แอบหลงรักตุ๊ดทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นตุ๊ด ไม่รู้จะทำไงดี

ขอเข้าเรื่องเลยนะครับเพราะผมเป็นคนบรรยายเวิ่น เรียบเรียงไม่เก่ง กลัวเพื่อนๆงง
  เรื่องมีอยู่ว่าผมเป็นเกย์(รุก)ออกสาวซึ่งทุกคนเข้าใจว่าคือตุ๊ดดีๆนี่แหละ(แต่แต่งบอย ไม่พูด[คะ]และไม่เดินทิ้งตูดนะ55 เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อน ลงดีเทลลึกมากอาจจะทำให้ยิ่งงงไปกันใหญ่555) อายุอานามตอนนี้ก็ใกล้จะ30แล้วครับ ผมทำงานที่องค์กรข้ามชาติแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกในตำแหน่งงานล่ามครับ ทำมา2ปีกว่า เเละเหตุแห่งการเผลอรักเกิดขึ้นตั้งแต่ที่พี่เขา<ตุ๊ดน้อยตัวขาววัย31+>เข้ามาเริ่มทำงานที่นี่ในช่วงปลายปี'61 ในตำแหน่งล่ามเหมือนกัน ต้องนั่งตรงข้ามกัน(ที่นี่มีออฟฟิศกลางของล่ามครับ) เห็นหน้ากันประจำ แรกๆก็ไม่ชอบเขานะครับ เพราะเขาชอบถามคำถามอะไรซ้ำๆ ไอก็ไม่คาดแมสก์ แล้วก็ดูมึนๆกะด๊อกกะแด๊ก อีกอย่างดูก็รู้ทันทีว่าเป็นเกย์ที่แอ๊บแมนเพื่องาน แต่พี่เขาก็ดูน่ารักดี ซึ่งบอกเลยครับว่า ณ ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาเลย แถมทั้งผมทั้งเดอะแก๊งก็ไม่ค่อยจะถูกชะตากับพี่เขาเท่าไรนัก
     ซึ่งอยู่มาอยู่ไปพี่เขาก็เริ่มมีบทบาทในแผนกมากขึ้นจนได้แปลงานร่วมกันบ่อยๆ เวลามีประเด็นอะไรทั้งในงานนอกงานก็เอามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน จนเริ่มสนิทกัน สุดท้ายพี่เขาก็โป๊ะเปิดบ้งว่าตัวเองเป็นตุ๊ดแถมโสดซิง(พี่เขาบอกเอง ย้ำหนักแน่น) แล้วเราก็นับถือกันขำๆในฐานะองค์แม่และลูกสาว555 จากนั้นมาพี่เขาก็เฮฮาสารขัณฑ์ ทำให้ทุกคนในแผนกหัวเราะมีความสุขกันมากๆเสมอมา ทั้งแผนกเราและแผนกข้างๆก็เอ็นดู คือแกเป็นเกย์รับที่บุคลิกน่ารัก ดูอ่อนกว่าวัย หน้าตาexotic-goodlooking ผอมๆขาวๆ ร่างสันทัด จริตอ้อยจะมีน้อยเพราะเป็นสายโก๊ะ เลยไม่มีความ"ป๋อมแป๋ม" รึความ "ก๊อตจิ"  คือถ้าดูภายนอกพี่เขาจะเป็นหนุ่มเรียบร้อยคนนึงเลย แต่ถ้าสนิทแล้วพี่เขาจะสดใสและฮาาาามาก ผมก็treatสายฮาใส่พี่แกเลยตลอดมา.. เม้ามอยหอยโข่งเรื่องใต้สะดือนี่บอกเลยว่าฮามาก โบ๊ะบ๊ะกันสุดๆ อีกอย่าง นางเก่งภาษาลูสุดๆเพราะนางมีเพื่อนสาวสองเยอะ ฟังพี่แกพูดทีไรแล้วขำก๊ากเลย
    จนกระทั่งวันนึง... ผมก็ดันเกิดความรู้สึก-ถูกใจ-พี่เขาขึ้นมาเพราะผมรู้สึกว่านอกจากความเก่งด้านทักษะภาษาและด้านงานเทคนิกที่เก่งกว่าผมมาก พี่เขาก็ดันมีอะไรที่คล้ายผมอีกหลายอย่าง เช่น วิธีคิดหรือมุมมองต่างๆ แถมยังจิตใจดีกว่าที่ผมคิดไว้ อย่างเช่น--พี่เขาไปเที่ยวไหนมาก็ซื้อของมาฝากทุกคน ใครงานloadอะไร ถ้าพี่เขาช่วยได้ก็ช่วย ผมเคยแอบเห็นพี่เขาซื้อลูกชิ้นให้หมาหน้าเซเว่น ก็ดันประทับใจเฉ๊ยยย พอผมโพสต์เฟซว่าไม่สบายก็คอยเข้ามาแนะนำว่าให้ไปรักษายังไง ตอนนั้นใจผมเผลอเต้นตุ้มๆต่อมๆแล้ว ซึ่งความมีน้ำใจต่างๆที่เขาทำกับผมและทุกคนมันทำให้ผมtouch ผมเคยแอบมองหน้าพี่เขาบ่อยๆ คุณพระ! ยิ้มน่ารักมาก..ผมรองทรงแต่มีหน้าม้าเต่อมันดันรับกันฟันใหญ่ๆขาวๆเหมือนกระต่าย.. หน้าขาวๆอ่อนกว่าวัยคล้ายลูกครึ่งอีสาน/ฝรั่ง อะเฮือก!โอย! งงใจ ทำไมนะทำไมผมถึงแพ้เสน่ห์พี่เขาได้ ทั้งที่เคยเชื่อมาตลอดว่าตัวเองไม่ชอบเกย์ออกสาวเหมือนกัน แต่ผมจะทำไงได้ล่ะก็มันตกหลุมรักไปแล้ว .. ทุกอย่างของพี่เขามันช่างน่ารักตะมุตะมิสำหรับผมไปซะหมดเลย.. ทั้งที่จริงแล้วพี่เขาก็ดูปกติทั่วไปในสายตาคนอื่นนะครับ
     ต่อมามีอยู่ช่วงนึง ผมเริ่มทนให้ตัวเองเป็นแบบนี้ไม่ไหวเพราะมันทำให้ผมนอนไม่หลับและทำงานได้ย่ำแย่ลงเพราะมัวแต่คิดถึงแต่หน้าของพี่เขา ผมเกลียดใจตัวเอง เลยพยายามจะfadeออก ผมจงใจไม่ค่อยเล่นไม่ค่อยคุย ไม่พยายามไปโบ๊ะบ๊ะ ไม่อ่านไลน์ที่พี่เขาแชร์Link series Y พยายามคิดหาข้อเสียของพี่เขาและตั้งประเด็นแง่ลบต่างๆมากมายเพื่อจะได้เลิกชอบ สร้างstageโดยการcaptionในsocial--โจมตีลอยๆทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ทำตัวงี่เง่าเพื่อจะได้เกลียดพี่เขา ทั้งขอพรพระให้หยุดรักพี่เขา...ถอยห่างสุดๆจนดูnonsense สุดท้ายยยยก็ไม่กล้าสบตาพี่เขาไปเลยเพราะกลัวใจตัวเองมาก มันผิดผีผิดสาง จิตสำนึกผมมันบอกอยู่ตลอดเวลาว่า นั่นเพื่อนสาวนะเว้ย!! จะไปหลงรักพระแม่มาลาเรียของมิงไม่ได้!!!!! หยุดคิดอกุศลบัดเด๋วเน๊!!!!!!!!
     ซึ่งเหมือนจะได้ผลเบาๆ ผมลอบสังเกตพี่เขา พี่เขาก็ดูเงียบๆหงอยๆลงไปแล้วก็ดูงงกับพฤติกรรมของผม เลยไม่ค่อยกล้าเล่นกับผมแต่ก็มีเข้ามาแย๊บถามว่าผมเป็นอะไรรึเปล่า โกรธที่แกแซวเล่นในโซเชี่ยลหรือเปล่า พี่ขอโทษนะ อย่าเข้าใจพี่ผิด โน่นนั่นนี่ตามประสาคนน่ารักอะนะครับ สุดท้ายเลยทำใจให้ร้ายกับคนน่ารักแบบพี่เขาไม่ได้ เเล้วก็บอกขอโทษพี่เขาไปโดยอ้างว่าแค่ช่วงนี้เครียดเรื่องงาน(อันนี้จริง)เรื่องเงินมากไปหน่อยเลยตึงๆแต่ไม่ได้โกรธอะไรพระแม่นะ..บลาๆๆ ในที่สุดเราก็กลับมาเฮฮาปาจิงโกะโบ๊ะบ๊ะเหมือนเดิม..เพิ่มเติมคืออาจจะลั่นทุ่งยิ่งกว่าเดิม เพราะผมเป็นคนประเภทที่พอผมยิ่งเขิน ก็จะยิ่งพยายามทำตัวตลกบริโภคเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงน่ะครับ
     ซึ่ง.. คุณผู้ชมครับ ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไงดี ผมฟังแต่เพลงรักเพลงแอบชอบทุกวันจนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะบ้าตาย โทษนะครับเพื่อนๆ แม้แต่เวลา ช.ว.ก็นึกถึงแต่พี่เขา ฮืออออ รู้สึกผิดเหมือนกันครับ เหมือนเป็นพวกโอะตะคุที่พยายามstalkคนอื่น เวลาพี่เขาคุยด้วย  เพลงเดอะทอยส์ก็ลอยมาเลย ลาลาลาลอย ล๊อยลอยย เหมือนมีแสงสปอตไลท์ฉายลงมาที่หน้าของพี่เขาพร้อมสายลมเบาสบายที่พัดพาเอากลีบซากุระมาไล้กรอบหน้า ตายๆๆๆๆ ผิดผีที่สุดครับ! อยากร้องไห้..
     ประเด็นเจ็บจี๊ดดคือผมกับเดอะแก๊งในออฟฟิศก็เคยแกล้งแซวๆแกขำๆว่า "ระวังนะแม่ ตอนขากลับเดินเข้าซอยหออ่ะ ตุ๊ดแถวนั้นเขาเข้าใจผิดว่าคิดแม่เป็นผู้ ฉุดไปเ**ดล่ะยุ่งเลยนะ" แล้วนางก็ทำท่าอีเดียตพร้อมหลุดมาว่า "โอย ตุ๊ดเหมือนกันแค่คิดก็ขนคิงลุกถึงหลืบ-ากแล้วลูก" เท่านั้นแหละฮาครืนทั้งออฟฟิศ นางยืนยันชัดเจนว่าถ้าไม่เมามายไร้สติจริงๆจะไม่มีทางหลวมตัวไปmateกับตุ๊ดเด็ดขาด ส่วนผม ณ ตอนนั้นที่ได้ยินก็ฮาไปด้วยนะครับ แต่ตอนนี้คิดหนักแล้วครับ ใจเสียแทบร้อง กลัวมากๆเลยครับว่าถ้าพี่เขารู้ เขาอาจจะอึดอัดหวาดผวา ความสัมพันธ์ของเราก็คงจะไม่ดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมอาจจะต้องเสียพี่เขาไปจากวงจรของชีวิตตลอดกาลเลย..
     อีกอย่างนึง-ผมคิดไว้นานแล้วด้วยครับว่าผมคงทำงานอยู่ที่นี่อีกไม่นานเพราะทนกับวัฒนธรรมองค์กรแบบเลือกที่รักมักที่ชังเชิงระบบอุปถัมป์ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ส่วนปัจจัยเสริมอื่นๆที่ทำให้อยากลาออกก็มีเรื่องของหัวใจมาเอี่ยวด้วยนิดนึงครับ เพราะตอนนี้ใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยเวลาอยู่ใกล้ๆพี่เขา ทำให้ผมไม่มีสมาธิในการทำงานด้วยครับ แต่ก็ได้ตั้งใจไว้แล้วว่ายังไงก็จะต้องสารภาพรักกับคนน่ารักให้ได้ก่อนจะลาออกครับ เพราะผมเหนื่อยจะต่อต้านธรรมชาติของเสียงเรียกร้องจากหัวใจอีกต่อไปแล้วครับ
     ทั้งหมดทั้งมวลเลยอยากสอบถามเพื่อนๆว่า ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ครับ หรือ..ผมควรจะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิตดีครับ ตอนนี้เคว้งมากเลย ต้องคอยพยายามสะกดจิตให้concentrateอยู่กับงานตลอดเวลาด้วยครับ เหนื่อยมากๆเลย....
     ***สงสัยประเด็นไหนก็ถามเพิ่มเติมมาได้หมดเลยนะครับ จะส่วนตัวแค่ไหนผมก็ตอบ ไม่ว่ากันแน่นอนครับ***
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่