทั้งสวรรค์ไม่เคยให้โจทย์ง่ายๆแก่ผู้ใด ทุกคนจะต้องเจอบททดสอบอันหนักหน่วงจนกว่าจะสิ้นอายุขัย เข้มแข็งได้เดินต่อ อ่อนแอไม่มีที่ให้เดิน โชคชะตาอยู่ในกรรมมือของเราล้วนเป็นผลแห่งการกระทำโดยที่เราอยู่ในดวงตาอันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าเสมอค่ะ