ก่อนที่คนทั้งโลกจะจดจำ
ไมเคิล เบย์ ในฐานะผู้กำกับหนังทุนสูง ระเบิดภูเขา เผากระท่อมเป็นว่าเล่น
เบย์เคยเริ่มต้นกำกับหนังขนาดยาวเรื่องแรก Bad Boys (1995) ด้วยทุนสร้างเพียง 19 ล้านเหรียญสหรัฐ (
บวกกับความไม่มั่นใจในตัวหนังของสตูดิโอ จนทำให้ระหว่างสร้าง หนังมีสภาพเหมือนลูกเมียน้อย)
ด้วยความทุนต่ำ เบย์จึงต้องงัดประสบการณ์จากการกำกับโฆษณาและมิวสิควิดีโอมาใช้ เช่น การตัดต่อซีเควนซ์ปล้นโรงพักแบบเร็วๆ
"มันเป็นการตัดต่อแบบเร็วมาก เพราะว่าเราไม่มีเงิน" เบยเล่า
"เรามีเงินประมาณ 15,000 เหรียญ เพื่อสร้างฉากขนาดเล็ก ถ้าคุณเห็นมันนานเกินไป คุณก็จะมองเห็นความราคาถูกของมัน พูดกันตรงๆ มันเกือบจะเหมือนกำแพงกระดาษแข็ง"
หรือฉากแอ็กชั่นบางฉาก เบย์ก็เพิ่มความตื่นเต้นให้กับซีนด้วยเทคนิคเบสิกอย่างการยิงปืนสองมือแบบสโลว์โมชั่น ซึ่งเขาอ้างว่า
"ฉากนี้ผมทำก่อนดูหนัง 'จอห์น วู' นะ ดังนั้น จงอย่าคิดว่าผมลอกเขามาล่ะ"
นอกจากนี้ เมื่อไม่มีเงินหารถเท่ๆให้นักแสดงขับ เบย์จึงต้องเสียสละเอารถยนต์ของตัวเองมาเข้าฉาก
และที่ฟังดูหนักหนามากคือ เบย์และสองนักแสดงนำทั้ง
วิลล์ สมิธ และ
มาร์ติน ลอว์เรนซ์ ต้องมานั่งระดมไอเดียกันเพื่อคิดบทพูดหรือแอ็กชั่นบางอย่างกันเองเพื่อให้หนังดูสนุกและตลกขึ้น เพราะสตูดิโอให้เงินค่าแก้ไขบททั้งเรื่องแค่ 10,000 เหรียญ
นั่นจึงทำให้หลายฉาก เต็มไปด้วยการด้นสดของนักแสดง ซึ่งก็เข้าแก๊ปผู้กำกับอย่างเบย์ ผู้เชื่อว่าการคิดงานหน้ากองถ่ายทำ จะทำให้หนังดูสดใหม่และดีกว่าที่บทเขียน
และนั่นก็รวมถึงช็อตซิกเนเจอร์ของหนังเรื่องนี้ ที่เป็นภาพสองตัวละครนำค่อยๆยืนขึ้น พร้อมสีหน้าเหนื่อยหอบแบบเท่ๆ ต่อหน้ากล้องที่หมุนรอบตัวพวกเขา
"ผมบอกไลน์โปรดิวเซอร์ว่า 'เราต้องถ่ายช็อตนี้ มันเป็นช็อตที่อยู่ในหัวผม' แต่เขาบอก 'มันไม่มีในบทนี่หว่า' ผมเลยบอกเขา 'เราจะดอลลี่รอบตัวพวกเขา และให้พวกเขาลุกขึ้นมา และช็อตนี้ จะเป็นช็อตตัวอย่างหนัง' มันเป็นซิกเนเจอร์ที่พวกเขาใช้ในตัวอย่างหนัง อืมมม บางครั้ง ก็ต้องไฟท์เพื่อให้ได้ช็อตที่ต้องการ ในเวลาที่คุณเป็นผู้กำกับ บางครั้ง คุณก็ต้องคิดหน้ากอง มันจะทำให้หนังออกมาดีขึ้น"
เบย์อธิบาย ซึ่งเขาเองก็แพลนทุกอย่างในหัวก่อนถ่ายทำ ทว่าเมื่อถึงตอนออกกองจริง ดันถูกกรอบเวลาบีบ เบย์ก็ต้องดิ้นเอาตัวรอดให้ได้
และรางวัลของการดิ้นรนนั้น ก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อ Bad Boys ทำเงินในอเมริกาไปถึง 65 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมทั่วโลกมากถึง 141 ล้านเหรียญ เปิดโอกาสให้ไมเคิล เบย์ได้ทำหนังเบอร์ใหญ่กว่าอย่าง The Rock (1996) และ Armageddon (1998) ส่วนคู่หูขวางนรกเอง ก็มีภาคต่อ Bad Boys II (2003)
อย่างไรก็ตาม แม้ Bad Boys จะมีเงินน้อย แต่เบย์ก็เริ่มประทับเครื่องหมายการค้าของเขาเอาไว้อย่างฉากที่ตัวละครยิงถังสารเคมีจนเกิดเปลวไฟลูกใหญ่
"ผมจ่ายเงินไปเพื่อซีนนี้แหละ อภินันทนาการโดยไมเคิล เบย์ล่ะ"
ติดตามอ่านเกร็ดเบื้องหลัง/รีวิวหนังในสไตล์ 'สิงห์ท้ายโปรแกรม' ได้ที่
https://www.facebook.com/TheLastShowtimeTH/
Bad Boys (1995) ถูกสร้างด้วยทุนต่ำ จนผู้กำกับ 'ไมเคิล เบย์' ต้องเอารถหรูของตัวเองเข้าฉาก
ก่อนที่คนทั้งโลกจะจดจำ ไมเคิล เบย์ ในฐานะผู้กำกับหนังทุนสูง ระเบิดภูเขา เผากระท่อมเป็นว่าเล่น
เบย์เคยเริ่มต้นกำกับหนังขนาดยาวเรื่องแรก Bad Boys (1995) ด้วยทุนสร้างเพียง 19 ล้านเหรียญสหรัฐ (บวกกับความไม่มั่นใจในตัวหนังของสตูดิโอ จนทำให้ระหว่างสร้าง หนังมีสภาพเหมือนลูกเมียน้อย)
ด้วยความทุนต่ำ เบย์จึงต้องงัดประสบการณ์จากการกำกับโฆษณาและมิวสิควิดีโอมาใช้ เช่น การตัดต่อซีเควนซ์ปล้นโรงพักแบบเร็วๆ
"มันเป็นการตัดต่อแบบเร็วมาก เพราะว่าเราไม่มีเงิน" เบยเล่า "เรามีเงินประมาณ 15,000 เหรียญ เพื่อสร้างฉากขนาดเล็ก ถ้าคุณเห็นมันนานเกินไป คุณก็จะมองเห็นความราคาถูกของมัน พูดกันตรงๆ มันเกือบจะเหมือนกำแพงกระดาษแข็ง"
หรือฉากแอ็กชั่นบางฉาก เบย์ก็เพิ่มความตื่นเต้นให้กับซีนด้วยเทคนิคเบสิกอย่างการยิงปืนสองมือแบบสโลว์โมชั่น ซึ่งเขาอ้างว่า "ฉากนี้ผมทำก่อนดูหนัง 'จอห์น วู' นะ ดังนั้น จงอย่าคิดว่าผมลอกเขามาล่ะ"
นอกจากนี้ เมื่อไม่มีเงินหารถเท่ๆให้นักแสดงขับ เบย์จึงต้องเสียสละเอารถยนต์ของตัวเองมาเข้าฉาก
และที่ฟังดูหนักหนามากคือ เบย์และสองนักแสดงนำทั้ง วิลล์ สมิธ และ มาร์ติน ลอว์เรนซ์ ต้องมานั่งระดมไอเดียกันเพื่อคิดบทพูดหรือแอ็กชั่นบางอย่างกันเองเพื่อให้หนังดูสนุกและตลกขึ้น เพราะสตูดิโอให้เงินค่าแก้ไขบททั้งเรื่องแค่ 10,000 เหรียญ
นั่นจึงทำให้หลายฉาก เต็มไปด้วยการด้นสดของนักแสดง ซึ่งก็เข้าแก๊ปผู้กำกับอย่างเบย์ ผู้เชื่อว่าการคิดงานหน้ากองถ่ายทำ จะทำให้หนังดูสดใหม่และดีกว่าที่บทเขียน
และนั่นก็รวมถึงช็อตซิกเนเจอร์ของหนังเรื่องนี้ ที่เป็นภาพสองตัวละครนำค่อยๆยืนขึ้น พร้อมสีหน้าเหนื่อยหอบแบบเท่ๆ ต่อหน้ากล้องที่หมุนรอบตัวพวกเขา
"ผมบอกไลน์โปรดิวเซอร์ว่า 'เราต้องถ่ายช็อตนี้ มันเป็นช็อตที่อยู่ในหัวผม' แต่เขาบอก 'มันไม่มีในบทนี่หว่า' ผมเลยบอกเขา 'เราจะดอลลี่รอบตัวพวกเขา และให้พวกเขาลุกขึ้นมา และช็อตนี้ จะเป็นช็อตตัวอย่างหนัง' มันเป็นซิกเนเจอร์ที่พวกเขาใช้ในตัวอย่างหนัง อืมมม บางครั้ง ก็ต้องไฟท์เพื่อให้ได้ช็อตที่ต้องการ ในเวลาที่คุณเป็นผู้กำกับ บางครั้ง คุณก็ต้องคิดหน้ากอง มันจะทำให้หนังออกมาดีขึ้น"
เบย์อธิบาย ซึ่งเขาเองก็แพลนทุกอย่างในหัวก่อนถ่ายทำ ทว่าเมื่อถึงตอนออกกองจริง ดันถูกกรอบเวลาบีบ เบย์ก็ต้องดิ้นเอาตัวรอดให้ได้
และรางวัลของการดิ้นรนนั้น ก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อ Bad Boys ทำเงินในอเมริกาไปถึง 65 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมทั่วโลกมากถึง 141 ล้านเหรียญ เปิดโอกาสให้ไมเคิล เบย์ได้ทำหนังเบอร์ใหญ่กว่าอย่าง The Rock (1996) และ Armageddon (1998) ส่วนคู่หูขวางนรกเอง ก็มีภาคต่อ Bad Boys II (2003)
อย่างไรก็ตาม แม้ Bad Boys จะมีเงินน้อย แต่เบย์ก็เริ่มประทับเครื่องหมายการค้าของเขาเอาไว้อย่างฉากที่ตัวละครยิงถังสารเคมีจนเกิดเปลวไฟลูกใหญ่
"ผมจ่ายเงินไปเพื่อซีนนี้แหละ อภินันทนาการโดยไมเคิล เบย์ล่ะ"
ติดตามอ่านเกร็ดเบื้องหลัง/รีวิวหนังในสไตล์ 'สิงห์ท้ายโปรแกรม' ได้ที่
https://www.facebook.com/TheLastShowtimeTH/