ประเทศญี่ปุ่นนอกจากจะมีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว บ้านเมืองที่ทันสมัย
และแหล่งช้อปปิ้งก็ถูกใจหลายๆคนมากๆ
ไม่พอ ยังมีสวนสนุกระดับระดับโลกอีกหลายแห่ง
ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ 10 สวนสนุกที่ไม่ควรพลาด
และต้องไปเยือนสักครั้งเมื่อคุณไปญี่ปุ่น ทั้งสวนสนุกที่ทักคนคุ้นชื่อกันดี หรือบางแห่งอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ
จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
1. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แจแปน (Universal Studio Japan)
ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวที่ไป
โอซาก้าและฝั่งคันไซมักจะไม่พลาดการไปเยือนยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แจแปน
(USJ) สวนสนุกขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของภาพยนตร์ยอดนิยมระดับโลก พร้อมเครื่องเล่นมากมายที่เหมาะกับมาสนุกสนานกับเพื่อนและครอบครัว โดยเฉพาะโซน Harry Potter ที่จะพาทุกคนเข้าไปสัมผัสกับโลกเวทมนตร์สุดอลังการ นอกจากนี้ยังมีโซนอื่นๆที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น
Jurassic Park, Minion รวมถึงขบวนพาเหรดการ์ตูนดังที่ยิ่งใหญ่ในแต่ละวันอีกด้วย
ค่าเข้าชม : Studio Pass ผู้ใหญ่
7,900 เยน , เด็ก
5,400 เยน
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีตั๋ว Universal Express Pass หลายประเภทที่ราคาต่างกันไปตามช่วงเวลาของปี และประเภทเครื่องเล่นที่อยู่ในแพคเกจ
เวลาเปิด-ปิด : ประมาณ 09.00-21.00 น. โดยจะต่างกันไปในแต่ละวัน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Yumesaki Line ไปลงสถานี Universal City แล้วเดินไปอีกประมาณ 3 นาที
Official website :
https://www.usj.co.jp/
2. โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสแล้วต้องบอกว่าเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนการที่จะทำให้ลืมโลกความเป็นจริงไปเลย เป็นสวนสนุกที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายทั้งขบวนพาเหรดตัวการ์ตูนดิสนีย์ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายของกิน ขนม และเครื่องดื่มในธีมดิสนีย์ แตละอย่างน่ารักมาก
ส่วนเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมก็คือเครื่องเล่นสไตล์หวาดเสียวเช่น
Big Thunder Mountain, Splash Mountain และเครื่องเล่นสไตล์ผจญภัยเช่นที่เอาเนื้อหาของการ์ตูนและหนังดิสนีย์มาทำ เช่น
Cinderella และ Pirates of the Caribbean เป็นต้น ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าได้รับความนิยมติดต่อกันมาเป็นเวลานานไม่เคยตกเลยทีเดียว
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 7,400 เยน
เด็ก (อายุ 12-17 ปี) 6,400 เยน
เด็ก (อายุ 4-11 ปี) 4,800 เยน
ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป) 6,700 เยน
เวลาเปิด-ปิด : วันธรรมดา 9.00-22.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ 8.00-22.00 น.
Official website :
https://www.tokyodisneyresort.jp/tdl/
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Keiyo Line ไปลงสถานี Maihama สามารถเดินไปถึงประตูสวนได้ในเวลา 2-3 นาที
3. โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo Disney Sea)
สวนสนุกที่เป็นส่วนต่อขยายของโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท ตั้งอยู่ติดกับโตเกียวดิสนีย์แลนด์ โดยแนวคิดของสวนสนุกแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายและตำนานเกี่ยวกับท้องทะเลต่างๆ โดยโซนต่างๆในดิสนีย์ซีจึงเกี่ยวกับน้ำ และส่วนใหญ่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนต์ดิสนีย์ที่เกี่ยวกับทะเล เช่น Finding Nemo หรือ Little Mermaid เป็นต้น
มีเครื่องเล่นสนุกๆมากมายที่ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยโดยที่ไม่ได้เป็นเครื่องเล่นทางน้ำ อย่างเช่น
Journey to the center of the Earth, Raging Spirits นอกจากนี้ยังมีส่วนของการแสดงที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เช่น
20,000 Leagues Under the Sea โรงหนัง 3 มิติที่ขึ้นชื่ออย่าง The Magic Lamp Theater เหล่านี้เป็นต้น
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 7,400 เยน
เด็ก (อายุ 12-17 ปี) 6,400 เยน
เด็ก (อายุ 4-11 ปี) 4,800 เยน
ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป) 6,700 เยน
เวลาเปิด-ปิด : วันธรรมดา 9.00-22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ 8.00-22.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี JR Maihama ต่อรถไฟ Disney Resort Monorail ไปยัง Disney Sea Station ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
Official website :
https://www.tokyodisneyresort.jp/tds/
4. ฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland)
ถ้าชอบเครื่องเล่นสไตล์ตื่นเต้นและหวาดเสียว ที่นี่คือสวนสนุกที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวอย่างคุณยิ่งกว่าดิสนีย์แลนด์เสียอีก ที่นี่มีเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะเป็นจำนวนมาก เช่นรถไฟเหาะขนาดยักษ์ “Fujiyama” ความสูง 79 เมตรและความเร็วสูงสุด 130 ก.ม./ช.ม หรือจะเป็นรถไฟเหาะที่ทำมุมสูงชันที่สุดในโลกถึง 121 องศาอย่าง “Takabisha” อีกทั้งยังมีความสูงถึง 43 เมตร ความเร็วสูงสุด 100 ก.ม./ช.ม. เป็นต้น ไฮไลท์อีกอย่างของสวนสนุกแห่งนี้คือ ความตื่นเต้นหวาดเสียวที่มีวิวสวยระดับโลกอย่างภูเขาฟูจิเป็นฉากหลัง ซึ่งอาจจะทำให้ช่วยคลายความตื่นเต้นไปได้บ้าง
และก็ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ควรพลาด เช่น Super ScaryLabyrinth of Fear
หรือบ้านผีสิงที่มีขนาดใหญ่และน่ากลัวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เกมที่ให้เราเลียนแบบสายลับที่บุกเข้าไปขโมยกล่องดำอย่าง “Ultimate Fort” ต้องบอกว่าเครื่องเล่นแต่ละอย่างของที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบความตื่นเต้น หวาดเสียวอย่างแท้จริง
ค่าเข้าชม : ตั๋วค่าเข้าสวนอย่างเดียว 1,500 เยน แต่หากใช้ตั๋วนี้ต้องจ่ายค่าเครื่องเล่นต่อการเล่นแต่ละครั้ง
ตั๋ว Free Pass หนึ่งวัน 5,700 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 9.00 -18.00 น. (ไม่มีวันหยุดประจำ)
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Fujiokyuko Line ไปลงที่สถานี Fujikyu-Highland และเดินต่อเพื่อเข้าสวนสนุกใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที
Official website :
https://www.fujiq.jp/en
5. สวนสนุกฮิรากาตะ ปาร์ค โอซาก้า (Hirakata Park Osaka)
เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ในโอซาก้า บรรยากาศครอบครัว เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1910
จุดเด่นของที่นี่คือมีทั้งเครื่องเล่นน่าสนใจและกิจกรรมสำหรับทุกคนที่มาเป็นครอบครัว
เครื่องเล่นที่น่าสนใจและพลาดไม่ได้เลยก็คือ
รถไฟเหาะทำจากไม้ เป็นรถไฟเหาะหน้าตาดีที่ทำด้วยไม้ ให้ความรู้สึกคลาสสิกปนน่าหวาดเสียวเล็กน้อย และก็ยังมีเครื่องเล่นยอดนิยมอื่นๆอีก เช่น Giant Drop Meteor ความเร็วของมันขณะหล่นลงมาทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกที่ไร้แรงโน้มถ่วง หวาดเสียวสุดๆ
นอกจากเครื่องเล่นสนุกๆแล้วก็มีมุมน่าสนใจอื่นๆด้วย เช่น โซนของสัตว์น่ารักๆ สวนดอกกุหลาบสวยๆ เป็นต้น
ค่าเข้าชม : ตั๋วรวมค่าเข้าสวนอย่างเดียว : ผู้ใหญ่ (เด็กมัธยมต้นขึ้นไป) 1,400 เยน, เด็กประถมหรือต่ำกว่า 800 เยน ถ้าใช้ตั๋วแบบนี้ต้องซื้อตั๋วเครื่องเล่นต่างหากในแต่ละครั้งที่เล่น
ตั๋ว All Access Pass : ผู้ใหญ่ (เด็กมัธยมต้นขึ้นไป) 4,400 เยน, เด็กประถมหรือต่ำกว่า 3,800 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น. เวาเปลี่ยนแปลงอย่างมากในแต่ละฤดูกาล โปรดเช็คที่เว็บไซต์ด้านล่าง
การเดินทาง : จากสถานี Hirakata-Koen เดินต่ออีก 3 นาที
Official website :
http://www.hirakatapark.co.jp/
6. สวนสนุกคิจิมะโคเก็นปาร์ค เมืองเบปปุ (Kijima Kogen Park Beppu)
ที่นี่เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่างภูเขาในเขตเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ จึงมีทิวทัศน์ที่สวยงาม
เป็นสวนสนุกที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของภูมิภาคคิวชู
สำหรับเครื่องเล่นที่เป็น
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ
“Jupiter” รถไฟเหาะที่ทำจากไม้ทั้งหมดเครื่องแรกของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะเป็นเครื่องเล่นที่สร้างความตื่นเต้นที่ไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องเล่นอีกมากมายที่น่าสนุกสนาน เช่น
WAVE SWINGER ลักษณะเป็นเหมือนเก้าอี้เวลาเล่นชิงช้า และพอเริ่มเล่นเก้าอี้ที่นั่งก็จะถูกดึงสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ตามแรงเหวี่ยงที่แรงขึ้นเรื่อยๆ
ค่าเข้าชม : ตั๋วค่าเข้าอย่างเดียว ผู้ใหญ่ 1,500 เยน
ตั๋วค่าเข้าและขึ้นเครื่องเล่นไม่อั้น ผู้ใหญ่ 4,200 เยน
เวลาเปิด-ปิด: เปลี่ยนแปลงอย่างมากในแต่ละฤดู
ปกติจะเปิด 09.00-10.00 น.
แต่เวลาปิดนั้นมีตั้งแต่ 17.00 จนถึง 21.00 น. แล้วแต่วันเวลาของปี
การเดินทาง : จากสถานี Beppu หรือ Yufuin ต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Kijima Kogen Park ใช้เวลา 35 หรือ 20 นาที
Official website :
http://www.kijimakogen-park.jp/
7. สวนสนุกเลโก้แลนด์ (Legoland Nagoya)
สวนสนุกแห่งใหม่ในนาโกย่าที่เพิ่งเปิดบริการเมื่อปี 2017 เป็นสวนสนุกเลโก้แลนด์แห่งที่ 8 ของโลก และเป็นแห่งที่ 2 ในเอเชียต่อจากของมาเลเซีย ในพื้นที่สวนสนุกจะมีทั้งตัวต่อเลโก้ในธีมต่างๆ เครื่องเล่นกว่า 40 ชนิด โรงหนังแบบ 4D ร้านอาหาร และร้านขายสินค้า
10สวนสนุกต้องห้ามพลาด! ในญี่ปุ่น
และแหล่งช้อปปิ้งก็ถูกใจหลายๆคนมากๆ
ไม่พอ ยังมีสวนสนุกระดับระดับโลกอีกหลายแห่ง
ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ 10 สวนสนุกที่ไม่ควรพลาด
และต้องไปเยือนสักครั้งเมื่อคุณไปญี่ปุ่น ทั้งสวนสนุกที่ทักคนคุ้นชื่อกันดี หรือบางแห่งอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ
จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
1. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แจแปน (Universal Studio Japan)
ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวที่ไปโอซาก้าและฝั่งคันไซมักจะไม่พลาดการไปเยือนยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แจแปน
(USJ) สวนสนุกขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของภาพยนตร์ยอดนิยมระดับโลก พร้อมเครื่องเล่นมากมายที่เหมาะกับมาสนุกสนานกับเพื่อนและครอบครัว โดยเฉพาะโซน Harry Potter ที่จะพาทุกคนเข้าไปสัมผัสกับโลกเวทมนตร์สุดอลังการ นอกจากนี้ยังมีโซนอื่นๆที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น
Jurassic Park, Minion รวมถึงขบวนพาเหรดการ์ตูนดังที่ยิ่งใหญ่ในแต่ละวันอีกด้วย
ค่าเข้าชม : Studio Pass ผู้ใหญ่
7,900 เยน , เด็ก
5,400 เยน
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีตั๋ว Universal Express Pass หลายประเภทที่ราคาต่างกันไปตามช่วงเวลาของปี และประเภทเครื่องเล่นที่อยู่ในแพคเกจ
เวลาเปิด-ปิด : ประมาณ 09.00-21.00 น. โดยจะต่างกันไปในแต่ละวัน
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Yumesaki Line ไปลงสถานี Universal City แล้วเดินไปอีกประมาณ 3 นาที
Official website : https://www.usj.co.jp/
2. โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสแล้วต้องบอกว่าเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนการที่จะทำให้ลืมโลกความเป็นจริงไปเลย เป็นสวนสนุกที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายทั้งขบวนพาเหรดตัวการ์ตูนดิสนีย์ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายของกิน ขนม และเครื่องดื่มในธีมดิสนีย์ แตละอย่างน่ารักมาก
ส่วนเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมก็คือเครื่องเล่นสไตล์หวาดเสียวเช่น
Big Thunder Mountain, Splash Mountain และเครื่องเล่นสไตล์ผจญภัยเช่นที่เอาเนื้อหาของการ์ตูนและหนังดิสนีย์มาทำ เช่น
Cinderella และ Pirates of the Caribbean เป็นต้น ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าได้รับความนิยมติดต่อกันมาเป็นเวลานานไม่เคยตกเลยทีเดียว
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 7,400 เยน
เด็ก (อายุ 12-17 ปี) 6,400 เยน
เด็ก (อายุ 4-11 ปี) 4,800 เยน
ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป) 6,700 เยน
เวลาเปิด-ปิด : วันธรรมดา 9.00-22.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ 8.00-22.00 น.
Official website : https://www.tokyodisneyresort.jp/tdl/
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Keiyo Line ไปลงสถานี Maihama สามารถเดินไปถึงประตูสวนได้ในเวลา 2-3 นาที
3. โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo Disney Sea)
สวนสนุกที่เป็นส่วนต่อขยายของโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท ตั้งอยู่ติดกับโตเกียวดิสนีย์แลนด์ โดยแนวคิดของสวนสนุกแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายและตำนานเกี่ยวกับท้องทะเลต่างๆ โดยโซนต่างๆในดิสนีย์ซีจึงเกี่ยวกับน้ำ และส่วนใหญ่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนต์ดิสนีย์ที่เกี่ยวกับทะเล เช่น Finding Nemo หรือ Little Mermaid เป็นต้น
มีเครื่องเล่นสนุกๆมากมายที่ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยโดยที่ไม่ได้เป็นเครื่องเล่นทางน้ำ อย่างเช่น
Journey to the center of the Earth, Raging Spirits นอกจากนี้ยังมีส่วนของการแสดงที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เช่น
20,000 Leagues Under the Sea โรงหนัง 3 มิติที่ขึ้นชื่ออย่าง The Magic Lamp Theater เหล่านี้เป็นต้น
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 7,400 เยน
เด็ก (อายุ 12-17 ปี) 6,400 เยน
เด็ก (อายุ 4-11 ปี) 4,800 เยน
ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป) 6,700 เยน
เวลาเปิด-ปิด : วันธรรมดา 9.00-22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ 8.00-22.00 น.
การเดินทาง : จากสถานี JR Maihama ต่อรถไฟ Disney Resort Monorail ไปยัง Disney Sea Station ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
Official website : https://www.tokyodisneyresort.jp/tds/
4. ฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland)
ถ้าชอบเครื่องเล่นสไตล์ตื่นเต้นและหวาดเสียว ที่นี่คือสวนสนุกที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวอย่างคุณยิ่งกว่าดิสนีย์แลนด์เสียอีก ที่นี่มีเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะเป็นจำนวนมาก เช่นรถไฟเหาะขนาดยักษ์ “Fujiyama” ความสูง 79 เมตรและความเร็วสูงสุด 130 ก.ม./ช.ม หรือจะเป็นรถไฟเหาะที่ทำมุมสูงชันที่สุดในโลกถึง 121 องศาอย่าง “Takabisha” อีกทั้งยังมีความสูงถึง 43 เมตร ความเร็วสูงสุด 100 ก.ม./ช.ม. เป็นต้น ไฮไลท์อีกอย่างของสวนสนุกแห่งนี้คือ ความตื่นเต้นหวาดเสียวที่มีวิวสวยระดับโลกอย่างภูเขาฟูจิเป็นฉากหลัง ซึ่งอาจจะทำให้ช่วยคลายความตื่นเต้นไปได้บ้าง
และก็ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ควรพลาด เช่น Super ScaryLabyrinth of Fear
หรือบ้านผีสิงที่มีขนาดใหญ่และน่ากลัวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เกมที่ให้เราเลียนแบบสายลับที่บุกเข้าไปขโมยกล่องดำอย่าง “Ultimate Fort” ต้องบอกว่าเครื่องเล่นแต่ละอย่างของที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบความตื่นเต้น หวาดเสียวอย่างแท้จริง
ค่าเข้าชม : ตั๋วค่าเข้าสวนอย่างเดียว 1,500 เยน แต่หากใช้ตั๋วนี้ต้องจ่ายค่าเครื่องเล่นต่อการเล่นแต่ละครั้ง
ตั๋ว Free Pass หนึ่งวัน 5,700 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 9.00 -18.00 น. (ไม่มีวันหยุดประจำ)
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Fujiokyuko Line ไปลงที่สถานี Fujikyu-Highland และเดินต่อเพื่อเข้าสวนสนุกใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที
Official website : https://www.fujiq.jp/en
5. สวนสนุกฮิรากาตะ ปาร์ค โอซาก้า (Hirakata Park Osaka)
เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ในโอซาก้า บรรยากาศครอบครัว เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1910
จุดเด่นของที่นี่คือมีทั้งเครื่องเล่นน่าสนใจและกิจกรรมสำหรับทุกคนที่มาเป็นครอบครัว
เครื่องเล่นที่น่าสนใจและพลาดไม่ได้เลยก็คือ รถไฟเหาะทำจากไม้ เป็นรถไฟเหาะหน้าตาดีที่ทำด้วยไม้ ให้ความรู้สึกคลาสสิกปนน่าหวาดเสียวเล็กน้อย และก็ยังมีเครื่องเล่นยอดนิยมอื่นๆอีก เช่น Giant Drop Meteor ความเร็วของมันขณะหล่นลงมาทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกที่ไร้แรงโน้มถ่วง หวาดเสียวสุดๆ
นอกจากเครื่องเล่นสนุกๆแล้วก็มีมุมน่าสนใจอื่นๆด้วย เช่น โซนของสัตว์น่ารักๆ สวนดอกกุหลาบสวยๆ เป็นต้น
ค่าเข้าชม : ตั๋วรวมค่าเข้าสวนอย่างเดียว : ผู้ใหญ่ (เด็กมัธยมต้นขึ้นไป) 1,400 เยน, เด็กประถมหรือต่ำกว่า 800 เยน ถ้าใช้ตั๋วแบบนี้ต้องซื้อตั๋วเครื่องเล่นต่างหากในแต่ละครั้งที่เล่น
ตั๋ว All Access Pass : ผู้ใหญ่ (เด็กมัธยมต้นขึ้นไป) 4,400 เยน, เด็กประถมหรือต่ำกว่า 3,800 เยน
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น. เวาเปลี่ยนแปลงอย่างมากในแต่ละฤดูกาล โปรดเช็คที่เว็บไซต์ด้านล่าง
การเดินทาง : จากสถานี Hirakata-Koen เดินต่ออีก 3 นาที
Official website : http://www.hirakatapark.co.jp/
6. สวนสนุกคิจิมะโคเก็นปาร์ค เมืองเบปปุ (Kijima Kogen Park Beppu)
ที่นี่เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่บนเส้นทางระหว่างภูเขาในเขตเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ จึงมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นสวนสนุกที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของภูมิภาคคิวชู
สำหรับเครื่องเล่นที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ
“Jupiter” รถไฟเหาะที่ทำจากไม้ทั้งหมดเครื่องแรกของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะเป็นเครื่องเล่นที่สร้างความตื่นเต้นที่ไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องเล่นอีกมากมายที่น่าสนุกสนาน เช่น
WAVE SWINGER ลักษณะเป็นเหมือนเก้าอี้เวลาเล่นชิงช้า และพอเริ่มเล่นเก้าอี้ที่นั่งก็จะถูกดึงสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ตามแรงเหวี่ยงที่แรงขึ้นเรื่อยๆ
ค่าเข้าชม : ตั๋วค่าเข้าอย่างเดียว ผู้ใหญ่ 1,500 เยน
ตั๋วค่าเข้าและขึ้นเครื่องเล่นไม่อั้น ผู้ใหญ่ 4,200 เยน
เวลาเปิด-ปิด: เปลี่ยนแปลงอย่างมากในแต่ละฤดู
ปกติจะเปิด 09.00-10.00 น.
แต่เวลาปิดนั้นมีตั้งแต่ 17.00 จนถึง 21.00 น. แล้วแต่วันเวลาของปี
การเดินทาง : จากสถานี Beppu หรือ Yufuin ต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Kijima Kogen Park ใช้เวลา 35 หรือ 20 นาที
Official website : http://www.kijimakogen-park.jp/
7. สวนสนุกเลโก้แลนด์ (Legoland Nagoya)
สวนสนุกแห่งใหม่ในนาโกย่าที่เพิ่งเปิดบริการเมื่อปี 2017 เป็นสวนสนุกเลโก้แลนด์แห่งที่ 8 ของโลก และเป็นแห่งที่ 2 ในเอเชียต่อจากของมาเลเซีย ในพื้นที่สวนสนุกจะมีทั้งตัวต่อเลโก้ในธีมต่างๆ เครื่องเล่นกว่า 40 ชนิด โรงหนังแบบ 4D ร้านอาหาร และร้านขายสินค้า