เที่ยว "ระนอง" กับ 15 พิกัดท่องเที่ยวหน้าฝน
สวัสดีครับนี่เป็นรีวิวแรกของเราเลย วันนี้นี้เราที่เที่ยวดีๆมาแนะนำกันครับ เพราะตอนนี้ใกล้ปลายปีแล้ว ก็ถึงช่วงที่ได้เวลาพาร่างกายและหัวใจไปชาร์จแบตเติมพลังกันแล้วครับ เรามีวันลาเพียงไม่กี่วันไม่ต้องไปไหนไกลๆ เที่ยวใกล้ๆ ในเมืองไทยก็ง่ายดี เราเลยขอเสนอทริปนี้ เราจะพาเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวเมืองเล็กๆ ติดทะเลอันดามัน เมืองรองยอดฮิต ฉายา “เมืองฝนแปดแดดสี่” หรือจังหวัดระนองนั่นเอง ที่ตอนนี้แม้จะเป็นหน้าฝน แต่ก็สวยและน่าไปเช็คอินไม่แพ้ที่ไหนๆ เหมือนกันนะ
การไปเที่ยวระนองของเรานั้นเดินทางด้วยรถทัวร์สมบัติทัวร์ในช่วงค่ำจากสายใต้ โดยสามารถเช็ครอบรถแล้วราคาได้ที่นี่
https://www.sombattour.com/th/schedule/กรุงเทพฯ-ระนอง ส่วนขากลับเราเดินทางกลับด้วยเครื่องบินซึ่งมีทั้งสายการบินแอร์เอเซียและนกแอร์ให้เราได้เลือกันตามสะดวกเลย ส่วนรีวิวแรกของเราจะเอาจุดเช็คอิน เดินทางง่ายๆ มาให้เราได้ไปตามรอยกันถึง 15 จุดครับ
ฝากติดตามเพจเราด้วยนะ
Facebook : เที่ยวไปทั่ว
https://www.facebook.com/tiewpaitour
IG :
https://www.instagram.com/tiew.pai.tour/
1.ภูเขาหญ้า
ภูเขาหญ้า หนึ่งในแลนด์มาร์กของระนองที่น่าแวะมาถ่ายรูป และชมความสวยงามของธรรมชาติที่เปลี่ยนสีสันไปตามฤดูกาล ในหน้าฝนภูเขาหญ้ามีความเขียวขจีก็จะดูสดชื่น และบางครั้งหลังฝนซาอาจมีหมอกลอยจางๆ แดดอ่อนๆ อาบทุ่งหญ้า ลองมองหามุมถ่ายรูปดีๆ จะดูคล้ายทุ่งหญ้าในเมืองนอกเลยเชียวล่ะ จากนั้นทุ่งหญ้าจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองในหน้าหนาวไปจนถึงหน้าร้อน แต่ควรมาตอนเย็นๆ แดดจะไม่ร้อนมาก ซึ่งภูเขาหญ้าไม่ได้สูงชันจึงเดินเล่นถ่ายรูปและชมวิวรอบๆ ได้สบาย
พิกัด : ภูเขาหญ้าอยู่ริมถนนเพชรเกษม และตรงข้ามกับน้ำตกหงาว ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 11-12 กิโลเมตร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน
มาเที่ยวระนองต้องมาแช่น้ำแร่ร้อน เพราะน้ำแร่ของระนองมีความพิเศษตรงที่เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่มีแร่ธาตุสำคัญ แต่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนจึงไม่มีกลิ่นฉุน มีบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติด้วยกัน 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก อุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส ส่วนใครอยากแช่ตัวหรือแช่เท้าก็มีบ่อที่สร้างไว้ให้เฉพาะในบริเวณเดียวกัน มีลานหินอุ่นๆ ด้วยไอร้อนของน้ำแร่ใต้ดิน สามารถนอนนวดตัวหรือเดินเพื่อนวดฝ่าเท้าได้ จะช่วยบำบัดรักษาสุขภาพ สลายความเมื่อยล้า มีศาลาที่พักและห้องอาบน้ำร้อนไว้บริการ ส่วนฝั่งตรงข้ามยังมีสปาและนวดแผนไทยด้วย เป็นออนเซ็นแบบไทยๆ ที่คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด
พิกัด : ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง โดยอยู่ห่างจากเทศบาลเมืองระนองประมาณ 2 กิโลเมตร และอยู่ในโซนเดียวกับสวนสาธารณะรักษะวาริน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.น้ำพุร้อนพรรั้ง
เมื่อยๆ อยากผ่อนคลาย แวะมาแช่ตัวในน้ำแร่ร้อนธรรมชาติที่บ่อน้ำร้อนพรรั้งในเขตดูแลของอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จะรู้สึกสดชื่นสบายตัว น้ำแร่ของที่นี่ใสสะอาด ไม่มีกลิ่นกำมะถัน อุณหภูมิ 35-40 องศาเซลเซียส ไหลซึมออกมาจากตาน้ำที่ผิวดินมากถึง 13 ตาน้ำ อยู่ใกล้ลำธารและรอบๆ บ่อน้ำร้อนร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้ มีทั้งบ่อแช่เท้า บ่อแช่ตัวแบบจากุชชี่ และโซนอาบน้ำกลางแจ้ง ถ้าอยากทำสปาเท้าก็นั่งริมธารจะมีปลาตัวเล็กๆ มาตอด มีศาลาพักผ่อน นวดแผนไทย ร้านอาหาร ตลอดจนบ้านพักให้บริการ แล้วอย่าลืมชิมไข่น้ำแร่ที่ผ่านการแช่ในน้ำแร่ร้อนนาน 18 ชั่วโมง อร่อยและไม่มีกลิ่นกำมะถันด้วย
พิกัด : บ่อน้ำแร่พรรั้งอยู่ที่บ้านพรรั้ง ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง โดย อยู่ห่างที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว 6 กิโลเมตร เปิดตั้งแต่ 08.00-18.00 น.
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.แกรนด์แคนยอนระนอง
จากพื้นที่ทำเหมืองแร่ในอดีตกลายสภาพเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ มีวิวด้านหลังเป็นแนวเขาสวยแปลกตาและล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เดิมทีเรียกกันว่าบึงมรกตเพราะน้ำในบึงมีสีเขียวมรกตและใสแจ๋ว มองเห็นฝูงปลาเป็นจำนวนมาก ยิ่งแดดส่องกระทบน้ำยิ่งสวย ตอนกลางวันอาจจะแดดร้อนหน่อยแต่ลมเย็นสบาย มีศาลาริมน้ำ น่ามาปิกนิกนั่งเล่นนอนเล่นกินลมชมวิว แล้วยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่เดินได้ง่ายๆ สามารถขึ้นไปถ่ายรูปในมุมสูงได้ด้วย ที่นี่เปิดให้เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีตั้งแต่เช้ายันเย็น มีร้านค้าและรถสองแถวให้บริการถึงที่
พิกัด : อยู่ที่บ้านทุ่งคา ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนอง ใช้เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริณ และอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5.วัดบ้านหงาว
วัดดังของระนองที่ใครๆ ก็แวะเวียนมาสักการะพระพุทธรูปดีบุกองค์ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถลอยฟ้า ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อดำ” หรือชื่อทางการว่า “พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีรณังค์” สร้างด้วยแร่ดีบุกน้ำหนัก 3 ตัน รวมถึงพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เพื่อให้สมกับที่ระนองเคยเป็นแหล่งแร่ดีบุกมาก่อน จนกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างความเจริญให้ระนอง ภายในวัดยังมีวังมัจฉา มีศูนย์วัฒนธรรมที่ประดับถ้วยชามและโถลายคราม รวมถึงบันได 300 ขั้นที่สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ และใช้ในประเพณีตักบาตรเทโวของชาวระนอง
พิกัด : 63/2 หมู่ที่ 1 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
6.พระราชวังรัตนรังสรรค์
พระราชวังจำลองที่สร้างจากไม้สักและไม้ตะเคียนทองทั้งหลัง จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงการเสด็จประทับแรมที่ระนองของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (พ.ศ.2433) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 (พ.ศ.2452) และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 (พ.ศ.2471) ภายในมีห้องบรรทมรัชกาลที่ 5 ห้องพระราชินี มีอาคารทรงแปดเหลี่ยม อาคารท้องพระโรง และสะพานเชื่อมอาคารที่ประทับกับอาคารแปดเหลี่ยม เป็นพระราชวัง 1 ใน 6 แห่งที่สร้างขึ้นตามหัวเมืองในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 โดยด้านหน้าพระราชวังมีสวนสาธารณะ พร้อมรูปปั้นคนงานทำเหมืองแร่ด้วย
พิกัด : บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ (ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง) ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง เปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันจันทร์-อังคารตั้งแต่ 08.30-16.30 น. สามารถถ่ายรูปด้านนอกได้ ถ้าต้องการชมด้านในคิดค่าบำรุงคนละ 20 บาท
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
7. ร้านโรตีนริสรา
ร้านนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารเช้าที่ดังที่สุดแห่งหนึ่งในระนอง ร้านโรตีนริสราสืบทอดต้นตำรับความอร่อยมาจากอินเดีย โดยเฉพาะแป้งโรตีที่หนานุ่ม หอมกลิ่นเนย ทอดด้วยไฟปานกลางจนได้โรตีแบบกรอบนอกนุ่มใน มีทั้งแบบราดนมข้นหวาน โรยน้ำตาลทราย ไปจนถึงกินคู่แกงกะหรี่ก็มี ส่วนใครชอบโรตีใส่ไข่ ทางร้านก็มีทั้งแบบตีไข่ลงไปทอดกับแป้งและทอดเป็นไข่ดาวแยกเสิร์ฟต่างหาก อย่าลืมสั่งกาแฟร้อนหรือชาร้อนหอมกรุ่นมากินคู่กันด้วย นอกจากนี้ยังมีโรตีมะตะบะ โรตีพิซซ่า ข้าวยำปักษ์ใต้ ไก่ทอดและสลัดแขก
พิกัด: ตลาดสดบ้านหงาว ถ.ประชาพิทักษ์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 08.00 – 13.00 น.
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
8. ร้านดอกไม้
อากาศเย็นๆ ในเมืองระนองที่ชุ่มฉ่ำด้วยสายฝน อาจทำให้นึกอยากซดน้ำเต้าหูร้อนๆ หรือบัวลอยงาดำน้ำขิงสักถ้วย ถ้างั้นต้องแวะมาร้านดอกไม้ที่ไม่ได้ขายดอกไม้ แต่เปิดขายน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ บัวลอย อร่อยจนมีคนรอต่อคิวซื้อแน่นร้านทุกวัน จุดเด่นอยู่ที่ปาท่องโก๋กรอบแต่ไม่อมน้ำมัน ดิปกับสังขยาที่ไม่หวานจนเลี่ยน เข้ากันได้ดี๊ดี ส่วนน้ำเต้าหู้ก็หวานหอมกำลังดี บัวลอยไม่หวานมากแต่มีความหอมกะทิ น้ำเต้าฮวยก็ชิ้นใหญ่สะใจ และอีกเมนูที่หลายคนอาจยังไม่เคยลอง จ้ำบ๊ะชาใส่ปาท่องโก๋ แปลกแต่อร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยนะเออ
พิกัด : 261 ถ.เรืองราษฏร์ ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง ร้านเปิดตั้งแต่ 15.00-23.00 น.
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
9. บ้านร้อยปีเทียนสือ
บ้านเทียนสือ เสมือนพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของคนจีนในจังหวัดระนองรุ่นแรกๆ สร้างขึ้นมายาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ความหมายของคำว่า “บ้านเทียนสือ” เป็นคำในภาษาจีน โดยคำว่า “เทียน” แปลว่า สวรรค์ ส่วนคำว่า “สือ” แปลว่า ของขวัญ บ้านหลังนี้เลยมีความหมายโดยรวมว่า “ของขวัญจากสวรรค์” มีข้าวของเครื่องใช้แบบโบราณ ทั้งโคมไฟ ภาพวาดในกรอบรูปติดฝาผนัง โต๊ะและเก้าอี้ฉลุลวดลาย เครื่องไม้โบราณ เหมือนเราได้ย้อนเวลาไปเที่ยวในยุคก่อน แถมมีมุมเก๋ๆ ให้ได้ถ่ายรูปเพียบเลย
พิกัด : บ้านเลขที่ 7 ถนนดับคดี ตำบลเขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง เปิดทุกวันเวลา 06.00 – 20.30 น.
[SR] เที่ยว "ระนอง" กับ 15 พิกัดท่องเที่ยวหน้าฝน
เที่ยว "ระนอง" กับ 15 พิกัดท่องเที่ยวหน้าฝน
สวัสดีครับนี่เป็นรีวิวแรกของเราเลย วันนี้นี้เราที่เที่ยวดีๆมาแนะนำกันครับ เพราะตอนนี้ใกล้ปลายปีแล้ว ก็ถึงช่วงที่ได้เวลาพาร่างกายและหัวใจไปชาร์จแบตเติมพลังกันแล้วครับ เรามีวันลาเพียงไม่กี่วันไม่ต้องไปไหนไกลๆ เที่ยวใกล้ๆ ในเมืองไทยก็ง่ายดี เราเลยขอเสนอทริปนี้ เราจะพาเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวเมืองเล็กๆ ติดทะเลอันดามัน เมืองรองยอดฮิต ฉายา “เมืองฝนแปดแดดสี่” หรือจังหวัดระนองนั่นเอง ที่ตอนนี้แม้จะเป็นหน้าฝน แต่ก็สวยและน่าไปเช็คอินไม่แพ้ที่ไหนๆ เหมือนกันนะ
การไปเที่ยวระนองของเรานั้นเดินทางด้วยรถทัวร์สมบัติทัวร์ในช่วงค่ำจากสายใต้ โดยสามารถเช็ครอบรถแล้วราคาได้ที่นี่ https://www.sombattour.com/th/schedule/กรุงเทพฯ-ระนอง ส่วนขากลับเราเดินทางกลับด้วยเครื่องบินซึ่งมีทั้งสายการบินแอร์เอเซียและนกแอร์ให้เราได้เลือกันตามสะดวกเลย ส่วนรีวิวแรกของเราจะเอาจุดเช็คอิน เดินทางง่ายๆ มาให้เราได้ไปตามรอยกันถึง 15 จุดครับ
ฝากติดตามเพจเราด้วยนะ
Facebook : เที่ยวไปทั่ว https://www.facebook.com/tiewpaitour
IG : https://www.instagram.com/tiew.pai.tour/
1.ภูเขาหญ้า
ภูเขาหญ้า หนึ่งในแลนด์มาร์กของระนองที่น่าแวะมาถ่ายรูป และชมความสวยงามของธรรมชาติที่เปลี่ยนสีสันไปตามฤดูกาล ในหน้าฝนภูเขาหญ้ามีความเขียวขจีก็จะดูสดชื่น และบางครั้งหลังฝนซาอาจมีหมอกลอยจางๆ แดดอ่อนๆ อาบทุ่งหญ้า ลองมองหามุมถ่ายรูปดีๆ จะดูคล้ายทุ่งหญ้าในเมืองนอกเลยเชียวล่ะ จากนั้นทุ่งหญ้าจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองในหน้าหนาวไปจนถึงหน้าร้อน แต่ควรมาตอนเย็นๆ แดดจะไม่ร้อนมาก ซึ่งภูเขาหญ้าไม่ได้สูงชันจึงเดินเล่นถ่ายรูปและชมวิวรอบๆ ได้สบาย
พิกัด : ภูเขาหญ้าอยู่ริมถนนเพชรเกษม และตรงข้ามกับน้ำตกหงาว ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 11-12 กิโลเมตร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน
มาเที่ยวระนองต้องมาแช่น้ำแร่ร้อน เพราะน้ำแร่ของระนองมีความพิเศษตรงที่เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่มีแร่ธาตุสำคัญ แต่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนจึงไม่มีกลิ่นฉุน มีบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติด้วยกัน 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก อุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส ส่วนใครอยากแช่ตัวหรือแช่เท้าก็มีบ่อที่สร้างไว้ให้เฉพาะในบริเวณเดียวกัน มีลานหินอุ่นๆ ด้วยไอร้อนของน้ำแร่ใต้ดิน สามารถนอนนวดตัวหรือเดินเพื่อนวดฝ่าเท้าได้ จะช่วยบำบัดรักษาสุขภาพ สลายความเมื่อยล้า มีศาลาที่พักและห้องอาบน้ำร้อนไว้บริการ ส่วนฝั่งตรงข้ามยังมีสปาและนวดแผนไทยด้วย เป็นออนเซ็นแบบไทยๆ ที่คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด
พิกัด : ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง โดยอยู่ห่างจากเทศบาลเมืองระนองประมาณ 2 กิโลเมตร และอยู่ในโซนเดียวกับสวนสาธารณะรักษะวาริน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.น้ำพุร้อนพรรั้ง
เมื่อยๆ อยากผ่อนคลาย แวะมาแช่ตัวในน้ำแร่ร้อนธรรมชาติที่บ่อน้ำร้อนพรรั้งในเขตดูแลของอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จะรู้สึกสดชื่นสบายตัว น้ำแร่ของที่นี่ใสสะอาด ไม่มีกลิ่นกำมะถัน อุณหภูมิ 35-40 องศาเซลเซียส ไหลซึมออกมาจากตาน้ำที่ผิวดินมากถึง 13 ตาน้ำ อยู่ใกล้ลำธารและรอบๆ บ่อน้ำร้อนร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้ มีทั้งบ่อแช่เท้า บ่อแช่ตัวแบบจากุชชี่ และโซนอาบน้ำกลางแจ้ง ถ้าอยากทำสปาเท้าก็นั่งริมธารจะมีปลาตัวเล็กๆ มาตอด มีศาลาพักผ่อน นวดแผนไทย ร้านอาหาร ตลอดจนบ้านพักให้บริการ แล้วอย่าลืมชิมไข่น้ำแร่ที่ผ่านการแช่ในน้ำแร่ร้อนนาน 18 ชั่วโมง อร่อยและไม่มีกลิ่นกำมะถันด้วย
พิกัด : บ่อน้ำแร่พรรั้งอยู่ที่บ้านพรรั้ง ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง โดย อยู่ห่างที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว 6 กิโลเมตร เปิดตั้งแต่ 08.00-18.00 น.
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.แกรนด์แคนยอนระนอง
จากพื้นที่ทำเหมืองแร่ในอดีตกลายสภาพเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ มีวิวด้านหลังเป็นแนวเขาสวยแปลกตาและล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เดิมทีเรียกกันว่าบึงมรกตเพราะน้ำในบึงมีสีเขียวมรกตและใสแจ๋ว มองเห็นฝูงปลาเป็นจำนวนมาก ยิ่งแดดส่องกระทบน้ำยิ่งสวย ตอนกลางวันอาจจะแดดร้อนหน่อยแต่ลมเย็นสบาย มีศาลาริมน้ำ น่ามาปิกนิกนั่งเล่นนอนเล่นกินลมชมวิว แล้วยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่เดินได้ง่ายๆ สามารถขึ้นไปถ่ายรูปในมุมสูงได้ด้วย ที่นี่เปิดให้เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปีตั้งแต่เช้ายันเย็น มีร้านค้าและรถสองแถวให้บริการถึงที่
พิกัด : อยู่ที่บ้านทุ่งคา ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนอง ใช้เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริณ และอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5.วัดบ้านหงาว
วัดดังของระนองที่ใครๆ ก็แวะเวียนมาสักการะพระพุทธรูปดีบุกองค์ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถลอยฟ้า ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อดำ” หรือชื่อทางการว่า “พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีรณังค์” สร้างด้วยแร่ดีบุกน้ำหนัก 3 ตัน รวมถึงพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เพื่อให้สมกับที่ระนองเคยเป็นแหล่งแร่ดีบุกมาก่อน จนกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างความเจริญให้ระนอง ภายในวัดยังมีวังมัจฉา มีศูนย์วัฒนธรรมที่ประดับถ้วยชามและโถลายคราม รวมถึงบันได 300 ขั้นที่สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ และใช้ในประเพณีตักบาตรเทโวของชาวระนอง
พิกัด : 63/2 หมู่ที่ 1 ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
6.พระราชวังรัตนรังสรรค์
พระราชวังจำลองที่สร้างจากไม้สักและไม้ตะเคียนทองทั้งหลัง จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงการเสด็จประทับแรมที่ระนองของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (พ.ศ.2433) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 (พ.ศ.2452) และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 (พ.ศ.2471) ภายในมีห้องบรรทมรัชกาลที่ 5 ห้องพระราชินี มีอาคารทรงแปดเหลี่ยม อาคารท้องพระโรง และสะพานเชื่อมอาคารที่ประทับกับอาคารแปดเหลี่ยม เป็นพระราชวัง 1 ใน 6 แห่งที่สร้างขึ้นตามหัวเมืองในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 โดยด้านหน้าพระราชวังมีสวนสาธารณะ พร้อมรูปปั้นคนงานทำเหมืองแร่ด้วย
พิกัด : บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ (ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง) ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง เปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันจันทร์-อังคารตั้งแต่ 08.30-16.30 น. สามารถถ่ายรูปด้านนอกได้ ถ้าต้องการชมด้านในคิดค่าบำรุงคนละ 20 บาท
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
7. ร้านโรตีนริสรา
ร้านนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารเช้าที่ดังที่สุดแห่งหนึ่งในระนอง ร้านโรตีนริสราสืบทอดต้นตำรับความอร่อยมาจากอินเดีย โดยเฉพาะแป้งโรตีที่หนานุ่ม หอมกลิ่นเนย ทอดด้วยไฟปานกลางจนได้โรตีแบบกรอบนอกนุ่มใน มีทั้งแบบราดนมข้นหวาน โรยน้ำตาลทราย ไปจนถึงกินคู่แกงกะหรี่ก็มี ส่วนใครชอบโรตีใส่ไข่ ทางร้านก็มีทั้งแบบตีไข่ลงไปทอดกับแป้งและทอดเป็นไข่ดาวแยกเสิร์ฟต่างหาก อย่าลืมสั่งกาแฟร้อนหรือชาร้อนหอมกรุ่นมากินคู่กันด้วย นอกจากนี้ยังมีโรตีมะตะบะ โรตีพิซซ่า ข้าวยำปักษ์ใต้ ไก่ทอดและสลัดแขก
พิกัด: ตลาดสดบ้านหงาว ถ.ประชาพิทักษ์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 08.00 – 13.00 น.
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
8. ร้านดอกไม้
อากาศเย็นๆ ในเมืองระนองที่ชุ่มฉ่ำด้วยสายฝน อาจทำให้นึกอยากซดน้ำเต้าหูร้อนๆ หรือบัวลอยงาดำน้ำขิงสักถ้วย ถ้างั้นต้องแวะมาร้านดอกไม้ที่ไม่ได้ขายดอกไม้ แต่เปิดขายน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ บัวลอย อร่อยจนมีคนรอต่อคิวซื้อแน่นร้านทุกวัน จุดเด่นอยู่ที่ปาท่องโก๋กรอบแต่ไม่อมน้ำมัน ดิปกับสังขยาที่ไม่หวานจนเลี่ยน เข้ากันได้ดี๊ดี ส่วนน้ำเต้าหู้ก็หวานหอมกำลังดี บัวลอยไม่หวานมากแต่มีความหอมกะทิ น้ำเต้าฮวยก็ชิ้นใหญ่สะใจ และอีกเมนูที่หลายคนอาจยังไม่เคยลอง จ้ำบ๊ะชาใส่ปาท่องโก๋ แปลกแต่อร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยนะเออ
พิกัด : 261 ถ.เรืองราษฏร์ ต.เขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง ร้านเปิดตั้งแต่ 15.00-23.00 น.
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
9. บ้านร้อยปีเทียนสือ
บ้านเทียนสือ เสมือนพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของคนจีนในจังหวัดระนองรุ่นแรกๆ สร้างขึ้นมายาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ความหมายของคำว่า “บ้านเทียนสือ” เป็นคำในภาษาจีน โดยคำว่า “เทียน” แปลว่า สวรรค์ ส่วนคำว่า “สือ” แปลว่า ของขวัญ บ้านหลังนี้เลยมีความหมายโดยรวมว่า “ของขวัญจากสวรรค์” มีข้าวของเครื่องใช้แบบโบราณ ทั้งโคมไฟ ภาพวาดในกรอบรูปติดฝาผนัง โต๊ะและเก้าอี้ฉลุลวดลาย เครื่องไม้โบราณ เหมือนเราได้ย้อนเวลาไปเที่ยวในยุคก่อน แถมมีมุมเก๋ๆ ให้ได้ถ่ายรูปเพียบเลย
พิกัด : บ้านเลขที่ 7 ถนนดับคดี ตำบลเขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง เปิดทุกวันเวลา 06.00 – 20.30 น.
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น