สวัสดีครับชาวพันทิปทุกท่าน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในรอบหลายปี ผิดพลาดยังไงขออภัยครับ
เรียนจบออกมาแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไรกันแน่ ผมเห็นกระทู้แนวนี้บ่อยมากครับ ซึ่งของผมมันออกจะตรงกันข้ามหน่ะสิ..?
ลองเสิร์ชใน google ก็ไม่เจอคำแนะนำสำหรับคนสนใจหลายอย่างเท่าไหร่ แต่ก็พอมีคำอธิบายเช่นเว็บไซต์
https://thematter.co/brief/multipotentialite/29915 และคิดว่าจะลองหาหนังสือตามที่เว็บไซต์แนะนำมาอ่าน
ผมหากระทู้ต่างๆ pantip ส่วนมากจะเป็น หาตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ว่าชอบอะไร มีใกล้เคียงคือชอบหลายอย่าง แต่ไม่เก่งซักอย่าง
อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมไม่ใช่คนที่เก่งทุกอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ไม่เก่งซักอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะประเมิณมันออกมายังไง
เกริ่นก่อนครับ ผมอายุ 23 ปี เพิ่งออกจากงานเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตัดสินใจอยู่นานมากครับกว่าจะออก เพราะไม่ได้มีปัญหากับคน ไม่มีปัญหากับเนื้องาน(จริงๆชอบเนื้องานมาก) และรู้สึกกำลังจะไปได้ดีเพราะกำลังสนิทกับพี่ๆ engineer ด้วยกัน (ลืมบอก ผมเป็นเด็กจบไหม่ทำงานด้าน security engineer ครับ) ซึ่งตอนนั้นด้วยความที่เครียดกับการทำงาน รวมกับแม่ผมอยากให้ไปเรียนต่อหรือทำงานเนเธอร์แลนด์ซึ่งแม่จะสนับสนุนครับ ถ้าอยากรู้เบื้องลึกหลังไมค์มาแล้วกันครับ เพราะตรงนี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก
ย้อนกลับไปถึงสมัยเรียน เหมือนกับคนอื่นๆ ผมชอบเล่นกีฬา เล่นดนตรี ดูหนัง ฟังเพลง และก็มีความสนใจอื่นๆเหมือนกับคนทั่วไปครับ
แล้วความชอบนั้นมักจะทำให้ผมจริงจังกับสิ่งนั้นๆมากเป็นพิเศษครับ หมายถึงจริงจังแบบอดหลับอดนอนเลยจริงๆ เดี๋ยวจะเขียนอธิบายไว้ข้างล่างครับ
*** ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงไม่ให้เหมือนการยกยอตัวเอง ซึ่งคิดว่าทำไม่ได้แน่ๆ ถ้าไม่ถูกใจใครขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ***
ส่วนใครอยากรู้เพิ่มเติม อ่านต่อได้เลย
- ผมเลือกเข้าคณะ Com-Sci เพราะชอบ ชอบคือชอบจริงๆ ไม่ใช่คนชอบดูหนัง ชอบเล่นเกม ชอบเข้าเน็ตแล้วบอกว่าอยากเรียนคอม แต่ชอบเพราะหลงไหลใน algorithm, การเขียนโปรแกรม และเทคโนโลยีครับ คือสมัยเรียนเห็นเว็บไซต์แล้วอยากเขียนได้บ้าง เลยซื้อหนังสือ java มาอ่าน มาลองเขียนรวมกับได้มีโอกาสแข่งเขียนโปรแกรม เลยได้ศึกษาอะไรหลายๆอย่างแล้วเกิดชอบ ด้วยความที่เรียนสาย ภาษาไทย-สังคม พื้นฐานคณิตจึงแย่มาก คำนวณก็แทบไม่มีในหัวเลย จึงพยายามเป็นพิเศษอดหลับอดนอนแล้วคว้าที่ 2 มาได้ เลยเกิดเป็น passion ที่ว่าไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ขนาดไทย-สังคมยังไปแข่งกับวิทย์-คณิต จากหลากหลายโรงเรียนได้เลย ผมคิดอย่างนี้จริงๆ หลังจากนั้นก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เข้า Com-Sci ในมหาลัยไหนก็ได้ครับ
- ผมเป็นคนชอบรูปวาด และชอบวาดรูป เมื่อก่อนจะเป็นรูปสเก็ตซ์ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นรูปอนิเมะ รูปการ์ตูน และก็ยังฝึกและทำความเข้าใจอยู่เรื่อยๆ ทั้ง Perspective, โครงสร้างมนุษย์ชาย/หญิง, การลงสี ความรู้สึกสี ลายเส้น จริงจังถึงขนาดซื้อเมาส์ปากกา และ software clip studio paint เพื่อเข้าถึง asset ต่างๆครับ รวมถึงอยากลองออกแบบโลโก้ และรับงานออกแบบและทำสติ๊กเกอร์ ซึ่งไม่เคยรับจริงๆ (เผื่อมีคนสนใจผมวาดให้ฟรีได้นะครับ แลกกับคอมเม้นหรือแนะนำได้เลย อยากเก็บเป็นพอร์ตด้วยเผื่ออนาคตจะมีคนจ้าง แหะๆ สนใจหลังไมค์นะครับขอ 3 คนพอ สติ๊กเกอร์, ปกนิยาย, logo )
- ผมศึกษา Foreign Exchange ตั้งแต่พื้นฐาน โดยไม่ลงเงินจริงเลย 1 ปีครึ่ง ผมใช้เวลา 1 ปีเต็มในการทะยอยอ่านพื้นฐานที่ควรรู้ เช่น ความหมายของ Forex, กราฟแท่งเทียน, การบริหารความเสี่ยง, แนวรับ/แนวต้าน, คำศัพท์พื้นฐาน จนไปถึง Correlation, การเพิ่มลด-อัตราดอกเบี้ย, ข่าวหลักๆที่มีผล การประกาศมาตรการต่างๆ และใช้เวลาอีกประมาณ 8 เดือน ในการเล่น Demo แม้กระทั่งตอนนี้ ก็ยังคงศึกษาและพยายามปั้นโมเดลการเทรดของตัวเองให้สำเร็จครับ ซึ่งเห็นผลว่าดีขึ้นเรื่อยๆ ทีละนิด
- ชอบถ่ายภาพ พ่วงมากับการอดหลับอดนอนศึกษา photoshop ใช้ในการรีทัชภาพ การใช้โปรแกรม/ทำความเข้าใจเรื่อง สี ในส่วนของกล้องก็เรื่ิององค์ประกอบภาพ, ค่า iso, ค่า f, speed shutter เป็นต้นครับ บอกได้ว่าเป็นมือไหม่ที่พอมีพื้นฐาน แต่ photoshop มั่นใจว่ารีทัชหรือตัดต่อเนียนพอตัวเลย
- รู้ตัวเป็นอย่างดีว่า ตอนเรียนเขียนโปรแกรมพอได้-เก่ง แต่ตอนทำงานคนละเรื่อง ตรงนี้เข้าใจครับ เพราะอีกหลาย libary อีกหลาย function และ framework ที่เราไม่ได้ใช้ในตอนเรียน การเข้าถึง third-party การทำ authen แบบต่างๆรวมถึงประสบการณ์การต่อ API ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ex.ouath face/twitter และยังไม่รวมถึงศาสตร์ชั้นสูงอย่าง machine learning/data mining อะไรเหล่านี้ด้วย "แต่" ผมก็ไม่มองว่ายากเกินความสามารถอยู่ดี เชื่อว่าทุกคนศึกษาได้และมีแค่คำว่ารู้ กับ ยังไม่รู้ เท่านั้นเอง พอพูดถึงว่าเป็นสิ่งที่ผมสนใจสมัยเรียนเลยเลือกเรียนวิชาเขียนโปรแกรมซะเยอะครับ เช่น android dev, mean stack, AI, C-Embedded เป็นต้นครับ ซึ่งยอมรับว่าพอเปลี่ยนไปทำงาน security engineer แล้วตามเทคโนโลยีไม่ทันเพราะไม่ได้ยุ่งเลย ตอนมีเวลาคือจริงจังจริงๆ เล่นพวก node.js, mongo-db, php, sql/no-sql, javascript, html, css ส่วน java, C, C++ นี่มีในบทเรียนมหาลัยครบครันอยู่แล้ว
- ผมชอบดูหนังมาก โดยเฉพาะหนัง Horror ยิ่งชอบเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่ชอบเสพ แต่อยากทำมันขึ้นมา ผมสนใจใน horror short film มาก และก็พบว่าหนัง horror ส่วนมากจะได้แรงบรรดาลใจจาก short film อีกทีนึง ซึ่งตัวผมเองคัดไอเดียร์ อยู่ 3-4 เรื่องที่น่าสนใจและไม่ซ้ำของเดิมมาเขียน story board แต่ไม่มีแนวร่วมเลย T_T ส่วนนี้ผมได้ศึกษา After Effect (Ae) เพื่อใช้ในการตัดต่อพื้นฐานครับ การขึ้น intro ปรับรูปทรง ตัดต่อใส่นั่นนี่ การใส่เสียง ซึ่งก็ทะยอยศึกษามา 2 เดือนแล้วครับ แต่คิดว่ายังไม่พอ ถ้าอยากให้ออกมาดี อาจจะต้องศึกษา Vfx ด้วย แต่ไม่ไหวจริงๆเพราะหาเนื้อหาเรียนออนไลน์ยาก
- เลือกทำงาน security engineer เพราะต้องการ "เปิดโลก IT" ผมมีความสนใจพวกด้าน Hacking อยู่ เคยเล่น Metasploit framework ใช้ kali linux พวก tool เคยเล่น Burp suit, wireshark ส่วน command ก็ linux ทั่วๆไป nmap, sqlmap, msfvenom, nikto, autometer etc. ส่วน basic linux อย่าง ssh, ps, ls, cd, cat, vim etc. อันนี้ก็พอมีพื้นฐานบ้างครับ ด้วยความที่ security engineer เรามันเป็นสายงานที่จะทำให้ผมได้เข้าใกล้ basic linux, basic network, basic security บางอย่างตอนเรียนไม่รู้เรื่องพอมาสัมผัสของจริงแล้วเข้าใจเช่น layer2, layer3 การทำงานจริงๆของ protocal บางตัว การ encap/decap เวลาส่งข้อมูล เข้าใจตอนส่ง package, arp, board cash การแบ่ง domain หรือเรื่อง subnet เป็นต้น ****บริษัทก็ใจดีให้เล่น lab ที่ชื่อว่า immersive ด้วยครับ อันนี้คือถูกใจสุดๆ เพราะได้เรียนรู้ทั้ง active/passive hacking เลยและยังอัดพื้นฐาน security ให้ด้วย (Owasp, ศัพท์ต่างๆ phishing, spoofing, cyber crime, malicouis etc.) **** ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากๆครับ
เห็นได้ว่าความชอบผมเยอะพอสมควร และไม่ได้ทำอย่างงูๆปลาๆด้วยพยายามให้ครบในพื้นฐานของด้านนั้นๆ เคยพยายามทำ time management แต่ก็ยังรู้สึกว่าวันนึง 24 ชั่วโมงมันไม่พอจริงๆครับ แล้วตอนนี้ก็จะเริ่มศึกษาภาษาญี่ปุ่นอยู่ด้วยเอาไว้อ่านมังงะ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาครับ คงเป็นอีกสาเหตุนึงที่ผมตัดสินใจออกจากกงั้น(มั้ง)
สิ่งที่อยากทำ - วาดรูป ฝึกวาดมังงะซักเรื่อง อยากรับงาน วาดสติ๊กเกอร์ขาย ปกนิยาย และรับออกแบบ logo
- horror film จะฝึก Ae อีกหน่อยแล้วเขียน story board แต่ไม่รุ้จะถ่ายที่ไหน หรือหาแนวร่วมไหนมาแสดง ถ้าเป็นไปได้จะสมัคร youtube partner หรือขายไอเดียหนังครับ
- เขียนเกม เป็นแบบ novel ใช้โปรแกรม ren'py เขียนครับ ผมพอมีพื้นฐาน python และวาดรูปได้ โหลดโปรแกรมแล้ว ศึกษาพื้นฐานแล้ว อยากลองแต่งนิยายซักเรื่องดู
- ธุรกิจครอบครัว คืออยากใช้ความสามารถทั้งหมด เขียนเว็บ, วาดรูป, ออกแบบ, ถ่ายรูป, ตัดต่อวีดีโอ ออกมาเป็นผลงานครับ แล้วก็เริ่มแล้ว อันนี้ป๋าผมมีสินค้าคืออาหารทะเลตากแห้ง ผมก็เลยเริ่ม design logo ก่อน แล้วก็เปิดเพจ อ่านข้อตกลงเฟสบุค แล้วค่อยๆขยับไปโปรโมทสินค้า ถ่ายภาพ ทำวีดีโอ อาจจะทำ character การ์ตูน 3 ช่องไว้เล่นมุกดึงกลุ่มลูกค้า จนถึงทำเว็บไซต์ครับ
- ภาษาญี่ปุ่น อยากศึกษาไว้อ่านมังงะก็จริง แต่ก็อยากให้เกิดรายได้ด้วย อย่างรับงานแปลการ์ตูน/มังงะ หรืออะไรทำนองนี้ครับ
- ศึกษา Forex ต่อไป เพื่อปั้น model -> final result คืออยากเขียน EA ครับ
ผมเดินออกจากงานมา และกำลังเริ่มทำธุรกิจครอบครัว ก่อนจะไปทำงานต่างประเทศ(ส่งใบสมัคร รอผล) จากมีเงินเดือน ตอนนี้ก็เคว้งๆครับ รู้สึกเป็นภาระครอบครัว แต่ที่น่าตกใจกว่าคือทุกคนเข้าใจ ผิดคาดมากๆ มีแต่คนคอยเชียร์และยอมรับเราไม่ว่าจะเลือกทางไหน เคารพการตัดสินใจทุกก้าว(แอบน้ำตาซึม) ตอนที่ออกจากงานมาแล้วตัดสินใจจะเสี่ยงหางานต่างประเทศ ไม่กล้าบอกคนในบ้านเลย เครียดมาก แต่อีกใจก็ดีใจที่จะมีเวลาได้ทำอะไรที่อยากทำซักที มันดูย้อนแย้งไหมครับ ทั้งดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน
คำถาม
1.มีใครเคยทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันแบบนี้ไหมครับ มันพอจะเป็นไปได้ไหม หรือมันจะจบได้แค่งานอดิเรก?
2.ถ้าพี่ๆทำงานหลัก แล้วมีสิ่งที่อยากทำเยอะแบบผมจะทำยังไง จะบริหารเวลา, ตัดบางอันออก, ทำทีละอัน ?
3.งานอดิเรก เป็นงานหลักได้ไหมครับ?
4.ในส่วนของงาน ผิดไหมที่ออกมาให้เวลากับตัวเอง หรือจริงๆเรามีทางเลือกอื่นเสมอ?
ส่วนใครอยากแนะนำหรือคอมเม้นอะไร ผมยินดีรับฟังหมดเลยครับ ขอบคุณครับ
สับสนทางเดินที่เลือกครับ อยากได้คำแนะนำ
เรียนจบออกมาแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไรกันแน่ ผมเห็นกระทู้แนวนี้บ่อยมากครับ ซึ่งของผมมันออกจะตรงกันข้ามหน่ะสิ..?
ลองเสิร์ชใน google ก็ไม่เจอคำแนะนำสำหรับคนสนใจหลายอย่างเท่าไหร่ แต่ก็พอมีคำอธิบายเช่นเว็บไซต์ https://thematter.co/brief/multipotentialite/29915 และคิดว่าจะลองหาหนังสือตามที่เว็บไซต์แนะนำมาอ่าน
ผมหากระทู้ต่างๆ pantip ส่วนมากจะเป็น หาตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ว่าชอบอะไร มีใกล้เคียงคือชอบหลายอย่าง แต่ไม่เก่งซักอย่าง
อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมไม่ใช่คนที่เก่งทุกอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ไม่เก่งซักอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะประเมิณมันออกมายังไง
เกริ่นก่อนครับ ผมอายุ 23 ปี เพิ่งออกจากงานเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตัดสินใจอยู่นานมากครับกว่าจะออก เพราะไม่ได้มีปัญหากับคน ไม่มีปัญหากับเนื้องาน(จริงๆชอบเนื้องานมาก) และรู้สึกกำลังจะไปได้ดีเพราะกำลังสนิทกับพี่ๆ engineer ด้วยกัน (ลืมบอก ผมเป็นเด็กจบไหม่ทำงานด้าน security engineer ครับ) ซึ่งตอนนั้นด้วยความที่เครียดกับการทำงาน รวมกับแม่ผมอยากให้ไปเรียนต่อหรือทำงานเนเธอร์แลนด์ซึ่งแม่จะสนับสนุนครับ ถ้าอยากรู้เบื้องลึกหลังไมค์มาแล้วกันครับ เพราะตรงนี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก
ย้อนกลับไปถึงสมัยเรียน เหมือนกับคนอื่นๆ ผมชอบเล่นกีฬา เล่นดนตรี ดูหนัง ฟังเพลง และก็มีความสนใจอื่นๆเหมือนกับคนทั่วไปครับ
แล้วความชอบนั้นมักจะทำให้ผมจริงจังกับสิ่งนั้นๆมากเป็นพิเศษครับ หมายถึงจริงจังแบบอดหลับอดนอนเลยจริงๆ เดี๋ยวจะเขียนอธิบายไว้ข้างล่างครับ
*** ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงไม่ให้เหมือนการยกยอตัวเอง ซึ่งคิดว่าทำไม่ได้แน่ๆ ถ้าไม่ถูกใจใครขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ***
ส่วนใครอยากรู้เพิ่มเติม อ่านต่อได้เลย
- ผมเลือกเข้าคณะ Com-Sci เพราะชอบ ชอบคือชอบจริงๆ ไม่ใช่คนชอบดูหนัง ชอบเล่นเกม ชอบเข้าเน็ตแล้วบอกว่าอยากเรียนคอม แต่ชอบเพราะหลงไหลใน algorithm, การเขียนโปรแกรม และเทคโนโลยีครับ คือสมัยเรียนเห็นเว็บไซต์แล้วอยากเขียนได้บ้าง เลยซื้อหนังสือ java มาอ่าน มาลองเขียนรวมกับได้มีโอกาสแข่งเขียนโปรแกรม เลยได้ศึกษาอะไรหลายๆอย่างแล้วเกิดชอบ ด้วยความที่เรียนสาย ภาษาไทย-สังคม พื้นฐานคณิตจึงแย่มาก คำนวณก็แทบไม่มีในหัวเลย จึงพยายามเป็นพิเศษอดหลับอดนอนแล้วคว้าที่ 2 มาได้ เลยเกิดเป็น passion ที่ว่าไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ขนาดไทย-สังคมยังไปแข่งกับวิทย์-คณิต จากหลากหลายโรงเรียนได้เลย ผมคิดอย่างนี้จริงๆ หลังจากนั้นก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เข้า Com-Sci ในมหาลัยไหนก็ได้ครับ
- ผมเป็นคนชอบรูปวาด และชอบวาดรูป เมื่อก่อนจะเป็นรูปสเก็ตซ์ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นรูปอนิเมะ รูปการ์ตูน และก็ยังฝึกและทำความเข้าใจอยู่เรื่อยๆ ทั้ง Perspective, โครงสร้างมนุษย์ชาย/หญิง, การลงสี ความรู้สึกสี ลายเส้น จริงจังถึงขนาดซื้อเมาส์ปากกา และ software clip studio paint เพื่อเข้าถึง asset ต่างๆครับ รวมถึงอยากลองออกแบบโลโก้ และรับงานออกแบบและทำสติ๊กเกอร์ ซึ่งไม่เคยรับจริงๆ (เผื่อมีคนสนใจผมวาดให้ฟรีได้นะครับ แลกกับคอมเม้นหรือแนะนำได้เลย อยากเก็บเป็นพอร์ตด้วยเผื่ออนาคตจะมีคนจ้าง แหะๆ สนใจหลังไมค์นะครับขอ 3 คนพอ สติ๊กเกอร์, ปกนิยาย, logo )
- ผมศึกษา Foreign Exchange ตั้งแต่พื้นฐาน โดยไม่ลงเงินจริงเลย 1 ปีครึ่ง ผมใช้เวลา 1 ปีเต็มในการทะยอยอ่านพื้นฐานที่ควรรู้ เช่น ความหมายของ Forex, กราฟแท่งเทียน, การบริหารความเสี่ยง, แนวรับ/แนวต้าน, คำศัพท์พื้นฐาน จนไปถึง Correlation, การเพิ่มลด-อัตราดอกเบี้ย, ข่าวหลักๆที่มีผล การประกาศมาตรการต่างๆ และใช้เวลาอีกประมาณ 8 เดือน ในการเล่น Demo แม้กระทั่งตอนนี้ ก็ยังคงศึกษาและพยายามปั้นโมเดลการเทรดของตัวเองให้สำเร็จครับ ซึ่งเห็นผลว่าดีขึ้นเรื่อยๆ ทีละนิด
- ชอบถ่ายภาพ พ่วงมากับการอดหลับอดนอนศึกษา photoshop ใช้ในการรีทัชภาพ การใช้โปรแกรม/ทำความเข้าใจเรื่อง สี ในส่วนของกล้องก็เรื่ิององค์ประกอบภาพ, ค่า iso, ค่า f, speed shutter เป็นต้นครับ บอกได้ว่าเป็นมือไหม่ที่พอมีพื้นฐาน แต่ photoshop มั่นใจว่ารีทัชหรือตัดต่อเนียนพอตัวเลย
- รู้ตัวเป็นอย่างดีว่า ตอนเรียนเขียนโปรแกรมพอได้-เก่ง แต่ตอนทำงานคนละเรื่อง ตรงนี้เข้าใจครับ เพราะอีกหลาย libary อีกหลาย function และ framework ที่เราไม่ได้ใช้ในตอนเรียน การเข้าถึง third-party การทำ authen แบบต่างๆรวมถึงประสบการณ์การต่อ API ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ex.ouath face/twitter และยังไม่รวมถึงศาสตร์ชั้นสูงอย่าง machine learning/data mining อะไรเหล่านี้ด้วย "แต่" ผมก็ไม่มองว่ายากเกินความสามารถอยู่ดี เชื่อว่าทุกคนศึกษาได้และมีแค่คำว่ารู้ กับ ยังไม่รู้ เท่านั้นเอง พอพูดถึงว่าเป็นสิ่งที่ผมสนใจสมัยเรียนเลยเลือกเรียนวิชาเขียนโปรแกรมซะเยอะครับ เช่น android dev, mean stack, AI, C-Embedded เป็นต้นครับ ซึ่งยอมรับว่าพอเปลี่ยนไปทำงาน security engineer แล้วตามเทคโนโลยีไม่ทันเพราะไม่ได้ยุ่งเลย ตอนมีเวลาคือจริงจังจริงๆ เล่นพวก node.js, mongo-db, php, sql/no-sql, javascript, html, css ส่วน java, C, C++ นี่มีในบทเรียนมหาลัยครบครันอยู่แล้ว
- ผมชอบดูหนังมาก โดยเฉพาะหนัง Horror ยิ่งชอบเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่ชอบเสพ แต่อยากทำมันขึ้นมา ผมสนใจใน horror short film มาก และก็พบว่าหนัง horror ส่วนมากจะได้แรงบรรดาลใจจาก short film อีกทีนึง ซึ่งตัวผมเองคัดไอเดียร์ อยู่ 3-4 เรื่องที่น่าสนใจและไม่ซ้ำของเดิมมาเขียน story board แต่ไม่มีแนวร่วมเลย T_T ส่วนนี้ผมได้ศึกษา After Effect (Ae) เพื่อใช้ในการตัดต่อพื้นฐานครับ การขึ้น intro ปรับรูปทรง ตัดต่อใส่นั่นนี่ การใส่เสียง ซึ่งก็ทะยอยศึกษามา 2 เดือนแล้วครับ แต่คิดว่ายังไม่พอ ถ้าอยากให้ออกมาดี อาจจะต้องศึกษา Vfx ด้วย แต่ไม่ไหวจริงๆเพราะหาเนื้อหาเรียนออนไลน์ยาก
- เลือกทำงาน security engineer เพราะต้องการ "เปิดโลก IT" ผมมีความสนใจพวกด้าน Hacking อยู่ เคยเล่น Metasploit framework ใช้ kali linux พวก tool เคยเล่น Burp suit, wireshark ส่วน command ก็ linux ทั่วๆไป nmap, sqlmap, msfvenom, nikto, autometer etc. ส่วน basic linux อย่าง ssh, ps, ls, cd, cat, vim etc. อันนี้ก็พอมีพื้นฐานบ้างครับ ด้วยความที่ security engineer เรามันเป็นสายงานที่จะทำให้ผมได้เข้าใกล้ basic linux, basic network, basic security บางอย่างตอนเรียนไม่รู้เรื่องพอมาสัมผัสของจริงแล้วเข้าใจเช่น layer2, layer3 การทำงานจริงๆของ protocal บางตัว การ encap/decap เวลาส่งข้อมูล เข้าใจตอนส่ง package, arp, board cash การแบ่ง domain หรือเรื่อง subnet เป็นต้น ****บริษัทก็ใจดีให้เล่น lab ที่ชื่อว่า immersive ด้วยครับ อันนี้คือถูกใจสุดๆ เพราะได้เรียนรู้ทั้ง active/passive hacking เลยและยังอัดพื้นฐาน security ให้ด้วย (Owasp, ศัพท์ต่างๆ phishing, spoofing, cyber crime, malicouis etc.) **** ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากๆครับ
เห็นได้ว่าความชอบผมเยอะพอสมควร และไม่ได้ทำอย่างงูๆปลาๆด้วยพยายามให้ครบในพื้นฐานของด้านนั้นๆ เคยพยายามทำ time management แต่ก็ยังรู้สึกว่าวันนึง 24 ชั่วโมงมันไม่พอจริงๆครับ แล้วตอนนี้ก็จะเริ่มศึกษาภาษาญี่ปุ่นอยู่ด้วยเอาไว้อ่านมังงะ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาครับ คงเป็นอีกสาเหตุนึงที่ผมตัดสินใจออกจากกงั้น(มั้ง)
สิ่งที่อยากทำ - วาดรูป ฝึกวาดมังงะซักเรื่อง อยากรับงาน วาดสติ๊กเกอร์ขาย ปกนิยาย และรับออกแบบ logo
- horror film จะฝึก Ae อีกหน่อยแล้วเขียน story board แต่ไม่รุ้จะถ่ายที่ไหน หรือหาแนวร่วมไหนมาแสดง ถ้าเป็นไปได้จะสมัคร youtube partner หรือขายไอเดียหนังครับ
- เขียนเกม เป็นแบบ novel ใช้โปรแกรม ren'py เขียนครับ ผมพอมีพื้นฐาน python และวาดรูปได้ โหลดโปรแกรมแล้ว ศึกษาพื้นฐานแล้ว อยากลองแต่งนิยายซักเรื่องดู
- ธุรกิจครอบครัว คืออยากใช้ความสามารถทั้งหมด เขียนเว็บ, วาดรูป, ออกแบบ, ถ่ายรูป, ตัดต่อวีดีโอ ออกมาเป็นผลงานครับ แล้วก็เริ่มแล้ว อันนี้ป๋าผมมีสินค้าคืออาหารทะเลตากแห้ง ผมก็เลยเริ่ม design logo ก่อน แล้วก็เปิดเพจ อ่านข้อตกลงเฟสบุค แล้วค่อยๆขยับไปโปรโมทสินค้า ถ่ายภาพ ทำวีดีโอ อาจจะทำ character การ์ตูน 3 ช่องไว้เล่นมุกดึงกลุ่มลูกค้า จนถึงทำเว็บไซต์ครับ
- ภาษาญี่ปุ่น อยากศึกษาไว้อ่านมังงะก็จริง แต่ก็อยากให้เกิดรายได้ด้วย อย่างรับงานแปลการ์ตูน/มังงะ หรืออะไรทำนองนี้ครับ
- ศึกษา Forex ต่อไป เพื่อปั้น model -> final result คืออยากเขียน EA ครับ
ผมเดินออกจากงานมา และกำลังเริ่มทำธุรกิจครอบครัว ก่อนจะไปทำงานต่างประเทศ(ส่งใบสมัคร รอผล) จากมีเงินเดือน ตอนนี้ก็เคว้งๆครับ รู้สึกเป็นภาระครอบครัว แต่ที่น่าตกใจกว่าคือทุกคนเข้าใจ ผิดคาดมากๆ มีแต่คนคอยเชียร์และยอมรับเราไม่ว่าจะเลือกทางไหน เคารพการตัดสินใจทุกก้าว(แอบน้ำตาซึม) ตอนที่ออกจากงานมาแล้วตัดสินใจจะเสี่ยงหางานต่างประเทศ ไม่กล้าบอกคนในบ้านเลย เครียดมาก แต่อีกใจก็ดีใจที่จะมีเวลาได้ทำอะไรที่อยากทำซักที มันดูย้อนแย้งไหมครับ ทั้งดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน
คำถาม
1.มีใครเคยทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันแบบนี้ไหมครับ มันพอจะเป็นไปได้ไหม หรือมันจะจบได้แค่งานอดิเรก?
2.ถ้าพี่ๆทำงานหลัก แล้วมีสิ่งที่อยากทำเยอะแบบผมจะทำยังไง จะบริหารเวลา, ตัดบางอันออก, ทำทีละอัน ?
3.งานอดิเรก เป็นงานหลักได้ไหมครับ?
4.ในส่วนของงาน ผิดไหมที่ออกมาให้เวลากับตัวเอง หรือจริงๆเรามีทางเลือกอื่นเสมอ?
ส่วนใครอยากแนะนำหรือคอมเม้นอะไร ผมยินดีรับฟังหมดเลยครับ ขอบคุณครับ