คนเรามีทั้งสุขเเละก็ทุกข์ข้อนี้จริงเสมอ เเต่คนเรามักเอาเเต่วิ่งหาความสุขที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม เเทนที่จะหาวิธีตัดความทุกข์ ไห้เหลือเเต่ความสุข เมื่อตัดความทุกข์เเล้ว มันก็เหลือเเต่สุข สุขเท่าไหร่ก็คือสุขเสมอ เเต่คนเราวิ่งหาเเต่ความสุข อย่าลืมว่าชีวิตนี้มันไม่ไช่อิฐไช่ปูน มันมีเเต่เสื่อมลงทุกวันที่จะมีเเรงเติมได้ตลอดเวลาหรือปล่าว ลองนึกสิว่า กำลังเติมน้ำในเเก้วทีรั่ว คนเติมคือกำลัง เเก้วคือจิตใจ น้ำคือความสุข ความทุกข์คือรูรั่ว มันจะมีความสุขตอนที่มีเเรงเติมเท่านั่น คนที่ไม่รู้วิธีอุดรูรั่วเค้าก็ต้องดิ้นรนนานเข้าก็ทุรนทุราย หาวิธีทำไห้น้ำในเเก้วไม่ลด ยิ่งชีวิตคู่ เเรกๆมันก็มีเเรงเยอะ เเต่มันมีข้อเสียที่ไม่สามารถเติมคนเดียวได้ คนนึงเติมคนนึงไม่เติมกำลังใจไม่ดี ก็พังทั้งคู่ เเล้วจะอุดรูรั่วยังไงเหรอ?? รูรั่วก็คือความทุกข์ครับ ตัดความทุกข์พระพุทธเจ้าสอนไว้หมดเเล้ว เเต่อย่าคิดว่าตัดทุกข์เเล้วเราจะไม่มีความรู้สึกเพราะหลายๆคนคิดเเบบนี้เลยกลัวๆกล้าๆสุดท้ายไม่สนใจ ยอมอยู่กับความสุขความทุกข์ปะปนไปทั้งชีวิต พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนเรื่องตัดความสุขนะครับ เเต่สอนเมื่อคนเรามีความสุขเเล้วอย่าไปยึดติดเเค่นั่น มีเท่าไหร่ก็เท่านั่น เเม้สุขเล็กน้อยก็คือสุขเเล้วครับ ลองคิดสิครับ ความสุขที่ไม่มีความทุกข์มาเจอปน มันจะสุขเเค่ไหน มันง่ายกว่าวิ่งหาความสุขมาเติมทั้งชีวิตมั้ย ลองคิดว่าเวลาเติมไม่ไหวสิครับ ลองคิดเถอะครับ จะได้ไม่ทุรนทุราย ดิ้นรน เคร้าหมองเพื่อเเค่ต้องการความสุขที่ไม่มีวันเต็ม 🙏🙏
ความทุกข์ อกหัก