CEMS MIM Program ทางเลือกเรียนต่างประเทศที่น่าสนใจ

CEMS MIM Program ทางเลือกเรียนต่างประเทศที่น่าสนใจ

ความจริงคนเขียนเรื่องนี้ควรเป็นลูกสาวเพราะเธอศึกษาสมัครและสุดท้ายตอนนี้ได้รับการตอบรับเข้าเรียนแล้วและจะเดินทางอาทิตย์หน้า(11.9.62)  แต่เพราะเธออ้างว่างานเยอะก็เลยผลัดวันมาเรื่อยๆแต่ก็เพราะผมเป็นคนแนะให้เธอเป็นคนเขียนเพื่อให้คนอื่นๆได้รู้เรื่องของCEMS Program สุดท้ายผมก็เลยลงมือเขียนแทน555

คิดว่าหลายคนคงไม่เคยได้ยินCEMS (www.cems.org) เป็นความร่วมมือของมหาวิทยาลัย33 แห่งทั่วโลกร่วมกันกำหนดหลักสูตรMaster in International Management เรียกว่าCEMS MIM โครงการนี้เริ่มต้นเมื่อปี1988  โดย 
ESADE - เสปน,
HEC Paris - ฝรั่งเศส, 
Bocconi University อิตาลีและ
University of Cologne - เยอรมัน 

ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยจากทั่วโลก32 มหาวิทยาลัยร่วมโครงการเช่น
Copenhaken Business School - เดนมาร์ก(CBS)
HKUST Business school - ฮ่องกง, 
Keio University - ญี่ปุ่น, 
National University of Singapore - สิงคโปร์(NUS)
London School of Economics and Political Science - อังกฤษ(LSE)
และปีหน้าจะมีมหาวิทยาลัยในกลุ่มIvy league จากสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมคือ
Cornell University - สหรัฐอเมริกา

มหาวิทยาลัยต่างๆที่เข้าร่วมมีทุกทวีปเอเซีย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย อาฟริกาและมีมากสุดในทวีปยุโรปมีเกือบทุกประเทศที่น่าสังเกตคือหนึ่งประเทศมีเพียงหนึ่งมหาวิทยาลัย

รวมกันกับบริษัทชั้นนำและบรรดาNGOs เกือบ70 บริษัทมาร่วมรับนักศึกษาฝึกงานและรับเข้าทำงานด้วยเช่น 
Maersk, AT Kearney, ABB
Bain & Company, Bayer, Beiersdorf, 
Facebook, Google, L’Oreal, LVMH

CEMS MIM หลักสูตรได้รับการจัดอันดับด้านInternational Management ในระดับTOP 10 ติดต่อกันนานหลายปีเช่น 
Financial Time Ranking 2018 ได้อันดับ9
QS Master in Management ได้อันดับ8
Economist Ranking 2019 ได้อันดับที่8

หลักสูตรนี้น่าสนใจที่
/กำหนดให้ต้องไปแลกเปลี่ยนในมหาวิทยาลัยในกลุ่ม1 เทอม
/กำหนดให้ต้องฝึกงานในบริษัทหรือองค์กรที่เป็นพาร์ทเนอร์
/มหาวิทยาลัยจะเวียนกันจัดJob Fair ให้นักศึกษาสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงานหรือฝึกงานหากยังไม่จบการศึกษารวมถึงศิษย์เก่าสามารถเข้าร่วมสมัครเพื่อหางานได้ด้วย
/ศิษย์เก่าจำนวนมากกว่า14,000 คนทำงานในมากกว่า75 ประเทศ
อื่นๆ

ข้อมูลข้างต้นสามารถหาเพิ่มได้จาก www.cems.org 

ด้วยหลักสูตรที่น่าสนใจที่สำคัญ”ค่าเรียนไม่แพงมาก” จนเกินกำลังยิ่งสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่เยี่ยมที่สุดคือมีมหาวิทยาลัยของนอร์เวย์(Norwegian School of Economics NHH) “เรียนฟรี” คือไม่เก็บค่าเรียนเลยแต่บางมหาวิทยาลัยค่าเรียนก็“หลักล้าน” ใครสนใจเรียนที่ไหนมีความสามารถจ่ายค่าเรียนมากน้อยก็สามารถเลือกสมัครได้หลายๆแห่งก็มีทุนการศึกษาสามารถสมัครทุนพร้อมตอนสมัครเรียนได้เลย

คิดว่าหลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้คงอยากทราบว่าต้องมีคุณสมบัติอย่างไรจึงจะสามารถสมัครเรียนได้อยากเล่าให้ฟังก่อนที่จะลงในรายละเอียดเพราะตอนที่ลูกสาวหาข้อมูลก็ค่อนข้างงงกับระบบของCEMS อยู่เหมือนกัน

ในหลักการCEMS เป็นหน่วยงานที่คอยกำกับกำหนดมาตรฐานให้มหาวิทยาลัยสมาชิก
เช่นระดับความสามารถทางภาษามาตรฐานการศึกษาเป็นต้น
โดยรายละเอียดการเรียนการสอนการสอบเป็นหน้าที่ของแต่ละมหาวิทยาลัยดังนั้นเวลาเราต้องการสมัครมหาวิทยาลัยไหนเราก็เข้าไปดูหมายกำหนดการของแต่ละมหาวิทยาลัยอาจจะไม่เหมือนกันเช่นกำหนดรับสมัครจำนวนรับสมัครจำนวนรอบรับสมัครวิธีการสอบเข้าตลอดไปจนจำนวนวิชารายละเอียดวิชาการสอบหรือ/และอื่นๆ 

ยกตัวอย่าง 
หากต้องการสมัครเรียนที่
Vienna University of Econamics and Business - ออสเตรีย(WU)
https://www.cems.org/academic-members/our-members/vienna-university-economics-business?#school-mim
ก็ให้สมัครเรียนหล้กสูตร
        Master of Science International Management / CEMS

หากต้องการเรียนที่CBS Copenhagen Business School 
https://www.cems.org/academic-members/our-members/copenhagen-business-school?#school-mim
ก็มีหลักสูตรให้เลือก 
MSc in Economics and Business Administration / cand.merc.
MSc in Business, Language and Culture / cand.merc.int.
MSc in International Business and Politics / cand.merc. (pol.)

คล้ายกับว่าหลักสูตรCEMS MIM แทรกอยู่ในหลักสูตรข้างต้นหมายความว่าแม้นเราเรียนหลักสูตร1 ใน3 ข้างต้นก็ไม่ได้รับประกันว่าจะได้เรียนหลักสูตรCEMS MIM หรือไม่เพราะต้องมีคุณสมบัติครบจึงจะสมัครได้

คุณสมบัติของผู้สมัคร
เรียนจบชั้นปริญญาตรีด้านบริหารเศรษฐศาสตร์หรือสามารถที่เกี่ยวข้อง
ความสามารถภาษาอังกฤษระดับTOEFL iBT100, IELTS 7.0 หรือจบจากมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองEQUIS/ AACSB-accredited institution
นอกจากนี้ผู้สมัครต้องมีความสามารถภาษาที่3, บางมหาวิทยาลัยกำหนดให้ยื่นเอกสารรับรองตอนสมัครแต่บางแห่งให้ยื่นเมื่อเรียนจบภาษาที่3 ที่สามารถยื่น

Arabic, Bengali, Cantonese, Czech/Slovak, Danish, Dutch/Afrikaans, Farsi/Tajik, Finnish, French, German, Greek, Hebrew, Hindi/Urdu, Hungarian, Indonesian/Malay, Irish, Italian, Japanese, Korean, Mandarin, Norwegian, Polish, Portuguese, Romanian, Russian, Serbo-Croat (Bosnian, Croatian, Serbian, Montenegrin), Spanish, Swedish, Tagalog, Tamil, Thai, Turkish and Vietnamese.

 4. มีประสบการณ์ในต่างประเทศเช่นการเรียนแลกเปลี่ยนไปช่วงซัมเมอร์การทำงานฝึกงานเป็นต้น
อื่นๆแล้วแต่แต่ละมหาวิทยาลัยจะกำหนด

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับบางคนที่กำลังมองหาที่เรียนในต่างประเทศน่าจะเป็นอีกทางเลือก

สุดท้ายขอเล่าเรื่องการสมัครเรียนของลูกสาวให้ฟังเพื่อเป็นตัวอย่าง
อาจไม่ละเอียดมากเพราะเจ้าตัวไม่ได้เป็นคนเล่าเอง

ครั้งแรกที่รู้จักหลักสูตรCEMS MIM ก็สัก3 ปีก่อนลูกสาวตอนนั้นยังเรียนปีสุดท้ายด้วยความที่หลักสูตรน่าสนใจเรื่องการไปแลกเปลี่ยนการฝึกงานในบริษัทระดับโลกค่าเรียน/ค่ากินอยู่เมื่อเทียบกับอเมริกาและอื่นๆ 
แต่เมื่อเข้าไปศึกษารายละเอียดพบว่าคุณสมบัติผู้สมัครที่ต้องการความสามารถภาษาที่3 ระดับ( B2 Oral , B1 Written ) ที่ต้องใช้ในการยื่นสมัคร 
(3 ปีก่อนนั่นต้องยื่นเมื่อสมัครปัจจุบันยื่นเมื่อเรียนจบ) 
ทำให้เธอไม่สามารถสมัครได้ทัน(เธอเรียนภาษาเยอรมันตอนชั้นมัธยมปลายตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็ทิ้งไปไม่ได้ทบทวนเพราะคิดว่าคงไม่ได้ใช้แล้ว)
และเมื่อเธอเรียนจบทำงานก็เลยหมดความสนใจในCEMS MIM
อีกทั้งภาษาเยอรมันระดับB1,B2 หากฝึกฝนในประเทศไทยคงยาก
จึงมุ่งความสนใจในมหาวิทยาลัยในประเทศอื่นแทน
จนเมื่อปีที่แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงให้สามารถยื่นภาษาที่3 ได้เมื่อเรียนจบ
ประกอบกับมหาวิทยาลัยบางแห่งยกเว้นระดับภาษาอังกฤษหรือลดคะแนนGmat ลง
หากมหาวิทยาลัยเมื่อครั้งเรียนปริญญาตรีเรียนในหลักสูตรinternational program 
และได้รับEQUIS/ AACSB-accredited อีกทั้งเป็นสมาชิกของPIM 

ที่สุดเธอสมัครไปทั้งหมด4 แห่ง
WU - Vienna University of Economics and Business - ออสเตรีย
VSE - University of Economics,Prague - เชค
NHH - Norwegien School of Economics - นอรเวย์
KUB - Korea University Business School - เกาหลีใต้

ของVienna เธอไม่ผ่านการคัดเลือกคิดว่าเป็นเพราะคะแนนGmat, GPA น้อยเกินไป

ของKorea เธอสมัครทุนและได้รับการคัดเลือกแต่สุดท้ายไม่เลือกเพราะให้ทุนน้อยเกินไป

ของNorway ได้รับการคัดเลือกเช่นกันหลักสูตรที่นี่น่าสนใจมากๆแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เลือกเพราะที่ตั้งของมหาวิทยาลัยและค่าครองชีพสูงแม้นว่าที่นี่ให้เรียนฟรีแต่เมื่อคิดรวมค่าใช้จ่ายรวมค่ากินอยู่ทั้งหมดน่าจะพอๆกับเรียนที่ประเทศเชค 

ที่VSE เมื่อได้รับการคัดเลือกรอบแรกเธอต้องเดินทางไปสัมภาษณ์ที่กรุงปรากเมื่อเธอได้มีโอกาสไปที่นั่นได้เห็นบ้านเมืองที่นั่น(เธอตัดสินใจไม่เลือกNHH เพราะอากาศและค่าครองชีพที่ได้ข้อมูลจากเพื่อนในมหาวิทยาลัยที่ไปแลกเปลี่ยนที่norway) ทำให้เธอตัดสินใจเลือกเรียนที่ปราก 

กำหนดการเดินทางเดือนกันยายนานี้

ล่าสุดทางVSE แจ้งให้ทราบว่าจะมีงานjob fair ที่ประเทศฮังการี่นักเรียนทุกคนสามารถเลือกที่จะเข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อฝึกงานได้คนละ6 บริษัท 
Facebook คือหนึ่งในบริษัทที่เธอเลือกเข้ารับการสัมภาษณ์

จบแล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่