ทำไมเราต้องรอให้เราป่วยแล้วเราค่อยรักษา???
"มันคือเสียงในหัวที่คอยถามตัวเองมาตลอด
และเป็นสิ่งที่บอกเราว่า เห้ย!! เราต้องหันมาดูแลตัวเองแล้วนะ
ฉันอยากแก่ตายแบบสวยๆ แก่ตายแบบไม่ทรมานด้วยโรค มันมีวิธีไหนบ้างมั้ยที่ช่วยเราเรื่องนี้
นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์กับการออกกำลังกาย"
ด้วยคำถามนี่แหละเป็นเหตุผลที่ทำให้เราไป BAAC
^___^ ดูเหตุผลสวยมั้ย 555+
ป่าวหรอก นี่ก็เขียนเริ่มต้นสวยๆไปงั้นเอง
จริงๆแล้วเรื่องของเรื่องคือ เราอ่ะโชคดีมาก ไปงานสัมมนานึง แล้วเราก็ได้รางวัลจร้าาาาาาา
เป็น Voucher จาก BAAC มูลค่า 10,000 บาท
ใช่!!!! อ่านไม่ผิดหรอก มูลค่าหมื่นนึงเลยจร่ะ
นั่งมองวอยเชอร์ในมือแล้วแบบ อะไรวะ BAAC คืออะไร?????
ได้มาแล้วไง? ยังไงต่อ? แต่ก็รับมาไว้ก่อน
นี่ก็เก็บใส่ไว้ในกระเป๋ามาเรื่อยๆ
จนวันนึงเปลี่ยนกระเป๋าไงแล้วมาเห็นคุณวอยเชอร์นี่ อ้าวเห้ย!!! จะหมดอายุพรุ่งนี้แล้ว
ความงกเข้าตา มือก็รีบกดโทรศัพท์เลยจร้า
โทรถามเลยจร้าว่านี่ได้วอยเชอร์มาจะเอาไปใช้ ไปใช้ได้ที่ไหน
แล้วนัดวันเวลาเบ็ดเสร็จ และสุดท้ายนี่ก็ไปแบบโง่ๆ ไม่รู้อะไรเลย
ก็กะว่าไปใช้วอยเชอร์ที่ได้แล้วค่อยไปหาข้อมูลเอาข้างหน้าละกัน
(อีประโยคสวยๆข้างบนตอนขึ้นกระทู้ ก็มาจากการได้ข้อมูลมาแล้วนั่นแหละ)
เอาหล่ะ จากนี้เป็นต้นไปเราจะทำการรีวิว คุณศูนย์ BAAC ในแบบฉบับที่เราเข้าใจ
และประสบพบเจอมานะ ข้อมูลที่ได้ฟังนี่มาจากคุณเจ้าหน้าที่
จากคุณหมอ จากคุณโบร์ชัว และจากคุณอินเตอร์เน็ต
สรุปว่างี้ BAAC คุณเขาเป็นศูนย์การแพทย์ชะลอวัยและความงาม
ซึ่ง BAAC เนี่ย เขาย่อมาจาก Bangkok Anti-Aging Center ถ้าถามว่าคืออะไร
เขาคือศูนย์วิทยาการย้อนวัยและความงามที่เน้นการรักษาแบบองค์รวม (Holistic
Medicine) คือการดูแลสุขภาพทุกระบบไปพร้อมๆกัน โดยเน้นการป้องกัน
และฟื้นฟูที่ต้นเหตุมากกว่าการรักษาตามอาการเพื่อให้มั่นใจได้ว่า
ปัญหาสุขภาพนั้นได้รับการแก้ไขแล้วอย่างแท้จริง เพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดี
ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ
เป็นไงภาษาทางการมั้ย คือนี่ก๊อปมาจากเน็ตน่ะ
5555+ เอางี้ถ้างงเราจะเล่าในแบบเรานะ เพราะตอนที่เราอ่านคือเราไม่ค่อยเก็ท
และมีคำถามในหัวเต็มไปหมด ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องมา (หมายถึงมาแบบเสียเงินนะ)
แล้วมันจะดีกับตัวเรายังไง ไปโรงบาลไม่ได้หรอ
สรุปสิ่งที่ได้คือ ปกติการไปโรงบาลของเรา
คือไปเพื่อรักษาถูกมั้ย แต่BAACนี่ เรามาเพื่อดูแลและป้องกัน รวมไปถึงฟื้นฟู
มันก็คือแนวคิดป้องกันไว้ก่อนนั่นเองจร้า เก็ทแล้วใช่มั้ย
เอาหล่ะจะมาเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟัง
ก็พอเราไปถึง BAAC นะ อ้า!ลืมบอกไป นี่เราไปสาขาสยาม
ซึ่งคุณเขาตั้งอยู่บนโรงแรมปทุมวันปริ้นเซสจร้า
พอเราไปถึงเนี่ย คุณเจ้าหน้าที่ก็เอาฟอร์มมาให้เรากรอกประวัติ
นี่ก็กรอกๆ โหยถามถึงเรื่องการใช้ชีวิตเราด้วยนะ แบบตื่นกี่โมง นอนกี่โมง
กินข้าวกี่มื้อ การขับถ่ายงี้ แล้วก็อีกเยอะเลย
นี่ก็กรอกๆไปพร้อมยิ้มสวยๆให้กับคุณเจ้าหน้าที่ไปด้วย
พอกรอกเสร็จสิ่งที่เราทำต่อไปคือ กินน้ำ เอ้า!!จะเล่าทำไม
บางทีก็ไม่ต้องเล่าละเอียดไร้สาระก็ได้น้อ ไม่มีสาระเลย^^
จากนั้นเราก็ไปทำการตรวจสุขภาพ
โดยเขามีโปรแกรมต่างๆในการตรวจวิเคราะห์ร่างกาย เริ่มจากการที่จนท.เรียกว่าเป็นการทำ
Bio Body Scan คือเขาจะมีแผ่นๆโลหะหรืออะไรสักอย่างเอาเป็นว่ามันคือแผ่นน่ะ
มาวางไว้ที่มือเรา เท้าเรา แล้วก็มีสายระโยงระยางแปะที่ร่างกายเรา
ลืมละว่าแปะที่ไหนบ้าง แล้วคุณเครื่องนี้ก็จะทำงานของมัน
จากนั้นจร้านางจะมีผลออกมาบอกเราเลยอ่ะ
ว่าระบบต่างๆของร่างกายเราเป็นไงบ้าง ระบบทางเดินหายใจงี้ ระบบการย่อยอาหาร
ระบบสมอง ฮอร์โมน การเผาผลาญอะไรพวกนี้
(อ่อ!ลืมไป จนท.เขาต้องใส่รายละเอียดของเราลงในคอมด้วยนะ แล้วมันถึงจะคำนวณออกมา)
การสแกนนี้ในโบร์ชัว์บอกว่าตรวจได้ 8 ระบบนะ
(ต้องเข้าใจเรานะ คือเราไม่ได้จะจำได้ทุกอย่าง คือเราเองเนี่ยไม่ได้ตั้งใจจะเขียนรีวิว แต่พอไปมาเห็นมันน่าสนใจเลยอยากเอามาเล่าให้ฟังตามสไตล์ฝนฝอยคนขี้เม้าท์ไง)
มาต่อ....
ก็พอสแกนนี่ก็ตกใจผลของตัวเองเบาๆนะ คือไม่ค่อยดูดีเท่าไหร่ แต่ก็เข้าใจได้นะ
เพราะช่วงที่ผ่านมาเรามีเรื่องเครียดเยอะ นอนก็ไม่ค่อยหลับ
และที่สำคัญก่อนมาตรวจเนี่ย คือไปเที่ยวมานอนตี5 แล้วมาตรวจตอนประมาณบ่ายกว่าๆ
คิดดูดิ่นอนไม่กี่ชั่วโมง ร่างกายก็ล้า แถมล้าสะสมมาเป็นเดือนๆละ
(จริงๆการใช้ชีวิตของเราก็ห่วยแตกอยู่แล้ว)
จากการแค่ฟังผลสแกนก็ทำให้เราเก็ทในการใช้ชีวิตห่วยๆของเราเลยนะ ว่ามันห่วยแค่ไหน
จากนั้นจนท.จะพาเราไปเจาะเลือด
คุณพยาบาลเขาก็จะเจาะเลือดเราเพื่อส่งไปตรวจที่Lab ซึ่งผลเลือดเราก็จะต้องรอผลLabนะ
คือทำให้ต้องมีนัดฟังผลอีกที เขาจะตรวจแบบละเอียดเลย
เจาะเลือดแล้ว ต่อมาเขาก็มาตรวจ Live Blood Analysis มันเป็นการวิเคราะห์เลือดอ่ะ
คือเป็นการใช้เข็มจิ้มปลายนิ้ว หยดเลือดใส่แผ่น ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์
แล้วเราก็จะเห็นลักษณะของเม็ดเลือดเราเลยนะ ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดแดงไรงี้
จะเห็นเลยว่าเม็ดเลือดเราสวยมั้ย เรียงตัวไง มีอะไรตกค้างมั้ย อย่างพวกโลหะหนัก สารปรอทไรงี้
แล้วเราก็ฟังๆที่คุณพยาบาลพยายามอธิบายให้เราฟัง นี่ก็แอบตกใจเม็ดเลือดตัวเองไปนิดนึง
ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นวันแรกของการมาตรวจสุขภาพที่
BAAC โดยเราต้องมีการนัดมาฟังผลและพูดคุยกับคุณหมออีกครั้งเรื่องผลเลือดที่ออกมา
ถามว่า แล้วทำไมไม่ไปตรวจโรงบาล คืองี้
ตรวจโรงบาลก็ต้องไปนะ จำเป็น แต่การไปตรวจสุขภาพที่โรงบาลคือดูว่าเราสุขภาพเป็นไงและป่วยรึยัง
ส่วนที่นี่เป็นเรื่องของแนวโน้มไง เช่น เรามีค่าXX เท่านี้ เรามีความเสี่ยงมากนะ ที่จะเป็นหลอดเลือดหัวใจไรงี้
หรือเรามีโลหะหนักในร่างกายมากไป มีสารปรอทในเลือดนะเว้ย!!
คือพอเราเห็นสิ่งที่เรามี เราก็รู้ละไงว่าเราควรดูแลตัวเองยังไง
คือฝนมองว่ามันดูยิบย่อยกว่าโรงบาลเยอะอ่ะ
ฟีลแบบ เหมือนเรามีขวดน้ำ 100มล. ที่โรงบาลจะทำให้เรารู้ว่า
เรามีน้ำล้นขวดแล้ว คือป่วยแล้วต้องรักษา หรือ โรงบาลอาจจะบอกได้ว่า คุณมีน้ำในขวด
90มล.แล้วนะ ใกล้ล้นแล้วต้องรักษา
ส่วนที่ BAAC เขาจะบอกเราว่า
คุณมีน้ำ 60มล.นะ เหลือพื้นที่ใส่น้ำอีกแค่ 40มล.เท่านั้น คุณต้องดูแลตัวเองละนะ
อย่าเติมน้ำเพิ่มนะ หรือยังไงใช้น้ำซะ ดื่มน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่ในขวดเพิ่มนะ อะไรประมาณนี้
ที่ BAAC จึงเป็นที่ๆจะบอกว่าเราต้องดูแล และรักษาสุขภาพ
รักษาสุขภาพทางไหนแนวไหนที่เหมาะกับเรา ร่างกายเราขาดอะไร ต้องดูแลส่วนไหนเป็นพิเศษประมาณนี้
ยิ่งผลเลือดออกมา ได้คุยกับหมอ คุณหมอจะอธิบายถึงความทรุดโทรมของร่างกายเราได้ดีมาก
ที่สำคัญคุณหมอแนะนำทั้งวิธีการใช้ชีวิต ทำให้เรามองเห็นความเลวร้ายของเรา ที่เราทำกับร่างกายเราอ่ะ
คืองี้ ผลเลือดของฝนเนี่ย ขอเล่าคร่าวๆนะ เล่าแบบเท่าที่จำได้ คือ ออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่
จนคุณหมอถามว่าใช้ชีวิตยังไง ฝนมีความเสี่ยงสูงกับการจะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับไต
เพราะเห็นเลยว่าไตทำงานหนักมาก ค่าอะไรสักอย่างของไตสูงมาก
(ห้ามด่าฝนนะว่าฝนมีข้อมูลไม่ชัดเจน คือเราไม่ใช่หมอไม่ได้มีหลัวเป็นหมอ ไม่ค่อยเข้าใจภาษาแพทย์ เลยขอเล่าในแบบที่เราเข้าใจตามนี้นะคะ)
ต่อๆๆ.... คือ คุณไตของเรามีสิทธิ์ป่วยได้ นี่ก็สันนิษฐานว่าสงสัยสมัยวัยรุ่นนี่กินยาลดความอ้วนเยอะ
กินยาผิวต่างๆ วิตามินต่างๆมาเยอะมั้ง คุณไตเลยอ่อนล้า
แล้วปัญหาอีกอย่างคือ
ดิฉันมีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจจร้า คือคุณไตและคุณหลอดเลือดไรเนี่ย
มีค่าอะไรสูงมากแบบ...ปกติต้องรุ่นคนแก่ถึงจะมีค่าแบบนี้อ่ะ แต่นี้มีแล้วอ่ะ
คือถ้ายังใช้ชีวิตแบบนี้อยู่เนี่ย อนาคตเสี่ยงเป็นโรคหัวใจแน่ๆ
ซื้อประกันที่รักษาโรคหัวใจและโรคไตโดยเฉพาะไว้ได้เลยจร้า
มีโอกาสเป็นโรคเหล่านี้ได้มากเป็นพิเศษ
เนี่ยการมาที่ BAAC ทำให้เราเห็นชีวิตเรามากขึ้น
และคุณหมอจะบอกวิธีการดูแลสุขภาพของเรา ไปตั้งแต่เรื่องการกินอาหาร การดื่มน้ำ
การขับถ่าย การนอน ไปจนถึงการออกกำลังกาย และสารอาหาร
วิตามินที่ร่ายกายควรได้รับเป็นพิเศษ เอาจริงๆแค่การได้มาตรวจสุขภาพ
ได้มาคุยกับคุณหมอคือโครตคุ้มแล้วอ่ะ และทำให้เราหันมาสนใจร่างกายเรามากขึ้น
จากที่ปกติเราใช้งานมันอย่างเดียว
หลักจากคุยกับหมอ เราก็จะรู้ว่าร่างกายเราต้องดูตรงไหนเป็นพิเศษ
ต้องได้รับวิตามินอะไรเป็นพิเศษ และที่นี่เขาก็มีโปรแกรมดูแลสุขภาพอีกเยอะมาก
เพื่อให้เราได้ดูแลสุขภาพให้ถูกจุด ให้เหมาะกับสิ่งที่ร่างกายขาดหรือกำลังต้องการ
สิ่งที่เราชอบสำหรับที่นี่นะ
คือเจ้าหน้าที่ก็บอกเราว่าสิ่งที่เราควรแก้ปัญหาคืออะไร
มีโปรแกรมอะไรบ้างที่จะช่วยเรา โปรแกรมอะไรที่เหมาะกับสุขภาพของเรา มันเหมือนเป็นการป้องกันให้ถูกจุดไง
แล้วแบบพวกการดริบวิตามันอ่ะ คือมันจะเป็นการได้รับวิตามินที่เหมาะสม
คือ วิตามินที่ร่างกายเราต้องการจริงๆ ซึ่งคนแต่ละคนต้องการวิตามินต่างๆไม่เหมือนกันไง
ที่ BAAC เขาวิเคราะห์มาแล้วไง วิเคราะห์โปรแกรมดริบวิตามินที่เป็นของเราโดยเฉพาะ นี่ชอบตรงนี้เลย
ส่วนถามว่าหลังจากฝนเจอคุณหมอแล้ว
ฝนซื้อโปรแกรมต่างๆเลยมั้ย ขอตอบตรงนี้เลยว่า
“ยังค่ะ”
คือเราขอกลับบ้านไปคิดก่อน
คุณเจ้าหน้าที่เขาก็น่ารักนะ บอกแล้วว่าเขาไม่ได้ตื๊อขนาดนั้น
เขาก็โอเคนะที่เราจะกลับไปคิด นั่นแปลว่าใครที่คิดว่า เข้าไปแล้วจะถูกหลอกล่อให้เสียเงิน
หรือถูกพนักงานยึดบัตรเครดิตแบบบางที่ ที่นี่ไม่เป็นแบบนั้นอ่ะ
ไม่รู้สิ สำหรับเรา เราไม่เจอนะ เรารู้สึกว่าเขาน่ารักและให้เกียรติเรามากเลย ขายเก่งแต่ไม่ตื๊อจนน่ารำคาญ
แต่เอาจริงๆนะ คือจริงๆแล้ว เราก็คิดว่าจะซื้อสักโปรแกรมนั่นแหละ ไม่ได้คิดว่าจะต้องทบทวนอะไรมากมายหรอก
เราก็อ้างคุณเจ้าหน้าที่ไปงั้นแหละ
เรื่องของเรื่องคือพอดีวันนั้นเรายังไม่พร้อมเรื่องเงินน่ะ 5555+
เราใช้บัตรเครดิตเต็มวงเงินไปแล้ว คือช้อปหนักมากช่วงที่ผ่านมา ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า
แล้วยังมีตั๋วเครื่องบินอีกหลายทริป ก็จะจนๆหน่อย
ดีนะที่เขาไม่ได้วอแวกับเรามาก เราเลยขอผ่านไปก่อน
แต่สุดท้ายเราก็นัดกลับไปอีกรอบ
คราวนี้ไม่ได้มาตรวจสุขภาพละ เพราะตรวจไปแล้ว คราวนี้คือจะมาลองดริบวิตามิน
ส่วนจะเป็นยังไง ไว้กลับมาเล่าให้ฟังต่อนะ ขอเก็บข้อมูลอีกสัก 2-3 ครั้งก่อน
กลับมาอ่านกันด้วยนะ ^___^
[SR] รีวิว ศูนย์สุขภาพ BAAC : อายุเยอะแล้ว ก็ต้องหาวิธีชะลอความแก่กันนิดนึง
"มันคือเสียงในหัวที่คอยถามตัวเองมาตลอด
และเป็นสิ่งที่บอกเราว่า เห้ย!! เราต้องหันมาดูแลตัวเองแล้วนะ
ฉันอยากแก่ตายแบบสวยๆ แก่ตายแบบไม่ทรมานด้วยโรค มันมีวิธีไหนบ้างมั้ยที่ช่วยเราเรื่องนี้
นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์กับการออกกำลังกาย"
ด้วยคำถามนี่แหละเป็นเหตุผลที่ทำให้เราไป BAAC
^___^ ดูเหตุผลสวยมั้ย 555+
ป่าวหรอก นี่ก็เขียนเริ่มต้นสวยๆไปงั้นเอง
จริงๆแล้วเรื่องของเรื่องคือ เราอ่ะโชคดีมาก ไปงานสัมมนานึง แล้วเราก็ได้รางวัลจร้าาาาาาา
เป็น Voucher จาก BAAC มูลค่า 10,000 บาท
ได้มาแล้วไง? ยังไงต่อ? แต่ก็รับมาไว้ก่อน
นี่ก็เก็บใส่ไว้ในกระเป๋ามาเรื่อยๆ
จนวันนึงเปลี่ยนกระเป๋าไงแล้วมาเห็นคุณวอยเชอร์นี่ อ้าวเห้ย!!! จะหมดอายุพรุ่งนี้แล้ว
ความงกเข้าตา มือก็รีบกดโทรศัพท์เลยจร้า
โทรถามเลยจร้าว่านี่ได้วอยเชอร์มาจะเอาไปใช้ ไปใช้ได้ที่ไหน
แล้วนัดวันเวลาเบ็ดเสร็จ และสุดท้ายนี่ก็ไปแบบโง่ๆ ไม่รู้อะไรเลย
ก็กะว่าไปใช้วอยเชอร์ที่ได้แล้วค่อยไปหาข้อมูลเอาข้างหน้าละกัน
(อีประโยคสวยๆข้างบนตอนขึ้นกระทู้ ก็มาจากการได้ข้อมูลมาแล้วนั่นแหละ)
เอาหล่ะ จากนี้เป็นต้นไปเราจะทำการรีวิว คุณศูนย์ BAAC ในแบบฉบับที่เราเข้าใจ
จากคุณหมอ จากคุณโบร์ชัว และจากคุณอินเตอร์เน็ต
สรุปว่างี้ BAAC คุณเขาเป็นศูนย์การแพทย์ชะลอวัยและความงาม
ซึ่ง BAAC เนี่ย เขาย่อมาจาก Bangkok Anti-Aging Center ถ้าถามว่าคืออะไร
Medicine) คือการดูแลสุขภาพทุกระบบไปพร้อมๆกัน โดยเน้นการป้องกัน
ปัญหาสุขภาพนั้นได้รับการแก้ไขแล้วอย่างแท้จริง เพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดี
ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ
เป็นไงภาษาทางการมั้ย คือนี่ก๊อปมาจากเน็ตน่ะ
5555+ เอางี้ถ้างงเราจะเล่าในแบบเรานะ เพราะตอนที่เราอ่านคือเราไม่ค่อยเก็ท
และมีคำถามในหัวเต็มไปหมด ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องมา (หมายถึงมาแบบเสียเงินนะ)
แล้วมันจะดีกับตัวเรายังไง ไปโรงบาลไม่ได้หรอ
สรุปสิ่งที่ได้คือ ปกติการไปโรงบาลของเรา
คือไปเพื่อรักษาถูกมั้ย แต่BAACนี่ เรามาเพื่อดูแลและป้องกัน รวมไปถึงฟื้นฟู
มันก็คือแนวคิดป้องกันไว้ก่อนนั่นเองจร้า เก็ทแล้วใช่มั้ย
เอาหล่ะจะมาเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟัง
ก็พอเราไปถึง BAAC นะ อ้า!ลืมบอกไป นี่เราไปสาขาสยาม
ซึ่งคุณเขาตั้งอยู่บนโรงแรมปทุมวันปริ้นเซสจร้า
พอเราไปถึงเนี่ย คุณเจ้าหน้าที่ก็เอาฟอร์มมาให้เรากรอกประวัติ
นี่ก็กรอกๆ โหยถามถึงเรื่องการใช้ชีวิตเราด้วยนะ แบบตื่นกี่โมง นอนกี่โมง
กินข้าวกี่มื้อ การขับถ่ายงี้ แล้วก็อีกเยอะเลย
นี่ก็กรอกๆไปพร้อมยิ้มสวยๆให้กับคุณเจ้าหน้าที่ไปด้วย
พอกรอกเสร็จสิ่งที่เราทำต่อไปคือ กินน้ำ เอ้า!!จะเล่าทำไม
จากนั้นเราก็ไปทำการตรวจสุขภาพ
โดยเขามีโปรแกรมต่างๆในการตรวจวิเคราะห์ร่างกาย เริ่มจากการที่จนท.เรียกว่าเป็นการทำ
Bio Body Scan คือเขาจะมีแผ่นๆโลหะหรืออะไรสักอย่างเอาเป็นว่ามันคือแผ่นน่ะ
มาวางไว้ที่มือเรา เท้าเรา แล้วก็มีสายระโยงระยางแปะที่ร่างกายเรา
ลืมละว่าแปะที่ไหนบ้าง แล้วคุณเครื่องนี้ก็จะทำงานของมัน
จากนั้นจร้านางจะมีผลออกมาบอกเราเลยอ่ะ
ว่าระบบต่างๆของร่างกายเราเป็นไงบ้าง ระบบทางเดินหายใจงี้ ระบบการย่อยอาหาร
ระบบสมอง ฮอร์โมน การเผาผลาญอะไรพวกนี้
การสแกนนี้ในโบร์ชัว์บอกว่าตรวจได้ 8 ระบบนะ
มาต่อ....
ก็พอสแกนนี่ก็ตกใจผลของตัวเองเบาๆนะ คือไม่ค่อยดูดีเท่าไหร่ แต่ก็เข้าใจได้นะ
เพราะช่วงที่ผ่านมาเรามีเรื่องเครียดเยอะ นอนก็ไม่ค่อยหลับ
และที่สำคัญก่อนมาตรวจเนี่ย คือไปเที่ยวมานอนตี5 แล้วมาตรวจตอนประมาณบ่ายกว่าๆ
คิดดูดิ่นอนไม่กี่ชั่วโมง ร่างกายก็ล้า แถมล้าสะสมมาเป็นเดือนๆละ
(จริงๆการใช้ชีวิตของเราก็ห่วยแตกอยู่แล้ว)
จากนั้นจนท.จะพาเราไปเจาะเลือด
คุณพยาบาลเขาก็จะเจาะเลือดเราเพื่อส่งไปตรวจที่Lab ซึ่งผลเลือดเราก็จะต้องรอผลLabนะ
คือทำให้ต้องมีนัดฟังผลอีกที เขาจะตรวจแบบละเอียดเลย
เจาะเลือดแล้ว ต่อมาเขาก็มาตรวจ Live Blood Analysis มันเป็นการวิเคราะห์เลือดอ่ะ
แล้วเราก็จะเห็นลักษณะของเม็ดเลือดเราเลยนะ ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดแดงไรงี้
จะเห็นเลยว่าเม็ดเลือดเราสวยมั้ย เรียงตัวไง มีอะไรตกค้างมั้ย อย่างพวกโลหะหนัก สารปรอทไรงี้
ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นวันแรกของการมาตรวจสุขภาพที่
BAAC โดยเราต้องมีการนัดมาฟังผลและพูดคุยกับคุณหมออีกครั้งเรื่องผลเลือดที่ออกมา
ถามว่า แล้วทำไมไม่ไปตรวจโรงบาล คืองี้
ตรวจโรงบาลก็ต้องไปนะ จำเป็น แต่การไปตรวจสุขภาพที่โรงบาลคือดูว่าเราสุขภาพเป็นไงและป่วยรึยัง
หรือเรามีโลหะหนักในร่างกายมากไป มีสารปรอทในเลือดนะเว้ย!!
เรามีน้ำล้นขวดแล้ว คือป่วยแล้วต้องรักษา หรือ โรงบาลอาจจะบอกได้ว่า คุณมีน้ำในขวด
90มล.แล้วนะ ใกล้ล้นแล้วต้องรักษา
คุณมีน้ำ 60มล.นะ เหลือพื้นที่ใส่น้ำอีกแค่ 40มล.เท่านั้น คุณต้องดูแลตัวเองละนะ
อย่าเติมน้ำเพิ่มนะ หรือยังไงใช้น้ำซะ ดื่มน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่ในขวดเพิ่มนะ อะไรประมาณนี้
ที่ BAAC จึงเป็นที่ๆจะบอกว่าเราต้องดูแล และรักษาสุขภาพ
รักษาสุขภาพทางไหนแนวไหนที่เหมาะกับเรา ร่างกายเราขาดอะไร ต้องดูแลส่วนไหนเป็นพิเศษประมาณนี้
ยิ่งผลเลือดออกมา ได้คุยกับหมอ คุณหมอจะอธิบายถึงความทรุดโทรมของร่างกายเราได้ดีมาก
ที่สำคัญคุณหมอแนะนำทั้งวิธีการใช้ชีวิต ทำให้เรามองเห็นความเลวร้ายของเรา ที่เราทำกับร่างกายเราอ่ะ
คืองี้ ผลเลือดของฝนเนี่ย ขอเล่าคร่าวๆนะ เล่าแบบเท่าที่จำได้ คือ ออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แล้วปัญหาอีกอย่างคือ
ดิฉันมีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจจร้า คือคุณไตและคุณหลอดเลือดไรเนี่ย
มีค่าอะไรสูงมากแบบ...ปกติต้องรุ่นคนแก่ถึงจะมีค่าแบบนี้อ่ะ แต่นี้มีแล้วอ่ะ
คือถ้ายังใช้ชีวิตแบบนี้อยู่เนี่ย อนาคตเสี่ยงเป็นโรคหัวใจแน่ๆ
ซื้อประกันที่รักษาโรคหัวใจและโรคไตโดยเฉพาะไว้ได้เลยจร้า
มีโอกาสเป็นโรคเหล่านี้ได้มากเป็นพิเศษ
เนี่ยการมาที่ BAAC ทำให้เราเห็นชีวิตเรามากขึ้น
และคุณหมอจะบอกวิธีการดูแลสุขภาพของเรา ไปตั้งแต่เรื่องการกินอาหาร การดื่มน้ำ
การขับถ่าย การนอน ไปจนถึงการออกกำลังกาย และสารอาหาร
วิตามินที่ร่ายกายควรได้รับเป็นพิเศษ เอาจริงๆแค่การได้มาตรวจสุขภาพ
ได้มาคุยกับคุณหมอคือโครตคุ้มแล้วอ่ะ และทำให้เราหันมาสนใจร่างกายเรามากขึ้น
จากที่ปกติเราใช้งานมันอย่างเดียว
หลักจากคุยกับหมอ เราก็จะรู้ว่าร่างกายเราต้องดูตรงไหนเป็นพิเศษ
ต้องได้รับวิตามินอะไรเป็นพิเศษ และที่นี่เขาก็มีโปรแกรมดูแลสุขภาพอีกเยอะมาก
เพื่อให้เราได้ดูแลสุขภาพให้ถูกจุด ให้เหมาะกับสิ่งที่ร่างกายขาดหรือกำลังต้องการ
สิ่งที่เราชอบสำหรับที่นี่นะ
คือเจ้าหน้าที่ก็บอกเราว่าสิ่งที่เราควรแก้ปัญหาคืออะไร
มีโปรแกรมอะไรบ้างที่จะช่วยเรา โปรแกรมอะไรที่เหมาะกับสุขภาพของเรา มันเหมือนเป็นการป้องกันให้ถูกจุดไง
แล้วแบบพวกการดริบวิตามันอ่ะ คือมันจะเป็นการได้รับวิตามินที่เหมาะสม
ที่ BAAC เขาวิเคราะห์มาแล้วไง วิเคราะห์โปรแกรมดริบวิตามินที่เป็นของเราโดยเฉพาะ นี่ชอบตรงนี้เลย
ส่วนถามว่าหลังจากฝนเจอคุณหมอแล้ว
ฝนซื้อโปรแกรมต่างๆเลยมั้ย ขอตอบตรงนี้เลยว่า
“ยังค่ะ”
คือเราขอกลับบ้านไปคิดก่อน
คุณเจ้าหน้าที่เขาก็น่ารักนะ บอกแล้วว่าเขาไม่ได้ตื๊อขนาดนั้น
เขาก็โอเคนะที่เราจะกลับไปคิด นั่นแปลว่าใครที่คิดว่า เข้าไปแล้วจะถูกหลอกล่อให้เสียเงิน
หรือถูกพนักงานยึดบัตรเครดิตแบบบางที่ ที่นี่ไม่เป็นแบบนั้นอ่ะ
แต่เอาจริงๆนะ คือจริงๆแล้ว เราก็คิดว่าจะซื้อสักโปรแกรมนั่นแหละ ไม่ได้คิดว่าจะต้องทบทวนอะไรมากมายหรอก
เราก็อ้างคุณเจ้าหน้าที่ไปงั้นแหละ
เรื่องของเรื่องคือพอดีวันนั้นเรายังไม่พร้อมเรื่องเงินน่ะ 5555+
เราใช้บัตรเครดิตเต็มวงเงินไปแล้ว คือช้อปหนักมากช่วงที่ผ่านมา ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า
ดีนะที่เขาไม่ได้วอแวกับเรามาก เราเลยขอผ่านไปก่อน
แต่สุดท้ายเราก็นัดกลับไปอีกรอบ
คราวนี้ไม่ได้มาตรวจสุขภาพละ เพราะตรวจไปแล้ว คราวนี้คือจะมาลองดริบวิตามิน
ส่วนจะเป็นยังไง ไว้กลับมาเล่าให้ฟังต่อนะ ขอเก็บข้อมูลอีกสัก 2-3 ครั้งก่อน
กลับมาอ่านกันด้วยนะ ^___^
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้