โครงการลึกลับต่างๆที่เหนือธรรมชาติ



project rain bow (การทดลองฟิลาเดเฟีย)

โครงการลับ “เรือรบล่องหน” ของกองทัพเรือสหรัฐฯ กับการสร้างตามทฤษฎีของไอน์สไตน์
โครงการนี้ถือเป็นโครงการลับขั้นสุดยอด มีนายทหารระดับสูง และผู้เข้ารับการทดลองเพียงไม่กี่รายเท่านั้น ที่ทราบรายละเอียดของโครงการสุดลึกลับนี้

โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นจากทฤษฎี Unified Field ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้คิดค้นขึ้น ซึ่งมันว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่าง ไฟฟ้ากับสภาวะแม่เหล็ก ที่เมื่อทุกอย่างสัมพันธ์กันก็จะสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุให้หายไปจากการตรวจจับของเรดาร์ หรือช่วยให้แสงเกิดการหักเหของแสงจนทำให้มองไม่เห็นวัตถุดังกล่าว  กองทัพสหรัฐจึงได้พัฒนาเครื่องมือที่มีชื่อว่า Time Zero Generator พร้อมทั้งวางแผนทดสอบเครื่องมือนี้ในเดือนตุลาคม ปี 1943 ร่วมกับเรือรบ USS Eldridge

เริ่มต้นการทดลองครั้งที่ 1

ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่คาดหวัง เรือรบ USS Eldridge หายไปจากหน้าจอเรดาร์ และเรือทั้งลำก็ได้หายไปจากการมองเห็นของทุกคนจริงๆ โดยผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่รายงานตรงกันว่า “เรือทั้งลำได้หายไปจากจุดที่เรือแล่นอยู่ แต่ยังสามารถสังเกตเห็นแนวเดินเรือ ซึ่งเกิดจากคลื่นทะเลปะทะเข้าหาเรืออยู่”

ยิ่งไปกว่านั้นช่วงเวลาที่เรือหายไปยังได้เกิดหมอกควันปกคลุมทั่วบริเวณที่เรือแล่นผ่านอีกด้วย โดยเรือได้หายไปเป็นเวลา 20 นาทีก่อนที่มันจะกลับมาปรากฏให้เห็นอีกครั้ง  แม้จะเป็นการทดลองที่น่าประทับใจ และอาจเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องในโครงการนี้ถึงกับอึ้ง คือพฤติกรรมของลูกเรือขณะเสร็จสิ้นการทดลอง…

ลูกเรือทั้งหมดมีอาการคลุ้มคลั่งคล้ายกับคนเสียสติ ลูกเรือบางคนเอาแต่หัวเราะ หลายคนพูดจาไม่รู้เรื่อง บางคนอ้างว่าเรือแล่นไปยังท่าเรือแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ทดลองถึง 965 กิโลเมตร และมันก็น่าเหลือเชื่อที่มีคนสังเกตเห็นเรือ USS Eldridge ในท่าเรือที่ลูกเรือกล่าวอ้างในวันและเวลาเดียวกันจริงๆ เสียด้วย  แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างเหนือธรรมชาติ หัวหน้าโครงการทดลองจึงได้สั่งเปลี่ยนลูกเรือทั้งหมด พร้อมทั้งทำการทดสอบโครงการในครั้งต่อไปโดยทันที

การทดลองครั้งที่ 2

การทดสอบในครั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ได้เข้ามาปรับปรุงการทำงานของเครื่อง Time Zero Generator เล็กน้อย เพื่อช่วยให้เครื่องมือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทุกอย่างในวันนั้นเป็นไปตามแผน เรือหายไปจากท้องทะเล และจากหน้าจอเรดาร์ หลังจากเริ่มการทดลองได้เพียง 1 นาที

ทว่าเมื่อหยุดการทำงานของเครื่อง Time Zero Generator เรือกลับไม่ปรากฏขึ้น มีเพียงหมอกควันที่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณนั้น สถานการณ์เริ่มตึงเครียด ชายฝั่งพยายามวิทยุติดต่อไปยังเรือ USS Eldridge แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
เวลาเริ่มเดินผ่านไปเรื่อยๆ จาก 30 นาที กลายเป็น 2 ชั่วโมง จนกระทั่งผ่านไป 4 ชั่วโมงในที่สุดเรือ USS Eldridge ก็ปรากฏให้เห็นอีกครั้ง ในการทดลองรอบนี้ลูกเรือหลายคนมีสภาพที่แตกต่างจากการทดลองในครั้งแรกอย่างเห็นได้ชัด

ร่างกายของลูกเรือหลายคนยึดติดกับพื้นและผนังของเรือ บางรายมือทะลุเข้าไปที่พื้นและผนังอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ทีมช่วยเหลือต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างเพื่อนำแขนที่ติดอยู่ภายในออกมา  เท่านั้นไม่พอลูกเรือบางรายยังเสียชีวิตจากการถูกไฟคลอก ทั้งที่บนเรือไม่มีไฟไหม้เลยแม้แต่นิดเดียว และอีกหลายรายก็เป็นเสียสติเตลิดเปิดเปิงไปเลย ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูกเรือทำให้กองทัพสหรัฐระงับโครงการทดลอง พร้อมทั้งยกเลิกโครงการในทันที

หลายคนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิด ที่สหรัฐจัดฉากสร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น ซึ่งฝ่ายที่เชื่อในเรื่องนี้ก็ยังคงเชื่ออย่างสนิทใจว่าทั้งหมดเป็นความจริง และสหรัฐอาจซุ่มพัฒนาโครงการนี้เพื่อใช้ประโยชน์ทางการทหารในอนาคตก็เป็นได้
Cr.https://xn--12c3c0aj2bxi.com/1445/

operation majestic 12 (โครงการ รอสเวลล์)

Majestic 12 นับเป็นหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งคงไว้ซึ่งความลับดำมืด เป็นเงาเร้นหลังวงการเมือง และรัฐบาลสหรัฐมาช่วงหนึ่ง ที่แม้แต่ทุกวันนี้ หลาย ๆ ฝ่ายก็ยังไม่กระจ่างกับข่าวนี้เสียที

ช่วงทศวรรษที่ 60 ปรากฎการณ์สะท้านเมืองอย่าง UFOs เล่นเอาชาวบ้านอยู่ไม่เป็นสุข ความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวกระพือโหมไปร้อนถึงรัฐบาลสหรัฐต้องหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาพิจารณา ประมาณว่า หากมนุษย์ต่างดาวมีจริงพวกเขาต้องลงมาเยือนโลก โดยพยานหลักฐานที่มีอยู่มากเป็นไปได้ว่า โลกของเราได้รับการมาเยือนจากนักท่องอวกาศมานานแล้ว

รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิดี เฮนรี่ ทรูแมน จึงได้จัดตั้งหน่วยงานลับหน่วยงานหนึ่งขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 1947 ชื่ออย่างเป็นทางการว่า "Majestic 12" อันเป็นคำที่ย่อมาจาก Majority Agency for Joint Intellgence Control หน้าที่หลักคือ การนำเสนอข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับวัตถุบินลึกลับที่ได้จากกองทัพ หน่วยสืบราการลับ และหน่วยงานอื่นของรัฐมาเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงเพื่อนำเสนอให้ประธานาธิบดีสหรัฐทราบเป็นระยะ ๆ

แต่โครงข่ายหลักของ M๋J คือ Majority Operation ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่มีหน้าที่รับผิดชอบทุกเรื่องที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว คณะกรรมการที่อยู่ในหน่วยจะถูกแทนด้วย Codename เช่น MJ1 , MJ2 เรื่อยไปจนถึง MJ12 โดยมีหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐคอยเป็นตัวประสาน เช่นหน่วยป้องกันราชอาณาจักร , CIA (ซึ่งมีเอี่ยวทุกงาน) ตลอดไปจนถึง FBI เป็นต้น

เหตุการณ์ ‘จานบินตกที่รอสเวลล์’  (https://www.spokedark.tv/posts/roswell-ufo-incident/)

Majestic 12  มีข่าวลือว่าติดต่อกับเอเลี่ยนกลุ่มหนึ่งโดยมีข้อตกลงว่าจะแลกเปลี่ยนความรู้ทางเทคโนโลยี กับการที่สหรัฐจะให้พื้นที่สร้างฐานทัพแก่มนุษย์ ต่างดาว พร้อมมอบตัวอย่างพลเมืองให้ทดลองเป็น ๆ จำนวนหนึ่งเพื่อศึกษา

MJ ยังมีโครงข่ายงานย่อยอีกมากมาย  อาทิเช่น  Sigma     ทำหน้าที่ด้านทำการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว
Plato           สร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับมนุษย์ต่างดาว
Garnet        เป็นศูนย์ควบคุมข่าวสารเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว
Pounce       คอยกู้ยานอวกาศที่ตกหรือลงจอด และมีหน้าที่สร้างข่าวลวง อำพรางหลักฐาน หากเรื่องราวเผยแพร่สู่สาธารณชนขึ้นมา เป็นหน่วยงานที่ยัง                      ดำเนินการมาอยู่จนถึงปัจจุบัน
Aquarius     ศึกษาเปรียบเทียบประวัติศาสตร์โลกและเผ่าพันธ์มนุษย์ ว่าเกี่ยวกับการปรากฎตัวของมนุษย์ต่างดาวอย่างไรบ้าง
Pluto            เอาข้อมูลที่ได้จากยานบินลึกลับมาใช้กับโครงการทางอวกาศ
NRO หรือ National Recon Organization มีสำนักงานที่รัฐโคโลราโด       รับผิดชอบทางด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดจากมนุษย์ต่างดาว
Delta            เป็นกองกำลังให้กับ NRO มีรหัสเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "MIB = Men In Black"
Blue Team   โครงการศูนย์บัญชาการยุทโธปกรณ์การบิน รับผิดชอบเหตุการณ์ยานอวกาศตกหรือร่อนลงจอด - Sign ทำหน้าที่รวบรวม และวิเคราะห์                             ข้อมูล เพื่อดูว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมาหรือว่ามาร้าย
Red Light      ทำการทดสอบยานอวกาศที่ยึดมาได้ จากมนุษย์ต่างดาว โครงการนี้ทดลองกันใน Area 51 
Snow Bird     หน่วยหน้าฉากของ เรด ไลท์ คอยทำให้ประชาชนเข้าใจว่า สิ่งที่พวกเขาเห็นคือ อาวุธลับ ๆ ของรัฐบาลที่แอบทดลองกันอยู่ ซึ่งเป็นหน่วย                         งานที่ประสบผลสำเร็จพอสมควร
Blue Book     โครงการดังกระฉ่อนโลกที่ทุกคนรู้จักกันดี โครงการนี้เริ่มเมื่อปี 1947 และพับลงเมื่อ 1969 เป็นโครงการที่รวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับยานบิน                          ลึกลับและมนุษย์ต่างดาว
Cr.https://www.facebook.com/alienonline2557/posts/561022380670461/

project blue book (โครงการสมุดปกน้ำเงิน)

รายงานการพบเห็นวัตถุบินลึกลับมีมานานนับร้อยปี แต่รัฐบาลสหรัฐเพิ่งมาเริ่มให้ความสนใจอย่างจริงๆจังๆในช่วงทศวรรษที่ 1950 เมื่อความถี่ในการพบเห็นมีจำนวนบ่อยครั้ง ประกอบกับเป็นช่วงเวลาศึกสงครามทำให้เกรงว่าวัตถุบินลึกลับเหล่านั้นอาจเป็น อาวุธลับของฝ่ายศัตรู กระทรวงกลาโหมจึงสถาปนาหน่วยงานพิเศษขึ้นมาในปี 1952 เพื่อสืบสวนหาความจริงภายใต้โครงการลับที่มีรหัสว่า“โครงการสมุดปกน้ำเงิน” (Project Blue Book)

จุดประสงค์หลักของโครงการนี้คือการใช้เหตุผลและหาหลักฐานมาประกอบคำ อธิบายโต้แย้งความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาว เพื่อคลายความตื่นตระหนกของประชาชน รายงานการพบเห็นยูโฟจำนวนหลายพันครั้งทั้งในสหรัฐและต่างประเทศถูกทำการสืบ สวนหาข้อสรุป ซึ่งเรื่องราวส่วนใหญ่จะจบลงที่ “คิดกันไปเอง”  อย่าง ไรก็ตาม มีเรื่องราวส่วนหนึ่งที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญของกองทัพอากาศสหรัฐก็ไม่สามารถ หาคำอธิบายที่ดีและมีเหตุผลให้กับเรื่องราวเหล่านั้นได้ และมันก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงกระทั่งทุกวันนี้ (อ่านลายละเอียดเพื่มเติมที่เครดิต)
Cr.https://board.postjung.com/1022721

โครงการนำน้องหมามาทดลองแปลงเป็นหุ่น


เป็นโครงการลับ ของ สหภาพโซเวียต


Cr.https://www.unigang.com/Article/8075

โครงการ ISIS

ย้อนกลับไปในปี 1961 ทางกองทัพรัสเซียและหน่วยสืบราชการลับ KGB ได้เริ่มโครงการที่มีชื่อว่า ISIS (ไม่เกี่ยวกับผู้ก่อการร้าย) ซึ่งเป็นโครงการที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรวบรวมเอกสารข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว และเทคโนโลยีจากต่างดาว โดยหนึ่งในหลักฐานการค้นพบชิ้นสำคัญ ก็คือซากมัมมี่ของมนุษย์ต่างดาว ที่มีอายุกว่า 13,000 ปี

ประกอบไปด้วย ผู้เชี่ยวชาญในวิชาโบราณวัตถุของอียิปต์หลายคนจากสถาบันวิทยาศาสตร์โซเวียต รวมไปถึงนักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญทางการทหาร โดยนำทีมโดย ซามี ชาราฟ ผู้ใกล้ชิดกับ อับเดล นาซเซอร์ ประธานาธิบดีอียิปต์ในสมัยนั้น

มีสารคดีหนึ่งที่แสดงให้เห็นเป็นช่วงที่ทางกองทัพของรัสเซียค้นพบมัมมี่ตนนี้ที่ประเทศอียิปต์ โดยในระหว่างที่เปิดโลงศพ พวกเขาต้องพบกับก๊าซพิษที่ลอยฟุ้งขึ้นจนต้องล่าถอยออกมา และได้กลับเข้าไปใหม่อีกครั้งพร้อมกับชุดป้องกันและหน้ากากกันก๊าซพิษ  ตามรายงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสของ KGB ระบุว่า ซากมัมมี่ที่ถูกพบนี้มีความสูงถึง 2 เมตร โดยมีอายุประมาณ 13,000 ปี และมีตัวอักษรอียิปต์โบราณที่แปลได้ว่า “เทพปีก” นอกจากนั้นยังมีกล่อง 15 กล่องที่บรรจุสิ่งประดิษฐ์แปลกๆ เอาไว้ข้างใน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัสเซียได้มีความพยายามที่จะกู้คืนให้มันกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

สำหรับการค้นพบครั้งนี้นักวิจัยหลายคนเชื่อว่า อาจมีการเชื่อมโยงกันระหว่าง มนุษย์ต่างดาว กับเทพเจ้าของชาวอียิปต์โบราณอย่าง เทพโอซิริส ที่มีการบันทึกว่าลงมาจากท้องฟ้า ซึ่งจริงๆ แล้ว เทพของชาวอียิปต์โบราณ อาจเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มากับ UFO ก็เป็นได้
Cr.https://petmaya.com/project-isis-russia
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ข้อมูลอีกด้านที่น่าสนใจครับ


Cr. มิติที่6
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่