สวัสดีพี่น้องชาวพันทิปทุกคน โดยเฉพาะพี่น้องสายบลูแพลนเน็ตนะคะ สำหรับปีนี้ตะลอนต๋อนแต๋นก็ได้ห่างหายจากการเขียวรีวิวมาเกือบครึ่งปีละ ไม่ใช่ว่าไม่ได้เที่ยวนะคะ เหตุเป็นเพราะเที่ยวเยอะจนไม่มีเวลามาเล่าสู่กันฟังค่าา..แต่ทริปนี้ไม่เล่าไม่ได้แล้ว เพราะเป็นทริปที่พิเศษและประทับใจเอามากๆเลย ถือเป็นทริปที่จะอยู่ในความทรงจำแบบไม่มีจางหายเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะด้วยดวง แต้มบุญ โชคช่วยหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ได้มาร่วมทริป ก็ขอขอบคุณพันทิปและ ททท.ที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ให้พวกเราสายบลูได้มาเจอกันทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันนะคะ พร้อมอ่านตามรอยยังคะ  ถ้าพร้อมแล้วลุย..

05.09.62 เวลา 16.30 น.นั่งแท็กซี่มาถึงอู่สมบัติทัวร์ วิภาวดี แต่ด้วยความที่มาไวเกิ๊น เวลานัดลงทะเบียนคือ 17.30 น.จ้า ก็เลยได้นั่งชิวๆรอแถวนั้นพอถึงเวลาก็เดินมาลงทะเบียน แค่เห็นบรรยากาศก็ตื่นเต้นแล้วอ่ะ

พอลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็ไปนั่งรอที่ห้องรับรองบนชั้น 2 พี่ๆน่ารักมากค่ะแจกข้าว แจกน้ำ บริการเป็นอย่างดี 18.30 น.ได้เวลาไปขึ้นรถแล้วจ้าทุกท่าน ตามมาค่ะ เอาจริงๆคือเราไม่รู้ข้อมูลเลยเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาเลยจินตนาการว่าจะได้นั่งรถทัวร์รวมกับลูกค้าทั่วไป แต่เปล่าเลยคือหรูหรากว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะเพราะได้นั่งรถแบบ VIP 

ล้อหมุนตรงเวลาแต่ด้วยความที่เป็นช่วงเลิกงาน นาทีเร่งด่วน รถก็เลยเหมือนกระดึ๊บๆออกจากอู่ ส่วนเราก็นั่งฟังเพลง ดูที่วีเพลินๆไปเพราะมีหน้าจออยู่ตรงหน้าแล้ว เวลา 00.11 น.รถจอดแวะครึ่งทางที่พิษณุโลกให้ทุกคนได้ยืดเส้น ยืดสาย พร้อมกับข้าวต้มรอบดึก 

หลังจากนั้นก็นอนต่อยาวๆไป ตื่นมาอีกที สวัสดีเจียงฮายจ้าวว..พร้อมกับรถตู้ 7 คันที่มารอรับพวกเราเพื่อไปพิชิตภารกิจและเป้าหมายร่วมกัน

Day 1 : วันที่ 06.09.62 หิ้วกระเป๋าใส่ท้ายรถเพื่อมุ่งหน้าไปยัง โรงแรมแสน แต่เดี๋ยวก่อนเรามาเช้าไป ยังเช็คอินไม่ได้ ขอแค่ได้ล้างหน้า แปรงฟัน เข้าห้องน้ำก่อนก็พอ เดี๋ยวไปเก็บเส้นทางรอแล้วบ่ายเจอกันอีกทีนะจ๊ะ (ที่นอน)

07.00 น.กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ร่างกายเริ่มต้องการชาร์ตพลัง มื้อเช้าที่พี่ๆพาพวกเรามาฝากท้องที่ร้านโอชากันค่ะ อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมสามารถเดินไปได้เลย เมนูตามภาพเลยค่ะ เห็นแล้วก็หิวอีกรอบ อิอิ

ร้านตกแต่งได้สวยงาม น่านั่ง และที่สำคัญคือมีมุมถ่ายรูปสวยๆหลายมุมเลยนะคะ

08.40 น. อิ่มท้องแล้ว งั้นเรามาลุยตามแผนกันเลยนะคะ  วัดที่สวยงามด้วยศิลปะอันน่าทึ่งในโทนสีขาวมีที่เดียวและแห่งเดียวในโลกนี้  "วัดร่องขุ่น"

เสร็จจากเยี่ยมชมวัดเราก็ได้ไปอุดหนุนร้านน้ำของน้องๆจากโรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล ซึ่งเป็นห้องแถวตั้งอยู่ด้านหลังของวัดถ้าเพื่อนๆมาแถวนี้อย่าลืมแวะมาอุดหนุนน้องๆกันนะคะ

10.10 น. ทริปยังคงดำเนินต่อไปกับการนั่งรถรางชมวัดสำคัญในเมืองเชียงราย ซึ่งก็จะมีวัดมิ่งเมือง วัดพระแก้ว วัดพระสิงห์ วัดพระธาตุดอยจอมทอง (ศาลหลักเมือง) เป็นต้น รวมถึงบ้านของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งแต่ละที่นั้นมีประวัติและความสำคัญแตกต่างกันไป 

นั่งรถรางชมวัดวาอารามเพลิน ดูนาฬิกาอีกทีอ้าวเที่ยงแล้ว หยิบโปรแกรมมาดู..โอเคเที่ยงนี้เราจะฝากท้องที่ร้านท่าน้ำภูแลกันนะคะ ลุ้นๆว่าอาหารจะถูกปากรึเปล่าน๊า ^^

มาแล้วจ้าเมนูอาหารมื้อเที่ยงของวันแรก อิ่มอร่อยทุกเมนูเลยค่ะ โดยเฉพาะไข่เจียวสูตรคุณยาย กรอบละลายในปากเลยค่าา

อิ่มแล้วหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนตาม ได้เวลาเช็คอินพักผ่อนกันแล้วค่ะ เย่ๆๆ !!

ขอสารภาพเลยว่าก่อนมาได้ไปแอบส่องรีวิวจากหน้าเพจของโรงแรมมาก่อนแล้วว่าเป็นยังไง คือเห็นทุกคนรีวิวแบบดีมาก ให้ 5 ดาว พอมาเห็นห้องปุ๊บ เฮ้ยใช่เลย ดีตามที่คนเขารีวิว แต่ขอแอบกระซิบนิดนึงว่าลิฟต์เล็กไป เข้าได้ทีนึงแค่ 4-5 ท่านเอง ลิฟต์มี 2 ตัวแต่ไม่ได้อยู่ที่เดียวกันแต่ก็ไม่ได้ไกลกัน (ต้องสังเกต) ซึ่งสามารถใช้ได้เหมือนกันนะคะ

มีสระน้ำด้วยนะเออ..แต่เธอจะมีเวลาลงเล่นรึเปล่า ??

16.30 น. เวลานัดพบเพื่อขึ้นรถตู้ไปยังไร่แม่ฟ้าหลวง และพิเศษมากที่พวกเราจะได้ดินเนอร์ที่นี่กันค่ะ

ไร่แม่ฟ้าหลวง อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย "อุทยานแห่งความสงบ งามอย่างล้านนา" พอได้มาสัมผัสแล้วรู้สึกขนลุกค่ะ เหมือนว่าเราหลุดไปอีกที่ที่หนึ่งซึ่งไม่ใช่ยุคปัจจุบัน เป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าจริงๆ 

ได้รับความรู้และที่มาที่ไปของสถานที่นี้แบบชัดแจ้ง หลังจากนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาแห่งการเสพสมบรรยากาศพร้อมกับมื้อค่ำแบบเหนือๆกันค่ะ

บอกเลยว่าฟินกับเมนูค่ำนี้มากค่ะ อร่อยทุกเมนูเลยจริงๆ อิ่มถึงขั้นว่าจะกลับแล้วยังติดเมี่ยงคำกลับมากินอีกต่างหาก *_^

20.30 น.อิ่มหนำสำราญกันได้ที่แล้วก็ได้เวลากลับไปพักผ่อนเพื่อนเก็บแรงกันนะคะ นี่แค่วันแรกแต่เรายังมีโปรแกรมอีก 2 วันเต็มรออยู่ ติดตามกันต่อนะคะว่าพวกเราจะไปต๊ะต่อนยอนที่ใหนบ้าง

Day 2 : วันที่ 07.09.62 มื้อเช้าฝากท้องที่โรงแรมก่อนที่จะเช็คเอาท์เพื่อไปที่อื่นต่อ อาหารเช้าโอเค ชอบกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา และเครื่องกดกาแฟมีให้เลือกชานมได้ด้วย อันนี้ดีมากสำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟอย่างเรา ถูกใจสิ่งนี้มากค่ะ  

08.30 น. ออกเดินทางไปยังไร่เชิญตะวันของท่าน ว.วชิระเมธี พระอาจารย์ได้พาพวกเราไปเยี่ยมชมจุดต่างๆ ซึ่งกว้างมากและสวยงามมาก แต่ละจุดก็จะมีสอดแทรกข้อคิดให้เราได้ศึกษาและเรียนรู้ ถือเป็นศูนย์วิปัสนาที่ทรงคุณค่าและเป็นแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ

เกือบ 2 ชั่วโมงเต็มกับการเดินชมจุดต่างๆในไร่เชิญตะวัน แล้วก็ได้เวลาลาพระอาจารย์เพื่อเดินทางต่อ..

12.00 น.เวลาของมื้อเที่ยงมาถึงแล้ว ซึ่งพวกเราก็ได้มาถึงร้านแล้วเช่นกัน ชื่อร้านลานนา ตะวันวา ร้านเป็นสไตล์บ้านไม้สมัยโบราณ ดูสวยงามเข้ากับบรรยากาศและเมนูอาหารสุดๆ หิวแล้ว ลุยเลยมั๊ย ?

เห็นอาหารแล้วแบบว่า ฟินสุดๆที่สุดในสามโลกเลยจ้า อร่อยทุกอย่างแต่ที่ชอบที่สุดคือเมนูกุ้งฝอยทอด กรอบ อร่อยชนะเลิศ

เราทานมื้อเที่ยงกันแบบตรงเวลามาก 1 ชม. เสร็จแล้วก็เดินทางต่อ มุ่งหน้าไปยัง อ.เทิง ปลายทางที่ ไร่รื่นรมย์นั่นเอง

งื้อออ..สวยจัง ถ้าเพื่อนๆอยากรู้ว่า 2 วัน 1 คืน ที่ไร่รื่นรมย์พวกเราทำกิจกรรมอะไรบ้าง ตามมาอ่านต่อที่คอมเม้นต์ด้านล่างนะคะ (กระทู้ยังไม่จบจ้า)

V

V

ตามลงมานะคะ