เราเช่าบ้านอยู่ เป็นทาวเฮาส์แฝดหลายๆหลังเรียงกัน มีบริเวณข้างบ้านนิดหน่อย
หมาข้างบ้าน(ไม่ติดกัน) แก่แล้ว ฉลาดมาก แถมตัวใหญ่แรงเยอะจนสามารถดันรั้วบ้านให้เปิดแล้วเข้ามาฉี่ในบ้านเราได้
เข้ามาก็ฉี่รดประตู ฉี่ใส่พรมเช็ดเท้าหน้าประตู ฉี่ใส่ล้อรถ ฉี่ใส่โรงรถ แถมกลิ่นฉี่มันแรงมากกกกกกกก โรงรถอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ถ้าไม่ล้างนี่อยู่ชั้นล่างไม่ได้เลย แมวบ้านเดียวกันก็ชอบมาฉี่แสดงอาณาเขตใส่ลานซักล้างหลังบ้านเราซึ่งติดกับครัวอีก เราต้องมานั่งล้างฉี่ทุกวันเป็นเดือนๆแล้ว
เรามีลูกขวบนิดๆ กำลังวุ่นวาย วันๆเลี้ยงลูก ทำอาหาร ทำความสะอาดบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ต้องออกไปล้างหน้าบ้านหลังบ้านทุกวัน เหนื่อยมากนะคะ
วันดีคืนร้ายแมวตัวนั้นดันหน้าต่างเข้ามากัดแมวเราถึงในบ้านตอนตี 3 (เราเลี้ยงตัวเดียว/ระบบปิด) แถมยังฉี่เรี่ยราดไปทั่วบ้าน เราต้องตื่นมาไล่แมว ถูบ้าน ดับกลิ่นฉี่จนถึงตี 5
เราทนไม่ไหวแล้ว ก็ไปบอกเจ้าของสัตว์
ทั้งที่เราคุยดีมากๆๆๆๆ ขอโทษเค้าทุกคำทั้งที่เราว่าเราไม่ผิดอะไรเลย ขอให้เค้าดูแลสัตว์เลี้ยงหน่อยเถอะ จะทำหมัน จะขัง จะมัดอะไรก็ได้ แต่ขอเถอะอย่าให้มันออกมาเพ่นพ่านในบ้านเราได้ไม๊ เค้าด่าเราว่า "เรื่องมาก"
เมื่อวานเราก็โดนเจ้าของบ้านเช่าโทรมาด่า กลายเป็นว่าเราผิดที่ไม่แจ้งเค้าแต่ไปคุยตรงเองเลย
ทั้งที่เจ้าของบ้านเช่าเป็นคนตัดช่องทางการติดต่อเรา บล็อคเฟส โทรไปไม่รับ ไม่โทรกลับ เพราะไม่พอใจที่เราเคยร้องเรียนเรื่องเพื่อนบ้านเสียงดัง(ย้ายออกไปแล้ว) เราก็เข้าใจว่าเค้าไม่อยากคุยกับเรา มีอะไรเราก็เลยพยายามจัดการเอง
เจ้าของบ้านเช่าบอกว่าเราน่ะเยอะ เรื่องมาก ใจไม่กว้าง ทำแบบนี้เค้าจะไม่ต่อสัญญาเช่า(ทั้งที่เราซ่อมบ้านแทบจะทั้งหลังด้วยตัวเอง) เรื่องแค่นี้น่าจะเห็นใจคนอื่น เอะอะก็บ่น แบบนี้เพื่อนบ้านก็ย้ายออกหมดสิ คนอย่างเราอยู่ที่ไหนก็ไม่ได้หรอก เพื่อนเอาตาย
เราไม่รู้จะโกรธใคร ไม่รู้ว่าเสียใจทำไม แต่เราก็รู้สึกแย่จริงๆ ..การรักษาสิทธิ์ของตัวเองในประเทศนี้ทำไมมันยากเย็นนัก
เราไม่เคยไปละเมิดสิทธิ์ของใคร บ้านเราก็จ่ายเงินเช่าเหมือนกัน แต่มีเราบ้านเดียวที่จอดรถไว้ในโรงรถ
แมวเราก็เลี้ยงเหมือนกัน แต่เราก็เลี้ยงระบบปิด ไม่ให้มันออกไปรบกวนใคร
เราไม่เคยส่งเสียงดังยามวิกาล ลูกเรานอนยาวสองทุ่มถึงเจ็ดโมงเช้ามาตั้งแต่ย้ายมาอยู่ บ้านติดกันบอกว่ากลางคืนเค้าไม่ค่อยได้ยินเสียงลูกเราร้อง
แต่เราต้องใจกว้าง ให้คนอื่นมาจอดรถปิดมุมถอยเข้าออกโรงรถ?
ต้องใจกว้างยอมให้หมาแมวคนอื่นเข้ามาฉี่ในบ้านที่เราปิดรั้วไว้?
ต้องใจกว้างยอมให้เพื่อนบ้านสังสรรค์เสียงดังกันตั้งแต่สองทุ่มจนถึงตี 1 ตี 2 ทุกวัน จากนั้นก็ทนฟังเมียเค้าลุกมาตะโกนโหวกเหวกด่าผัวตอน 6 โมงเช้า (ติดๆกัน) เป็นเดือน?
จริงๆเราแก้ปัญหาได้แล้วล่ะค่ะ แต่มันแค่เสียสุขภาพจิตมากๆ
เราต้องขอโทษเจ้าของบ้านเช่าไปไม่รู้กี่สิบรอบตอนที่เค้าโทรมาด่า เพื่อให้มันจบเรื่อง และเค้าคิดว่าเราควรไปขอโทษเจ้าของสัตว์ที่ต่อไปนี้เค้าต้องล่ามแมว ต้องล็อครั้วบ้านตัวเองไม่ให้หมาของเค้าออกไปอึฉี่เรี่ยราดในบ้านคนอื่น
..ซึ่งเราก็คงจะทำ
เราอยากให้มันจบ เราไม่ได้โกรธสัตว์เพราะมันเองคงคิดอะไรได้ไม่ลึกซึ้ง ไม่ได้โกรธเจ้าของสัตว์และเจ้าของบ้านเช่าเพราะอะไรก็ไม่รู้แต่เหมือนโกรธตัวเองที่ทำใจยอมรับตรรกะบิดเบี้ยวขนาดนี้ไม่ได้
สามีก็ปลอบนะ บอกให้ทำใจ มันไม่ใช่แค่ที่นี่หรอก แต่ไม่ว่าที่ไหนก็จะมีคนแบบนี้ เราต่างหากที่ต้องปรับตัว
ข้างในเราตอนนี้มันแย่มากๆ จนต้องมาขอพื้นที่ระบาย รู้สึกตัวเองไม่เหมาะกับสังคมแบบนี้ ไปๆมาๆก็เริ่มรู้สึกว่าอาจจะไม่เหมาะกับโลกใบนี้เลยล่ะมั้ง
อึดอัดใจกับหมาแมวของข้างบ้านที่ปล่อยปละละเลย..ขอระบาย
หมาข้างบ้าน(ไม่ติดกัน) แก่แล้ว ฉลาดมาก แถมตัวใหญ่แรงเยอะจนสามารถดันรั้วบ้านให้เปิดแล้วเข้ามาฉี่ในบ้านเราได้
เข้ามาก็ฉี่รดประตู ฉี่ใส่พรมเช็ดเท้าหน้าประตู ฉี่ใส่ล้อรถ ฉี่ใส่โรงรถ แถมกลิ่นฉี่มันแรงมากกกกกกกก โรงรถอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ถ้าไม่ล้างนี่อยู่ชั้นล่างไม่ได้เลย แมวบ้านเดียวกันก็ชอบมาฉี่แสดงอาณาเขตใส่ลานซักล้างหลังบ้านเราซึ่งติดกับครัวอีก เราต้องมานั่งล้างฉี่ทุกวันเป็นเดือนๆแล้ว
เรามีลูกขวบนิดๆ กำลังวุ่นวาย วันๆเลี้ยงลูก ทำอาหาร ทำความสะอาดบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ต้องออกไปล้างหน้าบ้านหลังบ้านทุกวัน เหนื่อยมากนะคะ
วันดีคืนร้ายแมวตัวนั้นดันหน้าต่างเข้ามากัดแมวเราถึงในบ้านตอนตี 3 (เราเลี้ยงตัวเดียว/ระบบปิด) แถมยังฉี่เรี่ยราดไปทั่วบ้าน เราต้องตื่นมาไล่แมว ถูบ้าน ดับกลิ่นฉี่จนถึงตี 5
เราทนไม่ไหวแล้ว ก็ไปบอกเจ้าของสัตว์
ทั้งที่เราคุยดีมากๆๆๆๆ ขอโทษเค้าทุกคำทั้งที่เราว่าเราไม่ผิดอะไรเลย ขอให้เค้าดูแลสัตว์เลี้ยงหน่อยเถอะ จะทำหมัน จะขัง จะมัดอะไรก็ได้ แต่ขอเถอะอย่าให้มันออกมาเพ่นพ่านในบ้านเราได้ไม๊ เค้าด่าเราว่า "เรื่องมาก"
เมื่อวานเราก็โดนเจ้าของบ้านเช่าโทรมาด่า กลายเป็นว่าเราผิดที่ไม่แจ้งเค้าแต่ไปคุยตรงเองเลย
ทั้งที่เจ้าของบ้านเช่าเป็นคนตัดช่องทางการติดต่อเรา บล็อคเฟส โทรไปไม่รับ ไม่โทรกลับ เพราะไม่พอใจที่เราเคยร้องเรียนเรื่องเพื่อนบ้านเสียงดัง(ย้ายออกไปแล้ว) เราก็เข้าใจว่าเค้าไม่อยากคุยกับเรา มีอะไรเราก็เลยพยายามจัดการเอง
เจ้าของบ้านเช่าบอกว่าเราน่ะเยอะ เรื่องมาก ใจไม่กว้าง ทำแบบนี้เค้าจะไม่ต่อสัญญาเช่า(ทั้งที่เราซ่อมบ้านแทบจะทั้งหลังด้วยตัวเอง) เรื่องแค่นี้น่าจะเห็นใจคนอื่น เอะอะก็บ่น แบบนี้เพื่อนบ้านก็ย้ายออกหมดสิ คนอย่างเราอยู่ที่ไหนก็ไม่ได้หรอก เพื่อนเอาตาย
เราไม่รู้จะโกรธใคร ไม่รู้ว่าเสียใจทำไม แต่เราก็รู้สึกแย่จริงๆ ..การรักษาสิทธิ์ของตัวเองในประเทศนี้ทำไมมันยากเย็นนัก
เราไม่เคยไปละเมิดสิทธิ์ของใคร บ้านเราก็จ่ายเงินเช่าเหมือนกัน แต่มีเราบ้านเดียวที่จอดรถไว้ในโรงรถ
แมวเราก็เลี้ยงเหมือนกัน แต่เราก็เลี้ยงระบบปิด ไม่ให้มันออกไปรบกวนใคร
เราไม่เคยส่งเสียงดังยามวิกาล ลูกเรานอนยาวสองทุ่มถึงเจ็ดโมงเช้ามาตั้งแต่ย้ายมาอยู่ บ้านติดกันบอกว่ากลางคืนเค้าไม่ค่อยได้ยินเสียงลูกเราร้อง
แต่เราต้องใจกว้าง ให้คนอื่นมาจอดรถปิดมุมถอยเข้าออกโรงรถ?
ต้องใจกว้างยอมให้หมาแมวคนอื่นเข้ามาฉี่ในบ้านที่เราปิดรั้วไว้?
ต้องใจกว้างยอมให้เพื่อนบ้านสังสรรค์เสียงดังกันตั้งแต่สองทุ่มจนถึงตี 1 ตี 2 ทุกวัน จากนั้นก็ทนฟังเมียเค้าลุกมาตะโกนโหวกเหวกด่าผัวตอน 6 โมงเช้า (ติดๆกัน) เป็นเดือน?
จริงๆเราแก้ปัญหาได้แล้วล่ะค่ะ แต่มันแค่เสียสุขภาพจิตมากๆ
เราต้องขอโทษเจ้าของบ้านเช่าไปไม่รู้กี่สิบรอบตอนที่เค้าโทรมาด่า เพื่อให้มันจบเรื่อง และเค้าคิดว่าเราควรไปขอโทษเจ้าของสัตว์ที่ต่อไปนี้เค้าต้องล่ามแมว ต้องล็อครั้วบ้านตัวเองไม่ให้หมาของเค้าออกไปอึฉี่เรี่ยราดในบ้านคนอื่น
..ซึ่งเราก็คงจะทำ
เราอยากให้มันจบ เราไม่ได้โกรธสัตว์เพราะมันเองคงคิดอะไรได้ไม่ลึกซึ้ง ไม่ได้โกรธเจ้าของสัตว์และเจ้าของบ้านเช่าเพราะอะไรก็ไม่รู้แต่เหมือนโกรธตัวเองที่ทำใจยอมรับตรรกะบิดเบี้ยวขนาดนี้ไม่ได้
สามีก็ปลอบนะ บอกให้ทำใจ มันไม่ใช่แค่ที่นี่หรอก แต่ไม่ว่าที่ไหนก็จะมีคนแบบนี้ เราต่างหากที่ต้องปรับตัว
ข้างในเราตอนนี้มันแย่มากๆ จนต้องมาขอพื้นที่ระบาย รู้สึกตัวเองไม่เหมาะกับสังคมแบบนี้ ไปๆมาๆก็เริ่มรู้สึกว่าอาจจะไม่เหมาะกับโลกใบนี้เลยล่ะมั้ง