ไปเช้าเย็นกลับ 1 วัน กับ 3 ฤดู ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
หน้าฝนแล้วไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนกันใช่หรือเปล่าคะ เราขอแนะนำการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ขับๆ จอดๆ ลงไปถ่ายรูป กับวิวดีๆ ต้นไม้เขียว บรรยากาศครึ้มๆ แดดๆ เจอฝน ลุยหมอก สลับไปมา (เตรียมยาพาราไปด้วยน้า)
ก่อนออกเดินทางเราก็ไหว้พระขอพรกันสักนิดก่อนนะคะ การขับรถในพื้นที่อุทยานโดนส่วนตัวเจ้าของกระทู้ไม่รู้สึกว่ายากเท่าไหร่ (อาจจะไปบ่อย) เส้นทางที่ขึ้นจากทางนครนายกนั้นไม่ชัน มีต้นไม้สองข้างทาง และมีโอกาสเจอพี่ช้างและสัตว์อื่นๆ (ไป 20 ครั้งเจอ 1-2 ครั้ง) และถ้าคนไหนไม่ถนัดกับการขับรถที่มีต้นไม้ทึบ ฝนตก หรือหมอกลงระหว่างทาง และจะมีคนปั่นจักรยานตามเส้นทางมากอยู่ แนะนำให้หาเพื่อนร่วมทางที่สามารถสลับกันขับไปด้วยนะคะ จะได้ผลัดกันถ่ายรูปด้วยเลย
ไหว้พระขอพรเสร็จแล้วเราก็เริ่มล้อหมุนกันเลยค่ะ
เจ้าของกระทู้ออกเดินทางจาก คลอง 6 ธัญบุรี ตอน 8:30 โดยประมาณ ไปตามเส้นทาง รังสิต – นครนายก ตรงไปทางจังหวัดปราจีนบุรี แวะซื้อของรองท้องใน 7-11 เติมน้ำมันให้เต็ม เติมท้องให้อิ่ม เติมคาเฟอีนเข้าเลือดนิดหน่อยสำหรับคนที่ติดคาเฟอีนแบบเจ้าของกระทู้ค่ะ ระหว่างทางถนน รังสิต – นครนายกก็จะมีวิวริมคลองแบบนี้
เมื่อมาถึงแยกนเรศวรจะมีป้ายบอกทางไปเขาใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามป้ายบอกเลยค่ะ ไม่เกิน 10 กิโลเมตร ก็จะเจอทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนถึงก็จะเห็นเขาใหญ่แบบนี้ แอบหวั่นใจเมื่อเห็นหมอกปกคลุมแบบนี้ เพราะนั้นหมายถึง บนเขาใหญ่กำลังฝนตก หรือ ไม่ก็หมอกลงจัดมากๆ
เมื่อมาได้ระยะหนึ่งเราจะเจอกับทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ค่าธรรมเนียม คนไทยคนละ 40 บาท รถยนต์คันละ 50 บาทค่ะ ได้บัตรแล้ว ไปกันเลย
บัตรหน้าตาประมาณนี้
เมื่อเข้ามาในพื้นที่อุทยานแล้วจะรู้สึกได้ถึงความหนาแน่นของต้นไม้สองข้างทางทันที อุดมสมบูรณ์ ไปตามทาง ดูตามรูปเลยดีกว่า
และแล้วเราก็มาถึงเส้นทางมหาชน ถนนที่ลึกแบบนี้จะมีเพียงจุดเดียวในเส้นทางเขาใหญ่ คือ ถ้าขึ้นมาจากทางนครนายก จะถึงก่อนจุด Center ของอุทยาน แต่ถ้ามาทางปากช่อง ก็เลย Center อุทยาน แล้วเลี้ยวขวามาพักใหญ่ๆ ถึงจะเจอจุดนี้ค่ะ รูปไม่ค่อยชัดต้องขออภัยด้วยค่ะ เจ้าของกระทู้ไม่ได้ลงจากรถ เพราะฝนตกปรอยๆ และ ซูมจากมือถือ รูปเลยอาจจะเบลอๆ แต่สายตายังไม่เบลอนะคะ
เส้นทางในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะมีหลักๆ เพียงเส้นทางเดียว ขับไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ต้องกลัวหลง ถ้าขึ้นจากทางนครนายกมาเรื่อยๆ เราจะเจอจุดแวะแรกที่เด่นๆ ฝั่งซ้ายมือคือ น้ำตกเหวนรก จอดรถและลงเดินไป บันไดค่อนข้างชัน ไม่แนะนำสำหรับ เด็กเล็กและผู้สูงอายุ ระหว่างทางก็เป็นธรรมชาติ สวยงาม ไม่ค่อยแนะนำฤดูฝนเท่าไหร่ เพราะเส้นทางค่อนข้างลื่น เจ้าของกระทู้ขอผ่านไปก่อน เลยน้ำตกเหวนรกไป จะเจอสามแยกที่ 1
ถ้าเลี้ยวขวาจะไปผาเดียวดาย เลยไปหน่อยก็จะเป็นผาตรอมใจซึ่งเป็นพื้นที่ของทหาร มีพี่ๆ น้องๆ ทหารอยู่ในพื้นที่ มีห้องน้ำและจุดชมวิวที่ผาตรอมใจค่ะ
จากสามแยกถ้าตรงไปก็จะเจอกับสามแยกที่ 2 เลี้ยวขวาที่สามแยกที่ 2 จะไปน้ำตกผากล้วยไม้ จุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ (น้ำตกนี้เดินไกลมากๆ ค่ะ เคยเดินไปหนเดียวและไม่เคยไปอีกเลย) เลยผากล้วยไม้ไปจนสุดเส้นทางจะเป็นน้ำตกเหวสุวัต หน้าน้ำจะสวยมากอยู่ เดินไม่ไกลมาก เส้นทางธรรมชาติมีรากไม้ใหญ่
กลับมาที่สามแยกที่ 2 เลี้ยวซ้าย จะไปออกปากช่องค่ะ ระหว่างทางจะเจออ่างเก็บน้ำสายศร และ จุด Center ของอุทยาน เดี๋ยวเจ้าของกระทู้จะพาไปหลังจากกลับจากผาเดียวดายค่ะ
ทุกจุดที่เป็นเส้นทางเดินธรรมชาติที่สามารถเดินได้เองโดนไม่มีเจ้าหน้าที่นำทาง ในฤดูฝน จะเจอกับทาก ทาก ทาก ดูดเลือดดดด ใช่ค่ะ ทากดูดเลือด เจ้าของกระทู้โดนไปหลายรอบในการมาเขาใหญ่หลายหน แนะนำให้ใส่ที่กันทาก หรือ มาเที่ยวเพื่อสำรวจเส้นทางธรรมชาติในช่วงฤดูหนาวจะปลอดภัยกว่าค่ะ ถึงมีที่กันทาก เจอตัวเป็นๆ ก็น่ากลัวอยู่มากทีเดียว
เราขอกลับมาที่สามแยกที่ 1 เพื่อเลี้ยวขวาไปผาเดียวดายกันดีกว่า ระหว่างทางไปผาเดียวดาย ก็จะมีวิวประมาณนี้
ทุ่งหญ้าตรงนี้ช่วงฤดูแล้งๆ หญ้าจะไม่สูง มีเส้นทางให้สามารถเดินเข้าไปศึกษาเส้นทางธรรมชาติได้ สุดทางจะเป็นลานหินปุ่มเล็กๆ เดินไกลมากโขอยู่ แต่วันนี้ขอลงมา ถ่ายรูป ริมๆ ทางแล้วไปต่อกันดีกว่า
ระหว่างทางไปผาเดียวดายถนนจะเล็กกว่าถนนเส้นหลักพอสมควร และต้นไม้สองข้างทางจะทึบกว่ามาก คนที่กลัวความมืด หรือต้นไม้ทึบก็อย่าลืมพาเพื่อนมาด้วย อาจจะดูน่ากลัวบางจุด และ เส้นทางนี้จะชันกว่าเส้นหลัก และ มีทางโค้กหักศอกหลายจุด ขับระวังกันด้วยจ้า
แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องกำลังรถ เจ้าของกระทู้เคยเอารถ Nissan March กำลัง 1200 มาถึงผาเดียวดาย และถนนตอนนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อมากกว่านี้มากๆๆ (ตามรูปเลยค่ะ) ไปได้สบายๆ ค่ะ ตอนนี้ถนนเรียบดี ขับชิลๆ เลย คันนี้นั้นเอง คุณแม่เป็นนางแบบนิดนึงนะคะ และรูปถัดไปคือถนนสมัยก่อนหลุมลึกและเป็นแบบนี้เกือบตลอดเส้นทาง
พอมาถึงเราจะเจอที่จอดรถประมาณนี้
ข้ามถนนมาเลยเราจะเจอทางเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปผาเดียวดาย แต่เราไม่ควรเข้าไปแบบเดียวดายน้า
เส้นทางก็จะประมาณนี้ ทางเดินทำด้วยไม้ ใส่รองเท้าพื้นเกาะๆ กันลื่นกันด้วย ถ้าเจอฝนหรือหมอกลง ทางเดินจะเปียก และอาจจะลื่นได้ ธรรมชาติสมบูรณ์มาก แต่วันนี้ฝนตก และ พื้นเปียก และระหว่างเดินไปจุดชมวิว ก็เจอฝนหรือหมอกอันนี้ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ คือแฉะๆ ไปตลอดเส้นทาง เส้นทางเดินจะเป็นวงกลม คือเข้าทางนึง แล้วจะวนเป็นวงกลม มาออกอีกด้านนึง แล้วแต่ว่าตอนเราเดินลง จะลงฝั่งซ้าย หรือ ขวาก่อน แล้วแต่ความถนัดเลยค่ะ บรรยายด้วยรูปละกัน
ในที่สุดเราก็มาถึง จุดชมวิว “ผาเดียวดาย” จะมีพื้นที่ไม่ใหญ่นักให้ออกไปถ่ายรูป ริมผา ค่อนข้างอันตรายนะคะ ไม่ควรออกไปเกินเส้นที่ทางอุทยานกำหนด แต่รอบนี้เจ้าของกระทู้ไม่ได้ลงไปจุดถ่ายรูปริมผา เพราะกลัวจะอันตรายกลัวลื่นค่ะ ถ้ามาฤดูแล้งๆ จะมีริมผาให้ออกไปยืนถ่ายรูปได้และวิวสวยมาก (รูปตัวอย่าง เป็นบรรยากาศในช่วงฤดูอื่น ที่เจ้าของกระทู้เคยมาก่อนหน้านี้ค่ะ)
เมื่อมาถึงจุดนี้และเดินต่อไป คือเริ่มวนกลับแล้ว ระหว่างทางก็ยังคงเป็นเส้นทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เรื่อยๆ พื้นที่บริเวณนี้เราไม่เคยเจอทากเลย มาทุกฤดู แต่...ความโดดเด่นของเส้นทางผาเดียวดายในฤดูฝนที่ทำให้เรามานั้นเพราะสิ่งนี้นั้นเอง ธารน้ำธรรมชาติ ที่จะมีตอนฤดูฝน (ที่ฝนตกติดต่อกันเท่านั้น) ถ้ามาฤดูอื่นจะไม่มีน้ำไหลเลย และไม่รู้ด้วยว่ามันคือธารน้ำธรรมชาติที่น้ำเย็น และสวยสดงดงามเพียงนี้
เตรียมรองเท้าลุยน้ำ ถ้าอยากได้รูปแบบนี้ ควรมีชุดไว้ในรถด้วยเผื่อต้องเปลี่ยนนะคะ นางแบบของเราคือเปียก และเตรียมชุดมา จึงไปเปลี่ยนในรถได้ค่ะ ได้รูปสวยและได้ถ่ายหลายชุดในวันเดียว คุ้มจริงๆ
หลังจากเปียกกันแล้ว ได้รูปที่คิดว่าสวยกันแล้ว ก็เดินกลับ เส้นทางแบบเดิม พื้นเปียกเช่นเดิม
วันนี้เราไม่ได้ขึ้นไปผาตรอมใจ ส่วนใหญ่ไปเข้าห้องน้ำและถ่ายวิวนิดหน่อย เราเลยหันหัวกลับลงเลย เพราะขามาเราเจอวิวนึง และตั้งใจจะจอดถ่าย เขื่อนกันดินที่ มาเมื่อครั้งก่อนยังไม่เสร็จและตอนนี้ทำเสร็จแล้ว และ...มันเป็นวิวที่คุ้มค่ากับการจอดและลงไปถ่ายรูปมากๆ แท่นแท้นนนน
ยกกล้องสูงๆ มีเลนส์วายก็จะได้วิวเยอะหน่อยค่ะ ระวังหัวทิ่มกันด้วยระหว่างถ่าย เพราะสูงและเอียงมากอยู่
เลยตรงนี้ไปริมทางจะมีน้ำตกธรรมชาติ ที่ตกลงมาริมถนนเลย มีเฉพาะหน้าฝนเช่นกัน และ ฝนต้องตกติดต่อกันจึงจะได้เห็น ถ้าฤดูฝนไหนฝนไม่มาก ก็จะเห็นเป็นสายน้ำเล็กๆ เท่านั้น
ริมถนนแบบนี้นั้นเอง เจ้าของกระทู้ลืมถ่ายรูปแบบไม่ติดตัวเองมา ขอภัยด้วยจ้า
[CR] ไปเช้าเย็นกลับ 1 วัน กับ 3 ฤดู ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้