10สวนสนุกต้องห้ามพลาด! ในญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นนอกจากจะมีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว บ้านเมืองที่ทันสมัย

และแหล่งช้อปปิ้งก็ถูกใจหลายๆคนมากๆ

ไม่พอ ยังมีสวนสนุกระดับระดับโลกอีกหลายแห่ง

ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ 10 สวนสนุกที่ไม่ควรพลาด

และต้องไปเยือนสักครั้งเมื่อคุณไปญี่ปุ่น ทั้งสวนสนุกที่ทักคนคุ้นชื่อกันดี หรือบางแห่งอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ

จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

 

 

 

1. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แจแปน  (Universal Studio Japan)


ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวที่ไปโอซาก้าและฝั่งคันไซมักจะไม่พลาดการไปเยือนยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แจแปน

(USJ) สวนสนุกขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของภาพยนตร์ยอดนิยมระดับโลก พร้อมเครื่องเล่นมากมายที่เหมาะกับมาสนุกสนานกับเพื่อนและครอบครัว โดยเฉพาะโซน  Harry Potter ที่จะพาทุกคนเข้าไปสัมผัสกับโลกเวทมนตร์สุดอลังการ นอกจากนี้ยังมีโซนอื่นๆที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น

Jurassic Park, Minion รวมถึงขบวนพาเหรดการ์ตูนดังที่ยิ่งใหญ่ในแต่ละวันอีกด้วย 


ค่าเข้าชม : Studio Pass ผู้ใหญ่

7,900 เยน , เด็ก

5,400 เยน 

นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีตั๋ว Universal Express Pass หลายประเภทที่ราคาต่างกันไปตามช่วงเวลาของปี และประเภทเครื่องเล่นที่อยู่ในแพคเกจ

เวลาเปิด-ปิด  : ประมาณ 09.00-21.00 น. โดยจะต่างกันไปในแต่ละวัน

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Yumesaki Line ไปลงสถานี Universal City แล้วเดินไปอีกประมาณ 3 นาที

Official  website : https://www.usj.co.jp/

 

2. โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)



สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสแล้วต้องบอกว่าเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนการที่จะทำให้ลืมโลกความเป็นจริงไปเลย เป็นสวนสนุกที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายทั้งขบวนพาเหรดตัวการ์ตูนดิสนีย์ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายของกิน ขนม และเครื่องดื่มในธีมดิสนีย์ แตละอย่างน่ารักมาก


ส่วนเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมก็คือเครื่องเล่นสไตล์หวาดเสียวเช่น

Big Thunder Mountain, Splash Mountain และเครื่องเล่นสไตล์ผจญภัยเช่นที่เอาเนื้อหาของการ์ตูนและหนังดิสนีย์มาทำ เช่น

Cinderella และ Pirates of the Caribbean เป็นต้น ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าได้รับความนิยมติดต่อกันมาเป็นเวลานานไม่เคยตกเลยทีเดียว


ค่าเข้าชม :  ผู้ใหญ่ 7,400 เยน
เด็ก (อายุ 12-17 ปี) 6,400 เยน
เด็ก (อายุ 4-11 ปี) 4,800 เยน
ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป)  6,700 เยน

เวลาเปิด-ปิด :  วันธรรมดา 9.00-22.00 น. 
วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ  8.00-22.00 น.

Official  website :  https://www.tokyodisneyresort.jp/tdl/

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย  JR Keiyo Line ไปลงสถานี Maihama สามารถเดินไปถึงประตูสวนได้ในเวลา 2-3 นาที

3. โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo Disney Sea)



สวนสนุกที่เป็นส่วนต่อขยายของโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท ตั้งอยู่ติดกับโตเกียวดิสนีย์แลนด์ โดยแนวคิดของสวนสนุกแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายและตำนานเกี่ยวกับท้องทะเลต่างๆ โดยโซนต่างๆในดิสนีย์ซีจึงเกี่ยวกับน้ำ และส่วนใหญ่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนต์ดิสนีย์ที่เกี่ยวกับทะเล เช่น  Finding Nemo หรือ Little Mermaid  เป็นต้น


มีเครื่องเล่นสนุกๆมากมายที่ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยโดยที่ไม่ได้เป็นเครื่องเล่นทางน้ำ อย่างเช่น

Journey to the center of the Earth, Raging Spirits นอกจากนี้ยังมีส่วนของการแสดงที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เช่น

20,000 Leagues Under the Sea โรงหนัง  3 มิติที่ขึ้นชื่ออย่าง The Magic Lamp Theater เหล่านี้เป็นต้น


ค่าเข้าชม :  ผู้ใหญ่ 7,400 เยน
เด็ก (อายุ 12-17 ปี) 6,400 เยน
เด็ก (อายุ 4-11 ปี) 4,800 เยน
ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป)  6,700 เยน

เวลาเปิด-ปิด  : วันธรรมดา 9.00-22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ  8.00-22.00 น.

การเดินทาง : จากสถานี  JR Maihama ต่อรถไฟ Disney Resort Monorail ไปยัง Disney Sea Station ใช้เวลาประมาณ  10 นาที

Official  website : https://www.tokyodisneyresort.jp/tds/

 

4. ฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji-Q  Highland)



ถ้าชอบเครื่องเล่นสไตล์ตื่นเต้นและหวาดเสียว ที่นี่คือสวนสนุกที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวอย่างคุณยิ่งกว่าดิสนีย์แลนด์เสียอีก  ที่นี่มีเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะเป็นจำนวนมาก เช่นรถไฟเหาะขนาดยักษ์  “Fujiyama” ความสูง 79 เมตรและความเร็วสูงสุด  130 ก.ม./ช.ม หรือจะเป็นรถไฟเหาะที่ทำมุมสูงชันที่สุดในโลกถึง  121 องศาอย่าง “Takabisha” อีกทั้งยังมีความสูงถึง 43 เมตร ความเร็วสูงสุด  100 ก.ม./ช.ม. เป็นต้น ไฮไลท์อีกอย่างของสวนสนุกแห่งนี้คือ ความตื่นเต้นหวาดเสียวที่มีวิวสวยระดับโลกอย่างภูเขาฟูจิเป็นฉากหลัง ซึ่งอาจจะทำให้ช่วยคลายความตื่นเต้นไปได้บ้าง 


และก็ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ควรพลาด เช่น  Super ScaryLabyrinth of Fear

หรือบ้านผีสิงที่มีขนาดใหญ่และน่ากลัวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เกมที่ให้เราเลียนแบบสายลับที่บุกเข้าไปขโมยกล่องดำอย่าง  “Ultimate Fort” ต้องบอกว่าเครื่องเล่นแต่ละอย่างของที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบความตื่นเต้น หวาดเสียวอย่างแท้จริง


ค่าเข้าชม :  ตั๋วค่าเข้าสวนอย่างเดียว 1,500 เยน แต่หากใช้ตั๋วนี้ต้องจ่ายค่าเครื่องเล่นต่อการเล่นแต่ละครั้ง 
ตั๋ว Free Pass หนึ่งวัน  5,700 เยน

เวลาเปิด-ปิด  : 9.00 -18.00 น. (ไม่มีวันหยุดประจำ)

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย  Fujiokyuko Line ไปลงที่สถานี Fujikyu-Highland และเดินต่อเพื่อเข้าสวนสนุกใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที

Official website : https://www.fujiq.jp/en

 

5. สวนสนุกฮิรากาตะ ปาร์ค โอซาก้า  (Hirakata Park Osaka)



เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ในโอซาก้า บรรยากาศครอบครัว เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี  1910

จุดเด่นของที่นี่คือมีทั้งเครื่องเล่นน่าสนใจและกิจกรรมสำหรับทุกคนที่มาเป็นครอบครัว

เครื่องเล่นที่น่าสนใจและพลาดไม่ได้เลยก็คือ รถไฟเหาะทำจากไม้  เป็นรถไฟเหาะหน้าตาดีที่ทำด้วยไม้ ให้ความรู้สึกคลาสสิกปนน่าหวาดเสียวเล็กน้อย และก็ยังมีเครื่องเล่นยอดนิยมอื่นๆอีก เช่น  Giant Drop Meteor ความเร็วของมันขณะหล่นลงมาทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกที่ไร้แรงโน้มถ่วง หวาดเสียวสุดๆ



นอกจากเครื่องเล่นสนุกๆแล้วก็มีมุมน่าสนใจอื่นๆด้วย เช่น โซนของสัตว์น่ารักๆ สวนดอกกุหลาบสวยๆ เป็นต้น


ค่าเข้าชม :  ตั๋วรวมค่าเข้าสวนอย่างเดียว : ผู้ใหญ่  (เด็กมัธยมต้นขึ้นไป) 1,400 เยน,  เด็กประถมหรือต่ำกว่า  800 เยน ถ้าใช้ตั๋วแบบนี้ต้องซื้อตั๋วเครื่องเล่นต่างหากในแต่ละครั้งที่เล่น

ตั๋ว All Access Pass : ผู้ใหญ่ (เด็กมัธยมต้นขึ้นไป) 4,400 เยน, เด็กประถมหรือต่ำกว่า 3,800 เยน 

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น. เวาเปลี่ยนแปลงอย่างมากในแต่ละฤดูกาล โปรดเช็คที่เว็บไซต์ด้านล่าง

การเดินทาง : จากสถานี  Hirakata-Koen เดินต่ออีก 3 นาที

Official website : http://www.hirakatapark.co.jp/

 

6. สวนสนุกคิจิมะโคเก็นปาร์ค เมืองเบปปุ  (Kijima Kogen Park Beppu)



ที่นี่เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่างภูเขาในเขตเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ จึงมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นสวนสนุกที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของภูมิภาคคิวชู

สำหรับเครื่องเล่นที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ

“Jupiter”
รถไฟเหาะที่ทำจากไม้ทั้งหมดเครื่องแรกของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะเป็นเครื่องเล่นที่สร้างความตื่นเต้นที่ไม่เหมือนใคร



นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องเล่นอีกมากมายที่น่าสนุกสนาน เช่น

WAVE SWINGER ลักษณะเป็นเหมือนเก้าอี้เวลาเล่นชิงช้า และพอเริ่มเล่นเก้าอี้ที่นั่งก็จะถูกดึงสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ตามแรงเหวี่ยงที่แรงขึ้นเรื่อยๆ



ค่าเข้าชม :  ตั๋วค่าเข้าอย่างเดียว ผู้ใหญ่ 1,500 เยน 
ตั๋วค่าเข้าและขึ้นเครื่องเล่นไม่อั้น ผู้ใหญ่  4,200 เยน

เวลาเปิด-ปิด:  เปลี่ยนแปลงอย่างมากในแต่ละฤดู
ปกติจะเปิด  09.00-10.00 น.
แต่เวลาปิดนั้นมีตั้งแต่  17.00 จนถึง 21.00 น. แล้วแต่วันเวลาของปี

การเดินทาง : จากสถานี  Beppu หรือ Yufuin ต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Kijima Kogen Park ใช้เวลา  35 หรือ 20 นาที 

Official  website : http://www.kijimakogen-park.jp/

7. สวนสนุกเลโก้แลนด์ (Legoland Nagoya)



สวนสนุกแห่งใหม่ในนาโกย่าที่เพิ่งเปิดบริการเมื่อปี  2017 เป็นสวนสนุกเลโก้แลนด์แห่งที่ 8 ของโลก และเป็นแห่งที่ 2 ในเอเชียต่อจากของมาเลเซีย ในพื้นที่สวนสนุกจะมีทั้งตัวต่อเลโก้ในธีมต่างๆ เครื่องเล่นกว่า 40 ชนิด โรงหนังแบบ 4D ร้านอาหาร และร้านขายสินค้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่