เปิดหมดหน้าตัก 'เมย์ รัชนก' 'แบดฯฉกฉวยบางอย่างในชีวิตเรา'
เป็นแฟนเมย์ต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย'คำกล่าวขำๆ ของเมย์ รัชนก อินทนนท์ พูดกับทีมงาน Thairath Talk เกี่ยวกับประสบการณ์ความรักและสเปกหนุ่มๆ ที่นักแบดมินตันหญิงคนนี้ชื่นชอบ พร้อมเรื่องเศร้า 3 บรรทัดของเมย์ รัชนกที่อุทิศตัวเพื่อชัยชนะแต่ต้องสูญเสียบางสิ่ง แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กสำหรับบางคน แต่มันติดในใจสาวน้อยวัย 24 ปีผู้นี้เสียหนักหนา
ประสบการณ์บาดเจ็บที่สุดในชีวิต
Thairath Talk : มีการบาดเจ็บครั้งไหนที่เราจะหนักที่สุดตั้งแต่ในอาชีพเล่นแบดมา
เมย์ : หนูเจ็บหนักสุดเหรอคะ น่าจะเป็นช่วงสองปีแต่ว่าไม่ถึงกับผ่าแต่อาจจะเป็นเจ็บแล้วรักษายังไงก็ไม่หายจนเราจะต้องไปรักษาที่จีนก็มันเน้นการพักแล้วก็เน้นในเรื่องของการฝังเข็ม
Thairath Talk : ระหว่างนั้นก็แข่งไม่ได้เลย Fail ไหม กลัวไหมจะกลับมาไม่เหมือนเดิม
เมย์ : ตอนนั้นก็แข่งไม่ได้สองสามเดือน ก็ไม่ได้เชิงคิดในแง่ลบขนาดนั้นอะคะ เพราะว่าเราบาดเจ็บแบบอาจจะเขาเรียกว่า เหมือนการใช้งานมากเกินไป หรือว่าอาจจะคือว่าเราก็ไม่รู้มันจะเจ็บตอนไหน เหมือนกันอะคะเพียงแค่ว่าได้แต่สมมติมันเกิดขึ้นกับเราแล้ว เราเพียงแค่ดูแลตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม
Thairath Talk : ซึ่งเวลาเจ็บนี่ชอบเลยใช่มั้ยได้พักผ่อนไม่ต้องออกกำลังกาย
เมย์ : ไม่ค่ะ ตอนนั้นหนูเจ็บขาหนูยังจะต้องมาซ้อมช่วงบนช่วงแขนก็ไม่ได้พักค่ะ ถ้าเจ็บตรงไหนก็ต้องไปซ้อมที่ไม่เจ็บ เพราะแบดมินตันมันใช้ทุกส่วนของร่างกายค่ะ ถ้าเราเจ็บขาก็ไม่ต้องใช้ขา เพียงแค่ไม่ต้องวิ่งไม่ต้องก็เน้นๆ มือมากกว่า
ชีวิตนักกีฬาผู้โดดเดี่ยว
Thairath Talk : ชีวิตส่วนตัวเมย์ฟังกิจวัตรประจําวันค่อนข้างโดดเดี่ยวไหมจริงๆ มันโดดเดี่ยวไหม
เมย์ : จริงๆ แล้วก็ไม่ได้โดดเดี่ยวนะคะ แต่ว่าถ้าพูดถึงในช่วงที่หนูจบมหาลัย มัธยมปลายส่วนใหญ่นักกีฬาหลายๆ คนก็เลิกแล้ว ก็ไปเรียนหนังสือเน้นในเรื่องของการเรียน แล้วก็มองถึงการทำงานมากกว่าค่ะ แต่ตัวเมย์ก็อยู่เป็นนักกีฬาทีมชาติก็จะแตกต่างกันออกไป ก็จะมีเพื่อนไม่ใช่เพื่อนเขาเรียกว่าไรเหมือนมีน้องๆ มากกว่า น้องที่เขาเล่นกีฬาก็จะห่างกันประมาณ 2-3 ปี หรือว่าอาจจะมีมากกว่านั้นนะ
Thairath Talk : สังคมส่วนใหญ่เมย์ก็ร้อยเกือบร้อยอยู่ในสังคมแบดมินตันนักกีฬาทั้งนั้นเลยใช่ไหม ไม่โดดเดี่ยวเหรอพี่ถามตรงๆ
เมย์ : ก็เราจะต้องอยู่ในแวดวงการของกีฬามากกว่าส่วนใหญ่เจอผู้ใหญ่ก็จะผู้ใหญ่ที่เขาชื่นชอบหรือว่าอะไรงี้มากกว่าไม่ได้แบบมองถึงธุรกิจหรืออะไรงี้ค่ะเพราะว่าตอนนี้เหมือนการเล่นกีฬาของหนูเหมือนการสร้างธุรกิจของตัวเองในที่แบบพยายามกอบโกยในช่วงที่เรามีโอกาสมากกว่า
Thairath Talk : ไม่ได้คิดว่าแบดมินตันฉกฉวยอะไรจากชีวิตเราไป
เมย์ : มันก็มีบ้าง เช่นช่วงมัธยมต้นเรียนจบ ปิดเทอมเราจะต้องมีกินหมูกระทะหรืออะไรหนูก็ปฏิเสธเพื่อน
Thairath Talk : จะไปกินหมูกระทะไม่ได้ไป เรื่องใหญ่เลยเหรอ
เมย์ : หนูก็ไปไม่ได้จริงๆ ซื้อมากินที่โรงเรียนได้ไหม แบบพวกพิซซ่าหรือเคเอฟซี แต่ว่าเพื่อนก็โอเคเพื่อนเข้าใจ เพราะบางทีเราไปต่างประเทศเราก็ซื้อพวกที่ติดตู้เย็นมาให้เพื่อนหรือช็อกโกแลต
Thairath Talk : นี่คือสิ่งฝังใจของเราก็คือไปกินหมูกระทะกับเพื่อนไม่ได้ก็คือปฏิเสธเพื่อน เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเมย์ รัชนก อินทนนท์ มาก
เมย์ : แต่เพื่อนหนูก็เข้าใจเพราะว่าในเรื่องของการทำงานในคลาส เพื่อนก็ช่วยแบบเอาชื่อเข้ากลุ่ม
Thairath Talk : ย้อนอดีตไปแก้ไข้ได้สมมติเรื่องเกี่ยวกับแบดมินตันแก้ไขแมตช์ไหนบ้าง
เมย์ : จริงๆ แล้วหนูไม่ได้จะกลับไปแก้ตัว แต่หนูพียงแค่ว่า ถ้ามันจะเป็นแชมป์มันก็อยู่ที่โชคชะตาเรามากกว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่เราแก้ไขอะไร แต่หนูว่าแก้ไขในปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ
ยังไม่โฟกัสเรื่องรัก
Thairath Talk : อายุ 24 ปี เรื่องเกี่ยวกับความรักนิยามความรักเรามันเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนไหมรักแบบหนุ่มสาว
เมย์ : ก็ถ้าเป็นในมุมหนูมันเป็นนักกีฬาจะก็ต้องแบบเขาต้องเข้าใจเราตรงที่ว่าเราไม่มีเวลาอะไรงี้มากกว่า
Thairath Talk : เป็นแฟนเมย์ต้องอดทน
เมย์ : สิบล้อชนจะต้องไม่ตาย(หัวเราะ) ไม่ใช่ก็ไม่ได้ซีเรียสหรือจริงจังขนาดแบบ จะต้องเอาจุดนี้มาเป็นเขาเรียกว่าคิดมากเกินไป แต่ว่าหนูคิดว่าแค่แบบความรักจากพ่อแม่ก็หนูมีน้องชายด้วยก็มันรู้สึกอบอุ่นอยู่แล้ว
Thairath Talk : ความรักสำหรับหนุ่มสาวมันทำให้เรามีพลังเพิ่มขึ้นบ้างไหม
เมย์ : จริงมันก็มีส่วนนึงตรงที่ว่าแบบมันกระชุ่มกระชวย แต่ว่าถ้าสมมติมันมีทะเลาะกันหรือคิดมากทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดก็มีบ้าง แต่ว่าตอนนี้แค่เพียงแค่ว่าหนูก็อยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี
Thairath Talk : เรื่องความรักเป็นเรื่องรอง
เมย์ : ก็ถ้าพูดถึงแบดกับความรักก็คงจะให้แบดมากกว่า เพราะว่าตอนนี้เรามีโอกาสที่ดีค่ะ
Thairath Talk : สเปกหนุ่มๆ ของเมย์เป็นไงบ้าง
เ
มย์ : หนูเป็นคนชอบคนแบบคิ้วเข้มๆ(หัวเราะ) ไม่สูงเกินไปเอาพอดีๆ
Thairath Talk : ถ้าเป็นดารามีบ้างไหมที่ชอบ ใครคือสเปกเรา
เมย์ : แต่ก่อนหนูชอบพี่เวียร์ หนูดูช่อง 7 ด้วยอะค่ะ ก็รู้สึกชอบชื่นชอบแต่ตอนนี้ก็มีดาราหน้าใหม่หลายๆ คนก็มีทั้ง พี่เจมส์จิ พี่เกรซ
credit :
https://www.thairath.co.th/entertain/1649410
รู้ไหมเงินก้อนแรกของ เมย์ รัชนก อดีตนักแบดมือหนึ่งได้เท่าไหร
คุณอายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มต้นหาเงินได้ สำหรับ 'เมย์ รัชนก อินทนนท์' ผู้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์แบดมินตัน สามารถชนะคู่แข่งในการแข่งขัน ได้เงินรางวัลก้อนแรกในชีวิตด้วยวัยเพียง 6 ขวบเท่านั้น ประสบการณ์ของการจับเงินก้อนแรกที่หามาได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย ทำให้เมย์เห็นคุณค่าของเงินทุกบาท เมย์ รัชนก จึงเป็นตัวอย่างที่ดีของวัยรุ่นที่เปี่ยมความคิดในการวางแผนทางการเงินที่น่าเป็นแบบอย่าง Thairath Talk ได้นำวิธีคิดของสาวน้อยผู้นี้มาฝากกัน
Thairath Talk : ตั้งแต่ฝึกแบดมาเรื่อยๆ มันมีภาพที่เราเป็นแชมป์ประเทศไทย เป็นแชมป์โลกผุดขึ้นมาตอนไหน หรือว่าไม่มีเลยตั้งแต่เล่นแบด
เมย์ : ถ้าฝึกมาก็เล่นมาเรื่อยๆ จนเราก็ไปแข่งขัน ก็รู้สึกว่าเราได้เงินรางวัล ก็ดีใจที่อย่างน้อยก็ ถ้าสมัยก่อนก็พันสองพันก็ถือว่าเยอะมากแล้วค่ะ สมัยก่อนนี่คือตอนหนูอายุหกขวบค่ะ ก็ถือว่าเยอะแล้วก็รู้สึกดีใจ แล้วเหมือนเราก็มีกำลังใจในการฝึกซ้อม ก็พยายามอยากจะแข่ง อยากที่จะสนุกไปกับมัน
Thairath Talk : เงินก้อนแรกเอาไปทำอะไรครับ 2,000 บาท
เมย์ : ก้อนแรกเลยเหรอคะ น่าจะประมาณนั้นค่ะ สองพัน
Thairath Talk : เอามาทำอะไร
เมย์ : ถ้าหนูเริ่มก็ตอนหกขวบ เริ่มแข่งประมาณ 7-8 ขวบค่ะ เพราะว่าต้องมีระยะในการที่เราฝึก เริ่มตีก่อน
Thairath Talk : เอาไปทำอะไรเหรอคะ
เมย์ : ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าเอาไปทำอะไร ตอนนั้นพ่อแม่น่าจะเอาไปใช้ก่อน พอหลังๆ เราเริ่มได้เงินมากขึ้น แม่ปุกเขาก็เลยเริ่มเก็บให้เราค่ะ คือแต่ก่อนพ่อแม่ก็จะเหมือนยังไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร ก็เลยเอามาใช้ กลายเป็นว่าเรายังไม่ค่อยมีเงินเก็บ ก็กลัวว่าอนาคตจะไม่มีเงิน แม่ปุกก็เลยช่วยแยกบัญชีไว้ ก็เก็บมาเรื่อยๆ ค่ะ ตั้งแต่ 8-9 ขวบ ก็เก็บมาเรื่อยๆ
Thairath Talk : ทุกวันนี้ก็มีเงินเก็บประมาณสามร้อยล้าน
เมย์ : ไม่ถึงค่ะ(ขำ)
credit :
https://www.thairath.co.th/entertain/1649475
เปิดหมดหน้าตัก เมย์ รัชนก 'แบดฯฉกฉวยบางอย่างในชีวิตเรา' & รู้ไหมเงินก้อนแรกของ เมย์ รัชนก อดีตนักแบดมือหนึ่งได้เท่าไหร่
เป็นแฟนเมย์ต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย'คำกล่าวขำๆ ของเมย์ รัชนก อินทนนท์ พูดกับทีมงาน Thairath Talk เกี่ยวกับประสบการณ์ความรักและสเปกหนุ่มๆ ที่นักแบดมินตันหญิงคนนี้ชื่นชอบ พร้อมเรื่องเศร้า 3 บรรทัดของเมย์ รัชนกที่อุทิศตัวเพื่อชัยชนะแต่ต้องสูญเสียบางสิ่ง แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กสำหรับบางคน แต่มันติดในใจสาวน้อยวัย 24 ปีผู้นี้เสียหนักหนา
ประสบการณ์บาดเจ็บที่สุดในชีวิต
Thairath Talk : มีการบาดเจ็บครั้งไหนที่เราจะหนักที่สุดตั้งแต่ในอาชีพเล่นแบดมา
เมย์ : หนูเจ็บหนักสุดเหรอคะ น่าจะเป็นช่วงสองปีแต่ว่าไม่ถึงกับผ่าแต่อาจจะเป็นเจ็บแล้วรักษายังไงก็ไม่หายจนเราจะต้องไปรักษาที่จีนก็มันเน้นการพักแล้วก็เน้นในเรื่องของการฝังเข็ม
Thairath Talk : ระหว่างนั้นก็แข่งไม่ได้เลย Fail ไหม กลัวไหมจะกลับมาไม่เหมือนเดิม
เมย์ : ตอนนั้นก็แข่งไม่ได้สองสามเดือน ก็ไม่ได้เชิงคิดในแง่ลบขนาดนั้นอะคะ เพราะว่าเราบาดเจ็บแบบอาจจะเขาเรียกว่า เหมือนการใช้งานมากเกินไป หรือว่าอาจจะคือว่าเราก็ไม่รู้มันจะเจ็บตอนไหน เหมือนกันอะคะเพียงแค่ว่าได้แต่สมมติมันเกิดขึ้นกับเราแล้ว เราเพียงแค่ดูแลตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม
Thairath Talk : ซึ่งเวลาเจ็บนี่ชอบเลยใช่มั้ยได้พักผ่อนไม่ต้องออกกำลังกาย
เมย์ : ไม่ค่ะ ตอนนั้นหนูเจ็บขาหนูยังจะต้องมาซ้อมช่วงบนช่วงแขนก็ไม่ได้พักค่ะ ถ้าเจ็บตรงไหนก็ต้องไปซ้อมที่ไม่เจ็บ เพราะแบดมินตันมันใช้ทุกส่วนของร่างกายค่ะ ถ้าเราเจ็บขาก็ไม่ต้องใช้ขา เพียงแค่ไม่ต้องวิ่งไม่ต้องก็เน้นๆ มือมากกว่า
ชีวิตนักกีฬาผู้โดดเดี่ยว
Thairath Talk : ชีวิตส่วนตัวเมย์ฟังกิจวัตรประจําวันค่อนข้างโดดเดี่ยวไหมจริงๆ มันโดดเดี่ยวไหม
เมย์ : จริงๆ แล้วก็ไม่ได้โดดเดี่ยวนะคะ แต่ว่าถ้าพูดถึงในช่วงที่หนูจบมหาลัย มัธยมปลายส่วนใหญ่นักกีฬาหลายๆ คนก็เลิกแล้ว ก็ไปเรียนหนังสือเน้นในเรื่องของการเรียน แล้วก็มองถึงการทำงานมากกว่าค่ะ แต่ตัวเมย์ก็อยู่เป็นนักกีฬาทีมชาติก็จะแตกต่างกันออกไป ก็จะมีเพื่อนไม่ใช่เพื่อนเขาเรียกว่าไรเหมือนมีน้องๆ มากกว่า น้องที่เขาเล่นกีฬาก็จะห่างกันประมาณ 2-3 ปี หรือว่าอาจจะมีมากกว่านั้นนะ
Thairath Talk : สังคมส่วนใหญ่เมย์ก็ร้อยเกือบร้อยอยู่ในสังคมแบดมินตันนักกีฬาทั้งนั้นเลยใช่ไหม ไม่โดดเดี่ยวเหรอพี่ถามตรงๆ
เมย์ : ก็เราจะต้องอยู่ในแวดวงการของกีฬามากกว่าส่วนใหญ่เจอผู้ใหญ่ก็จะผู้ใหญ่ที่เขาชื่นชอบหรือว่าอะไรงี้มากกว่าไม่ได้แบบมองถึงธุรกิจหรืออะไรงี้ค่ะเพราะว่าตอนนี้เหมือนการเล่นกีฬาของหนูเหมือนการสร้างธุรกิจของตัวเองในที่แบบพยายามกอบโกยในช่วงที่เรามีโอกาสมากกว่า
Thairath Talk : ไม่ได้คิดว่าแบดมินตันฉกฉวยอะไรจากชีวิตเราไป
เมย์ : มันก็มีบ้าง เช่นช่วงมัธยมต้นเรียนจบ ปิดเทอมเราจะต้องมีกินหมูกระทะหรืออะไรหนูก็ปฏิเสธเพื่อน
Thairath Talk : จะไปกินหมูกระทะไม่ได้ไป เรื่องใหญ่เลยเหรอ
เมย์ : หนูก็ไปไม่ได้จริงๆ ซื้อมากินที่โรงเรียนได้ไหม แบบพวกพิซซ่าหรือเคเอฟซี แต่ว่าเพื่อนก็โอเคเพื่อนเข้าใจ เพราะบางทีเราไปต่างประเทศเราก็ซื้อพวกที่ติดตู้เย็นมาให้เพื่อนหรือช็อกโกแลต
Thairath Talk : นี่คือสิ่งฝังใจของเราก็คือไปกินหมูกระทะกับเพื่อนไม่ได้ก็คือปฏิเสธเพื่อน เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเมย์ รัชนก อินทนนท์ มาก
เมย์ : แต่เพื่อนหนูก็เข้าใจเพราะว่าในเรื่องของการทำงานในคลาส เพื่อนก็ช่วยแบบเอาชื่อเข้ากลุ่ม
Thairath Talk : ย้อนอดีตไปแก้ไข้ได้สมมติเรื่องเกี่ยวกับแบดมินตันแก้ไขแมตช์ไหนบ้าง
เมย์ : จริงๆ แล้วหนูไม่ได้จะกลับไปแก้ตัว แต่หนูพียงแค่ว่า ถ้ามันจะเป็นแชมป์มันก็อยู่ที่โชคชะตาเรามากกว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับที่เราแก้ไขอะไร แต่หนูว่าแก้ไขในปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ
ยังไม่โฟกัสเรื่องรัก
Thairath Talk : อายุ 24 ปี เรื่องเกี่ยวกับความรักนิยามความรักเรามันเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนไหมรักแบบหนุ่มสาว
เมย์ : ก็ถ้าเป็นในมุมหนูมันเป็นนักกีฬาจะก็ต้องแบบเขาต้องเข้าใจเราตรงที่ว่าเราไม่มีเวลาอะไรงี้มากกว่า
Thairath Talk : เป็นแฟนเมย์ต้องอดทน
เมย์ : สิบล้อชนจะต้องไม่ตาย(หัวเราะ) ไม่ใช่ก็ไม่ได้ซีเรียสหรือจริงจังขนาดแบบ จะต้องเอาจุดนี้มาเป็นเขาเรียกว่าคิดมากเกินไป แต่ว่าหนูคิดว่าแค่แบบความรักจากพ่อแม่ก็หนูมีน้องชายด้วยก็มันรู้สึกอบอุ่นอยู่แล้ว
Thairath Talk : ความรักสำหรับหนุ่มสาวมันทำให้เรามีพลังเพิ่มขึ้นบ้างไหม
เมย์ : จริงมันก็มีส่วนนึงตรงที่ว่าแบบมันกระชุ่มกระชวย แต่ว่าถ้าสมมติมันมีทะเลาะกันหรือคิดมากทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดก็มีบ้าง แต่ว่าตอนนี้แค่เพียงแค่ว่าหนูก็อยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี
Thairath Talk : เรื่องความรักเป็นเรื่องรอง
เมย์ : ก็ถ้าพูดถึงแบดกับความรักก็คงจะให้แบดมากกว่า เพราะว่าตอนนี้เรามีโอกาสที่ดีค่ะ
Thairath Talk : สเปกหนุ่มๆ ของเมย์เป็นไงบ้าง
เมย์ : หนูเป็นคนชอบคนแบบคิ้วเข้มๆ(หัวเราะ) ไม่สูงเกินไปเอาพอดีๆ
Thairath Talk : ถ้าเป็นดารามีบ้างไหมที่ชอบ ใครคือสเปกเรา
เมย์ : แต่ก่อนหนูชอบพี่เวียร์ หนูดูช่อง 7 ด้วยอะค่ะ ก็รู้สึกชอบชื่นชอบแต่ตอนนี้ก็มีดาราหน้าใหม่หลายๆ คนก็มีทั้ง พี่เจมส์จิ พี่เกรซ
credit : https://www.thairath.co.th/entertain/1649410
รู้ไหมเงินก้อนแรกของ เมย์ รัชนก อดีตนักแบดมือหนึ่งได้เท่าไหร
คุณอายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มต้นหาเงินได้ สำหรับ 'เมย์ รัชนก อินทนนท์' ผู้เกิดมาพร้อมพรสวรรค์แบดมินตัน สามารถชนะคู่แข่งในการแข่งขัน ได้เงินรางวัลก้อนแรกในชีวิตด้วยวัยเพียง 6 ขวบเท่านั้น ประสบการณ์ของการจับเงินก้อนแรกที่หามาได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย ทำให้เมย์เห็นคุณค่าของเงินทุกบาท เมย์ รัชนก จึงเป็นตัวอย่างที่ดีของวัยรุ่นที่เปี่ยมความคิดในการวางแผนทางการเงินที่น่าเป็นแบบอย่าง Thairath Talk ได้นำวิธีคิดของสาวน้อยผู้นี้มาฝากกัน
Thairath Talk : ตั้งแต่ฝึกแบดมาเรื่อยๆ มันมีภาพที่เราเป็นแชมป์ประเทศไทย เป็นแชมป์โลกผุดขึ้นมาตอนไหน หรือว่าไม่มีเลยตั้งแต่เล่นแบด
เมย์ : ถ้าฝึกมาก็เล่นมาเรื่อยๆ จนเราก็ไปแข่งขัน ก็รู้สึกว่าเราได้เงินรางวัล ก็ดีใจที่อย่างน้อยก็ ถ้าสมัยก่อนก็พันสองพันก็ถือว่าเยอะมากแล้วค่ะ สมัยก่อนนี่คือตอนหนูอายุหกขวบค่ะ ก็ถือว่าเยอะแล้วก็รู้สึกดีใจ แล้วเหมือนเราก็มีกำลังใจในการฝึกซ้อม ก็พยายามอยากจะแข่ง อยากที่จะสนุกไปกับมัน
Thairath Talk : เงินก้อนแรกเอาไปทำอะไรครับ 2,000 บาท
เมย์ : ก้อนแรกเลยเหรอคะ น่าจะประมาณนั้นค่ะ สองพัน
Thairath Talk : เอามาทำอะไร
เมย์ : ถ้าหนูเริ่มก็ตอนหกขวบ เริ่มแข่งประมาณ 7-8 ขวบค่ะ เพราะว่าต้องมีระยะในการที่เราฝึก เริ่มตีก่อน
Thairath Talk : เอาไปทำอะไรเหรอคะ
เมย์ : ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าเอาไปทำอะไร ตอนนั้นพ่อแม่น่าจะเอาไปใช้ก่อน พอหลังๆ เราเริ่มได้เงินมากขึ้น แม่ปุกเขาก็เลยเริ่มเก็บให้เราค่ะ คือแต่ก่อนพ่อแม่ก็จะเหมือนยังไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร ก็เลยเอามาใช้ กลายเป็นว่าเรายังไม่ค่อยมีเงินเก็บ ก็กลัวว่าอนาคตจะไม่มีเงิน แม่ปุกก็เลยช่วยแยกบัญชีไว้ ก็เก็บมาเรื่อยๆ ค่ะ ตั้งแต่ 8-9 ขวบ ก็เก็บมาเรื่อยๆ
Thairath Talk : ทุกวันนี้ก็มีเงินเก็บประมาณสามร้อยล้าน
เมย์ : ไม่ถึงค่ะ(ขำ)
credit : https://www.thairath.co.th/entertain/1649475