ผมเคยผ่านการผ่าตัดใส่เหล็กดามหลัง เนื่องจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเมื่อ 7 ปี ที่แล้ว
มีแต่คนถามว่าไปผ่าตัดทำไม เลยต้องเล่ากันยาว ว่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมา
เกือบ 30 ปี จนก่อนผ่านตัด ขาอ่อนแรงทั้งสองข้าง เดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็น ถ้าไม่ผ่าก็ต้องนั่ง
รถเข็นไปตลอดชีวิต
4 ปีต่อมาหลังผ่าตัดดามเหล็ก เริ่มออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานซึ่งช่วงนั้นการปั่นจักรยานกำลัง
เป็นที่นิยมสุดๆ ผมปั่นสัปดาห์ละสี่วัน ปั่นมา 2 ปี ได้ระยะทางสะสมประมาณ 15,000 กม สุขภาพ
แข็งแรงมีความสุขมาก
ดีใจได้ปลื้มมา 2 ปี และแล้วอาการแปลกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น มีอยู่วันหนึ่งหลังปั่นจักรยาน อาบน้ำเสร็จ
ยืนอยู่เฉยๆ อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าหลังแข็งมากและเริ่มปวดหลังอย่างมาก ต้องลมตัวลงนอน ให้กล้ามเนื้อ
คลายตัวอยู่ประมาณเกือบ ครึ่งชั่วโมง
หลังจากนั้น ผมเริ่มปั่นจักรยานน้อยลง จากครั้งละ 50-60 กม. เหลือเพียง 20-30 กม. แต่อาการ
หลังล็อค(ไม่รู้ว่าเรียกถูกหรือเปล่า) กลับไม่หาย และแต่ละครั้งที่เป็นเริ่มยาวนานขึ้น จนต้องไป
หาหมอ ฉีดยาคลายกล้ามเนื่อและแก้ปวดจึงจะหาย
จนเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมมีอาการหลังยอกและเริ่มจะเป็นหนักขึ้น แต่ยังไม่ถึงขนาดหลังล็อค
ไป ร.พ. นอนอยู่ 1 คืน ฉีดยาคลายกล้ามเนื้อและทำกายภาพบำบัด คุณหมอให้กลับบ้านได้
โดยยังมีอาการปวดหลังอยู่นิดหน่อย คืนนั้น อยู่ๆ ก็เกิดอาการหลังล็อคขยับตัวไม่ได้ ขยับตัว
แต่ละครั้งเหมือนเป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อหลัง ที่บ้านต้องหามส่ง ร.พ.ตอนเที่ยงคืน นอน ร.พ.
รอดูอาการอยู่ 3 วันอาการทรงๆ ไม่ดีขึ้น คุณหมอรักษาโดยการฉีดสเตียรอย เข้าไขสันหลัง
โดยบอกว่าการรักษาเป็นเพียงการบรรเทาอาการปวดและการอักเสบเท่านั้น มีโอกาสกลับมา
เป็นอีก การรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดดามเหล็กในข้อที่เสื่อมเพิ่มเติม
ปลายเดือนที่แล้ว ผมแค่กวาดบ้านและถูบ้าน มีอาการหลังยอก ทานยาคลายกล้ามเนื่อและ
ยาแก้ปวด อาการปวดก็ยังไม่ทุเลา เลยตัดสินใจขับรถไป ร.พ. เพื่อฉีดยาคลายกล้ามเนื่อและ
ทำกายภาพบำบัด พอไปถึง ร.พ.ลงจากรถ อาการหลังล็อคก็มาทันที เดินก็ไม่ได้ กลับเข้า
ไปนั่งในรถก็ไม่ได้ ต้องเรียก รปภ.ให้ตามเจ้าหน้าที่นำรถเข็นมารับ นอนร.พ.อยู่ 5 คืน ต้อง
ฉีดสเตียรอยเข้าไขสันหลังอีกครั้ง
ปัจจุบัน อาการดีขึ้นแต่อาการปวดหลังและสโพกยังมีอาการอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าในระยะเวลาอันใกล้
ต้องผ่าตัดดามเหล็กเพิ่มอีกหรือเปล่า
จากหลังยอก กลายเป็น หลังล็อค
มีแต่คนถามว่าไปผ่าตัดทำไม เลยต้องเล่ากันยาว ว่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมา
เกือบ 30 ปี จนก่อนผ่านตัด ขาอ่อนแรงทั้งสองข้าง เดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็น ถ้าไม่ผ่าก็ต้องนั่ง
รถเข็นไปตลอดชีวิต
4 ปีต่อมาหลังผ่าตัดดามเหล็ก เริ่มออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานซึ่งช่วงนั้นการปั่นจักรยานกำลัง
เป็นที่นิยมสุดๆ ผมปั่นสัปดาห์ละสี่วัน ปั่นมา 2 ปี ได้ระยะทางสะสมประมาณ 15,000 กม สุขภาพ
แข็งแรงมีความสุขมาก
ดีใจได้ปลื้มมา 2 ปี และแล้วอาการแปลกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น มีอยู่วันหนึ่งหลังปั่นจักรยาน อาบน้ำเสร็จ
ยืนอยู่เฉยๆ อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าหลังแข็งมากและเริ่มปวดหลังอย่างมาก ต้องลมตัวลงนอน ให้กล้ามเนื้อ
คลายตัวอยู่ประมาณเกือบ ครึ่งชั่วโมง
หลังจากนั้น ผมเริ่มปั่นจักรยานน้อยลง จากครั้งละ 50-60 กม. เหลือเพียง 20-30 กม. แต่อาการ
หลังล็อค(ไม่รู้ว่าเรียกถูกหรือเปล่า) กลับไม่หาย และแต่ละครั้งที่เป็นเริ่มยาวนานขึ้น จนต้องไป
หาหมอ ฉีดยาคลายกล้ามเนื่อและแก้ปวดจึงจะหาย
จนเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมมีอาการหลังยอกและเริ่มจะเป็นหนักขึ้น แต่ยังไม่ถึงขนาดหลังล็อค
ไป ร.พ. นอนอยู่ 1 คืน ฉีดยาคลายกล้ามเนื้อและทำกายภาพบำบัด คุณหมอให้กลับบ้านได้
โดยยังมีอาการปวดหลังอยู่นิดหน่อย คืนนั้น อยู่ๆ ก็เกิดอาการหลังล็อคขยับตัวไม่ได้ ขยับตัว
แต่ละครั้งเหมือนเป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อหลัง ที่บ้านต้องหามส่ง ร.พ.ตอนเที่ยงคืน นอน ร.พ.
รอดูอาการอยู่ 3 วันอาการทรงๆ ไม่ดีขึ้น คุณหมอรักษาโดยการฉีดสเตียรอย เข้าไขสันหลัง
โดยบอกว่าการรักษาเป็นเพียงการบรรเทาอาการปวดและการอักเสบเท่านั้น มีโอกาสกลับมา
เป็นอีก การรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดดามเหล็กในข้อที่เสื่อมเพิ่มเติม
ปลายเดือนที่แล้ว ผมแค่กวาดบ้านและถูบ้าน มีอาการหลังยอก ทานยาคลายกล้ามเนื่อและ
ยาแก้ปวด อาการปวดก็ยังไม่ทุเลา เลยตัดสินใจขับรถไป ร.พ. เพื่อฉีดยาคลายกล้ามเนื่อและ
ทำกายภาพบำบัด พอไปถึง ร.พ.ลงจากรถ อาการหลังล็อคก็มาทันที เดินก็ไม่ได้ กลับเข้า
ไปนั่งในรถก็ไม่ได้ ต้องเรียก รปภ.ให้ตามเจ้าหน้าที่นำรถเข็นมารับ นอนร.พ.อยู่ 5 คืน ต้อง
ฉีดสเตียรอยเข้าไขสันหลังอีกครั้ง
ปัจจุบัน อาการดีขึ้นแต่อาการปวดหลังและสโพกยังมีอาการอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าในระยะเวลาอันใกล้
ต้องผ่าตัดดามเหล็กเพิ่มอีกหรือเปล่า